ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไป๋หลานยอดหญิงสกุลถง(มี E BOOK แล้ว)

    ลำดับตอนที่ #8 : ปู่บุญธรรมคนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 64



     

    พี่สาวกรอกตามองฟ้ากับความเห็นแก่กินของน้องชาย ก่อนจะให้คำตอบถึงสิ่งที่พี่ชายและมารดาสงสัย"ข้าร้องโวยวายเพราะมันเจ้าค่ะ มันคือเห็ดหลินจือแดง!! มีสรรพคุณที่สำคัญทางยาทั้งสิ้น250ชนิด และมันคือก้อนเงินของพวกเรา" ถงไป๋หลานมั่นใจว่ามันต้องขายได้ หมอหรือร้านขายยาต้องรู้จักมันแน่ ก็นี่มันยาอายุวัฒนะที่หายากยิ่ง แต่นางกลับเจอพวกมันเป็นดงเลย ใครจะโชคดีแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว

    "พวกท่านรีบมาช่วยข้าเก็บเร็วเข้า ใช้สองมือประคองดอกแบบนี้แล้วค่อยๆ กดลง เก็บให้เบามือที่สุดนะเจ้าคะ" น้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สอนวิธีเก็บเห็ดให้ครอบครัวอย่างถูกวิธี ถึงเห็ดหลินจือจะแข็งแต่จะให้พวกมันช้ำไม่ได้

    ต้องย้อนความถึงสรรพคุณของเห็ดหลินจือแดงและช่วงเวลาที่ถือกำเนิดนั้นมีมาถึง2,000ปี ด้วยมีสรรพคุณทางยา250ชนิดจึงถูกเรียกว่ายาอายุวัฒนะ หลินจือมีหลายสายพันธุ์แต่สายพันธุ์แดงเป็นสายพันธุ์ที่หายากที่สุด เพราะมันดีที่สุดถึงหายากยังไงละ

    "ข้าเก็บใส่ตะกร้าเองขอรับ" ซีห่าวน้อยตอบรับแข็งขันเขาไม่เคยมีความสงสัยในตัวพี่รองเลยแม้แต่น้อย เพราะที่ผ่านมาทุกอย่างเกิดได้จากพี่รอง แบบนั้นเขาถึงเชื่อมั่น ว่าสิ่งนี้คือเงินก้อนโตของครอบครัว มือคู่เล็กจับเห็ดอย่างระวังกลัวก้อนเงินตรงหน้าลอยหายไปหากเขาทำรุนแรงจนมันเสียหาย

    "พี่ใหญ่พวกเราจะเข้าเมืองกันวันพรุ่งนี้นะเจ้าคะ"นางอยากไปเสียวันนี้ แต่พอมองดูเงาสะท้อนบนพื้นก็คิดว่าคงไม่ทัน

    "อืม เราจะออกบ้านกันแต่เข้า"หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก สมาธิทั้งหมดพุ่งไปที่การเก็บเห็ดหลินจือ เย็นย่ำจึงพร้อมใจกันออกจากป่า เหลือกระสอบหน่อไม้เฉิงกงลากไปซ่อนในพุ่มไม้เอาไว้ก่อน พรุ่งนี้มารดากับซีห่าวอาสาจะเข้ามาเก็บเอง ไป๋หลานจึงวางใจ อย่างไรมันก็เป็นอาหารต่อชีวิตคนได้ในเวลาที่ขาดแคลน นางขุดมาจะทิ้งไปก็เสียดายแย่

    ว่าแต่ทำไมข้าไม่ใช่แหวนมิติให้เป็นประโยชน์ โอ๊ย มีของดีแต่ไม่ใช้เจ้าโง่เง่าเกินไปแล้ว ถงไป๋หลาน

     

     

    รุ่งเช้าเสียงขยับตัวในบ้านปลุกร่างบางที่นอนซุกในที่นอนให้ตื่นขึ้น ไป๋หลานรีบจัดการตัวเองและซดโจ๊กอุ่นด้วยความเร่งรีบ ยัดผักผักใส่หมูสับอีกถ้วยเล็กลงท้องก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เฉิงกงมองน้องสาวยัดอาหารลงท้องแล้วปวดหัว นางไม่มีความเป็นกุลสตรีแม้แต่น้อย ดีว่ามารดายังอยู่ในห้องครัว ไม่อย่างนั้นอาจโดนฝ่ามือพิฆาตเอาได้ ทั้งสองใช้บริการเกวียนรับจ้างเหมือนเคย 

    รถเข้าประตูเมืองมาได้แสงแรกของวันก็ส่องกระทบให้ความอบอุ่นและสว่างให้ผู้คนแล้ว “ไปร้านขายยาก่อนเจ้าค่ะ”นางมาขายผักในเมืองบ่อย รู้ที่ทางเกือบทั้งหมดแล้วแต่ร้านไหนให้ราคายุติธรรมคงต้องไปถามชาวบ้านแถวนั้นอีกที เฉิงกงพยักหน้าเดินเคียงข้างกันไปทันที ตอนนี้ทั้งสองมายืนอยู่หน้าร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดและให้ราคายุติธรรมที่สุดตามคำแนะนำที่สอบถามมา เมื่อเดินเข้ามาข้างในหลงจู้ของร้านก็เข้ามาสอบถามอย่างไม่ถือตัว

    "พวกท่านต้องการสิ่งใด มาซื้อหรือมาขายขอรับ"

    "ข้ามาขายเจ้าค่ะ"ไป๋หลานยิ้มแย้มตามมารยาท ตอบคำถามฉะฉาน มีเฉิงกงแบกตระกร้าบนหลังยืนทำหน้านิ่งอยู่ข้างๆ

    "งั้นตามข้ามาด้านนี้ขอรับ"ถึงทั้งสองจะแต่งตัวซอมซ่อแต่กิริยาท่าทางดีใช้ได้ เขาจึงไม่อยากทำสิ่งใดให้เสียมารยาท

    พี่น้องบ้านถงเดินตามหลังหลงจู้มาที่ห้องหนึ่ง ในนี้ดูสะอาดเรียบร้อย กลิ่นยาที่ลอยตามอากาศทำให้คนในห้องรู้สึกสบายและนางชอบมันมาก ตากลมโตมองสำรวจไปทั่วห้องที่มีขวดกระเบื้องขนาดต่างๆ อยู่เต็มชั้นไปหมด รอไม่นานก็มีคนเดินเข้ามา ผู้มาใหม่เป็นชายชราที่ยังดูแข็งแรง หน้าตาใจดีแต่ก็ดูมีอำนาจซึ่งไป๋หลานบอกไม่ถูก นางอดตื่นเต้นไม่ได้จึงรีบคารวะตามมารยาททันที 

    "ข้าถงไป๋หลาน พี่ใหญ่ข้าถงเฉิงกง คำนับผู้อาวุโสเจ้าค่ะ"

    "ทำตัวตามสบายเถิด เรียกข้าว่าท่านเหวินเจียงหรือปู่เจียงก็ย่อมได้" ท่าทางไม่มีแววประจบแต่เป็นท่าทางของเด็กยามพบเจอผู้ใหญ่ ชายชราเกิดรอยยิ้มเอ็นดู เปร่งน้ำเสียงอาทรบอกกล่าวอย่างใจดี ช่วยลดความกดดันในใจของเด็กหญิงให้หมดไป นางส่งยิ้มบางที่ดูจริงใจที่สุดไปให้ปู่เจียง มือหนามีรอยเหี่ยวย่นผายมือบอกเป็นนัยว่าให้ทั้งสองนั่งลงได้ 

    "พวกเจ้ามีสิ่งใดต้องการจะขายรึ"

    "มันคือสิ่งนี้เจ้าค่ะ" พร้อมกับหยิบเห็ดหลินจือดอกที่คิดว่าเล็กที่สุด ออกมาจากตะกร้ามันมีผ้าขาวปิดไว้อย่างดี ทุกคนในห้องยกเว้นพี่น้องบ้านถงตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น

    "หลินจือแดง!! " ใบหน้าชราแข็งค้างหนวดกระตุก ยืนขึ้นอย่างตะลึง มองของในมือน้อยอย่างตกใจ ก่อนจะปรับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านให้สงบ เอ่ยถามสองพี่น้องน้ำเสียงจริงจังสีหน้าเคร่งขรึม

    "พวกเจ้ามีพวกมันมากน้อยเพียงใด"ไป๋หลานจับปลายเสียงสั่นน้อยๆของปู่เจียงได้ นางลอบยิ้มอยู่ในใจ รับรู้ถึงความตื่นเต้นของชายชราได้เป็นอย่างดี

    "มีไม่มากท่านรับซื้อไหมเจ้าคะ"

    "ดอกนี้ข้าให้60ตำลึงทอง"

    เมื่อได้ฟังราคาไป๋หลานพอใจมากเพราะมันเกินจากที่คิดไว้ มือน้อยหยิบของในตะกร้าขึ้นมาวางบนโต๊ะ ทั้งหมดรวมได้15ดอก คิดว่าจะลองนำมาเสนอขายก่อนแต่ไม่คิดว่าจะได้ราคาดีขนาดนี้ น่าจะนำมาสักสองตะกร้า เอาเถอะค่อยมาขายอีกทีวันหลัง ไป๋หลานกลับไม่รู้ว่าสิ่งที่นำมามันสร้างคลื่นลูกใหญ่มากมายเพียงไหน และปัญหาที่คาดไม่ถึงกำลังจะมาเยือนในเร็ววัน แต่นี่คือเรื่องในอนาคต มันอาจจะวิ่งมาหรือไม่มาก็ต้องเตรียมตัวรับมือ 

    "นี่ นี่ เจ้ามีมากถึงเพียงนี้" อารมณ์ของสวี่เหวินเจียงตีขึ้นมาอีกครั้ง หากเขาไม่ฝึกวิชาทุกเช้าเกรงว่าจะเป็นลมล้มพับกรื่องหน้าตกใจนี้ จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไร นางหนูนี่มีหลินจือแดงมากมายเพียงนี้ ต้องบอกว่าหลินจือแดงเป็นที่ต้องการของสำนักโอสถรวมถึงตระกูลต่างๆ มาก หากเขานำมันไปประมูลคลื่นลูกใหญ่ในเมืองหลวงรวมถึงเชื้อพระวงศ์ได้ก่อตัวขึ้นมาแน่ มันอันตรายเกินไป

    “นังหนู ข้าถูกชะตาเจ้านัก มาเป็นหลานบุญธรรมของตาแก่ผู้นี้ดีหรือไม่”คนถูกชักชวนตื่นตกใจไปแล้ว นางเพียงมาขายเห็ดไม่คิดว่าจะได้ปู่บุญธรรมเสียอย่างนั้น ก่อนจะหรี่ตามองชายชราตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ ที่เขาทำเช่นนี้กำลังหวังสิ่งใดอยู่หรือไม่ เฉิงกงที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ต้นออ้าปากค้างกับการกระทำของชายชราไปแล้ว

    เหวินเจียงมุมปากกระตุกเมื่อถูกมองด้วยสายตาเคลือบแคลงของสองพี่น้อง “เพ้ย นังหนูคนนี้ ข้าทำเพราะถูกชะตากับเจ้าจริงๆ อีกอย่างของที่เจ้านำมามันเป็นเรื่องใหญ่รู้บ้างหรือไม่ เจ้าจำเป็นต้องมีใครสักคนคุ้มครอง”เหนือสิ่งอื่นใดเขาเพียงคิดถึงบุตรสาว นางกำลังจะคลอดหลายชายหญิงให้เขา ก็มาตายลงเพราะตรอมใจที่สามีรักตายในสงคราม หากพวกเขายังอยู่คงมีอายุเท่าเด็กหญิงตรงหน้า  

    นางก็พอจะรู้มาบ้างว่ามันอันตราย แต่นางไม่มีทางเลือกนี่ ที่ทางก็อยากจะซื้อ ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวก็สำคัญ หากไม่นำมาขายจะเก็บไว้ในช่องว่างก็เสียดายแย่ 

    “ท่านต้องการสิ่งใดเจ้าคะ”มันต้องมีของแลกเปลี่ยน คนเราจะมารับใครที่ไหนเป็นหลานได้มั่วซั่ว เหวินเจียงถอนหายใจ อยากเขกกระบาลน้อยๆของนาง ใครสั่งใครสอนให้นางมองโลกมองผู้อื่นว่ามีความคิดเลวร้ายไปเสียหมด แต่ก็รู้สึกชื่นชมไม่น้อย นางดูโตเกินเด็กวัยเดียวกันมาก ไปที่ใดย่อมเอาตัวรอดได้สบาย

    ตอนแรกเฉิงกงมองชายชราที่ทำสีหน้าตกตะลึงอย่างมึนงง ถึงแม้จะรู้ว่าเห็ดนี้น้องสาวบอกว่ามันมีค่าแต่ไม่คิดว่ามันจะมากมายเพียงนี้ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วขายเห็ดเพียงไม่กี่ดอกก็สามารถทำให้ครอบครัวเขาร่ำรวยได้ ถึงตอนนี้จะมีเงินมากถึง100ตำลึงทองแต่มันไม่เท่ากับการขายเห็ดเพียงครั้งเดียว ต่อมามีเรื่องตกใจเข้ามากระแทกจนสมองเขาเริ่มมึน มีคนอยากรับน้องสาวของเขาเป็นหลานบุญธรรม อันว่าดีไหมมันก็ดีแต่อีกฝ่ายมีจุดประสงค์ใดแอบบแฝงหรือไม่

    “ข้าอยากมีหลานไว้คอยออดอ้อนบ้าง ชายชราตัวคนเดียวย่อมมีความเหงาเข้ามา อย่างที่สองข้าอยากให้เจ้านำเห็ดมาขายให้กับปู่แก่ๆคนนี้เพียงร้านเดียว”ไป๋หลานพยักหน้าเข้าใจชายชรา นางก้ตั้งใจว่าจะขายกับเขาแค่ที่เดียว ไม่อยากยุ่งยากยามมีปัญหา ชาวบ้านบอกว่าร้ายขายยานี้มีหุ้นส่วนในโรงประมูลจี่จือของเมืองนี้กับวังหลวง นั่นหมายความว่าชายชรามีกำลังพอที่จะปกป้องนางและครอบครัวได้

    “เช่นนั้นข้าจะเป็นหลานบุญธรรมของท่าน แลกกับข้าขายเห็นนี่ให้ร้านท่านแต่เพียงผู้เดียว แต่ท่านต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ จะบอกว่าได้มาจากไหนก็ได้ แต่ต้้องไม่มีชื่อของข้าหรือคนในครอบครัวหลุดออกมา”

    เมื่อเข้าใจในข้อตกลง ทั้งสองก็เป็นปู่หลานกันสมใจ เหวินเจียงให้คนเข้ามาจัดการจ่ายเงินให้หลานสาวคนใหม่ของตนเองอย่างรวดเร็ว เรื่องในวันนี้มีเพียงสามคนที่รับรู้ ส่วนนี้เป็นเจตจำนงของไป๋หลานเอง พี่ชายและท่านปู่ก็เห็นด้วย รอให้อะไรมันเข้าที่หลังจากนั้นจะเปิดตัวก็ไม่เสียหาย

    สรุปได้ว่าไป๋หลานขายเห็ดหลินจือแดงให้สวี่เหวินเจียงหรือปู่เจียงได้เงินมากถึง1350ตำลึงทอง เห็ดดอกใหญ่ที่สุดที่นำมาขาย ขายได้ถึงดอกละ250ตำลึงทอง แต่นี่ยังไม่ใหญ่ที่สุด ที่บ้านยังมีใหญ่กว่าดอกนี้มากนักค่อยเอามาขายให้วันหลัง  เมื่อได้ตั๋วเงินไป๋หลานยื่นตั๋วเงินให้พี่ชายอย่างเฉิงกง นำถุงเงินที่เป็นเศษใส่อกเสื้อตัวเอง แยกกันเก็บเกิดมีปํญหาอย่างถูกขโมยจะได้ไม่เสียใจมากนัก 

    ชายหนุ่มรับมาอย่างอิดออดแต่เหตุผลของน้องสาวก็เข้าท่าจึงตัดใจนำมาเก็บไว้ ตอนนี้เขาตัวแข็งทื่อกับเงินที่อยู่ในอกเสื้อไปแล้ว ยามเดินออกจากร้านขาก็สั่นเทาไปหมด เฉิงกงจัดการยกแขนกอดอกอย่างหวาดระแวง ท่าทางนั้นทำให้ไป๋หลานอดขำไม่ได้

    "พี่ใหญ่ท่านควรทำตัวให้ชินกับเงินจำนวนมากได้แล้ว ในอนาคตเราจะมีเงินมากกว่านี้" 

    ยังมีมากกว่านี้อีกหรือ น้องสาวเจ้าต้องการให้พี่ตกใจจนเลือดลมตีกลับใช่หรือไม่

     

     

    สถานการณ์ในเมืองหลวงตอนนี้กำลังโกลาหลจากการที่หอประมูลจี่จือประกาศว่ามีหลินจือแดงที่หายาก สำนักโอสถต่างเร่งรวบรวมเงิน ตระกูลใหญ่เร่งตรวจนับทรัพย์สินของตน ในวังหลวงตำหนักต่างๆ เกิดระลอกคลื่นลูกใหญ่ ยาอายุวัฒนะที่ไม่มีปรากฎมานานมากกว่า500ปี แต่ตอนนี้โรงประมูลจี่จือกลับมีมัน นี่คือการต่อสู้ของขุมอำนาจของแต่ละฝ่าย ใครจะได้ไปครอบครองจะเป็นการแสดงถึงความมั่งคั่งและแข็งแกร่ง แค่มีสิ่งนี้อายุ100ปีขึ้นไปก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้ว

    แต่คนที่นำมันออกมาขายอย่างไป๋หลานยังใช้ชีวิตกับสวนผักและครอบครัวอย่างสงบ ไม่ได้รับรู้ถึงสงครามการเงินของใคร ฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันถึงสองวัน ไป๋หลานจึงมีเวลาวาดรูป รูปที่วาดนั้นเป็นรูปของทิวทัศน์ในวันที่ฝนตกหนักภูเขาสูงตั้งตระหง่าน กิ่งดอกไป๋หลานในรูปวาดลู่ลงไปแต่ก็ยังชูช่อสู้กับสายฝนดูอ่อนน้อมแฝงความเข้มแข็งเหมือนกับนางตอนนี้ ที่ถึงแม้จะมาจากที่แสนไกลในวันฝนพรำแต่ยังพยายามสู้และสร้างอาณาจักรด้วยสมองและสองมือเพื่อให้ทุกคนที่รักมีความสุขและมีชีวิตที่สุขสบาย

    ส่วนจะเอารูปไปขายหรือไม่ คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ครอบครัวไม่ขาดแคลนเงินอีกแล้ว เก็บไว้เป็นตัวแทนของนางก็แล้วกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×