ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไป๋หลานยอดหญิงสกุลถง(มี E BOOK แล้ว)

    ลำดับตอนที่ #6 : ขายผักดองกิมจิชุดแรก

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 64


    ตอนเย็นไป๋หลานและเฉิงกงเร่งทำผักดอง โดยนางเลือกทำผักดองของเกาหลี เพราะชอบรสชาตินี้มากกว่า ดัดแปลงส่วนผสมที่มีเข้าไปก็ได้รสชาติใกล้เคียงกับที่เคยกินมาแล้ว ซีห่าวน้อยช่วยงานได้มาก ขาป้อมนั้นไม่เคยได้หยุดนิ่งไม่ต่างจากคนอื่นนัก แต่แบบนี้กลับทำให้รู้สึกสนุกมากกว่าออกไปวิ่งเล่นกับเด็กในหมู่บ้าน

    คลุกเคล้าส่วนผสมรวมกับผักเรียบร้อย ก็นำผักทั้งสองชนิดที่เตียมไว้ใส่ลงในไห ท่านแม่จัดการซื้อมาจากลุงเหิงคนทำไหขายในหมู่บ้าน ได้ผักดองมากถึง10ไหใหญ่ นั่นหมายความว่าบ้านถงจะได้เงินอีกก้อนเข้ากระเป๋า ยามนำผักดองพวกนี้ไปขาย

    "พี่ใหญ่ท่านช่วยไปซื้อหมูติดมันที่บ้านคนขายเนื้อมาครึ่งชั่งเถอะเจ้าค่ะ วันนี้ข้าจะทำอาหารชนิดใหม่ให้พวกท่านกิน" เฉิงกงได้ยินแบบนั้นจึงรีบขอเงินมารดาและตรงไปบ้านคนขายเนื้อทันที ถามว่าทำไมนางไม่ซื้อเนื้อจากที่นี่ตั้งแต่แรก ตอบได้เลยว่าเพราะคนขายเนื้อจะฆ่าหมู่อาทิตย์ละตัวและมันก็ตรงกับวันนี้ ถึงจะเรียกว่าบ้านขายเนื้อแต่ไม่ได้ขายเนื้อทุกวัน แต่เป็นบ้านเดียวที่จะขายทุกอาทิตย์นั่นเอง

    "อาหารชนิดใหม่อร่อยไหมขอรับ"

    "ตัวตะกละน้อย ดูเอาเถิดทุกวันจะต้องถามว่าอาหารที่ทำอร่อยหรือไม่ แม่ตัดชุดให้เจ้าใส่ไม่ทันแล้วนะ" ท่านแม่เอ่ยเย้าบุตรคนเล็ก ที่ตอนนี้กินได้เยอะขึ้นมากกว่าแต่ก่อนอย่างรักไคร่

    "พี่รองทำของอร่อยมาข้าต้องกินให้หมดขอรับ ถ้าเหลือก็ต้องทิ้ง แบบนั้นข้าเสียดาย" ซีห่าวน้อยทำท่าขึงขัง แต่ดูเหมือนว่าไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก

    "พี่เข้าใจ เพราะเสียดายเจ้าถึงตัวกลมแบบนี้อย่างไรเล่า"ปากเล็กยื่นออกมา ไม่ยอมรับที่พี่รองบอกว่าเขาอ้วน แบบนี้เรียกสมบูรณ์ต่างหาก  

    "เอาเถิด เพราะมีเจ้าอาหารที่พี่ทำถึงไม่เคยเหลือค้าง ต้องยกความชอบนี้ให้เจ้า"

    "เห็นไหมขอรับ ถ้าไม่มีข้าอาหารที่เหลือคงต้องนำไปทิ้ง แบบนั้นพวกท่านวางใจได้ข้าจะเป็นคนรับภาระนี้เองขอรับ" ซีห่าวตบอก เชิดหน้าของตนอย่างภูมิใจ

    อาหารเย็นวันนี้คือหมูติดมันตุ๋นผักดองเปรี้ยวเผ็ด ได้ซดน้ำร้อนที่มีรสเปรี้ยวเผ็ดกลมกล่อมก็ช่วยให้ความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวันหายไปได้ อาหารหม้อใหญ่จึงถูกเฉิงกงและซีห่าวน้อยจัดการจนเกลี้ยงหม้อ น้ำแกงสักหยดก็ไม่มีให้เห็น 

    พวกท่าน...ตะกละเกินไปหรือไม่ ไป๋หลานมองภาพนั้นอย่างทำใจ อ่า สงสัยคงต้องคิดโปรแกรมออกกำลังกายให้พี่ใหญ่กับน้องชายเป็นการด่วน นางไม่อยากมีพี่ชายอ้วนกลมและน้องชายที่เดินเหมือนกลิ้งได้แน่

    'ท่านต้องการหมุนลงล้อโชคชะตาของวันนี้หรือไม่'

    'หมุนเลย'

    'ท่านได้รับแหวนมิติระดับกลางหนึ่งวง: คุณสมบัติ มีพื้นที่ขนาด1จั่ง ช่วยจัดเก็บสิ่งของต่างๆได้แต่ไม่สามารถเก็บสิ่งมีชีวิตได้'

    ไป๋หลานถึงกับมึนงง เพราะที่ผ่านมานางไม่เคยได้ของจำพวกนี้ ซึ่งหลังจากความมึนงงมันมีความดีใจพุ่งออกมาจากหัวใจเมื่อตัวช่วยของนางก็ไม่ได้เกลืออย่างที่คิด เห้อ แมรี่ซูจ๋าข้ามาแล้ว

     

    3วันให้หลังผักดองชุดแรกของไป๋หลานก็พร้อมออกขาย ตั้งใจขายเป็นไหเล็ก ไหกลาง ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลาทำให้ตอนนี้ผักดองมีเพียงสองชนิด ผักดองชนิดอื่นๆเช่นหัวไชเท้าหวานกรอบ แครอทเผ็ด ยังไม่มีออกมาต้องรอให้แครอทและหัวไชเท้าที่ลงปลูกไปเมื่อ1เดือนที่แล้ว โตมากกว่านี้สักหน่อย ดินได้รับแร่ธาตุที่ดีจึงทำให้ผักเติบโตได้ไว จากเดิมต้องรอถึง3เดือนแต่แร่ธาตุช่วยย่นเวลาเติบโตให้พวกมัน อีก10วันก็พร้อมเก็บเกี่ยว เรื่องนี้หรือมีแค่คนในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ รวมถึงแหวนมิติด้วย

    ไป๋หลานและเฉิงกงนั่งเกวียนวัวของคนในหมู่บ้านเช่นเดิม แต่วันนี้ซีห่าวน้อยขอตามมาด้วย พวกเขาเหมาเกวียนเที่ยวนี้ไว้  จึงไม่มีชาวบ้านคนอื่นอีก เมื่อเข้าประตูเมืองมาได้สามพี่น้องก็ตรงไปที่ประจำของบ้านถง เฉิงกงจ้างคนงานมาช่วยขนไหผักดอง หากจะเดินไปกลับหลายรอบคงจะเสียเวลาเสียเปล่าๆ เขาตัดใจจ้างคนงานที่รู้จักช่วยขน โดยจ่ายค่าจ้างให้10อีแปะ

    "ผักดองขอรับ ผักดองบ้านข้ารสดีมากขอรับ"ซีห่าวน้อยตะโกนเรียกลูกค้าอย่างขันแข็ง คนที่พบเห็นต่างยิ้มด้วยความเอ็นดู จึงลองเดินเข้ามาสอบถาม

    "พวกเจ้านำสิ่งใดมาขายกันเล่า"

    "ข้านำผักดองมาขายเจ้าค่ะ ท่านน้าลองชิมดูก่อนได้ ถ้าชอบค่อยซื้อเจ้าค่ะ" ไป๋หลานจัดวางผักดองที่จะให้ลูกค้าชิมโดยเฉพาะอย่างคล่องแคล่ว

    "อร่อยยิ่ง นี่มันเรียกว่าอะไร มันมีรสเปรี้ยวเผ็ดกินกับข้าวต้มคงจะเข้ากันมาก"

    "นี่เรียกว่าผักดองเปรี้ยวเผ็ดเจ้าค่ะ และใช่เจ้าค่ะมันสามารถกินกับข้าวต้ม หรือนำมันมาเป็นเครื่องเคียงบนโต๊ะอาหารได้"

    "พวกเจ้าขายมันอย่างไรบ้าง"

    "ไหเล็ก1ตำลึง ไหกลาง3ตำลึงเจ้าค่ะ ข้าใช้เกลือในการดองพวกมัน ราคาอาจจะสูงแต่ไหเล็กสามารถทกินได้หลายมื้อ  ท่านซื้อไปข้ารับรองว่ามันคุ้มค่าแน่นอนเจ้าค่ะ"นางตั้งใจว่าจะขายราคานี้ตั้งแต่แรก จึงตอบอย่างมั่นใจและมีเหตุผลในการตั้งราคา เกลือที่ใช้ไปไม่น้อยเลย นางต้องควักเงินเก็บที่มีเกินครึ่งในการซื้อมันมา ถ้าจะขายต่ำกว่านี้คงขาดทุน

    "ข้าขอลองไหเล็กดูก่อนถ้ามันอร่อยข้าจะกลับมาซื้ออีกแน่"

    "ได้เจ้าค่ะ" อย่างน้อยก็มีคนกล้าซื้อและเมื่อมีคนซื้อไปแล้ว รอเวลาเพียงไม่นานคนที่ซื้อก็จะบอกต่อๆกันไป และมันเป็นอย่างที่เธอคิด ในช่วงบ่ายหน้าร้านผักดองของนางคราคร่ำไปด้วยลูกค้า พี่ใหญ่ต้องไปจ้างคนงานอีกครั้งเพราะลูกค้าบางรายก็เป็นคนมีเงินจึงต้องขนไปที่รถม้า

    "ข้าขอซื้อผักดองไหกลาง1ไห"ชาวบ้านคนที่หนึ่ง

    "3ตำลึงเจ้าค่ะ"

    "ข้าขอผักดองไหเล็ก2ไห"ลูกค้าคนที่สอง

    "ได้เจ้าค่ะ" "ขอบคุณมากขอรับ"

    "ข้าซื้อไหกลาง10ไหเลย"

    "เจ้าอย่าซื้อเยอะสิ เหลือไว้ให้ข้าบ้าง ข้าเอาไหเล็ก20ไหนะเด็กน้อย"ไป๋หลานรับเงินส่งสินค้าด้วยรอยยิ้ม แบบนี้นั่งขายทั้งวันนางก็คิดว่ามันคุ้ม

    "มีไหใหญ่กว่านี้หรือไม่ข้าลองชิมดูแล้วรสดียิ่ง"

    "ตอนนี้มีแค่ไหเล็กและไหกลางเจ้าค่ะ ส่วนไหใหญ่ข้าจะนำมันมาในวันพรุ่งนี้"

    "ได้ ข้าขอไหกลาง5ไห"

    ผักดองบ้านถงที่เตรียมมาไหเล็ก200ไห ไหกลาง150ไห ขายหมดเกลี้ยง คนต้นคิดมีรอยยิ้มประดับใบหน้า กิจการขายผักดองของนางขายดิบขายดี เงินตำลึงเข้ากระเป๋าจนตอนนี้ถุงเงินที่เตรียมมาอัดแน่น จนต้องเอาไปใส่ถุงสำรองแทน โชคที่นางคิดเผื่อว่ามันอาจขายดีและมาก็ขายดีจริงๆ เฉิงกงตื่นเต้นจนขาสั่นเทา ครอบครัวเขาจะมีเงินตำลึงมากกว่าที่ผ่านมาเสียอีก เขาทำงานหนักเพื่อแลกเงินไม่กี่สิบอีแปะ จะคิดฝันถึงตำลึงเงินหรือตำลึงทองคงจะเกินฝันไปสักหน่อย แต่ตอนนี้มันเป็นไปได้แล้ว และมันเกิดจากสิ่งที่น้องสาวเป็นคนคิดขึ้นมา

    "ข้าอยากกินน้ำตาลปั้น ถังหูลู่ขอรับ"ทั้งสามเก็บร้านจ่ายค่าเช่าให้ท่านลุง ก่อนจะจับจูงกันเดินดูของในตลาด  ซีห่าวร้องขอสิ่งที่อยากกินมานาน เด็กและขนมมันคือของคู่กัน 

    "ได้ๆ วันนี้พี่รองใจดีจะซื้อให้เจ้า"ตอนนี้พวกเขามีเงินแล้ว น้องชายอยากกินขนมพี่อย่างนางย่อมสนองให้

    "เยี่ยมเลยขอรับ"

    "แต่เจ้าต้องเป็นเด็กดีและเชื่อฟังท่านแม่ พี่ใหญ่และพี่รองให้มากรู้หรือไม่"

    "ข้าจะเป็นเด็กดี จะตั้งใจเรียนและเชื่อฟังพวกท่านให้มากๆขอรับ"

    "พี่จะให้เจ้าได้เรียนน้องพี่"ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกอล้ว ซีห่าวพยักหน้ายืนยันว่าเขาจะทำตามนั้น จะไม่ทำให้คนที่รักผิดหวัง

     

    เมื่อสามพี่น้องเดินซื้อของจนครบก็ขึ้นเกวียนกลับหมู่บ้าน ผักดองชุดแรกขายได้ถึง650ตำลึงเงินหรือ6ตำลึงทอง50ตำลึงเงิน ไม่คิดว่าคนโบราณจะยอมซื้อของแปลกกันขนาดนี้ การมีเงินมันก็ดีแบบนี้พวกนางชาวบ้านยากจนจะคิดหวังกินของอร่อย หากเป็นเมื่อก่อนมันก็ยากแต่ตอนนี้มีนางอยู่ทั้งคนตระกูลถงจะต้องร่ำรวยขึ้นในรุ่นของพวกนางแน่นอน 

    ไป๋หลานกัดฟันซื้อข้าวชั้นดีและเครื่องปรุงต่างๆ ตลอดทางที่เกวียนวิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน  ชาวบ้านเดินผ่านไปมา หรือที่กำลังไปทำงานในนาของตนต่างมองเกวียนบรรทุกช้าวชองที่พี่น้องบ้านถงนั่ง แต่หมู่บ้านนี้ใช้ชีวิตต่างคนต่างไม่ยุ่งเรื่องของใคร แค่ใช้ชีวิตให้รอดในแต่ละวันและทำงานให้หนักก็ไม่มีเวลามายุ่งเรื่องของคนอื่นเพราะมันไม่สำคัญพอกับปากท้องของคนในบ้านอีกแล้ว

    มีคนไม่ยุ่งก็มีคนชอบยุ่งเหมือนกัน ตอนขับผ่านกลางหมู่บ้านจะมีแคร่ใต้ร่มไม้ ชาวบ้านที่ว่างงานมักมาพบปะกันที่นี่

    “พี่น้องสามคนนี้ พวกเจ้าไปร่ำรวยจากที่ใดมา ซื้อของเยอะแยะเช่นนี้คงไม่ได้ไปทำสิ่งไม่ดีมาหรอกนะ”ลูกสะใภ้เฒ่าเนี่ยตะโกนถามเสียงดัง ทั้งที่พวกนางก็อยู่ใกล้กัน ไป๋หลานเข้าใจเจตนาของนางดีจึงทำเพียงยิ้มบางเป็คำตอบเพียงเท่านั้น 

    ส่วนคนที่หน้าแตกก็ทำเสียงฟึดฟัด คอยดูเถอะ มารดาของเจ้าเด็กยโสพวกนี้ไปทำงานซักผ้าเมื่อไหร่ นางจะให้มันมีสามีเป็นทหารยศต่ำสักคน แต่ลูกสะใภ้ของเฒ่าเนี่ยคงต้องผิดหวัง เพราะไป๋หลานไม่คิดให้มารดาไปลำบาก ส่วนนางหวงหลานก็ตามใจบุตรทั้งสาม อยู่บ้านนั่งปักผ้าช่วยงานลูกๆไปตามประสา

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×