คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ไป๋หลาน10
เมื่อช่วยคนป่วยขึ้นรถมาแล้วเฉิงกงก็กลับไปบังคับม้าต่อ ส่วนไป๋หลานต้องตรวจหาบาดแผลตามตัวชายชุดดำว่ามีตรงไหนที่หนักหนาบ้าง นอกจากแผลถูกฟันเป็นทางยาวที่หลังนอกนั้นก็บาดเจ็บเล็กน้อยไม่น่าห่วงนัก ในช่องเก็บของในระบบเธอพอจะมีสมุนไพรห้ามเลือดกับสมานแผลอยู่บ้างจากการหมุนในแต่ละวัน ถึงจะไม่ได้ดีที่สุดแต่ถ้ามันมาจากระบบเธอก็เชื่อว่าประสิทธิภาพมันจะต้องดีกว่าสมุนไพรทั่วไป
รถม้าเข้ามาในรั้วบ้านทั้งสองจึงช่วยกันหิ้วคนเจ็บลงมาจากรถม้าอย่างทุลักทุเล ถึงอย่างไรชายคนนี้ก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวต่างจากเฉิงกงที่ถึงแม้จะดูกำยำขึ้นแต่ก็ยังเป็นแค่เด็กหนุ่มเท่านั้น ส่วนไป๋หลานก็ตามที่เห็น นั่งหอบเหงื่อไหลเต็มใบหน้าในอากาศที่หนาวเย็น นางหวงหลานอยากสอบถามลูกว่าเกิดสิ่งใดขึ้นถึงได้พาคนเจ็บมาได้แต่ก็ต้องรอให้ทั้งสองพักหายใจและดื่มน้ำชาปรับความอบอุ่นในร่างกาย
"ลูกนำใครมาที่บ้าน ใยไม่คิดว่ามันเป็นกลลวง"
"ท่านแม่ข้ากับพี่ใหญ่ตรวจสอบละเอียดดีแล้วว่าชายคนนี้บาดเจ็บจริงและไม่มีใครอยู่แถวนั้นจะไปโรงหมอก็ต้องใช้เวลานานข้ากลัวว่าท่านจะเป็นห่วงจึงพามาที่บ้านแทนเจ้าค่ะ"
"แต่พวกลูกต้องระวังตัวมากกว่านี้ เกิดชายคนนี้ฟื้นขึ้นมาแล้วเป็นคนไม่ดีทุกคนในบ้านจะแย่เอาได้ เฮ้อ แต่เอาเถอะพามาแล้วก็ต้องรักษา" นางหวงหลานบ่นด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อเห็นความตั้งใจของลูกสาวจึงตัดใจบ่นมากกว่านี้ไม่ลง
"ท่านแม่วันนี้ข้าซื้อหมูมามาก เดิมคิดว่าจะทำอาหารอร่อยทานกันแต่ก็มีเรื่องเกิดขึ้น วันนี้ทานข้าวต้มทรงเครื่องดีหรือไม่เจ้าคะ"
"เอาเถอะ เจ้าก็ไปดูคนเจ็บแม่จะตั้งหม้อต้มกระดูกหมูไว้รอ" นางหวงหลานเมื่อโดนออดอ้อนจึงตัดใจและเข้าในครัวจัดการกับเนื้อหมูและเครื่องปรุงต่างๆ ที่ไป๋หลานซื้อมาเข้าที่เก็บของ
ไป๋หลานเดินเข้ามาในห้องเดิมของเธอที่ตอนนี้มีชั้นแปลงผักวางอย่างเป็นระเบียบ บนเตียงคั่งมีชายชุดดำที่เธอเคยช่วยถูกพี่ใหญ่จับนอนคว่ำหน้าถอดเสื้อออกเตรียมให้เธอทำแผล เฉิงกงมองน้องสาวทำบางอย่างในอากาศและพวกสมุนไพรก็ออกมา มันวางอยู่บนเตียงใกล้คนเจ็บ ถึงเขาจะเห็นมาหลายครั้งแต่ไม่เคยชินกับมัน
เมื่อได้สมุนไพรทั้งสองจึงช่วยกันจัดการบาดแผลเล็กๆ ซึ่งส่วนมากเฉิงกงจะทำเองถึงจะเงอะงะไปบ้างแต่น้องสาวของเขาเป็นสตรีจะให้มาสำรวจเนื้อตัวบุรุษได้อย่างไร ไป๋หลานไม่อยากขัดกับความตั้งใจของพี่ชาย ถึงแม้โลกก่อนมันจะเป็นเพียงเรื่องธรรมดาสำหรับเธอแต่เมื่อมาอยู่โลกนี้มันคือข้อจำกัดและเธอก็ทำใจได้แล้ว แม้ช่วงแรกๆ จะนึกขัดใจกับจารีตต่างๆ ก็ตาม
"แผลใหญ่ลึกพอสมควรเลยนะเจ้าคะ"
"เราช่วยเท่าที่เราช่วยได้น้องรอง ทั้งหมดมันก็ขึ้นอยู่กับชายคนนี้แล้วว่าจะสามารถทนมันได้หรือไม่ พี่จะเป็นคนเฝ้าชายคนนี้เองเจ้าไปช่วยท่านแม่เถิด"
"อย่างนั้นข้าออกไปทำกับข้าวกับท่านแม่ด่อนนะเจ้าคะ วันนี้ข้าตั้งใจจะทำข้าวต้มทรงเครื่องให้พวกท่านได้ลองทาน"
"ไปเถิด อาหารของเจ้าอร่อยทุกอย่าง"
"พี่ใหญ่เห็นแก่กินเหมือนน้องเล็กตั้งแต่เมื่อไหร่กันเจ้าคะ"
"เดี๋ยวเถิด" ไป๋หลานหัวเราะร่าออกไปจากห้องหลังจากแกล้งให้พี่ชายหน้าแดงถึงใบหูได้ น่ารักจริงๆ เลยน้าาา
เย็นวั้นนี้ทุกคนในครอบครัวจึงได้ลองทานข้าวต้มทรงเครื่องเป็นครั้งแรก นางหวงหลานที่ปกติจะทานน้อยแต่ตั้งแต่ที่ลูกสาวคนรองลงมือช่วยเธอทำอาหารก็ทำให้เธอทานข้าวได้เยอะขึ้นตอนนี้รูปร่างของเธอไม่ได้ผอมบางอีกแล้วแต่กลับดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น ผิวดีจากการใช้สบู่ที่ลูกสาวเป็นคนทำ ผมที่เคยหยาบกร้านก็นุ่มสลวยจากการใช้แชมพูสูตรของไป๋หลาน ทุกคนทานข้าวอย่างมีความสุข มีเสียงพูดคุยกันเป็นระยะ ส่วนรสชาติอาหารวันนี้ไม่ต้องพูดถึงให้มากแค่มองดูข้าวต้มในหม้อที่เหลืออยู่เพียงก้นหม้อได้ พี่ใหญ่กับน้องเล็กช่างกินเก่งยิ่ง ท่านแม่ท่านให้กำเนิดตัวตะกละออกมาใช่หรือไม่
ผ่านมาสามวันแล้วแต่คนเจ็บที่ช่วยไว้ก็ยังไม่ฟื้นในคืนแรกคนเจ็บไข้ขึ้นสูงจนทุกคนยกเว้นซีห่าวน้อยวุ่นวายกันจนแทบไม่ได้นอน ต้องคอยเช็ดตัวและป้อนยาวุ่นวายกันทั้งคืน พอรุ่งเช้าไข้ลดลงมาบ้างจึงพอให้ทุกคนหายใจได้คล่องมากขึ้น ไม่มีใครอยากจะให้มีคนตายในบ้านตัวเอง ยิ่งกับชายแปลกหน้าคนนี้ด้วยแล้วถ้าตายขึ้นมาจะต้องมีเรื่องยุ่งยากกับบ้านถงแน่นอน เพราะแบบนั้นจึงต้องอดนอนเฝ้าไข้และเช็ดตัวให้ทั้งคืน
หิมะหยุดตกมาหลายวันแล้วไป๋หลานอยากจะเข้าป่าไปเก็บผลซื่อจึมาตากแห้งทำเป็นชาผลซื่อจึและเก็บไว้ทานเล่นแต่เนื่องจากคนแปลกหน้าอยู่ในบ้านจึงต้องรอไปก่อน จะเข้าไปแล้วปล่อยให้สตีและเด็กอยู่ตามลำพังก็ดูจะไม่ดีนัก เกิดชายคนนั้นฟื้นขึ้นมาและเกิดความคิดไม่ดีหรือเป็นคนไม่ดีท่านแม่กับน้องเล็กจะไม่เป็นอันตรายหรือ ถึงเธอจะช่วยเหลือมาอย่างง่ายดายและเห็นแก่เงินแคก เห็นแก่เพื่อนร่วมโลก แต่ก็ไม่ได้วางใจว่าชายคนนี้เป็นคนดี ดังนั้นจึงต้องพับเก็บความคิดที่จะเข้าป่าออกไปก่อนจนกว่าชายคนนั้นจะฟื้นและพูดคุยให้เข้าใจทุกคนในบ้านถึงจะวางใจ
"เฮ้อ น่าเบื่อยิ่ง อยากเข้าป่าไปสำรวจของกินจะแย่ ซื่อจึจ๋า เฉาเหมยจ๋า รอข้าก่อนนะ"
"รอดูไปก่อนนะน้องรอง เมื่อคนเจ็บฟื้นพวกเราค่อยเข้าไปดูกัน"
"เจ้าค่ะ ข้าไม่น่าช่วยเพราะเห็นแก่เงิน เอ่อ เพราะความใจดีเลย"
"ตัวงกน้อย"
"ข้าต้องเก็บเงินให้ได้เยอะๆ เจ้าค่ะ"
"แค่ที่มีพวกเราก็อยู่ได้อย่างไม่เดือดร้อนไปทั้งชีวิต"
"ไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าจะเก็บเงินแต่งภรรยาให้ท่าน"
"....."
เข้าวันที่10คนเจ็บถึงได้รู้สึกตัวแต่เมื่อทานข้าวทานยาก็หลับไปอีก ก่อนหน้านั้นไป๋หลานก็เข้าป่ากับเฉิงกงไปนำผลซื่อจึป่าและได้เฉาเหมยมาด้วยเล็กน้อยให้พอทำแยม1กระปุกซีห่าวคือคนที่ชอบทานมากที่สุด แยมเปรี้ยวหวานทานคู่แผ่นแป้งเข้ากันยิ่งจึงทานแยมกับแผ่นแป้งทุกเช้า จนตอนนี้แยมใกล้หมดแล้ว ไป๋หลานจึงตั้งใจจะไปดูว่ามีเฉาเหมยป่าเหลืออยู่มากน้อยแค่ไหน ตอนนี้น้องเล็กมีเนื้อมีหนังมากขึ้นจนจะกลิ้งแทนการเดินอยู่แล้ว แต่ไป๋หลานยังอยากให้แก้มของน้องชายมีเนื้อและน่าบีบมากกว่านี้
เกือบ1เดือนแล้วที่คนเจ็บฟื้น ทุกคนต่างดูแลและเฝ้าสังเกตุเกี่ยวกับคนเจ็บว่ามีพิรุธที่ตรงไหนบ้างแต่เมื่อผ่านไปนานเข้าไม่มีเรื่องเกิดขึ้นจึงวางใจและกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติอีกครั้ง ชุดที่คุณหนูต่งสั่งให้ปัก ท่านแม่ก็ทำเสร็จเรียบร้อย ไป๋หลานจึงนำไปส่งให้ที่จวนเจ้าเมือง เมื่อคุณหนูต่งเห็นชุดที่สั่งให้ปักก็ชอบใจมากถึงขนาดเพิ่มเงินรางวัลให้ไป๋หลานอีก10ตำลึงทอง ไป๋หลานจึงได้รับเงินเป็น60ตำลึงทอง และได้รับงานปักชุดของฮูหยินและท่านเจ้าเมืองซึ่งคนรวยพวกนี้ใจป้ำยิ่ง จ่ายค่าจ้างสูงถึงชุดละ200ตำลึงทอง ไป๋หลานจึงรับงานและกำหนดส่งงานก่อนเทศกาลปีใหม่อย่างอารมณ์ดี
ใกล้จะถึงเทศกาลขนมบัวลอยแล้ว ไป๋หลานคิดจะทำบัวลอยน้ำขิงสอดไส้งาดำ การใช้ชีวิตของบ้านถงเป็นไปด้วยความราบรื่น ถึงจะมีคนเพิ่มมาหนึ่งคนก็ไม่ได้ทำให้อาหารหรือเสบียงที่มีลดลงเพราะไป๋หลานเข้าเมืองไปซื้อมาเก็บไว้ทุกสองอาทิตย์ ถึงจะปวดใจกับราคาข้าวและธัญญาพืชที่แพงจนแทบกระอักเลือดทุกครั้งที่ควักเงินจ่าย แต่ก็คิดว่าปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่บ้านถงจะต้องซื้อข้าวกินเพราะเธอจะทำการเพาะปลูก ทุ่งนาจ๋ารอข้าไปก่อนนะเจ้าคะ
ครอบครัวของน้องจะมีคนมาเพิ่ม ทุกคนวางใจได้ น้องจะไม่รีบไถเงินจนหมดตัวนะคะแต่แค่กระอักเลือดเท่านั้น????????
ความคิดเห็น