ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไป๋หลานยอดหญิงสกุลถง(มีE-BOOKแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #4 : ไป๋หลาน4

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 64



     

    "กลับมาแล้วเจ้าค่ะ"

    "พี่ใหญ่ พี่รอง ขายผักหมดไหมขอรับ" ซีห่าวเมื่อเห็นพี่ชายกับพี่สาวไปไม่นานจึงถามอย่างคาดหวัง เขาหวังว่าผักที่ครอบครัวเขาตั้งใจดูแลจะขายได้ ดังนั้นในดวงตากลมโตจึงมีประกายความหวังอยู่เต็มเปี่ยม

    "ทำไมพวกลูกกลับมากันเร็วนัก เป็นยังไงบ้างแล้วนั่นซื้อของอะไรมามากมายกัน" นางหวงหลานสอบถามอย่างกังวล เมื่อเห็นเฉิงกงและไป๋หลานใช้เวลาไม่นาน นางกลัวว่าผักพวกนั้นจะขายไม่ออก

    "หมดแล้วเจ้าค่ะ พวกข้านำผักออกมาวางแปบเดียวเท่านั้น พอมีคนแรกกล้ามาซื้อ คนอื่นถึงมาซื้อตามเจ้าค่ะ พรุ่งนี้มีสั่งจองไว้หลายเจ้า บ้านเราคงต้องทำงานหนักไปอีกหลายวันหน่อยนะเจ้าคะส่วนของพวกนี้ข้ากับพี่ใหญ่เห็นตรงกันว่าควรซื้อเก็บไว้ บ้านเราจะได้มีเสบียงพอในหน้าหนาวที่จะถึงนี้เจ้าค่ะ" ไป๋หลานรีบบอกท่านแม่เมื่อเห็นแววตาเป็นห่วง ถึงแม้ว่าเธอจะมั่นใจว่าผักพวกนี้ต้องขายได้เพียงแต่ครอบครัวของเธอไม่รู้พวกเขาไม่ได้มีความมั่นใจมากมายนัก

    พอนางหวงหลานได้ฟังว่าผักที่พวกเขาดูแลขายดีอีกทั้งมีสั่งจองลวงหน้าก็ให้คลายความกังวลลงสีหน้าจึงมีแต่รอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปนั่งปักผ้าที่ปักค้างไว้ ตั้งใจว่าอีกสองวันจะฝากลูกๆไปขายในร้านผ้า ไป๋หลานเห็นดังนั้นจึงรีบหยิบหนังสือออกมาจากช่องเก็บของโดยที่ไม่มีใครเห็นนำไปให้ท่านแม่อย่างแนบเนียน

    "ข้ามีหนังสือปักผ้ามาให้ท่านแม่เจ้าค่ะ" นางหวงหลานมองอย่างสงสัยแต่พอเปิดไปหน้าแรกถึงกับตกตะลึงเพราะลายปักในนี้งดงามอ่อนช้อยยิ่งนัก

    "ลูกนำมันมาจากที่ใดกันไป๋หลาน ใครมอบมันให้กับเจ้า ลูกไม่ควรหยิบของผู้อื่นมารู้หรือไม่ ลูกจงนำไปคืนเจ้าของเถอะ" นางหวงหลานตกใจเมื่อคิดว่าลูกสาวอาจหยิบของของคนอื่นมา เพราะลายปักนี้มันงดงามมากเหมือนลายปักของชนชั้นสูงที่นางเคยเห็นถึงแม้ว่าจะมองจากที่ไกลๆแต่ก็ยังเห็นว่ามันงดงาม

    "ข้ามีเรื่องจะบอกทุกคนเจ้าค่ะ" ไป๋หลานตัดสินใจจะบอกเรื่องของระบบที่เธอได้รับมา ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูเหลือเชื่อแต่มันจะมีอะไรเหลือเชื่อยิ่งกว่าการที่เธอทะลุมิติมาอยู่ที่นี่กัน

    "ตอนที่ข้าฟื้นจากอาการป่วยข้าก็ได้รับสิ่งนี้มา มันคือวงล้อโชคชะตา ทุกวันข้าจะหมุนได้เพียงหนึ่งครั้งแต่ละครั้งที่หมุนจะได้รับเงินอีแปะและหินแร่ธาตุบำรุงดินมา แต่วันนี้ข้าหมุนได้เงิน5ตำลึงและยังได้โชคหมุนอีกครั้งแล้วก็ได้หนังสือเล่มนี้มา" ไป๋หลานทำบางสิ่งกับอากาศแล้วจู่ๆก็มีเงินตำลึงและเงินอีแปะรวมถึงสิ่งของที่หมุนได้ในแต่ละวัน วางอยู่หน้าครอบครัวถง ที่ผักเติบโตไวส่วนหนึ่งมาจากการที่ไป๋หลานนำหินแร่ธาตุบำรุงดินไปฝังไว้ในแปลงผักแต่ละแปลง พวกเขาตกใจมาก มันออกมาจากความว่างเปล่า

    "นี่มัน....น่าเหลือเชื่อมาก" เฉิงกงทำหน้านิ่งค้างเขาสงสัยมาตลอดช่วงเช้าว่าน้องสาวนำเงินอีแปะมาจากที่ใด เพราะเงินที่เขาหามาท่านแม่เป็นคนเก็บ ช่วงเช้าก่อนออกจากบ้านท่านแม่ให้เงินมาพอให้ขึ้นเกวียนและจ่ายค่าประตูเข้าเมืองเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว

    "พวกเราต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ซีเอ๋ออย่าได้พูดออกไปนะลูก ถ้ามีคนรู้พี่รองจะไม่ได้อยู่กับพวกเรา" นางหวงหลานกล่าวย้ำกับซีห่าวน้อยอย่างกังวลเรื่องนี้มันใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาจะรับไหวแต่เพื่อให้บุตรสาวปลอดภัยครอบครัวถงต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

    "ข้าจะไม่บอกใคร พี่รองต้องอยู่กับพวกเรานะขอรับ" ซีห่าวน้อยรับปากอย่างสั่นกลัว กลัวว่าจะมีใครมาเอาพี่รองของเขาไป ไม่ได้เรื่องนี้เขาจะต้องไม่เอาไปพูดกับใครทั้งนั้น แค่เขาไม่พูดพี่รองก็จะไม่หายไป ใบหน้าที่เริ่มกลมจากการที่ไป๋หลานบำรุงมาตลอดเกือบสองเดือนครุ่นคิดอย่างหนักทำให้พวกผู้ใหญ่เอ็นดูได้ไม่น้อย ความเครียดของเฉิงกงและนางหวงหลานจากการได้รับรู้สิ่งที่เหลือเชื่อจึงคลายลงไปบ้าง

    "พี่รองจะไม่ไปไหนทั้งนั้น พี่รองจะทำให้ครอบครัวของเราดีมากกว่านี้ ซีเอ๋อของพี่จะได้เรียนหนังสือ วันนี้พี่มีซาลาเปาไส้เนื้อมาฝากเด็กดีด้วยนะ ของท่านแม่ด้วยนะเจ้าคะ" เมื่อจบเรื่องที่น่าตกใจความอึดอัดใจในครอบครัวถงก็ลดลงไปมาก ท่านเทพคงจะเมตตาหลานเอ๋อมากจึงได้มอบสิ่งล้ำค่านี้มาให้กับครอบครัวเรา นางหวงหลานมองบุตรชายและบุตรสาวอย่างมีความสุข 'ท่านพี่ตอนนี้ลูกๆของเราเติบโตขึ้นแล้ว ท่านมองเห็นมันหรือไม่'

     

     

    รุ่งเช้าไป๋หลานและครอบครัวจึงยุ่งกันอีกครั้ง ผักชุดที่สองเก็บเกี่ยวได้ถึง120กำ นางหวงหลานยิ้มเต็มหน้าเพราะสองวันมานี้ครอบครัวของเธอหาได้ได้เกือบ1ตำลึงจึงทำงานอย่างมีความสุข แปลงผักที่ว่างลงจึงนำเมล็ดของ แครอทและแตงกวาลงปลูก เพื่อให้ทันเก็บเกี่ยวก่อนหนาวนี้

    "พี่ใหญ่ท่านซื้อหมูติดมันและกระดูกซี่โครงมาด้วยนะเจ้าคะ ถ้าที่ร้านมีเครื่องในให้ท่านซื้อมาให้หมดเลยเจ้าค่ะฝากซื้อล่าเจียว(พริก)และเต้าเจี้ยวมาด้วยเจ้าค่ะ อ้อ ถ้ามีเมล็ดยู่หมี่(ข้าวโพด)และซีหงซื่อ(มะเขือเทศ)ฝากซื้อติดมาให้น้องด้วยนะเจ้าคะ" ไป๋หลานสั่งของที่ตนอยากได้ตั้งใจว่าตอนเย็นจะทำสุ้กี้ยากี้ทาน ตอนที่เรียนเธอมีเพื่อนคนไทยจึงได้ทานและได้สูตรของอาหารไทยที่อร่อยมาไม่น้อย เมื่อวันนี้ครอบครัวมีผักและพอมีเงินเธอจึงอยากให้ครอบครัวถงกินอิ่มที่สุด

     

     

     

    วันนี้เฉิงกงเข้าเมืองคนเดียวเพื่อนำผักและผ้าเช็ดหน้าที่ท่านแม่เร่งปักจนเสร็จฝากไปขายอีก5ผืน ได้เงินมา50อีแปะ ส่วนผัก120กำเมื่อมีประสบการณ์จากน้องสาวเมื่อวานจึงขายและทอนเงินได้อย่างไม่มีติดขัด ผักจึงขายหมดในเวลาไม่นานได้เงิน600อีแปะจำนวนเงินยังคงทำให้เฉิงกงตื่นเต้นจึงเก็บเงินไว้ตรงอกเสื้ออย่างระวังด้วยมือที่สั่นเทา

     

    ตอนนี้เฉิงกงมายืนหน้าร้านขายเมล็ดเจ้าเดิมที่เคยพาน้องสาวมาซื้อเมื่อเข้ามาในร้านยังคงเป็นลุงเจ้าของร้านคนเดิมมาต้อนรับ

    "ท่านลุง ในร้านพอจะมีเมล็ดหยู่หมี่และซีหงซื่อหรือไม่ขอรับ"

    "มีๆๆๆ เจ้าต้องการมากเพียงใด"

    "อย่างละ2เฉียนขอรับ" เมื่อลุงเจ้าของร้านได้ฟังจึงห่อเมล็ดผักตามที่เฉิงกงสั่งอย่างรวดเร็ว

    "ได้ๆ อย่างละ2เฉียน 7อีแปะ"

     

    เมื่อได้ของแล้วจึงแวะไปซื้อข้าวชั้นเลวมาอีก1ชั่งจ่ายเงินไป200อีแปะ ซื้อเครื่องเทศรวมถึงเนื้อหมูเมื่อได้ของตามที่ไป๋หลานสั่งเรียบร้อยจึงขึ้นเกวียนของคนในหมู่บ้านที่จอดรอผู้คนอยู่หน้าประตูทางเข้าเมืองกลับบ้านเพื่อให้ทันมื้อกลางวันของครอบครัว

     

     

    "พี่ใหญ่ท่านกลับมาแล้ว มีขนมมาให้ข้าด้วยไหมขอรับ" ซีห่าวน้อยวิ่งออกไปต้อนรับเฉิงกงที่เดินมาแต่ไกลอย่างร่าเริง เมื่อเดินมาถึงบ้านจึงได้น้ำตาลปั้นรูปนกที่ออดอ้อนพี่ใหญ่มาหนึ่งอัน แล้ววิ่งไปนั่งกินข้างท่านแม่อย่างเรียบร้อย

    "พี่ใหญ่ ได้ตามที่ข้าสั่งไหมเจ้าคะ" ไป๋หลานเดินมาช่วยพี่ชายนำของเข้าไปเก็บในบ้าน เมื่อตรวจดูว่าได้ของที่สั่งมาครบจึงนำหมูติดมันกับซีโครงมาหั่นและหมักกับเต้าเจี้ยว เกลือ น้ำตาล และไข่คลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยหมักทิ้งไว้เพื่อให้หมู่นุ่มตอนเย็นจะได้ทานอร่อย

    "ในหัวของเจ้าตอนนี้คงมีแต่เรื่องกิน ดูพุงของเจ้าตอนนี้สิ พี่อุ้มไม่ไหวแล้วนะ ฮ่าๆ" เฉิงกงหยอกล้อน้องชายตัวกลมอย่างมีความสุข ตอนนี้ครอบครัวเขาไม่ต้องคอยกังวลว่าวันนี้จะมีข้าวกินหรือพรุ่งนี้จะกินอะไรอีกแล้ว ตั้งแต่น้องสาวหายป่วยและได้รับของวิเศษมา ทุกคนมีความสุข รอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมานานเกิดกับครอบครัวเขามากขึ้น แค่นั้นเขาก็พอใจแล้ว อย่างน้อยถ้าวันหนึ่งเขาตายไปคงมีหน้าไปพบท่านพ่อบ้าง

     

    มื้อเย็นวันนี้ครอบครัวถงจึงได้ทานสุกี้ฝีมือของไป๋หลานกันอย่างเอร็ดอร่อย น้ำซุปเข้มข้นหวานหอมน้ำจิ้มเลิศรส ผักสดกรอบเนื้อหมูนุ่มๆ นั่นทำให้ทุกคนทานได้มากกว่าปกติ ไป๋หลานมองความสุขที่เธอได้รับมาอย่างสุขใจ ตอนนี้คนที่เธอรักไม่ได้ร่างกายผอมแห้งขาดสารอาหารดังเช่นวันที่เธอมาถึงใหม่ๆอีกแล้ว ซีห่าวน้อยมีแก้มป่องหน้าบีบและขนาดตัวกลมจนแทบจะกลิ้งได้ พี่ใหญ่มีร่างกายที่สูงและดูกำยำขึ้น ท่านแม่ดูมีน้ำมีนวลดวงตากระจ่างใสไม่ดูเหลืองเหมือนวันวาน ส่วนร่างกายนี้ดูอวบอิ่ม และเริ่มมีแก้มที่ออกจะกลมไปสักหน่อย สงสัยคงต้องลดปริมาณการทานข้าวในแต่ละวันลงแล้วละ

     

     

     

     

     

    เข้าเดือนที่3ของการมาอยู่ที่นี่

    ไป๋หลานตื่นเช้าเพื่อลงแปลงผักและจัดการผักกาดขาวและถั่วฝักยาวเพื่อนำไปดอง ท่านแม่ดูแลอาหารเช้า เฉิงกงและซีห่าวน้อยคอยนำผักไปล้างก่อนจะเข้าขั้นตอนการทำผักดอง ไป๋ช่ายและโต้เจี่ยวที่ได้พอทำผักดองได้หลายไห เมื่อเข้าหน้าหนาวไป๋หลานตั้งใจที่จะนำไปขายในตลาด ฤดูที่ขาดผักใบเขียวถ้าได้ผักดองเปรี้ยวเผ็ดและผักดองหวานทานกับข้าวต้มก็รสดีไม่เบา

    เกลือที่นำมาดองผักนั้น ไป๋หลานที่ขายผักได้สามรอบรับเงินมา4ตำลึง200อีแปะ และนำบางส่วนไปซื้อเกลือที่หมู่บ้านชุนที่อยู่ติดเมืองท่าห่านเฉิน ได้ส่วนผสมทางทะเลมาไม่น้อยแต่ยังไม่หลากหลายพอในความคิดของไป๋หลาน แต่เท่านี้ก็พอลดความอยากกินลงไปได้บ้าง

    "พี่ใหญ่หลังจากท่านล้างผักแล้ว ท่านใช้มีดหั่นไป๋ช่ายแบบนี้ไม่ต้องให้ส่วนปลายมันขาดแต่ให้ใช้มือดึงออกแบบนี้ ส่วนโต้วเจี่ยวหั่นเป็นชิ้นขนาดนี้เจ้าค่ะ ไป๋ช่ายครึ่งหัวใช้เกลือหนึ่งกำมือ ทาเกลือให้ทั่วแล้ววางทิ้งไว้ ตอนเย็นพวกเราจะกลับมาล้างเกลือออกอีกทีเจ้าค่ะ" ไป๋หลานแนะนำวิธีทำผักดองอย่างละเอียด โต้วเจียวให้แช่น้ำเกลือทิ้งไว้ หลังจากนั้นจึงชวนพี่ใหญ่และซีห่าวน้อยไปตกปลาที่สระข้างหลังบ้าน



     

     

     

     

    "พี่รอง ข้าได้ปลาแล้วขอรับ ตัวใหญ่มากขอรับ ฮ่าๆ" ซีห่าวน้อยร้องบอกพี่รองของตนเสียงใส ใบหน้ามีความสุข ตั้งแต่พี่รองหายป่วย ทุกคนก็มีความสุขขึ้น มีข้าวและเนื้อให้กินทุกมื้อ เขามีความสุขมาก เมื่อโตขึ้นเขาจะต้องปกป้องดูแลพี่รอง พี่ใหญ่และท่านแม่อย่างดีที่สุด

     

    "เยี่ยมเลย วันนี้พี่ทำต้นปลาให้ทานดีหรือไม่"

     

    "ว้าว ดีขอรับข้าอยากกินต้มปลา ขอน้ำจิ้มแบบเมื่อวานอีกได้ไหมขอรับ"

     

    "แต่เมื่อวานพี่เห็นเจ้าปากแดงเพราะมันและเจ้าบอกว่าจะไม่แตะมันอีกแล้วอย่างไรเล่า"

     

    "ข้าไม่ได้พูดนะขอรับ พี่ใหญ่ท่านปักปรำข้า"

     

    "ฮ่าๆๆๆ/ฮ่าๆๆๆๆ"

     

     

     

     

    ครอบครัวนี้ยังไง ตอนนี้ในหัวมีแต่เรื่องกินเต็มไปหมด แต่ก็นั่นแหละ มันคือความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตของคนเราที่ทำให้ท้องอิ่ม ร่างกายอบอุ่น เมื่อจิตใจดีร่างกายก็จะดีตามเหมือนครอบครัวถงตอนนี้ยังไงล่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×