ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไป๋หลานยอดหญิงสกุลถง(มี E BOOK แล้ว)

    ลำดับตอนที่ #2 : จุดเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 64


    พรึบ!!!!

    เด็กสาวร่างกายผอมบาง หน้าตาซีดเซียวที่นอนสงบนิ่งอยู่บนตั่งนอนอันอบอุ่นมาเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ ลืมตาขึ้นมาในความมืดด้วยความมึนงง นัยน์ตาที่เคยฉายแววไร้เดียงสา มีความสงสัยปะปนอยู่ในนั้น นางกำลังทบทวนถึงสิ่งที่กำลังเผชิญ ก่อนจะค่อยๆกลอกดวงตามองไปรอบกาย พบหลังคาที่เก่าใกล้ผุพัง ผนังห้องบางแทบกั้นลมหนาวไม่ได้  ร่างบางพยายามชันตัวนั่งด้วยความทุลักทุเลเนื่องด้วยร่างกายนี้อ่อนแอ แค่ใช้แรงนิดหน่อยก็ทำเอาหอบทีเดียว นางไม่เข้าใจกับสิ่งที่ตัวเองพบเจอว่ามันคือความจริงหรือความฝัน ก้มมองแขนขาที่เรียวเล็กจนกลัวว่าถ้าขยับตัวแรงมากไปมันจะหัก

    เมื่อประมวลผลแล้วว่ามันคือเรื่องจริง 'ไป๋หลาน' ใช่นั่นคือชื่อของคนที่เข้ามาแทนร่างของ'ไป๋หลาน'คนเก่า มองไปรอบๆ อีกครั้งหลังจากปรับตัวกับความสับสนได้ รอบกายที่ไม่คุ้นเคยห้องที่เก่า ต่างจากห้องในอพาร์ทเมนต์ที่เธออาศัยอยู่มาหลายปี สิ่งของในห้องมีเพียงตั่งนอนที่นั่งอยู่ในตอนนี้ โต๊ะเล็กใช้วางสิ่งของที่ขาเอียงจนเธอกลัวว่ามันจะล้มลงมาสักครั้งยามมีของมาวาง เอ่อ มันคงไม่ล้มเพราะตอนนี้ก็มีกาน้ำชากับป้านชาเก่าๆ วางอยู่ ถึงแม้ว่าในห้องจะมืดแต่หลังจากที่สายตาปรับเข้ากับความมืดได้ก็มองเห็นชัดขึ้น แต่ในห้องก็ไม่มีอะไรอีก 

    นี่มันอะไรกัน ฉันควรตายไปแล้วสิ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ในร่างกายของเด็กแบบนี้หล่ะ หรือนี่จะเป็นโลกหลังความตาย พอหยิกเพื่อทดสอบก็พบว่ามันเจ็บมาก 

    ฉันคงจะได้นั่งครุ่นคิดถึงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นอีกนานถ้าไม่มีคนเดินเข้ามา เด็กผู้ชายที่แต่งตัวด้วยชุดจีนโบราณหลายชั้น มีรอยปะชุนจนไม่เห็นผ้าเดิมของชุด มันบางจนฉันกลัวว่าแต่ละชั้นมันจะขาด เขาเดินเข้ามาด้วยความเร่งรีบในสายตามีแต่ความห่วงใย พอเข้ามาใกล้เขาก็ทำให้ฉันตกใจ เพราะร่างกายที่เล็กแกรนเหมือนคนขาดสารอาหาร เด็กในสถานที่นี้ตัวเล็กกันทุกคนเลยเหรอ ขนาดร่างนี้ที่ฉันเข้ามาแทนที่ก็ตัวผอมเหมือนคนเป็นโรคขาดสารอาหาร

    "พี่รอง ท่านฟื้นแล้ว ท่านเป็นยังไงบ้างขอรับ เจ็บมากหรือไม่ ข้าจะไปตามท่านแม่ขอรับ" เสียงจากร่างเล็กดังขึ้นมันมีทั้งความตื่นเต้นดีใจและสั่นเครือจนไป๋หลานแทบจับใจความไม่ได้ เธอยังไม่ได้พูดอะไรเด็กชายคนนั้นก็วิ่งออกไปเสียแล้ว

    รอเวลาไม่นานก็มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าที่แตกตื่น ดวงตามีน้ำคลอเคลียจวนเจียจะไหลอยู่รอมร่อ 

    "ไป๋หลานลูกแม่เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง อย่าเอาแต่นิ่งแบบนี้ หิวหรือไม่แม่จะไปต้มข้าวมาให้เจ้านะ"มาไวไปไวก็เป็นผู้หญิงคนเมื่อกี่ละมั่ง แต่จู่ๆหัวของเธอก็ปวด ความทรงจำของร่างนี้ไหลเข้ามาไม่หยุด ตอนนี้เธอรู้สึกปวดหัวจนร่างกายชาไปหมด

    “โอ๊ย! หยุดได้แล้ว หยุดเถอะ ฮึก เจ็บ”ราวสิบนาทีทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมเพิ่มเติมเข้ามาคือไป๋หลานมีความทรงจำของใครอีกคนอยู่ในหัวเรียบร้อยแล้ว เธอลุกขึ้นนั่งอีกครั้งด้วยความยากลำบาก ใช้มือผอมแห้งเช็ดน้ำตาที่เปื้อนแก้มออกอย่างลวกๆ เด็กผู้ชายคนนั้นคือน้องชายของร่างนี้ ส่วนผู้หญิงที่เข้ามาใหม่ก็คือแม่ของร่างนี้ และตอนนี้เธอที่มีชื่อเหมือนกับเจ้าของร่างได้เข้ามาแทนที่คนเดิม นางตายไปแล้วและเธอก็ตายจากโลกเดิมไปแล้วเช่นกัน ทุกอย่างกำลังเริ่มต้นใหม่ในโลกนี้ 

    เธอก็ควรลืมตัวตนเดิมได้แล้ว ในเมื่อได้รับโอกาสอีกครั้งสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด

    “ไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะดูแลพวกเขาเอง เจ้าสบายใจได้ส่วนร่างกายนี้ข้าจะใช้มันทำความดีให้มากที่สุด ขอบคุณนะที่ให้ข้าได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง”สายลมบางเบาแต่อบอุ่นพัดมาโอบล้อมเหมือนเป็นการขอบคุณ ก่อนทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ในห้องมีวิญญาณสองดวงยืนมองไป๋หลาน ชายชราที่ยืนเคียงข้างจะหันมาเอ่ยกับวิญญาณของไป๋หลานอีกคน

    ‘เจ้าได้ตามที่ขอแล้ว ได้เวลาของเจ้าแล้วนังหนู’เด็กหญิงไป๋หลานที่เป็นวิญญาณเดินเข้าไปในแสงสีขาวก่อนที่ทั้งสองจะหายตัวไป

     

    ตอนนี้ไป๋หลานนั่งมองถ้วยที่มีข้าวลอยอยู่ในนั้นด้วยความเศร้าใจ มันมีข้าวน้อยจนนางนับเม็ดได้ ข้าวต้มที่ใสจนเห็นถึงก้นถ้วยคงไม่พอให้อิ่มท้องได้ ส่วนรสชาติของมันนั้นจืดเหมือนกินน้ำเปล่าเข้าไป ถึงจะอยากวางมันลงและไม่แตะมันอีกมากแค่ไหน แต่สายตาสองคู่ที่มองมาอย่างห่วงใย มันทำให้นางฝืนกินสิ่งที่แม่ของร่างนี้หรือตอนนี้เป็นแม่ของนางแล้วทำมาให้จนหมด ก่อนถ้วยอีกใบจะยื่นมาตรงหน้า ไป๋หลานมองน้ำในถ้วยนิ่งไป นางอยากจะร้องไห้กับกลิ่มเหม็นเขียวที่ตีเข้าจมูกนัก

    "พี่รองท่านรีบทานยาเร็วเข้า ท่านต้องรีบหายนะขอรับ ข้าจะพาท่านไปเก็บไข่ไก่ป่าที่พวกเราเคยไปดูมาตอนนี้มันต้องมีไข่แล้วแน่ๆ " ถงซีห่าวน้องชายของร่างนี้เอ่ยรบเร้า เมื่อเห็นพี่รองของตัวเองนิ่งไม่ยอมทานยาที่ท่านแม่ต้มมาให้ ถึงมันจะขมแต่ซีห่าวน้อยก็รับรู้ว่ามันจะทำให้พี่รองของเขาหาย จึงคุยด้วยน้ำเสียงสดใสจนไป๋หลานยิ้มตาม

    "ได้ พี่รองจะรีบหายแล้วเข้าไปเก็บไข่กับเจ้า"นางจำใจรับถ้วยยามาไว้ในมือ มองน้ำสีเขียวในถ้วยแล้วรู้สึกขนลุกแปลกๆก่อนจะกลั้นใจยกถ้วยจรดปากปล่อยให้ยารสชาติขมปร่าไหลลงคอไป ไป๋หลานรีบยกน้ำอุ่นที่ซีห่าวส่งให้ดื่มจนหมด

    "พี่รองรับปากข้าแล้ว วันต่อไปพี่รองก็ต้องกินยาด้วยนะขอรับ"

     อ่า ทำไมชีวิตของข้ามันถึงโชคร้ายซ้ำซ้อนแบบนี้นะ ให้กินยาที่ขมแถมกลิ่นยัง.... บรึ้ย!!!

     

     

    วันนี้ไป๋หลานเข้าป่ามากับซีห่าวน้อย นางมาอยู่ที่นี่ได้1อาทิตย์แล้ว หลังจากหายป่วยก็คิดอยากจะทำงานหรือทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้ครอบครัวอยู่รอด เพราะครอบครัวนี้ยากจนมากถึงขั้นมากที่สุด ลืมบอกว่าไป๋หลานมีพี่ชายด้วยล่ะ ชื่อ ถงเฉินกง อายุ15ปีมากกว่าไป๋หลาน5ปี ส่วนซีห่าวน้อยอายุ 7 ปี 

    ครอบครัวนี้มีเฉินกงเป็นแรงงานหลัก ส่วนท่านพ่อเป็นพรานล่าสัตว์ถูกหมีป่าไล่กัด ครอบครัวถงพยายามขอร้องให้ท่านหมอยื้อชีวิตอยู่หลายวัน ก่อนท่านพ่อจะทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตไปเมื่อตอนที่ซีห่าวยังได้ไม่ครบขวบปี เงินเก็บของครอบครัวถูกนำมาใช้เป็นค่ายาและค่าหมอ อีกทั้งไป๋หลานคนเก่ามีร่างกายที่อ่อนแอตั้งแต่เกิดทำให้ต้องทานยาอยู่เสมอ ค่าใช้จ่ายจึงเพิ่มมากขึ้น คนในครอบครัวต้องอดมื้อกินมื้อ ร่างกายของแต่ละคนถึงผอมแห้งอย่างที่ไป๋หลานเห็นตอนที่ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างนี้ใหม่ๆ

    "พี่รอง เราแอบท่านแม่กับพี่ใหญ่ออกมาแบบนี้จะดีหรือขอรับ" ซีห่าวน้อยยังเป็นกังวลอยู่มาก ถึงแม้ว่าจะหาของป่าอยู่รอบนอกแต่พี่รองกับเขายังเด็ก

    ตอนนี้ท่านแม่ไปรับจ้างซักผ้าของพวกทหารอยู่ที่ลำธาร ส่วนพี่ใหญ่ต้องไปทำงานในเมืองทุกวันค่าแรงได้วันละห้าสิบอีแปะ ให้พอได้ซื้อข้าวหรือธัญพืชหยาบมาประทังชีวิตของทุกคนให้อิ่มท้องได้ในแต่ละวัน และตอนนี้ไป๋หลานร่างกายแข็งแรงไม่ต้องกินยาอีกแล้ว พวกเขาจึงไม่ต้องเสียเงินกับส่วนนี้ แต่กว่าจะเกลี้ยกล่อมให้ทุกคนเชื่อได้นางต้องพูดจนปากแทบฉีกถึงหู ถ้าไม่ออกมาหาของป่าครอบครัวนางคงอดตายเข้าสักวัน ในเมื่อให้สัญญากับเจ้าของร่างไว้แล้วว่าจะดูแลครอบครัวนี้ให้ดี จะให้ไป๋หลานผิดสัญญากับไป๋หลานคนเก่านางทำไม่ได้ ยังไงชีวิตนี้นางจะทำให้ครอบครัวนี้กินอิ่ม มีชีวิตที่ดีให้ได้

     

    ไม่ทันได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ ก็มีเสียงของระบบดังขึ้นในหัว 'ท่านต้องการหมุนวงล้อโชคชะตาหรือไม่' 'หมุนเลย' ใช่แล้วนางมีไอเทมอย่างที่นางเอกนิยายทะลุมิติมีกัน มันดังขึ้นในวันที่สองของการมาเยือนที่นี่ ซึ่งไป๋หลานคิดว่าอย่างน้อยมันก็คือของดี

    'ท่านได้รับ เงินอีแปะจำนวนสองร้อยอีแปะ'

    แต่มันออกจะเกลือไปสักหน่อย เห้อ ตอนแรกที่ไป๋หลานรับรู้ว่ามีระบบนี้อยู่นางดีใจมาก คิดว่าในการหมุนหนึ่งครั้งจะได้รับสิ่งของที่มันแรต์ไอเทมมากกว่านี้แต่ที่ผ่านมามันทำให้เห็นแล้วว่า แมรี่ซูไม่มีอยู่จริง หึบ!!! อย่างน้อยตอนนี้นางมีเงินอีแปะอยู่หนึ่งพันอีแปะหรือหนึ่งตำลึงเงินนั่นเอง แต่ดูแล้วเหมือนมันไม่พอให้พวกนางซื้อข้าวของมากักตุนในหน้าหนาวที่จะมาถึงเลยด้วยซ้ำ อย่างต้องสัก10ตำลึงเงินถึงจะพอดี อันนี้นางคิดในกรณีฉุกเฉินยามมีคนเจ็บป่วยต้องใช้เงินซื้อยาเข้าไปด้วย นั่นคือเหตุผลที่ไป๋หลานตัดสินใจชวนซีห่าวน้อยเข้ามาเสี่ยงดวงในป่า เผื่อจะได้อะไรกลับไปบ้าง อาหารหรือสัตว์เอาไปตากแห้ง

    "ไม่เป็นไรพวกเรารีบหาแล้วรีบกลับก่อนที่ท่านแม่และพี่ใหญ่จะกลับมาก็พอ" ไป๋หลานกวาดสายตามองหาสิ่งที่จะมาเป็นมื้อเย็นของวันนี้ ก่อนจะเจอกับจี้ฉ่ายหรือจิงจูฉ่าย* ไป๋หลานดีใจจนเนื้อเต้นวันนี้นางกับซีห่าวก็ยังโชคดี การเข้าป่าครั้งนี้ไม่เสียเปล่า

    "ซีห่าวรีบขุดเร็วเข้านี่คืออาหารของพวกเรา" ไป๋หลานดีใจยิ้มไปลงมือขุดเอาต้นจี้ฉ่ายขึ้นมาโดยไม่รู้สึกเจ็บมือสักนิด พลางเร่งซีห่าวน้อยให้ช่วยกันขุด อย่างน้อยจี้ฉ่ายพวกนี้ก็พอจะทำให้พวกเราอิ่มท้องไปได้ถึงสองมื้อ วันนี้พี่ใหญ่คงจะซื้อข้าวกับธัญพืชมาเติมแน่ๆ นางเหมือนได้ยินท่านแม่ตะโกนบอกพี่ใหญ่ซื้อแป้งข้าวโพดมาด้วย

    "มันคือสิ่งใดหรือขอรับพี่รอง" ซีห่าวน้อยถามอย่างสงสัยแต่ถึงอย่างนั้นก็ลงมือขุดอย่างชำนาญ ดีที่ก่อนออกจากบ้านเขาหยิบพลั่วน้อยติดมือมาด้วย จึงไม่ได้ลำบากกับการขุดมากนัก

    "มันคือต้นจี้ฉ่าย ทำเป็นอาหารอย่างซาลาเปาจี้ฉ่ายหรือต้มซุปก็อร่อยมาก" ไป๋หลานยิ้มเต็มใบหน้าคิดถึงรสชาติของซาลาเปาจี้ฉ่ายไม่น้อยตอนเย็นจะได้ทำกินกัน หวังว่าแป้งข้าวโพดที่ท่านแม่ฝากให้พี่ใหญ่ซื้อจะมากพอให้เอามาทำซาลาเปานะ

    เมื่อตรวจดูรอบๆว่าขุดจนหมดแล้ว สองพี่น้องก็ตั้งใจเดินทางกลับ ยังต้องแวะไปดูกับดักที่ซีห่าวทำไว้อีก แต่สายตาของไป๋หลานก็เหลือบไปเห็นพืชชนิดหนึ่งเข้า มันเป็นแท่งตรงขึ้นมาเหนือพื้นดิน ดูแล้วเหมือนแท่งไม้อะไรสักอย่างแต่นางรู้ดีว่ามันคืออะไร

    ดงหน่อไม้ฝรั่ง ไป๋หลานถึงกับร้องกรี๊ดด้วยความดีใจ หน่อไม่ฝรั่งอวบๆ แข่งกันแทงหน่อขึ้นจากดินล่อสายตาของนาง ซีห่าวถึงกับตกใจกับเสียงของพี่สาว เขาไม่ค่อยเข้ามใจในการกระทำของนางเสียเท่าไหร่ ก่อนคิดในใจว่าสตรีจะเป็นเช่นนี้ทุกคนหรือไม่

    “น้องรักวันนี้พวกเรามีของเพิ่มเข้ามาอีกอย่างแล้วหล่ะ”ไป๋หลานหันมาพูดกับน้องชายด้วยความดีใจ นางชอบผัดหน่อไม้ฝรั่งมากเลย ถ้าที่นี่มีน้ำมันหอยก็คงจะดีแต่ช่างเถอะผัดใส่น้ำมันกับเกลือก็พอแล้ว

    “มันคืออะไรขอรับพี่รอง”เก็บมันลงตะกร้าอย่างมีความสุขวันนี้ที่เข้าป่าพวกเธอมีโชคอยู่ไม่น้อย

    ไป๋หลานและซีห่าวสะพายตะกร้าคนละอันในนั้นเต็มไปด้วยจี้ช่ายและหน่อไม้ฝรั่ง เมื่อเดินออกมาดูกับดักสัตว์ที่ซีห่าวทำไว้ก่อนเข้าป่าก็พบว่ามีกระต่ายและไก่ป่าอยู่ ตอนแรกน้องชายจะวางกับดักเปล่า แต่ไป๋หลานคิดว่าคงไม่มีสัตว์หลงเข้ามาแน่จึงนำแผ่นแป้งที่นางหยิบติดตัวมาด้วยเผื่อหิว ใส่ลงไปในกับดักและมันก็ได้ผลจริงๆ ทั้งสองจึงเดินกลับบ้านอย่างมีความสุข ซีห่าวน้อยมีความสุขมากกว่าใครถึงมันจะเหนื่อยแต่พอรู้ว่าครอบครัวจะมีอาหารกินและได้กินเนื้อก็ถึงกับเดินฮัมเพลงอย่างมีความสุขไปตลอดทาง

    “พี่น้องบ้านถงไปไหนกันมาหล่ะ”เสียงของน้าฟางเอ่ยทักด้วยความสงสัย คงเป็นเพราะไป๋หลานไม่ได้ออกมาข้างนอกนานแล้ว พอเห็นเด็กหญิงมีร่างกายแข็งแรงดีก็อดทักทายไม่ได้

    “ไปเก็บผักป่ามาเจ้าค่ะ”รอยยิ้มสดใสของนางทำให้คนได้รับตกตะลึง นางดูไม่เหมือนคนที่เคยป่วยเลย บ้านถงคงไปได้ยาดีมาสินะ ความคิดก็เป็นอย่างนั้นไป สองพี่น้องเดินต่อไปเรื่อยๆ พบชาวบ้านที่ไม่ค่อยมีงานทำกันเพราะช่วงนี้เลยหน้าเพาะปลูกมาแล้ว ออกมานั่งเล่นอยู่ที่ลานของหมู่บ้านก็กล่าวสวัสดีตามมารยาท ไป๋หลานจูงมือน้องชายเดินต่อไปทันที พวกนางต้องกลับไปให้ทันพี่ใหญ่จะกลับมา

    “เหมือนนังหนูไป๋หลานจะหายป่วยแล้ว เป็นเรื่องที่น่ายินดีนัก พวกเขาต้องเสียเงินไปกับค่ายาของนางเท่าไหร่”ท่านปู่บ้านลั่วเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน

    “นางอาจจะแกล้งป่วยก็ได้ใครจะรู้เจ้าคะ”คนนี้เป็นลูกสะใภ้ของเขาที่ขี้เกียจตัวเป็นขน นางสงมักจะพ่นคำพูดที่น่าเกลียดออกมาเสมอยามที่พบเห็นคนอื่นมีความสุขกว่านาง

    “นับว่าเป็นเรื่องยินดีกับพวกเขา บ้านถงถือว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านของพวกเราแล้ว ยังต้องมาคอยจ่ายค่ายาให้คนป่วยอีก หากเป็นเหมือนเดิมข้ากลัวว่าทั้งหมดจะอดตายได้”ป้าโจวที่ไม่ค่อยชอบการกระทำของนางสงเท่าไหร่ เอ่ยขัดด้วยไม่อยากได้ยินคำพูดไม่ดีอีก

    สองพี่น้องที่มุ่งตรงกลับบ้านไม่ได้รับรู้ ว่ากำลังตกเป็นข้อสนทนาของเหล่าชาวบ้าน ซีห่าวยังคงฮัมเพลงที่นางไม่รู้ว่ามันคืออะไรต่อไป

     

    ************

    อ่านให้สนุกค่ะ ไรท์ปรับแก้ไปเยอะอยู่ บางตอนก็คิดว่าจะแต่งใหม่ทั้งหมด มาได้อาทิตย์ละสองวัน วันละ1-2ตอนนะคะ

     

    *****จิงจูฉ่าย หรือ White Mugwort เป็นสมุนไพรจีนที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่มณฑลกุ้ยโจว มีลักษณะคล้ายกับขึ้นฉ่ายฝรั่ง แต่มีขนาดต้นที่เล็กกว่า ใบสีเข้ม มีกลิ่นหอมคล้ายกับตั้งโอ๋ โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบการทานเกาเหลาเลือดหมู จะคุ้นเคยกับสมุนไพรชนิดนี้มาก เพราะมีสรรพคุณช่วยดับกลิ่นคาวได้ดี

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×