ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♢ห้องเก็บของจร้า♢

    ลำดับตอนที่ #5 : ไฟนรกแห่งความแค้น School of Resentment : Revanche Tison Elgin ( เรวานช์ ไทสัน เอลจิน )

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 62


    B
    E
    R
    L
    I
    N




    “ You left me lonely with a diamond mind

    And those ocean eyes ”

     

    “Isn’t it lovely, all alone

    Heart made of glass, my mind of stone

    Tear me to pieces, skin to bone

    Hello, welcome home 



    ชื่อ/นามสกุล/ชื่อเล่น: เรวานช์ ไทสัน เอลจิน ( Revanche Tison Elgin ) เรน (Ren)

                               

    เพศ: ชาย



    เผ่าพันธุ์: อสูรไฮดรา



    ความสนใจทางเพศ: มีความสนใจแบบ เนโครฟิเลีย ( Necropholia ) (*เป็นลักษณะอาการทางจิตของผู้ที่มีความชอบในการมีเพศสัมพันธุ์กับซากศพ โดยผู้ที่มีอาการนี้จะรู้สึกตื่นตัวเป็นอย่างมากกับการทีได้เห็นศพ และมีความสุขเมื่อได้ร่วมรักกับศพโดยให้ความเห็นว่าส่วนใหญ่ผู้ที่มีอาการ เนโครฟิลเลียนั้นเกิดจากการถูกกดขี่ คิดว่าตนเองมีสถานะต่ำต้อย เมื่อได้มีเซ็กส์กับศพ พวกเค้าจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นมีอำนาจ สามารถทำอะไรก็ได้กับศพและศพไม่มีทางขัดขืน อีกกรณีหนึ่งก็คือศพที่ถูกนำมาข่มขืนนั้นอดีตตอนมีชีวิตเคยเป็นคนที่ผู้ที่ข่มขืนแอบชอบและแอบปลื้มมาก่อนแต่ไม่มีโอกาสที่จะได้โอกาสนั้น เมื่อเสียชีวิตแล้วก็ถือว่าเป็นโอกาส)

     



    สเป็คที่ชอบ: คนที่มีดวงตาที่ลึกล่ำที่จ้องเข้าไปแล้วราวกลับถูกดึงดูด มันทำให้เขาใจเต้นไม่หยุด แต่ก็เกลียดในเวลาเดียวกันเพราะความกลัวความทุกข์ในความรัก ความไม่สมหวัง การสูญเสีย ฉะนั้นก็ฆ่าให้จบไปเลยดีกว่า มันคือการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม



    อยากให่มีคู่จิ้นหรือไม่ถ้ามีเอาแบบไหนดี?:  ชาย-ชาย



    อายุ: 18



    ห้อง: ลิลิธ



    ชั้นปี: 5



    ลักษณะตัวละคร:

    ความสมบูรณ์อันไม่มีที่ติของเครื่องหน้า ประกอบด้วยหน้าผากมนโค้งนูนน่าพิสมัย คิ้วเรียวโค้งราวกับเสี้ยวเดือน แพรขนตายาวสวยที่ปกคลุม ดวงตาอมเทาเจิดจรัสราวกับอัญมณีน้ำเอก จมูกที่โด่งเป็นสันเชิดตรงปลายน้อยๆ ริมฝีปากหยักโค้งได้รูปสีพีช แล้วคางมนกลมกลึงดูรับกันไปหมดทุกอย่าง คอระหงตั้งตรงเรือนร่างสูงระหงดูเต็มไปด้วยอำนาจสง่า ผิวพรรณเนียนละเอียดที่มาพร้อมกับกลิ่นมิ้นต์จางๆจากบุหรี่ที่ชอบสูบประจำ

    แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าคล่องตัวพร้อมเสื้อนอกที่เป็นจำพวกเสื้อกันลม ไม่ชอบใส่เสื้อทางการ เสื้อที่อึดอัดมากหรือมากชิ้น ส่วม กางเกงจ๊อกกิ้งสีขี้ม้า(คล้ายกางเกงทหารค่ะ)ที่ถูกรัดด้วยเข็มขัด มาพร้อมกับรองเท้าคอมแบทที่มักจะเต็มไปด้วยขี้ดินประจำ นานๆที่จะได้ถูกกีวีขัดให้เงาบาง

     

    ส่วนสูง/นํ้าหนัก: 176/62

     

    ชนชั้นทางบ้าน: ครอบครัวมีอาชีพเป็นทหารรับจ้างกันทั้งบ้าน(ปัจจุบันพ่อและแม่เสียชีวิตอย่างแน่อนอนส่วนพี่น้องไม่ทราบแน่ชัด) ฐานะร่ำรวย



    อุปกรณ์ที่ใช้ในการต่อสู้: ของใกล้มือ หรือมือหรือ(ตี*)เท้าก็ได้



    ธาตุ: น้ำ



    พลัง: แปรสภาพให้ร่างกายเป็นน้ำ ขยายสัดส่วนร่างกายได้จนสามารถถือของหนักได้

    จุดเด่น คือ สามารถใช้ได้ตลอดจนกว่าจะตาย การโจมตีไร้ผล ขยายสักส่วนร่างกายให้เสริมพลังได้ แต่ต้องดูดน้ำเพิ่มก่อน

    จุดด้อย คือ ไม่ถูกกับสายฟ้า โดนแล้วจะขยับไม่ได้เลย ห้ามอยู่กับที่ร้อนนาน(แต่นางก็ชอบสูบบุหรี่อยู่ดี)

    (นึกไม่ออก นึกถึง ซุยเงสึ จากเรื่องนารูโตะเลยค่ะ)



    ความสามารถพิเศษ: คล่องตัว ร่างกายเป็นน้ำได้ ทักษะการต่อสู้ขั้นสูง



    อุปนิสัย:

                    เป็นคนสุภาพเสมอในตอนที่อารมณ์นิ่งๆ แต่ก็ชอบหลุดคำหยาบมาทั้งหน้ายิ้มบางเมื่อโกธร ไม่ชอบอะไรที่มากพิธี ใบหน้ามักปรากฏรอยยิ้มเสมอ เขาชอบคุยคุยไปเลื่อยคุณแบบเพ้อลอยบางบางทีแต่บางที่ชอบพูดตรงไปตรงมาแบบพูดมากแต่ก็ต่อยหนักกับคนที่กวนประสาทจนเขาทนไม่ได้ แต่ชอบคุยกับศพมากที่สุด เพราะเขาจะได้แต่พูดโดยไม่มีใครตอบโต้ได้แต่รับฟังเขาเท่านั้น และถ้าได้มีคนรักจะชอบพูดหรือกระทำที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน ชอบทำอะไรสักอย่าง สักอย่างที่ไม่ใช่การอยู่เฉยๆ เพราะมันทำให้เขาเหมือนตกอยู่ในภวังค์ในความทรงจำของตัวเองซึ่งมันหลอกหลอนจะทำให้เขาเป็นบ้า เขาจึงต้องหาอะไรทำ ซึ่งถ้ามันไม่ไว้เขาก็จะสูบบุหรี่และมันต้องเป็นกลิ่นมิ้นต์เท่านั้น มันจะได้ทำให้หัวเขาว่างสุดๆจนเหมือนได้ตายไปจากโลกจริงๆ เลือดเย็น ไม่แยแสใครที่ไม่น่าสนใจ  เกลียดการโดนตะคลอมากจนเขาอาจเพ้อฆ่าเลยก็ได้ เป็นคนเจ็ยใจแค้นจนเรียกว่าอาฆาตพยาบาท




    ชอบ: บุหรี่กลิ่นมิ้นต์ คนที่มีดวงตาที่ลึกล่ำที่จ้องเข้าไปแล้วรางกลับถูกดึงดูด ทำให้เขาใจเต้นไม่หยุด คนที่เงียบไม่ตอบโต้เขา หรือศพนั้นเอง ครอบครัว



    ไม่ชอบ: การอยู่คนเดียวโดยไม่มีอะไรทำ บุหรี่กลิ่นมิ้นต์sold out



    เกลียด: ความรักที่มีให้ครอบครัวตัวเองและอดีตของตัวเอง คนที่ชอบตะคอกใส่ ความว่าง

     

    กลัว: ครอบครัวและอดีตของตัวเอง



    งานอดิเรก: สูบบุหรี่ จุดไฟแช็คเล่น คุยกับศพ คุยกับใครก็ได้ การพนัน อ่านหนังสือ ฟังเพลง ร้องเพลง ปลูกต้นไม้ บลาๆ



    ใน8ตัวละครด้านบนอยากสนิทหรือรู้จักกับใครมากที่สุดเพราะอะไร?: ดัซน์ คงจะเจอกันบ่อยๆในที่ๆให้สูบหรือแอบสูบ และคงพากันกันไปได้อ่ะ

     

    ใน8ตัวละครด้านบนรู้สึกไม่อยากสนิทหรือรู้จักกับใครมากที่สุดเพราะอะไร?: เอวา คงจะเป็นเพราะเป็นคนที่ดูยั่วโมโหเรนได้มากที่สุด



    ประวัติตัวละคร: (เป็นการบรรยายให้จินตนาการและการตีความของผู้อ่านเองค่ะว่ามีเนื้อเรื่องยังไง เหมือนกับการตีความเพลงเลยค่ะ)

     

    รอยเลือกกระเซ็นบนผนังหินอ่อนและบนพื้นที่สกปรกที่เต็มไปด้วยศพ

    โอ้ ที่รัก มันคงทำให้คุณกลัวจนได้แต่ทำเงียบใส่ผม

    แต่ผมก็ค่อนข้างชอบมันนะตอนที่คุณเงียบ

    รวมไปถึงตอนที่คุณกรีดร้องด้วยที่รัก

     

     

    นี้ที่รัก ควรช่วยตอบคำถามผมหน่อย

    บอกมาสิว่าสิ่งไหนแย่กว่า

    ระหว่าง

    การมีชีวิต หรือ ตายเป็นคนแรก

    หลับสงบอยู่ในรถ hearse ที่เป็นรถขนศพแบบนี้

     

    ถึงผมจะบอกว่าผมชอบตอนที่คุณเงียบ

    แต่ถ้าคุณยังเงียบนี้จะทำให้ความอดทนผมหมดเอานะคะ ทุนหัว

     

    ผมปัดปอยผมที่ปกบนใบหน้าตาของเธอออกเพื่อให้เห็นใบหน้าและดวงตาของเธอให้ชัดเจนมากขึ้น

     

    โอ้พระเจ้า ที่รักผมขอโทษ

    โปรดให้อภัยกับความจำอันไม่น่าให้อภัยของผมด้วย

    ที่ลืมไปว่าคุณไม่มีลมหายใจมาตอบคำถามของผมได้แล้ว

    นั้นคุณก็ช่วยฟังผมพร้ำเพ้ออะไรสักหน่อยล่ะกันนะครับ

    ถือว่าผมขอร้องล่ะกัน

     

    ผมจูบไปที่ผมของเธอเผื่อจะปลอบประโลมเธอได้ กลิ่นคาวเลือดหรือความเหม็นเน่าของเธอไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่ขึ้นแม้สักน้อย เธอและผมเรานอนบนรถ hearse ที่เคลื่อนไปเลื่อยๆอย่างช้าๆ เธอนอนหนุนแขนผม และผมก็นอนลูบผมเธออยู่เช่นกัน

    ดูถ้าคุณจะง่วงนอนสักแล้ว

    งั้น ที่รัก ผมจะเล่านิทานให้คุณฟัง

    หึๆ มันไม่เชิงเป็นนิทานแต่มันคือเรื่องเกี่ยวกับผมเอง

    ผมรู้ที่รักว่ามันอาจจะดูน่าเบื่อ

    งั้นผมจะเสริมเติมแต่งให้ดูน่าสนุก น่าติดตามล่ะกันนะคะ

    ไม่ต้องหวง จุ๊บ~~

    ผมเกิดมาในครอบครัวที่เป็นทหาร

    มันช่างน่าขันสำหรับผม

    ขึ้นชื่อว่าทหาร

    ผมกลับไม่ได้รับใช่ชาติเลย

    ได้แต่ฆ่าๆ.....แล้วก็ฆ่า ได้แต่ฆ่า

    โอ้ ที่รัก ผมขอโทษที่จับหัวคุณแรกไปหน่อย

    เรามาต่อกันเลยดีกว่า

    คราวนี้ผมจะให้คุณทาย

    ว่าหนึ่งในห้า

    คุณคิดว่าผมเป็นลูกคนที่เท่าไหร่ในจำนวนนั้น? .

    .

    .

    .

    มันยากไปหรือ?

    นั้นผมใบ้ให้คุณหน่อยล่ะกัน ผมจะได้รู้ด้วยว่าคุณรู้จักผมดีหรือเปล่า?

    คนแรกเป็นคนไม่ฟังใคร ใจร้อนเป็นประจำ

    คนที่สองเป็นเห็นแก่ตัว ชอบเอาตัวรอด ไม่น่าไว้วางใจ

    คนที่สามเป็นคนช่างน่าสงสาร และน่าสมเพชในเวลาเดียวกัน

    คนที่สี่เป็นคนขี้ขาด ที่แม้ความจริงเขายังไม่กล้ารับมัน

    คนที่ห้าเป็นที่ราวกับคนพิการ ไร้ซึ่งแรงพลังจะไปสู้ใคร

    .

    .

    .

    .

    คุณไม่ตอบแสดงว่าคุณยอมแพ้ล่ะกัน

    ผมจะเฉลยให้ ผมคือคนที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้ว่าจะอยากแค่ไหน

    มันทรมานเหลือเกินที่รัก

    ทุกวันมีแต่ความเจ็บปวด

    แต่ผมฝืนมันไม่ได้เลยที่รัก

    พ่อของผมผู้เข้มงวด เงียบขรึม

    เขามันช่างไร้หัวใจ

    จนผมได้กระซวกมันออกมา

    ถึงได้รู้ว่า โอ้เขาก็มีมันนี้ แล้วทำไมเขาใช้มันบางนะ

    เขาจะทำให้ผมหายใจไม่ออกเมื่อผมผิดพลาด

    ตรงข้ามกับ

    แม่ผู้มักจะชอบพร้ำและ เธอโปรดปรานการตะคอก

    ฉะนั้นที่รักคุณก็ควรรู้ ว่าคุณไม่ควรพูดจาแบบไหนกับผมที่ทำให้ผมไม่พอใจ

    เราสองแม่ลูกชอบเล่นซ้อนแอบมาก

    เมื่อเธอหาผมเจอ

    เธอก็จะรุนแรงกับผม

    เธอเกลียดเสียงร้องไห้ของผมมาก

    แล้วเธอก็จะเริ่มพร้ำๆๆๆๆออกมาไม่หยุด

    และเมื่อพวกเขาสิ้นลมหายใจ

    ผมก็ได้แต่ร้องไห้ไม่ส่งเสียงอะไรออกมาต่อหน้าต่อหน้าศพพวกเขา

    และคุณไม่ต้องสงสัยที่รักที่แม้ผมะเสียใจจนน้ำตารินไหล

    คุณก็จะไม่ได้ยินเสียงสะอื้นของผมเลย

    แต่ครอบครัวผมทุกคนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความเลือดเย็น ที่รัก

    พวกเขาไม่สนใจหลอกว่าต้องเปื้อนโคลนหรือชุ่มเลือด

    พวกเขาสนใจมันก็แค่จำนวน

    ทำทุกอย่างเพื่อเงินและความสนุกส่วนตัว

     ผมไม่อยากเป็นแบบพวกเขาเลย

    แต่มันเป็นไปไม่ได้ในเมื่อผม มีพ่อแม่ที่เป็นดังหมาป่า

    ผมจะเกิดมามีปีกได้ยังไง?

    และคุณผู้เป็นดังกวาง

    จะหนีรอดจากผู้ล่าได้อย่างไร?


     


    “ รู้มั้ยตอนที่ผมเจอคุณครั้งแรก

    ความคิดแรกของผม

    คุณช่างงดงาม ที่รัก

    ผมเฝ้ามองคุณมาสักพักนึง

    แต่ไม่สามารถหยุดจ้องดวงตาคู่ที่แสนลึกล้ำนั้นได้เลย

    และมันไม่ยุติธรรมเลย

    คุณรู้วิธีทำให้ผมใจเต้นได้อย่างง่ายดาย

    มันทำให้ผมกลัว

    เพราะผมไม่เคยตกหลุมอย่างรุนแรงขนาดนี้มาก่อนเลย

    เมื่อตกอยู่ในถวังค์ของดวงตาแสนลำล้ำ

    แม้ตอนที่คุณเอาความทะนงค้ำคอตัวเอง

    ผมชอบและหลงใหลคุณเหลือเกิน

    แต่ โอ้ให้ตายเถอะทุกคนล้วนเกิดมามาสมบูรณ์แบบเพื่อใคร

    คุณที่ดื้อดึงจะสอนผม

    คุณเอาคำพูดสวยหรูนั้นมันมาปาใส่ผมราวกับเครื่องบินกระดาษ

    ผมรู้ตัวผมเองดีค่ะ ทูนหัว

     ว่าโลกไม่ได้สวยหรูเหมือนคำพูดของคุณหรอกนะที่รัก

    แต่ก็ต้องยอมรับว่าคุณเป็นรักแรกของผมเลย

    และผมหวังว่าผมคงได้เป็นรักครั้งไหนสักครั้งสำหรับคุณ 

     

    และคุณบอกให้เราไปจากเมืองนี้

    นั่งรถออกไปจากเมือง

    ไปให้พ้นจากผู้คน

    เพราะว่าตอนนี้แม้แต่สวรรค์ก็คงช่วยเราไม่ได้

    เพราะผมรู้ว่าไม่มีสิ่งใดอยู่ได้ตลอดกาล

    แม้แต่คุณหรือผมก็ตาม

                    ผมกอกคุณแน่น แม้รู้ว่ามันเปล่าประโยชน์  แน่นแค่ไหนผมก็รู้ว่าจะต้องเสียคุณไปอยู่ดี

     

    บอกผมทีว่าคุณจะจดจำผมใส่ชุดดีๆสักชุดยืนมองดวงอาทิตย์กำลังตกกับคุณ

    รับปากผมทีว่าคุณจะมาพบผม

    แม้มันจะเป็นแค่ในความฝันอันบ้าคลั่งของคุณ

    ที่เห็นผมเผาทำลายทุกๆอย่างก็ตาม

     

     เด็กน้อยของผม คุณคงอยากเข้าสู้หวงแห่งความฝันแล้ว

    ผมจะร้องเพลงกล่อมนำทางให้คุณเอง

    ขอพระองค์ได้ทรงเมตตา

    แก่เหล่าวิญญาณที่สูญชีพจากไป

    โปรดอภัยความผิดล้นเหลือ

    จุนเจือให้ความคุ้มครอง

    ขอพระองค์ได้ทรงปรานี

    แก่เหล่าข้านี้ชั่วช้าเหลือประมาณ

    ดั่งคนพาลเดินผิดทางสวรรค์

    สมควรโทษทัณฑ์แต่ขอพระองค์เมตตา

    ข้าขอพระองค์ยกโทษ

    โปรดลดความผิดของข้า

    อีกวิญญาณที่ยังทุกข์ทน

    ในไฟชำระขอจงหลุดพ้น

    ขอพึ่งบุญคริสตราชา

    ผู้เสด็จมาทุกข์ทนไถ่เราพ้นมาร

    โปรดบันดาลปวงข้าวิญญาณทั้งหลาย

    พ้นภัยทรมานได้พบพระองค์ทรงธรรม  

    รถได้หยุดขยับลง พร้อมกับบทเพลงของผมที่หยุดลง ผมวางร่างของคุณลง และกลุ่มเมฆก็ก่อตัวขึ้น หวังให้คุณกลับมามีลมหายใจอีกครั้งแต่คุณกลับเยือกเย็นดุจค่ำคืนอันแสนมืดมิด และฉันไม่อาจทำอะไรได้ นอกเสียจากสงสัยว่า

    หากสายฝนหลั่งรินลงบนหลุมศพของเราสอง ดอกกุหลาบจะผลิบานขึ้นมารึเปล่า?



    .

    .

    .

    .

    .

    .

    แต่ฉันคิดว่าเธอควรรอจนกว่าโลกใบนี้จะเป็นของฉันมากกว่านะ

    เธอควรเห็นตอนที่ฉันสวมมงกุฎ

    ฉันจะพาพวกเธอไปที่ๆแสนน่าเศร้า

    และฉันจะทำให้พวกมันคำนับฉัน

    ทีละคร ทีละคน ทีละคน

     

    Yes , my Morrigan. ”

    ( มอริแกน (Morrigan) เทพีแห่งการล้างแค้น )

                   

    เพิ่มเติม: น้องอาจจะซับซ่อนไปนิดจนคนคนเป็นแม่อย่างเรายังงงเองเลยแหละ แต่น้องคงเป็นคนขี้เหงานะแล้วยังกลัวคนอื่นรำคาญแต่ก็ยังอยากคุยกับใครอยู่ดี และครอบครัวน้องที่มีความกดดัน ถูกกดขี่ คิดว่าตนเองมีสถานะต่ำต้อยมาก แถมน้องยังไม่ชอบข้อเสียของครอบครัวตนเองแต่เพราะรักจึงยอม น้องกลัวความรักมากเพราะในความคิดน้องคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเลย การรักใครสักคนมันทำให้เขาต้องยอมแพ้ ต้องรู้สึกเศร้าต้องมีการสูญเสีย ทำอะไรไม่ได้นอกจากการจำนนเหมือนกับน้องที่รักครอบครัวน้องเอง เพราะฉะนั้นก่อนที่จะต้องรักก็ขอตัดมันก่อนที่จะรักมันสะจะดีกว่า และน้องไม่ได้ต้องการใฝ่หามันเลย น้องจะเลือกตัดโอกาศตัวเองมากกว่า และการฆ่าทำให้น้องนึกถึงครอยครัวทำให้หลังฆ่าน้องต้องสักมวลค่ะ เพราะฉะนั้นตัวเราจะเป็นอย่างไงก็ขึ้นอยู่กับคริบครัวจริงๆค่ะ



    สัมภาษณ์(ตอบโดยใช้ตัวละครนะคะอยากรู้ทัศนคติของตัวละคร)



    สวัสดีค่ะดิฉัน เมล ผู้ช่วยของท่าน อาร์เกรเซียจะมาสัมภาษณ์คุณขอให้ตอบอย่างตรงไปตรงมาด้วยค่ะ

    :: โอ้ คุณเป็นผู้ช่วยของมอริแกนของผมหรอ ผมชอบเธอนะ นั้นจะตอบแบบตรงไปตรงมาให้ล่ะกัน

    ก่อนอื่นคุณมีจุดมุ่งหมายหรือสิ่งที่อยากทำไหมคะ?

    :: อืม....สูบบุหรี่ไปวันๆมั้ง แม้มิสซิสเมลคุณอย่าทำหน้าแบบนั้นสิเป็นไปได้ใจจริงผมอยากมีอนาคตที่ดีอยู่นะ

    คิดยังไงกับมนุษย์คะ?

    :: พวกเจาค่อนข้างหน้าสนใจ แต่ก็ซับซ้อน แค่ถ้าไม่มีดวงตาที่น่าหลงใหลพอผมก็ขอบายนะครับ ไม่ใช่สเป็ค

    คิดว่าตัวเองสามารถฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ไหม?

    :: ไม่ได้ เพราะบนโลกนี้ไม่มีใครบริสุทธิ์หรอกนะครับ เชื่อเถอะ

    ระหว่าง "ตายอย่างมีศักดิ์ศรี" กับ "รอดเยี่ยงสุนัข" คุณจะเลือกอันไหนคะ?

    :: รอดไปเพื่ออะไร ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องตายไม่ก็ดับสูญ ฉะนั้นตัวเลือกที่สองก็ไร้ความหมาย แล้วศักดิ์ศรีเนี่ยก็ไร้ความหมายอีกอยู่ดีแหละ ถ้ามีคัวเลือกอย่าง ตายในอ้อมกอดคนรักเหมือนในนิยายน้ำเน่าของนักช่างฝันล่ะก็ผมอาจเลือกอันนั้นก็ได้

    ขอบคุณที่มาสัมภาษณ์นะคะ โชคดีค่ะ

    :: ...บ๊ายบาย....ขอให้คุณโชคดีเช่นกันนะครับ:)



    -ชื่อเจ้าของไอเดียตัวละคร

    :: CHIT:P

     


    ตัวละครนี้เกิดความอินกับบทเพลงของBillie Eilishอย่างมากๆๆ อาจ(ไม่อาจอ่ะต้องงงแน่ๆ)มีความงงอย่างมากเพราะกาวและความรีบและความึนเบลออะไรสักอย่าง ถ้าจะให้สักเกตุจริงๆจะีเพลงที่อยู่ในนี้ถึง 6 - 7 เพลงด้วยกันเลยค่ะ

     ขอบคุณที่เข้ามาค่ะ Bye


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×