ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ FIC KNY X MHA/BNHA] แด่จันทราสีโลหิต

    ลำดับตอนที่ #2 : [ ฤดูกาล 01 - เศษเสี้ยวของคมดาบ 02 ]

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 66


      

     

      ฤดูกาล ๐๑ - เศษเสี้ยวของคมดาบ

      บทที่ 02 : จุติในโลกาใหม่

     

      .

     

      ภายใต้ความเงียบงันชวนกดดันก็เป็นตัวสตรีอสูรที่กล่าวเปิดประเด็นนี้ 

     

      “อย่าทำหน้าตาเครียดแบบนั้นสิคะ” เธอกล่าวโดยไม่ลืมที่จะกลั้วหัวเราะประกอบ

      “พวกข้าต่างหากที่ต้องถาม ! แกต้องการอะไร !?” ยูชิโร่ชี้นิ้วถามในทันทีที่ได้ยิน

      “อะไรกัน ฮ่าๆๆๆ” เธอใช้นิ้วปาดคราบน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริงจนแสดงออกแบบนอกหน้าว่ากำลังเสแสร้ง

      “เดี๋ยวก่อนสิยูชิ – ” คิริยะจะห้ามแต่ก็ถูกขัดไว้เสียก่อน

      “เจ้าเงียบลงเลย ! ยัยสติเพี้ยนนี่แหละที่เป็นอสูรที่สร้างอสูรแบบไอ้โดมะ !”

     

      เธอเป็นสตรีที่น่าสยองเพราะเป็นผู้สร้างตัวตนไร้ความรู้สึก เป็นผู้ที่สร้างตัวตนของบุคคลที่ต่ำช้ำแบบบริสุทธิ์ 

      ง่ายๆก็เป็นจำพวกสันดานเลวโดยบริสุทธิ์นี่แหละ 

      และไม่เพียงโดมะเท่านั้น อสูรไร้จิตใจหรือความรู้สึกรู้สาที่ควรจะมีกลับไม่มีก็ล้วนเป็นผลงานวิปริตของตัวอสูรสาวตรงหน้าด้วย

     

      “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ” เธอยิ้มมอง

      “บอกมา” ยูชิโร่พูดเสียงแข็ง

     

      ตัวหญิงสาวทำเพียงยิ้มค้างเอาไว้ ใบหน้าพลันเฉไปมองทิศทางอื่น น่าหงุดหงิด เรียกว่านี่อาจจะเป็นสีหน้าในตอนนี้ของหญิงสาวก็ได้

      

      “นั่นสินะคะ ... ” เธอหลับตาลงครุ่นคิด

      “ก็น่าเสียดายจริงๆนั่นแหละค่ะที่มุซันนั้นอ่อนแอจนโดนนักล่าอสูรตัวน้อยจัดการเอา”

      “เขาไม่ยอมเอาจริงเพราะอดีตที่คอยหลอกหลอน เกี่ยวกับใครนะ ? อืมมมม เหมือนจะเป็นนักดาบที่ใส่ต่างหูไพ่ลายฮานาฟูดะ ... ”

      “เพราะแบบนี้ไงถึงอ่อนแอ”

     

      ถ้าไอ้สิ่งมีชีวิตแบบนั้นเรียกว่าอ่อนแอแล้วหากมุซันมันคึกเอาจริงขึ้นจะเป็นไงล่ะนั่น ? 

     

      “ปากเสีย ! เพราะท่านทามาโยะยอมตายเพื่อกำจัดมันต่างหากล่ะ !!” 

      “อืม … ข้าว่าข้าความจำดีนะ” ตัวอสูรสาวเมื่อได้ยินก็ชะงักในทันที

      “ข้าเคยบอกด้วยหรือว่ามุซันตายแล้ว ?” 

     

      ติดกับเข้าให้

     

      .

     

      สตรีวัยยี่สิบสี่ย่างยี่สิบห้ากำลังร่ำไห้ พี่ชายตนได้สิ้นใจและนอนลงอย่างสงบเสงี่ยมรายเรียงเหล่าผู้เสียสละ เซนอิทสึตัวสั่นเพราะน้ำตาที่ไหลจนไม่สามารถไหลได้มากกว่านี้ อิโนสุเกะไม่สามารถเปล่งแสงได้มากกว่านี้เช่นกันเพราะการเปล่งเสียงจนคอแหบแห้ง

      เนซึโกะขอตัวไปสูดอากาศหายใจหลังจากที่รู้สึกแน่นอกมาก ในขณะนั้นตัวหญิงสาวก็พบกับอสูร 

      ไม่จริงน่า ? อสูรน่าจะหมดไปเพราะมุซันไล่ฆ่าทิ้งหมดแล้วนี่ … 

     

      “ค คุณต้องการอะไรคะ ?” เจ้าของนัยน์ตาสีซากุระมองด้วยสายตาเป็นกังวลและหวาดระแวง

      “ … ” ตัวอสูรไม่พูดอะไรทำเพียงเงียบก่อนที่ีริมฝีปากจะยกยิ้มขึ้น

      

      และแล้วร่างของหญิงสาวก็กลืนไปกับความมืด ตัดกลับมาที่โถงทางเดิน คานาโอะเดินไปมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยต่อตัวเนซึโกะที่หายไปนานแสนนาน แต่ขณะนั้ันเมื่อใบหน้าเรียวได้รูปเหลือบหันไปมองเงาที่คืบคลานเข้ามา ดวงตาจำต้องเบิกกว้าง

      และคานาโอะก็ถูกเงามืดกลืนกินไป

     

      .

     

      เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วยาม กลับมาที่คฤหาสน์ของเจ้าบ้าน คิริยะและยูชิโร่ยังคงอยู่ที่เดิม ในห้องเดิม ตัวอสูรสาวก็ยังไม่จากไปไหนจนกระทั่ง 

     

      “เหมือนจะครบเงื่อนไขแล้วนะคะ” รอยยิ้มที่ส่งมาทำให้ดวงตาของยูชิโร่เบิกกว้าง

     

      มนต์โลหิตอสูรของยูชิโร่ทำงานก่อนที่จะพบภาพชวนสยดสยองในคฤหาสน์และโถงทางเดิน ภาพศพและคราบเลือดที่เกลื่อนกลาดไปทั่วคฆฤหาสน์ทั้งหลัง 

     

      “มนต์โลหิตอสูร เจตจำนงแห่งการจุติ” 

      “อย่าทำหน้านั้นสิคะ ฉันก็แค่ทำเจตจำนงของราชันย์ของเราให้สำเร็จเท่านั้น”

     

      เพราะเรื่องทั้งหมดเกิดจากเด็กพวกนั้น … เพราะฉะนั้ันก็ต้องให้เด็กพวกนั้นรับผิดชอบสิ 

     

      *****

     

      ใจเย็นทุกคน !! อาเจ้เป็นอสูรดี !! ใจเย๊นนนนนนนนน

     

        1 คอมเม้นท์ = 100% พลังงานเพราะความขยันของลิลลี่ขึ้นกับเม้นท์ติชม

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×