ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    •แผนรัก แปลงกาย ชายเป็นหญิง• (Love Plan)

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter02::คำสาปที่ยากจะลบเลือน

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 49


    -2-

     

    Chaper::คำสาปที่ยากจะลบเลือน

     

     

     

     

                    นี่เมื่อกี้ฉันเป็นอะไรไปวะเนี่ย โซลเดินไปบ่นไปกับตัวเอง

     

                    แต่ว่าเขาเลือกที่จะไม่คิดมากแล้วคิดถึงเรื่องวาดรูปมากกว่า เขากำลังคิดว่าเขากำลังจะได้ไปเป็นจิตกรเหมือนกับพ่อของเขา เขาเองก็รู้สึกภูมิใจกับพ่อของเขามาก เพราะพ่อนี่แหละเป็นคนจุดประกายให้เขาเป็นคนที่ชอบวาดรูปไปโดยปริยาย ระหว่างที่เขากำลังคิดถึงพ่อของเขาอยู่นั้น ก็มีคนเดินมาชนเขาเข้าอย่างจัง

     

    แต่ว่าเธอรีบเดินไปทันที เชือกรองเท้าของเขาถูกเธอเหยียบหลุด เขาเงยหน้าไปมองเธอคนนั้นก่อนที่จะว่าตามภาษา

     

    นี่ เดินไม่ดูเลยเหรอไงเนี่ย โซลตะโกนบอกไปแต่ว่าดูเหมือนเธอจะไม่สนใจ

     

    นี่เธอน่ะ ขอโทษเป็นมั้ย

     

    โซลยืนจังก้าทำหน้าหาเรื่องอยู่บริเวณใกล้ๆ โรงเรียนจ้องข้างหลังของเธอคนนั้นที่กำลังเดินผ่านเขาไป

     

    นี่ มีหูมั้ยเนี่ย ถ้ามีก็ตอบเซ่!!”

     

    แล้วพอสิ้นประโยคนั้น เธอก็หยุดทันทีแล้วค่อยๆ หันหลังมามองโซลอย่างเอาเรื่อง เธอยืนอยู่เฉยๆ แต่ว่าโซลมองไม่เห็นหน้าเธอเพราะว่าผมของเธอนั้นมันบังหน้าไปหมดเลย เธอค่อยๆ ขยับปากแล้วพูดออกมาอย่างช้าๆ ชัดๆ

     

    ขอโทษ เธอบอกแค่สองคำแล้วหันหลังเดินต่อทันที

     

    โซลมองอย่างงงๆ เพราะคิดว่าความจริงผู้หญิงคนไหนถ้าโดนอย่างนี้ต้องด่าเขาไม่ก็ร้องไห้นี่นา ทำไมยัยนี่มันถึงทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้นอย่างนี้นะ ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ

     

    โซล

     

    หืม

     

    พอเขาหันกลับไปก็พบว่าคือไคน์นั่นเอง ไคน์วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะมองหน้าโซลแล้วทำคิ้วขมวด โซลมองไปที่หน้าของเพื่อนตัวเองแล้วก็ถามมัน

     

    นี่แก มองทำไมวะ ฉันไม่มีรสนิยมอย่างนั้นนะ โซลพูดแล้วเบือนหน้าหนี

     

    แก วันนี้แกทาปากมาเหรอวะ

     

    พอโซลได้ยินคำถามอย่างนั้นมาก็ถึงกับชะงัก เขาไม่ได้ทาปากนะ เมื่อเช้าเขาไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำนอกจากล้างหน้า แล้วนี่ทำไมไอ้ไคน์มันถามอย่างนี้เนี่ย

     

    ไม่ได้ทาเว้ย!!”

     

    เออแก ฉันถามแกหน่อยเหอะ อย่าว่ากันนะ ไคน์ทำท่าสงสัยแต่ว่าก็ไม่กล้าถามเพราะว่ากลัวโซล

     

    เออ

     

    คะ...คือว่า

     

    อยากถามก็ถามสิวะ อย่ามามัวอ้ำอึ้งน่ารำคาญเว้ย!!!”

     

    คือว่า...แกเป็นเกย์รึเปล่าอ่ะ

     

    แค่คำนี้เท่านั้นทำเอาโซลอึ้ง ปากของเขาอ้าค้างเอาไว้ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี นี่เพื่อนสนิทของเขาคิดว่าเขาเป็นเกย์เหรอเนี่ย นี่ฉันเหมือนเกย์ขนาดนั้นเลยเหรอไงเนี่ย หลังจากที่โซลเรียกสติกลับคืนมาแล้วก็ไม่วายอ้าปากทันที

     

    ทำไมแกคิดงั้นวะ เสีย รมณ์เลยว่ะ แม่ง!!!” โซลสบถ

     

    นี่แกไม่รู้ตัวเลยเหรอเนี่ย วันนี้นะปากแกอ่ะ แดงเรื่อมากๆ เลยนะ เหมือนพวกผู้หญิงที่ทาลิปวาวๆ นั่นอ่ะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร

     

    ห๊ะ!!! ไอ้ลิปสะท้อนแสงนั่นน่ะนะ ฉันไม่เคยทาเว้ย ไม่คิดด้วย!!!”

     

    เหรอ เออนี่แกมีปัญหาอะไรปรึกษาฉันได้นะ ^^” ไคน์พูดแล้วยิ้มเห็นเขี้ยวที่ดูน่ารัก

     

    ไอ้ห่าเอ๊ย!! แกตายแน่ โซลบอกแล้ววิ่งไล่ไคน์อย่างเอาเรื่อง

     

    ทั้งสองคนวิ่งไล่กันอย่างสนุกสนานโดยที่ไม่รู้ว่ามีอีกคนหนึ่งที่กำลังจ้องพวกเขาแล้วยิ้มอย่างพอใจ

     

     

    *+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*

     

     

    แฮ่กๆ! แกพอแล้วเว้ย ฉันเหนื่อยแล้วว...ว เสียงของไคน์ที่อ่อนแรงเพราะว่ากำลังวิ่งรอบสนามกันอยู่

     

    แกหาเรื่องเองนะเว้ย โซลบอกด้วยเสียงที่แหบพร่า

     

    เออ...ฉันยอมแล้วเว้ย!!!” ไคน์บอกแล้วหยุดวิ่งก่อนที่จะหอบเป็นจังหวะแทงโก้

     

    มาให้ฉันตีซะดีๆ ฮ่าฮ่าฮ่า โซลหัวเราะเสียงดังแล้วเงื้อมือจะตีหัวไคน์

     

    นี่ใครกันแน่ที่ควรจะพูดคำนั้น

     

    เสียงที่เงียบและน่ากลัวอย่างนั้นคงไม่พ้นไปจากใครนอกจากครูที่เราสมญานามกันว่า แม่ใหญ่ เพราะว่าเจ๊แกเนี๊ยบยิ่งกว่าผ้าพับไว้ ขนาดผมเจ๊แกยังรวบทุกเส้นอ่ะ แล้วถ้าไปที่สนามกับเจ๊เนี่ยอยากบอกว่าจะร้อนมากกว่าคนที่ตากแดดธรรมดาสองเท่า เพราะว่ามีเจ๊ก็เหมือนมีพระอาทิตย์ดวงที่สองประมาณนั้นเลย

     

    ครับ - -“” ไคน์พูดกลบเกลื่อนแล้วยิ้มเจื่อนๆ

     

    ไหนๆ ก็โดดคาบแรกมาวิ่งกันแล้วนี่นา งั้นวิ่งต่อไปอีก 10 รอบก็แล้วกันนะ

     

    เฮ้ย!!! 10 เหรอ นี่ครูจะบ้าเหรอ มันกว้างนะ ไม่ได้แคบเหมือนสนามหน้าบ้าน

     

    โซลเถียงแบบไม่คิดทำเอาเจ๊เดอะซัน (พระอาทิตย์อ่านะ) หันควับมาจ้องที่โซลก่อนที่จะเริ่มแยกเขี้ยวปลาฉลามออกแล้วเปิดปากที่กลิ่นเหมือนหัวหอมเน่าออกมาอีกครั้ง

     

    ว่าอะไรนะ เจ๊เดอะซันว่าพลางเอามือขยับแว่นจากปลายจมูกมาอยู่ที่ตา

     

    อยากวิ่งก็วิ่งเองสิ

     

    ห๊ะ!!! นี่นี่...มานี่เลย

     

    เจ๊เดอะซันลากตัวโซลไปที่ห้องพักครูส่วนไคน์ก็แกล้งทำเป็นวิ่งนิดๆ แล้วก็กลับเข้าห้องไป

     

     

    *+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*

     

     

    แกหื่อ่ดกนอดกหอ เดี๋ยวนี้เธอชักจะเอาใหญ่แล้วนะ เห็นหัวครูมั้ยเนี่ย เจ๊เดอะซันบ่นฉอดๆ

     

    เห็นสิครับ ถึงไม่มองก็เห็นครับ

     

    หมายความว่าไง?” เจ๊เดอะซันทำหน้าฉงนก่อนที่จะทำหน้าย่นเหมือนสุนัขพันธุ์บลูด๊อก

     

    ครูก็น่าจะรู้นี่ครับ ว่าแต่ว่าผมขอเอาหนังสือมาอ่านแล้วครูค่อยพูดต่อได้มั้ยครับ โซลตอบกวนๆ ก่อนที่จะเอาขาข้างหนึ่งมาพาดเอาไว้บนขาอีกข้างหนึ่ง

     

    นี่เธอ!!! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ อย่ามาทำอย่างนี้กับฉันเสียงของเจ๊เดอะซันมันแหลมจริงๆ จนโซลต้องเอามือมาอุดหูไม่ให้มันออกมาเต้นเพลง sad tango (ซะงั้นอ่า)

     

     

    *+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*

     

     

                โซลเดินอย่างเรื่อยๆ เอื่อยๆ ด้วยความที่ไม่อยากเข้าเรียนก็ว่าได้ เขาเดินไปวางกระเป๋าที่ห้องซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่ เพราะว่ามันเป็นคาบที่ต้องลงไปห้องวิทยาศาสตร์ เขาเอากระเป๋าวางลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะนั่งวาดรูปวิวต้นไม้นอกห้องคนเดียวอย่างเงียบสงบ

     

    เขาหวังว่าสักวันหนึ่งถ้าหากว่าเขาได้เป็นจิตรกรชื่อดังล่ะก็ จะต้องเจอพ่อของเขาแน่ๆ

     

    เมื่อยเว้ย!!!!” โซลแหกปากเสียงดังเพราะคิดว่าไม่มีใครอยู่นอกจากตัวเอง

     

    กึกๆ กุกๆ กักๆ

     

    เสียงของอะไรบางอย่างที่ดังออกมาจากหลังห้องทำเอาโซลสะดุ้งทำปากกากระดาษปลิวออกไปหมดเลย เขางงมากๆ ว่ามันคือเสียงของอะไร แต่ว่าเขาก็ลุกขึ้นเพื่อไปสำรวจเสียงนั้น โซลค่อยๆ ย่างเท้าไปเรื่อยๆ ที่มุมห้องตรงนั้น ตรงที่มืดเพราะไฟแทบจะไปไม่ถึง เขามองไม่เห็นอะไรนอกจากโต๊ะตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าพอเขามองไปบนพื้นเขาก็เห็นว่ามีไม้กวาดล้มระเนระนาดอยู่

     

    เฮ้อ~ ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา โซลถอนหายใจแล้วลงไปเก็บไม้กวาดที่ล้มอยู่กับพื้น

     

    แต่ว่าแล้วเขาก็รู้สึกว่ามีอะไรมาแตะที่หัวของเขาอย่างจัง มือนั้นลูบคลำผมของเขาไปมา แล้วก็เอามาปิดที่ตาของเขา ตามมาด้วยเสียงที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

     

    เอา...มัน...มา เสียงที่ลากยานคางทำเอาโซลขนลุกไปทั้งตัว

     

    อะ...อะ... โซลพูดไม่ออกแต่ว่าเขาก็ค่อยๆ หันหน้าไปมองสิ่งนั้น

     

    เอามันคืนมา!!” เสียงนั้นดูน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ

     

    จ๊ากกกก!!! ผีนี่หว่า!!” โซลผงะไปแล้วรีบถอยตัวไปข้างหลังทันที

     

    ภาพที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ก็คือมือของคนๆ หนึ่งที่ยื่นผ่านผมยาวเหมือนซาดาโกะออกมามือนั้นเป็นมือที่เรียวยาวมาก มันแบออกอยู่ตรงหน้าของเขา

     

    เอามันมาเดี๋ยวนี้!!!!”

     

    เอาไปเลย!!! ไม่เอาแล้ว!!!” โซลตะโกนเสียงดังก่อนที่จะยื่นไม้กวาดให้มือนั้นถือเอาไว้

     

    โครม!!!

     

    เสียงของไม้กวาดที่มืออันเรียวยาวนั้นโยนออกมาดังลั่นสะนั่นห้องที่ไม่มีคนอยู่ โซลมองซ้ายมองขวาก่อนที่จะลุกขึ้นแต่ว่ามือนั้นจับชายเสื้อของเขาเอาไว้ก่อนที่จะมีเสียงออกมาอีก

     

    หยิบแว่นเซ่!!!”

     

    เฮ้ย!!! แว่นเหรอ!!”

     

    โซลมองไปที่พื้นแล้วก็เห็นแว่นกรอบหนานั่นวางอยู่ เขาค่อยๆ หยิบมันยื่นให้มือที่เรียวยาวน่าสยดสยองนั่น แล้วมือเรียวยาวนั้นก็หยิบแว่นไปสวมทันที ก่อนที่จะก้มหน้าเขียนอะไรสักอย่าง ส่วนโซลก็จ้องด้วยความตกตะลึง

     

    มองอะไร ไปสิ เจ้าของเสียงนั้นเงยหน้าขึ้นมา

     

    เธอ...เธอนี่เอง

     

    โซลเอามือชี้ไปที่หน้าของเธอคนนั้น ก่อนที่จะอึ้ง เพราะว่าสิ่งที่เขากลัวคือคนที่เขาด่าไปเมื่อเช้าว่าไม่มีหูนี่นา!!! นี่เขากลัวยัยนั่นเนี่ยนะ โซลรู้สึกขายหน้ามาก จนต้องด่าเป็นชุดเพื่อปิดความอายเอาไว้

     

    ทำไมเธอไม่ไปเรียนล่ะ โซลถาม

     

    เรื่องของฉัน

     

    ตอบอย่างนี้เดี๋ยวสวยหรอก ฉันจะฟ้องครูด้วย!!”

     

    งั้นนายตอบฉัน ทำไมนายไม่ไปเรียนล่ะ เธอถามกลับมาบ้างทำเอาโซลอึ้ง

     

    ระ...เรื่องของฉันนี่ ยุ่งไรล่ะ

     

    ก็เหมือนกันน่ะแหละ เลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว

     

    โซลเดินกลับไปอย่างจ๋อยๆ นี่ตั้งแต่เกิดมา 17 ปีเนี่ย ไม่มีวันไหนที่เขาหน้าแตกอย่างนี้มาก่อนเลยนะ โดนผู้หญิงด่าเนี่ยนะ น่าอับอายเสียจริง โซลกลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิมก่อนที่จะหยิบ MP3 มาฟังแล้วก็คล้อยหลับไป

     

     

    *+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*

     

     

    โซลๆ เสียงของบางคนเรียกเขาให้ตื่นออกมาจากความฝัน

     

    ตื่นเว้ย!!”

     

    เฮ้ย!!!” โซลสะดุ้งลุกขึ้นมาก่อนที่จะหันไปมองหน้าไคน์ที่กำลังยิ้มแฉ่งอยู่

     

    กรอก (บลิ๊ง) หูเราทำไมอ่ะตัวเอง ^^” โซลรู้สึกแปลกๆ อีกครั้งกับการกระทำของเขา

     

    ใครเป็นตัวเองวะ ฉันไม่เป็นนะเว้ย นี่แกกลับเหอะ แกนอนถึงเลิกเรียนเลยนะเนี่ย!!” ไคน์บอกทำเอาโซลตาโตไปในทันที

     

    อะไรนะ!!! นานขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย

     

    เออเด่ะ แกวันนี้ออกไปเร็วๆ หน่อยได้มั้ยเนี่ย ฉันอยากไปเกมส์เซ็นเตอร์ว่ะ

     

    เอาเด่ะ

     

    โซลกับไคน์วิ่งออกไปทางหลังโรงเรียนเพื่อหลบฝูงเสือสิงกระทิงแรดที่วิ่งออกตามหาเหยื่อ แล้วทั้งสองก็มุ่งหน้าไปที่นั่นทันที

     

     

    *+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*

     

     

    ชนะอีกแล้วเว้ย น้ำเสียงที่ฟังดูมีความปลื้มมากขนาดนี้เป็นเสียงของไคน์ที่ตอนนี้ชนะโซลมาติดต่อกัน 6 ครั้งแล้ว

     

    ดีใจไมวะ

     

    โซลทำหน้าหงุดหงิดเพราะว่าเขาเป็นคนที่เกลียดความพ่ายแพ้จับใจ แล้วไคน์ก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ โซลก่อนที่จะเอามือปัดอะไรบางอย่างที่หน้าของโซลออก แล้วก็ตกใจอีกครั้ง

     

    เอ่อ...โซล ฉันไม่รู้ว่าที่ผ่านมาฉันไม่ได้สังเกตหรือว่าแก...อ่านะ

     

    สังเกต?” โซลทำหน้าฉงน

     

    แกตอบฉันดีๆ อย่าโกหกนะ

     

    เออ

     

    แกทามาสคาร่ามาใช่มั้ยวะ ไคน์ถามเสียงซีเรียส

     

    คำถามที่มาแนวเดียวกับเมื่อเช้าทำเอาโซลอึ้งรอบสอง นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำไมไคน์มันถามฉันอย่างนี้นะ โซลคิด โซลไม่ตอบอะไร แต่ว่ารีบเดินไปที่ห้องน้ำทันที ก่อนที่จะส่องกระจกเพื่อดูความจริง แล้วโซลก็หน้าซีดไปทันที

     

    นี่มันเกิดอะไรขี้นกับเขาเนี่ย เขาขำได้นะว่าเมื่อก่อนนี่ริมฝีปากของเขามันบางเฉียบสีชมพูอ่อนๆ แบบคนทั่วไป แต่ว่าทำไมตอนนี้มันดูอวบอิ่ม มันวาวเป็นประกายน่าจูบอย่างนี้นะ เขาอึ้งแล้วไหนจะดวงตาของเขาอีก เมื่อก่อนมันดูคมราวกับจะจิกใคร แต่ว่าตอนนี้มันเบิกกว้างและโตขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แถมขนตาของเขายังยาวและงอนอย่างที่ไคน์มันพูดจริงๆ น่ะแหละ แถมที่แก้มของเขาตอนนี้มันยังมีสีชมพูอ่อน เหมือนเขาปัดแกม้มางั้นแหละ

     

    ขณะที่โซลกำลังงงกับตัวเองอยู่นั้น เขาก็นึกไปเรื่อยเปื่อยว่ามันคงเป็นแค่เรื่องบังเอิญ เสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำก่อนที่จะเดินผ่านไคน์ที่กำลังทำหน้างงอยู่

     

    โซล ไปไหนวะ!!” ไคน์ตะโกนเรียกเพื่อนหนุ่มที่เดินไม่สนใจใคร

     

    ไม่มีเสียงตอบจากโซล แต่ว่าโซลเดินไปอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น เขาเดินชนคนนู้นคนนี้ไปทั่ว

     

    มันเป็นอะไรของมันวะ ไคน์เอามือเกาหัวด้วยความสงสัยก่อนที่จะเล่นเกมส์ต่อ

     

     

    *+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*

     

     

    นี่มันอะไรวะเนี่ย!!!” โซลเดินอย่างหาเรื่องไปตลอดทางกลับบ้าน

     

    แม่ง!! เซงว่ะ

     

    เขาเดินผ่านซอกประจำที่เขาใช้หลบฝูงแรดทั้งหลาย เขามองมันผ่านไป แล้วเขาก็ต้องหันกลับไปดูมันอีกครั้ง แล้วเขาก็พบว่ามียายคนเดิมคนนั้นนั่งอยู่ เขาจ้องไปที่ยายคนนั้นก่อนที่จะเริ่มสงสัย ว่าทำไมเขาถึงเจอเธอบ่อยอย่างนี้นะ แล้วทุกครั้งที่พบยายก็มักจะมีอะไรแปลกๆ ทั้งนั้น เขารีบเดินเข้าไปหายายคนนั้นทันที

     

    นี่ยาย โซลเรียกยายที่กำลังเก็บข้าวของอยู่

     

    อะไร เจ้าหนูนี่อีกแล้วเหรอ เป็นไงบ้างล่ะจ๊ะ ยายพูดแล้วยิ้มจนตีนกาขึ้นเต็มหน้า

     

    ยายถามอย่างนี้หมายความว่าไง โซลถามอย่างสงสัย

     

    ก็หมายความว่า มีอะไรเกินขั้นกับหนูเธอบ้างมั้ยล่ะยายถามแล้วยิ้มอย่างน่ากลัวทำเอาโซลขนลุก

     

    นะ...นี่...มัน นี่ยายทำอะไรผมกันแน่เนี่ย!!!”

     

    สาปเธอ ยายตอบเสียงนิ่งก่อนที่จะหัวเราะอย่างสยดสยอง

     

    บรรยากาศตอนนี้เงียบสนิท โซลถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปในทันที เขายืนนิ่งเงียบเหมือนทำสมาธิอยู่ ส่วนยายคนนั้นก็มองหน้าเขาแล้วคิดในใจว่า สมน้ำหน้า แล้วพอโซลเริ่มที่จะตั่งสติได้ เขาก็รีบพูดออกมาทันที

     

    นี่มันคืออะไรยาย นี่ยายจะบอกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับผม ทุกอย่างที่มันเปลี่ยนไป เพราะว่ายายสาปผมอย่างนั้นเหรอ!!” โซลถามเสียงอึ้งสุดขีด

     

    ใช่ ยายตอบอย่างสบายๆ

     

    แล้วนี่ยายทำไปทำไมเนี่ย ยายได้อะไร

     

    ดัดนิสัยเธอ ฉันหมั่นไส้กับท่าทางหยิ่งจองหองนั่น เห็นแล้วมันขัดตา อีกอย่างเธอจะได้ดีขึ้นใจตัวด้วยไง ไม่ชอบเหรอ ^^” ยายยิ้มเข้าเล่ห์

     

    ชอบบ้าอะไรล่ะ แล้วนี่ผมจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปเหรอเนี่ย!!!” โซลเริ่มเครียดหนัก

     

    มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ทางแก้ไขมันก็มี ยายบอกทำเอาโซลเริ่มยิ้มบางๆ

     

    แต่ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกนะ

     

    แล้วมันอะไรล่ะ บอกมาเซ่!!!” โซลเริ่มร้อนใจ

     

    เธอต้องทำให้หลานสาวของฉันหลงรักเธอ และบอกรักเธอให้ได้

     

    ตอนนี้ใบหน้าของโซลยิ้มกว้างทันที อาจจะเป็นเพราะว่าเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาล่ะมั้ง อย่างเขาน่ะ สบายอยู่แล้ว เขาถอนหายใจก่อนที่จะถามยายเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

     

    แค่นั้นใช่มั้ยเนี่ย

     

    แต่ว่าเขากลับต้องงงกับใบหน้าของหญิงชราที่มองเขาแล้วอ้าปากพูด

     

    แต่ว่า ที่มันยากน่ะมันอยู่ที่

     

    หืม??” โซลทำเสียงสนใจปนกับความรู้สึกหวั่นๆ

     

    ยายยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นท่าทางที่หวาดหวั่นราวกับลูกหมาน้อยของโซล

     

    ฉันมีเวลาให้เธอแค่ 30 วัน ยายหยุดครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดคำที่ทำเอาโซลขนลุกซู่ซ่าส์ ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องกลายเป็นผู้หญิงตลอดไป

     

         


    *+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*

          

    *+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*

          

     


    มาอัพแระนะคะ อิอิ

    ติชมได้ค่า อยากรุว่ามันเป็นยังไงบ้าง

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ


    รักทุกคนเลย จุ๊บๆ

    SNARKS

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×