คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter02::คำสาปที่ยากจะลบเลือน
-2-
Chaper::คำสาปที่ยากจะลบเลือน
“นี่เมื่อกี้ฉันเป็นอะไรไปวะเนี่ย” โซลเดินไปบ่นไปกับตัวเอง
แต่ว่าเขาเลือกที่จะไม่คิดมากแล้วคิดถึงเรื่องวาดรูปมากกว่า เขากำลังคิดว่าเขากำลังจะได้ไปเป็นจิตกรเหมือนกับพ่อของเขา เขาเองก็รู้สึกภูมิใจกับพ่อของเขามาก เพราะพ่อนี่แหละเป็นคนจุดประกายให้เขาเป็นคนที่ชอบวาดรูปไปโดยปริยาย ระหว่างที่เขากำลังคิดถึงพ่อของเขาอยู่นั้น ก็มีคนเดินมาชนเขาเข้าอย่างจัง
แต่ว่าเธอรีบเดินไปทันที เชือกรองเท้าของเขาถูกเธอเหยียบหลุด เขาเงยหน้าไปมองเธอคนนั้นก่อนที่จะว่าตามภาษา
“นี่ เดินไม่ดูเลยเหรอไงเนี่ย” โซลตะโกนบอกไปแต่ว่าดูเหมือนเธอจะไม่สนใจ
“นี่เธอน่ะ ขอโทษเป็นมั้ย”
โซลยืนจังก้าทำหน้าหาเรื่องอยู่บริเวณใกล้ๆ โรงเรียนจ้องข้างหลังของเธอคนนั้นที่กำลังเดินผ่านเขาไป
“นี่ มีหูมั้ยเนี่ย ถ้ามีก็ตอบเซ่!!”
แล้วพอสิ้นประโยคนั้น เธอก็หยุดทันทีแล้วค่อยๆ หันหลังมามองโซลอย่างเอาเรื่อง เธอยืนอยู่เฉยๆ แต่ว่าโซลมองไม่เห็นหน้าเธอเพราะว่าผมของเธอนั้นมันบังหน้าไปหมดเลย เธอค่อยๆ ขยับปากแล้วพูดออกมาอย่างช้าๆ ชัดๆ
“ขอโทษ” เธอบอกแค่สองคำแล้วหันหลังเดินต่อทันที
โซลมองอย่างงงๆ เพราะคิดว่าความจริงผู้หญิงคนไหนถ้าโดนอย่างนี้ต้องด่าเขาไม่ก็ร้องไห้นี่นา ทำไมยัยนี่มันถึงทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้นอย่างนี้นะ ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ
“โซล”
“หืม”
พอเขาหันกลับไปก็พบว่าคือไคน์นั่นเอง ไคน์วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะมองหน้าโซลแล้วทำคิ้วขมวด โซลมองไปที่หน้าของเพื่อนตัวเองแล้วก็ถามมัน
“นี่แก มองทำไมวะ ฉันไม่มีรสนิยมอย่างนั้นนะ” โซลพูดแล้วเบือนหน้าหนี
“แก วันนี้แกทาปากมาเหรอวะ”
พอโซลได้ยินคำถามอย่างนั้นมาก็ถึงกับชะงัก เขาไม่ได้ทาปากนะ เมื่อเช้าเขาไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำนอกจากล้างหน้า แล้วนี่ทำไมไอ้ไคน์มันถามอย่างนี้เนี่ย
“ไม่ได้ทาเว้ย!!”
“เออแก ฉันถามแกหน่อยเหอะ อย่าว่ากันนะ” ไคน์ทำท่าสงสัยแต่ว่าก็ไม่กล้าถามเพราะว่ากลัวโซล
“เออ”
“คะ...คือว่า”
“อยากถามก็ถามสิวะ อย่ามามัวอ้ำอึ้งน่ารำคาญเว้ย!!!”
“คือว่า...แกเป็นเกย์รึเปล่าอ่ะ”
แค่คำนี้เท่านั้นทำเอาโซลอึ้ง ปากของเขาอ้าค้างเอาไว้ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี นี่เพื่อนสนิทของเขาคิดว่าเขาเป็นเกย์เหรอเนี่ย ‘นี่ฉันเหมือนเกย์ขนาดนั้นเลยเหรอไงเนี่ย’ หลังจากที่โซลเรียกสติกลับคืนมาแล้วก็ไม่วายอ้าปากทันที
“ทำไมแกคิดงั้นวะ เสีย ‘รมณ์เลยว่ะ แม่ง!!!” โซลสบถ
“นี่แกไม่รู้ตัวเลยเหรอเนี่ย วันนี้นะปากแกอ่ะ แดงเรื่อมากๆ เลยนะ เหมือนพวกผู้หญิงที่ทาลิปวาวๆ นั่นอ่ะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร”
“ห๊ะ!!! ไอ้ลิปสะท้อนแสงนั่นน่ะนะ ฉันไม่เคยทาเว้ย ไม่คิดด้วย!!!”
“เหรอ เออนี่แกมีปัญหาอะไรปรึกษาฉันได้นะ ^^” ไคน์พูดแล้วยิ้มเห็นเขี้ยวที่ดูน่ารัก
“ไอ้ห่าเอ๊ย!! แกตายแน่” โซลบอกแล้ววิ่งไล่ไคน์อย่างเอาเรื่อง
ทั้งสองคนวิ่งไล่กันอย่างสนุกสนานโดยที่ไม่รู้ว่ามีอีกคนหนึ่งที่กำลังจ้องพวกเขาแล้วยิ้มอย่างพอใจ
*+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*
“แฮ่กๆ! แกพอแล้วเว้ย ฉันเหนื่อยแล้ว ว...ว” เสียงของไคน์ที่อ่อนแรงเพราะว่ากำลังวิ่งรอบสนามกันอยู่
“แกหาเรื่องเองนะเว้ย” โซลบอกด้วยเสียงที่แหบพร่า
“เออ...ฉันยอมแล้วเว้ย!!!” ไคน์บอกแล้วหยุดวิ่งก่อนที่จะหอบเป็นจังหวะแทงโก้
“มาให้ฉันตีซะดีๆ ฮ่าฮ่าฮ่า” โซลหัวเราะเสียงดังแล้วเงื้อมือจะตีหัวไคน์
“นี่ใครกันแน่ที่ควรจะพูดคำนั้น”
เสียงที่เงียบและน่ากลัวอย่างนั้นคงไม่พ้นไปจากใครนอกจากครูที่เราสมญานามกันว่า ‘แม่ใหญ่’ เพราะว่าเจ๊แกเนี๊ยบยิ่งกว่าผ้าพับไว้ ขนาดผมเจ๊แกยังรวบทุกเส้นอ่ะ แล้วถ้าไปที่สนามกับเจ๊เนี่ยอยากบอกว่าจะร้อนมากกว่าคนที่ตากแดดธรรมดาสองเท่า เพราะว่ามีเจ๊ก็เหมือนมีพระอาทิตย์ดวงที่สองประมาณนั้นเลย
“ครับ - -“” ไคน์พูดกลบเกลื่อนแล้วยิ้มเจื่อนๆ
“ไหนๆ ก็โดดคาบแรกมาวิ่งกันแล้วนี่นา งั้นวิ่งต่อไปอีก 10 รอบก็แล้วกันนะ”
“เฮ้ย!!! 10 เหรอ นี่ครูจะบ้าเหรอ มันกว้างนะ ไม่ได้แคบเหมือนสนามหน้าบ้าน”
โซลเถียงแบบไม่คิดทำเอาเจ๊เดอะซัน (พระอาทิตย์อ่านะ) หันควับมาจ้องที่โซลก่อนที่จะเริ่มแยกเขี้ยวปลาฉลามออกแล้วเปิดปากที่กลิ่นเหมือนหัวหอมเน่าออกมาอีกครั้ง
“ว่าอะไรนะ” เจ๊เดอะซันว่าพลางเอามือขยับแว่นจากปลายจมูกมาอยู่ที่ตา
“อยากวิ่งก็วิ่งเองสิ”
“ห๊ะ!!! นี่นี่...มานี่เลย”
เจ๊เดอะซันลากตัวโซลไปที่ห้องพักครูส่วนไคน์ก็แกล้งทำเป็นวิ่งนิดๆ แล้วก็กลับเข้าห้องไป
*+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*
“แกหื่อ่ดกนอดกหอ เดี๋ยวนี้เธอชักจะเอาใหญ่แล้วนะ เห็นหัวครูมั้ยเนี่ย” เจ๊เดอะซันบ่นฉอดๆ
“เห็นสิครับ ถึงไม่มองก็เห็นครับ”
“หมายความว่าไง?” เจ๊เดอะซันทำหน้าฉงนก่อนที่จะทำหน้าย่นเหมือนสุนัขพันธุ์บลูด๊อก
“ครูก็น่าจะรู้นี่ครับ ว่าแต่ว่าผมขอเอาหนังสือมาอ่านแล้วครูค่อยพูดต่อได้มั้ยครับ” โซลตอบกวนๆ ก่อนที่จะเอาขาข้างหนึ่งมาพาดเอาไว้บนขาอีกข้างหนึ่ง
“นี่เธอ!!! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ อย่ามาทำอย่างนี้กับฉัน” เสียงของเจ๊เดอะซันมันแหลมจริงๆ จนโซลต้องเอามือมาอุดหูไม่ให้มันออกมาเต้นเพลง sad tango (ซะงั้นอ่า)
*+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*
โซลเดินอย่างเรื่อยๆ เอื่อยๆ ด้วยความที่ไม่อยากเข้าเรียนก็ว่าได้ เขาเดินไปวางกระเป๋าที่ห้องซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่ เพราะว่ามันเป็นคาบที่ต้องลงไปห้องวิทยาศาสตร์ เขาเอากระเป๋าวางลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะนั่งวาดรูปวิวต้นไม้นอกห้องคนเดียวอย่างเงียบสงบ
เขาหวังว่าสักวันหนึ่งถ้าหากว่าเขาได้เป็นจิตรกรชื่อดังล่ะก็ จะต้องเจอพ่อของเขาแน่ๆ
“เมื่อยเว้ย!!!!” โซลแหกปากเสียงดังเพราะคิดว่าไม่มีใครอยู่นอกจากตัวเอง
กึกๆ กุกๆ กักๆ
เสียงของอะไรบางอย่างที่ดังออกมาจากหลังห้องทำเอาโซลสะดุ้งทำปากกากระดาษปลิวออกไปหมดเลย เขางงมากๆ ว่ามันคือเสียงของอะไร แต่ว่าเขาก็ลุกขึ้นเพื่อไปสำรวจเสียงนั้น โซลค่อยๆ ย่างเท้าไปเรื่อยๆ ที่มุมห้องตรงนั้น ตรงที่มืดเพราะไฟแทบจะไปไม่ถึง เขามองไม่เห็นอะไรนอกจากโต๊ะตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าพอเขามองไปบนพื้นเขาก็เห็นว่ามีไม้กวาดล้มระเนระนาดอยู่
“เฮ้อ~ ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา” โซลถอนหายใจแล้วลงไปเก็บไม้กวาดที่ล้มอยู่กับพื้น
แต่ว่าแล้วเขาก็รู้สึกว่ามีอะไรมาแตะที่หัวของเขาอย่างจัง มือนั้นลูบคลำผมของเขาไปมา แล้วก็เอามาปิดที่ตาของเขา ตามมาด้วยเสียงที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
“เอา...มัน...มา” เสียงที่ลากยานคางทำเอาโซลขนลุกไปทั้งตัว
“อะ...อะ...” โซลพูดไม่ออกแต่ว่าเขาก็ค่อยๆ หันหน้าไปมองสิ่งนั้น
“เอามันคืนมา!!” เสียงนั้นดูน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ
“จ๊ากกกก!!! ผีนี่หว่า!!” โซลผงะไปแล้วรีบถอยตัวไปข้างหลังทันที
ภาพที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ก็คือมือของคนๆ หนึ่งที่ยื่นผ่านผมยาวเหมือนซาดาโกะออกมามือนั้นเป็นมือที่เรียวยาวมาก มันแบออกอยู่ตรงหน้าของเขา
“เอามันมาเดี๋ยวนี้!!!!”
“เอาไปเลย!!! ไม่เอาแล้ว!!!” โซลตะโกนเสียงดังก่อนที่จะยื่นไม้กวาดให้มือนั้นถือเอาไว้
โครม!!!
เสียงของไม้กวาดที่มืออันเรียวยาวนั้นโยนออกมาดังลั่นสะนั่นห้องที่ไม่มีคนอยู่ โซลมองซ้ายมองขวาก่อนที่จะลุกขึ้นแต่ว่ามือนั้นจับชายเสื้อของเขาเอาไว้ก่อนที่จะมีเสียงออกมาอีก
“หยิบแว่นเซ่!!!”
“เฮ้ย!!! แว่นเหรอ!!”
โซลมองไปที่พื้นแล้วก็เห็นแว่นกรอบหนานั่นวางอยู่ เขาค่อยๆ หยิบมันยื่นให้มือที่เรียวยาวน่าสยดสยองนั่น แล้วมือเรียวยาวนั้นก็หยิบแว่นไปสวมทันที ก่อนที่จะก้มหน้าเขียนอะไรสักอย่าง ส่วนโซลก็จ้องด้วยความตกตะลึง
“มองอะไร ไปสิ” เจ้าของเสียงนั้นเงยหน้าขึ้นมา
“เธอ...เธอนี่เอง”
โซลเอามือชี้ไปที่หน้าของเธอคนนั้น ก่อนที่จะอึ้ง เพราะว่าสิ่งที่เขากลัวคือคนที่เขาด่าไปเมื่อเช้าว่าไม่มีหูนี่นา!!! นี่เขากลัวยัยนั่นเนี่ยนะ โซลรู้สึกขายหน้ามาก จนต้องด่าเป็นชุดเพื่อปิดความอายเอาไว้
“ทำไมเธอไม่ไปเรียนล่ะ” โซลถาม
“เรื่องของฉัน”
“ตอบอย่างนี้เดี๋ยวสวยหรอก ฉันจะฟ้องครูด้วย!!”
“งั้นนายตอบฉัน ทำไมนายไม่ไปเรียนล่ะ” เธอถามกลับมาบ้างทำเอาโซลอึ้ง
“ระ...เรื่องของฉันนี่ ยุ่งไรล่ะ”
“ก็เหมือนกันน่ะแหละ เลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว”
โซลเดินกลับไปอย่างจ๋อยๆ นี่ตั้งแต่เกิดมา 17 ปีเนี่ย ไม่มีวันไหนที่เขาหน้าแตกอย่างนี้มาก่อนเลยนะ โดนผู้หญิงด่าเนี่ยนะ น่าอับอายเสียจริง โซลกลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิมก่อนที่จะหยิบ MP3 มาฟังแล้วก็คล้อยหลับไป
*+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*
“โซลๆ” เสียงของบางคนเรียกเขาให้ตื่นออกมาจากความฝัน
“ตื่นเว้ย!!”
“เฮ้ย!!!” โซลสะดุ้งลุกขึ้นมาก่อนที่จะหันไปมองหน้าไคน์ที่กำลังยิ้มแฉ่งอยู่
“กรอก (บลิ๊ง) หูเราทำไมอ่ะตัวเอง ^^” โซลรู้สึกแปลกๆ อีกครั้งกับการกระทำของเขา
“ใครเป็นตัวเองวะ ฉันไม่เป็นนะเว้ย นี่แกกลับเหอะ แกนอนถึงเลิกเรียนเลยนะเนี่ย!!” ไคน์บอกทำเอาโซลตาโตไปในทันที
“อะไรนะ!!! นานขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย”
“เออเด่ะ แกวันนี้ออกไปเร็วๆ หน่อยได้มั้ยเนี่ย ฉันอยากไปเกมส์เซ็นเตอร์ว่ะ”
“เอาเด่ะ”
โซลกับไคน์วิ่งออกไปทางหลังโรงเรียนเพื่อหลบฝูงเสือสิงกระทิงแรดที่วิ่งออกตามหาเหยื่อ แล้วทั้งสองก็มุ่งหน้าไปที่นั่นทันที
*+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*
“ชนะอีกแล้วเว้ย” น้ำเสียงที่ฟังดูมีความปลื้มมากขนาดนี้เป็นเสียงของไคน์ที่ตอนนี้ชนะโซลมาติดต่อกัน 6 ครั้งแล้ว
“ดีใจไมวะ”
โซลทำหน้าหงุดหงิดเพราะว่าเขาเป็นคนที่เกลียดความพ่ายแพ้จับใจ แล้วไคน์ก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ โซลก่อนที่จะเอามือปัดอะไรบางอย่างที่หน้าของโซลออก แล้วก็ตกใจอีกครั้ง
“เอ่อ...โซล ฉันไม่รู้ว่าที่ผ่านมาฉันไม่ได้สังเกตหรือว่าแก...อ่านะ”
“สังเกต?” โซลทำหน้าฉงน
“แกตอบฉันดีๆ อย่าโกหกนะ”
“เออ”
“แกทามาสคาร่ามาใช่มั้ยวะ” ไคน์ถามเสียงซีเรียส
คำถามที่มาแนวเดียวกับเมื่อเช้าทำเอาโซลอึ้งรอบสอง นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำไมไคน์มันถามฉันอย่างนี้นะ โซลคิด โซลไม่ตอบอะไร แต่ว่ารีบเดินไปที่ห้องน้ำทันที ก่อนที่จะส่องกระจกเพื่อดูความจริง แล้วโซลก็หน้าซีดไปทันที
นี่มันเกิดอะไรขี้นกับเขาเนี่ย เขาขำได้นะว่าเมื่อก่อนนี่ริมฝีปากของเขามันบางเฉียบสีชมพูอ่อนๆ แบบคนทั่วไป แต่ว่าทำไมตอนนี้มันดูอวบอิ่ม มันวาวเป็นประกายน่าจูบอย่างนี้นะ เขาอึ้งแล้วไหนจะดวงตาของเขาอีก เมื่อก่อนมันดูคมราวกับจะจิกใคร แต่ว่าตอนนี้มันเบิกกว้างและโตขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แถมขนตาของเขายังยาวและงอนอย่างที่ไคน์มันพูดจริงๆ น่ะแหละ แถมที่แก้มของเขาตอนนี้มันยังมีสีชมพูอ่อน เหมือนเขาปัดแกม้มางั้นแหละ
ขณะที่โซลกำลังงงกับตัวเองอยู่นั้น เขาก็นึกไปเรื่อยเปื่อยว่ามันคงเป็นแค่เรื่องบังเอิญ เสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำก่อนที่จะเดินผ่านไคน์ที่กำลังทำหน้างงอยู่
“โซล ไปไหนวะ!!” ไคน์ตะโกนเรียกเพื่อนหนุ่มที่เดินไม่สนใจใคร
ไม่มีเสียงตอบจากโซล แต่ว่าโซลเดินไปอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น เขาเดินชนคนนู้นคนนี้ไปทั่ว
“มันเป็นอะไรของมันวะ” ไคน์เอามือเกาหัวด้วยความสงสัยก่อนที่จะเล่นเกมส์ต่อ
*+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*
“นี่มันอะไรวะเนี่ย!!!” โซลเดินอย่างหาเรื่องไปตลอดทางกลับบ้าน
“แม่ง!! เซงว่ะ”
เขาเดินผ่านซอกประจำที่เขาใช้หลบฝูงแรดทั้งหลาย เขามองมันผ่านไป แล้วเขาก็ต้องหันกลับไปดูมันอีกครั้ง แล้วเขาก็พบว่ามียายคนเดิมคนนั้นนั่งอยู่ เขาจ้องไปที่ยายคนนั้นก่อนที่จะเริ่มสงสัย ว่าทำไมเขาถึงเจอเธอบ่อยอย่างนี้นะ แล้วทุกครั้งที่พบยายก็มักจะมีอะไรแปลกๆ ทั้งนั้น เขารีบเดินเข้าไปหายายคนนั้นทันที
“นี่ยาย” โซลเรียกยายที่กำลังเก็บข้าวของอยู่
“อะไร เจ้าหนูนี่อีกแล้วเหรอ เป็นไงบ้างล่ะจ๊ะ” ยายพูดแล้วยิ้มจนตีนกาขึ้นเต็มหน้า
“ยายถามอย่างนี้หมายความว่าไง” โซลถามอย่างสงสัย
“ก็หมายความว่า มีอะไรเกินขั้นกับหนูเธอบ้างมั้ยล่ะ” ยายถามแล้วยิ้มอย่างน่ากลัวทำเอาโซลขนลุก
“นะ...นี่...มัน นี่ยายทำอะไรผมกันแน่เนี่ย!!!”
“สาปเธอ” ยายตอบเสียงนิ่งก่อนที่จะหัวเราะอย่างสยดสยอง
บรรยากาศตอนนี้เงียบสนิท โซลถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปในทันที เขายืนนิ่งเงียบเหมือนทำสมาธิอยู่ ส่วนยายคนนั้นก็มองหน้าเขาแล้วคิดในใจว่า ‘สมน้ำหน้า’ แล้วพอโซลเริ่มที่จะตั่งสติได้ เขาก็รีบพูดออกมาทันที
“นี่มันคืออะไรยาย นี่ยายจะบอกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับผม ทุกอย่างที่มันเปลี่ยนไป เพราะว่ายายสาปผมอย่างนั้นเหรอ!!” โซลถามเสียงอึ้งสุดขีด
“ใช่” ยายตอบอย่างสบายๆ
“แล้วนี่ยายทำไปทำไมเนี่ย ยายได้อะไร”
“ดัดนิสัยเธอ ฉันหมั่นไส้กับท่าทางหยิ่งจองหองนั่น เห็นแล้วมันขัดตา อีกอย่างเธอจะได้ดีขึ้นใจตัวด้วยไง ไม่ชอบเหรอ ^^” ยายยิ้มเข้าเล่ห์
“ชอบบ้าอะไรล่ะ แล้วนี่ผมจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปเหรอเนี่ย!!!” โซลเริ่มเครียดหนัก
“มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ทางแก้ไขมันก็มี” ยายบอกทำเอาโซลเริ่มยิ้มบางๆ
“แต่ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกนะ”
“แล้วมันอะไรล่ะ บอกมาเซ่!!!” โซลเริ่มร้อนใจ
“เธอต้องทำให้หลานสาวของฉันหลงรักเธอ และบอกรักเธอให้ได้”
ตอนนี้ใบหน้าของโซลยิ้มกว้างทันที อาจจะเป็นเพราะว่าเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาล่ะมั้ง อย่างเขาน่ะ สบายอยู่แล้ว เขาถอนหายใจก่อนที่จะถามยายเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
“แค่นั้นใช่มั้ยเนี่ย”
แต่ว่าเขากลับต้องงงกับใบหน้าของหญิงชราที่มองเขาแล้วอ้าปากพูด
“แต่ว่า ที่มันยากน่ะมันอยู่ที่”
“หืม??” โซลทำเสียงสนใจปนกับความรู้สึกหวั่นๆ
ยายยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นท่าทางที่หวาดหวั่นราวกับลูกหมาน้อยของโซล
“ฉันมีเวลาให้เธอแค่ 30 วัน” ยายหยุดครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดคำที่ทำเอาโซลขนลุกซู่ซ่าส์ “ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องกลายเป็นผู้หญิงตลอดไป”
*+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*
*+-_(๑ ^ )( ^ ๑)_-+*
มาอัพแระนะคะ อิอิ
ติชมได้ค่า อยากรุว่ามันเป็นยังไงบ้าง
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
รักทุกคนเลย จุ๊บๆ
SNARKS
ความคิดเห็น