คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5
ห้างใจกลางเมือง........
“งั้นเราแยกกันซื้อของเลยนะจะได้ไม่เสียเวลารอกัน” เอวาลินหันไปพูดกับดินธภัสที่เดินตามหลังเธอมา
“อือก็ดี”
“น้อง” เสียงเรียกของผู้ชายคนหนึ่งทำให้เอวาลินหันกลับไปมองทางด้านหลัง
“อ่าวพี่ที มาทำอะไรคะ” เอวาลินทักชายหนุ่มอย่างสนิทสนมโดยลืมไปว่าดินธภัสยังอยู่ตรงนี้
“พี่มาซื้อของใช้นิดหน่อย แล้วน้องล่ะ?”
“น้อมาซื้อของ น้องมากับเอ่อ...”
“ผัว” ดินธภัสที่ยืนมองทั้งคู่อยู่สักพักก่อนจะพูดแทรกขึ้นคำพูดของเขาทำให้เอวาลินหันไปมองด้วยความตกใจ
“นี่เพื่อนน้องชื่อเดย์ นี่พี่นทีเขาเป็นลูกของเพื่อนพ่อฉัน” เอวาลินทำอะไรไม่ถูกเลยรีบเปลี่ยนประเด็น
“สวัสดีครับ แล้วเมื่อกี้ที่พูดว่าผัว?” ชลลธีมองหน้าทั้งสองคนสลับกันไปมาอย่างหาคำตอบ
“ไม่มีอะไรหรอกพี่ที...นายจะไปซื้อของก็แยกกันตรงนี้เลยแล้วกัน” เอวาลินพูดกับชลลธีก่อนจะหันมาพูดกับดินธภัส
“ฉันเปลี่ยนใจแล้วฉันจะไปด้วย”
“เอ้า...แล้วแต่นายละกัน”
“ถ้าซื้อของเสร็จแล้วไม่รีบไปไหนต่อน้องอยู่กินข้าวกับพี่ก่อนสิ” ชลลธีถือโอกาสช่วนเธอกินข้าวกับเขา
“ได้ค่ะน้องไม่มีธุระต่ออยู่แล้ว พี่ทีเดี๋ยวซื้อของเสร็จแล้วน้องโทรหานะ”
พูดจบเอวาลินก็เดินแยกตัวออกไปโดยไม่ได้หันกลับมาหาดินธภัสที่มองเธอด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ที่เธอตอบรับคำชวนของชลลธี
“เธอนี่ง่ายเนอะ ใครช่วนทำอะไรก็ไปหมด” ดินธภัสพูดข้อนขอดทันทีที่เดินพ้นจากชลลธี
“หมายความว่าไง” เอวาลินหันมาจ่องหน้าดินธภัสอย่างหาเรื่องรู้สึกไม่ชอบใจในคำพูดของเขา
“เปล่านิก็แค่บอกว่าเธอง่ายดี”
“เดย์ถ้าจะหาเรื่องกันก็แยกกันตรงนี้แหละแล้วก็กลับใครกลับมัน” พูดจบเอวาลินก็เดินหนีออกมาทันทีแต่มีหรอคนอย่างดินธภัสจะปล่อยให้เธอเดินหนีง่ายๆ
“คิดว่าฉันจะเปิดโอกาสให้เธออยู่กับไอ้นทีอะไรนั้นสองต่อสองหรอ? ฝันไปเถอะ” ดินธภัสเดินตามมากระชากแขนเอวาลินก่อนจะออกแรงลากให้คนตัวเล็กเดินตามตัวเองไป
ดินธภัสลากเธอไปด้วยจนซื้อของครบโดยที่ไม่ปล่อยให้มือเธอเป็นอิสระแม้แต่นาทีเดียว การกระทำของเขาทำให้เอวาลิน อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าเขาอาจจะกำลังหึงเธออยู่
ดื่อดือดื้อ ดื้อดื้อดือดื่อ.......
(เอวาลิน : ฮัลโหลค่ะ พี่ที) เพียงแค่เธอเอ่ยชื่อของคนปลายสายก็ทำให้ดิธภัาที่ยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาดื้อๆ
(ชลลธี : น้องซื้อของเสร็จหรือยัง)
(เอวาลิน : เสร็จแล้วค่ะ พี่ทีซื้อของเสร็จแล้วหรอคะ)
(ชลลธี : อือพี่ซื้อเสร็จแล้วตอนนี้พี่อยู่ที่ร้านโปรดน้องพี่ว่าจะสั่งอาหารเลยโทรมาถามก่อน)
(เอวาลิน : โอเคค่ะ เดี๋ยวน้องไป)
“นายกลับไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวฉันนั่งแท๊กซี่กลับเอง” เอวาลินหันไปพูดกับดินธภัสที่ยืนชักสีหน้าหงุดหงิดอยู่ข้างๆ
“ฉันจะไปด้วย ไม่อยากโดนสวมเขา”
คำพูดของดินธภัสทำให้เอวาลินส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เลยสักนิด เอวาลินเดินเข้ามาในร้านอาหารโดยมีดินธภัสเดินตามมาติดๆ ชลลธีที่เห็นว่ามีบุคคลที่สามเดินมาด้วยก็หุบยิ้มลงทันที
“เอ่อ พี่ทีเพื่อนน้องเขาขอมาด้วยพี่ทีไม่ว่าอะไรใช่มั้ย”
“อือ ทานเถอะเดี๋ยวอาหารเย็นหมด” ชลลธีตักอาหารใส่จานเอวาลินแต่ก็โดนดินธภัสยื่นจานของตัวเองไปรับแทน
“ขอบคุณคับพี่นที!”
ชลลธีได้แต่ยิ้มแหยๆ กับคำขอบคุณที่ดูไม่เต็มใจจากดินธภัส ทั้งสามคนนั่งทานอาหารกันโดยที่ดินธภัสคอยแยงชลลธีตักอาหารบ้าง ตักอาหารจากในจานของเอวาลินที่ชลลธีเป็นคนตักให้มากินเองบ้างจนเขาเองก็รู้สึกไม่เข้าใจในการกระทำของตัวเองว่าทำไมต้องทำเรื่องเสียมารยาทแบบนั้นด้วย
“นี่น้องกลับยังไงเดี๋ยวพี่ไปส่งมั้ย”
“ไม่เป็นไรครับอ่ายลี่มากับผมเดี๋ยวเรากลับด้วยกัน” เป็นดินธภัสที่ชิงตอบก่อนพลางยกมือขึ้นโอบไหลเอวาลินอย่างถือสิทธิ์
“อ่อครับ งั้นพี่กลับก่อนนะเจอกันที่ทำงานนะ”
ชลลธีส่งยิ้มน้อยๆ ให้อ่ายลี่แต่ก็ต้องหุบลงเพราะหน้าบอกบุญไม่รับของดินธภัส พอกลับมาถึงห้องเอวาลินก็จัดแจงเรียงของเข้าที่ในที่ที่มันควรอยู่ โดยไม่ได้สังเกตว่ามีสายตาทึ่กำลังมองเธออยู่อย่างคาดโทษ
“เธอกับมันสนิทกันมากเลยหรอ” ดินธภัสเอ่ยถามขึ้นทันทีที่เห็นว่าเธอจัดของเสร็จแล้ว
“หมายถึงใคร?” เอวาลินหันมาถามเพื่อความแน่ใจในความคิดของตัวเอง
“ไอ้พี่นทีของเธอไง”
“ก็สนิทกันตั้งแต่เด็กเพราะพ่อของพี่ทีกับพ่อฉันเป็นเพื่อนกันแล้วครอบครัวเราก็รู้จักกันอยู่แล้ว” เอวาลินตอบคามความเป็นจริงแต่กลับเป็นคำตอบที่ทำให้ชายหนุ่มไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
“นี่เธอชอบฉันจริงหรือเปล่า”
“อะไร? ถามทำไม?” เอวาลินงงกับการเปลี่ยนคำถามอย่างกระทันหันของเขา
“ตอบฉันมา” เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กตอบช้าจึงเดินมาประชิดตัวเธอจนเอวาลินต้องถอยหลังจนติดกำแพง
“ถอยไปนะ” เอวาลินพยายามดันตัวดีเดย์ออกแต่กลับเป็นโอกาสเหมาะที่ดินธภัสรวบมือของเธอไว้แล้วกดติดกับกำแพงห้อง
“จะตอบไม่ตอบ” ดินธภัสยื่นหน้าให้เข้าไปใกล้จนเธอต้องเบือนหน้าหนี
“รู้ไปแล้วจะได้อะไรเล่าฉันไม่ตอบ!! ถอยออกไปนะ” เอวาลินพยายามดิ้นให้หลุดแต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งเพิ่มแรงกดจนเธอรู้สึกเจ็บ
ดินธภัสมองหน้าเธออย่างสับสนทำไมเข้าต้องอยากรู้ด้วยว่าเธอคิดยังไงกับเขายังคงชอบเขาอยู่มั้ยเขาดึงสติตัวเองกลับมาพยายามสลัดเรื่องพวกนี้ออกจากหัวก่อนที่จะยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
ทันทีที่หลุดจากการจับกุมของดีเขาเอวาลินก็เบี่ยงตัวออกแล้ววิ่งหนีเข้าห้อง หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเพราะคำถามของเขาจะให้เธอบอกความรู้สึกจริงๆ ได้ยังไงในเมื่อพูดไปคนเจ็บก็มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นเอวาลินอยู่แต่ในห้องจนใกล้เวลาอาหารเย็นจึงยอมออกมาเพื่อทำกับข้าวสำหรับมื้อเย็น
“ออกไปกินข้าวข้างนอกกัน” ดินธภัสพูดทั้งๆ ที่สายตายังคงจ่องอยู่ที่จอโทรทัศน์
“เอ่อ...นายไปเถอะฉันทำกินที่นี้แหละ”
“อย่าเรื่องมากได้มั้ย หรือเพราะฉันไม่ใช่ไอ้พี่นทีของเธอเลยไม่อยากออกไปกินด้วยกัน” ดินธภัสหันพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งประชด
“เปล่าซะหน่อย ไปก็ไป”
เอวาลินไม่อยากทะเลาะด้วยจึงยอมตกลงโดยดี
เพียงไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงร้านอาหารเป็นร้านที่ไม่หรูหราอะไรบรรยากาศสบายๆ มีทั้งโซนติดสระบัวและโซนธรรมดาดินธภัสเดินนำเอวาลินไปยังโซนริมสระที่เป็นมุ่มข้อนข้างจะส่วนตัว
“สวัสดีครับ เมนูครับ” พนักงานยื่นแผ่นเมนูอาหารให้กับทั้งคู่
“เอาปลานึ่งมะนาว ต้มจืดเต้าหู้ ปลาหมึกผัดไข่เค็ม แกงส้มแปะซะ น้ำพริกหนุ่มหนึ่งชุด แล้วเธอล่ะเอาอะไร” ดินธภัสสั่งสิ่งที่ตัวเองต้องการเสร็จก็เงยหน้าถามหญิงสาวตรงหน้า
“แค่ที่นายสั่งก็กินไม่หมดแล้วเอาแค่นี้แหละ”
“งั้นเอาแค่นี้ครับ” ดินธภัสยื่นสมุดเมนูคืนให้พนักงาน
“วันนี้ทางร้านเรามีโปรโมชั่นของหวานสำหรับคู่รักด้วยนะครับ” พนักงานพูดพร้อมกับยื่นแผ่นเมนูสีชมพูเล็กมาให้
“มันสำหรับคู่รักยังไงหรอคะ” เอวาลินถามขึ้นด้วยความสงสัยเพราะดูแล้วก็เหมือนของหวานทั่วไป
“เราใช้จะมีสมุนไพรไทยครับที่ชวยบำรุงกำลังมันดีมากๆ สำหรับคู่แต่งงานครับ”
“งั้นไม่เอาดีกว่าค่ะ” เอวาลินที่ได้ฟังสรรพคุณจากเด็กเสิร์ฟก็ทำหน้าไม่ถูกรีบปฏิเสธทันควัน ดินธภัสนั่งมองท่าทและสีหน้าของเธอก็เผลอหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
อาหารเริ่มทะยอยนำมาเสิร์ฟจนครบเอวาลิน มองอาหารตรงหน้าอย่างไม่รู้จะกินอะไรก่อนดีเพราะมันเยอะแยะไปหมด เลยเป็นดินธภัสที่จัดการตักอาหารใส่จานให้เธอ
“อร่อยอะ” ทันทีที่อาหารเข้าปากสีหน้าของเอวาลินก็เปลี่ยนไปราวกับเด็กที่พึ่งได้กินของอร่อยเป็นครั้งแรก “นายมาร้านนี้บ่อยหรอ”
“นานๆ มาทีออกัสไม่ค่อยชอบอาหารไทยเพราะส่วนใหญ่มันเผ็ดเลยไม่ค่อยได้มาหรอก”
คำตอบของดินธภัสทำให้ใบหน้าเปื้อนยิ้มของเอวาลินค่อยๆ หายไป
‘อย่าคิดเข้าข้างตัวเองอีกนะไม่งั้นเธอจะเจ็บมากกว่านี้อ่ายลี่อย่าลืมสิว่าเธออยู่ในสถานะอะไรเขามีคนที่เขารักอยู่แล้ว’ เอวาลินคิดย้ำเตือนตัวเองว่าเธอไม่ควรจะเผลอใจรักเขาไปมากกว่านี้
.....................................................................................................................
#ยินดีรับทุกคำติชมของทุกคนนะคะแล้วจะนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นค่ะ
ความคิดเห็น