คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4
วันงาน.......
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นตามที่ดินธภัสต้องการเป็นงานแต่งงานที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนักและแน่นอนแม่ของเขาไม่เห็นด้วยกับงานแต่งงานแต่ก็ยอมมาร่วมงานในงานไม่ได้เชิญแขกมาเยอะมีเพียงแค่พ่อแม่พี่ของดินธภัสส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพื่อนๆ ของเจ้าบ่าวทั้งนั้นเพราะจุดประสงค์ของเขาเองตั้งแต่แรกหลังจากยืนตอนรับแขกเสร็จดินธภัสก็ถูกเพื่อนลากออกไปจากงานทิ้งให้เอวาลินยืนคุยกับแขกในงาน
“เอ่อพี่เตโชว์คะ อ่ายลี่จะไปเข้าห้องน้ำรบกวนฝากพี่ดูแลแขกแปปนึงได้มั้ยคะดีเดย์ไปไหนไม่รู้”
“เออนั้นสิเจ้าเดย์มันไปไหนตั้งนานแล้วเนี่ย ไปเถอะเดี๋ยวพี่กับพี่แฟร์ดูให้”
“ขอบคุณค่ะ”
หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเอวาลินที่กำลังจะเดินเข้างานบังเอิญได้ยินคนคุยกันแต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั้งได้ยินชื่อของตัวเองในบทสนทนา
“มึงเอาชีวิตอ่ายลี่มาเสี่ยงแทนออกัสแบบนี้มึงไม่สงสารอ่ายลี่เลยหรอ” กรรณธภพหนึ่งในเพื่อนของดินธภัสพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ไม่ได้เสี่ยงขนาดนั้นหรอกกูก็แค่เบี่ยงความสนใจจากออกัสเท่านั้นแหละ”
“แล้วมึงแน่ใจได้ไงว่าอ่ายลี่จะไม่ต้องเสี่ยงชีวิตแต่ก็เอาเถอะมึงเลือกเองก็อย่ามารู้สึกผิดที่หลังแล้วกันถ้าเรื่องมันหนักกว่าที่มึงคิด ตอนนี้มึงออกมานานแล้วเข้างานเถอะเดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย” กรรณธภพพูดตัดบทก่อนจะเดินนำดินธภัสไป
เอวาลินที่ได้ยินสิ่งที่ทั้งคู่คุยกันแทบทรุดลงไปนั่งกับพื้น ‘นอกจากเขาจะไม่เห็นค่าในความรักของเธอแล้วชีวิตของเธอยังไม่มีค่าสำหรับเขาด้วยหรอ’ เอวาลินพยายามสลัดความคิดตัวเองทิ้งแล้วเดินเข้างานด้วยหัวใจที่หน่วงจนแทบจะกลั่นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“อ่ายลี่ออกมาทำอะไรเนี่ย”
“อ่าววินพึ่งมาหรอ”
“อือพึ่งเครียงานที่บริษัทเสร็จก็รีบมาเลยเนี่ย”
“ขอบใจมานะที่อุส่ามาแล้วไม่ต้องดูงานที่ผับหรอ”
“ฝากเพื่อนดูที่ร้านแล้วเดี๋ยวเราค่อยเข้าไปที่หลัง”
“ไปงั้นเข้างานก่อนเพื่อนมากันเกือบครบแล้วแหละ” เอวาลินเดินนำธาวินเข้างาน
“เรางงนะว่าอ่ายลี่กับดีเดย์ไปรักกันตอนไหน รู้อีกที่ก็แต่งงานกันแล้วเราว่ามันแปลกนะ” คำพูดของธาวินทำให้เอวาลินหยุดชงักพร้อมกับความรู้สึกที่จุกแน่นในอก
“อ่ายลี่เป็นอะไรหรือเปล่า” ธาวินเดินมาข้างหน้าเอวาลินเห็นสีหน้าสีเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดจึงดึงเธอเข้ามากอดแม้จะไม่รู้ถึงเหตุผลก็ตาม
“ยังไม่ทันจบงานก็มีชู้แล้วหรอเธอนี่ไวไฟจริงๆ” เสียงของดินธภัสทำให้เอวาลินผละตัวออกจากธาวินทันที
“มึงจะพูดอะไรให้เกียรติอ่ายลี่บางเข้าเป็นเจ้าสาวของมึง” ธาวินทนไม่ไหวหันไปสวนกลับดินธภัสทันที
“แล้วมึงเกี่ยวอะไรถ้ามึงไม่ได้เป็นชู้กับเมียกูก็ไม่ต้องร้อนตัว”
“เลิกหยาบคายสักทีเดย์! จะมาตามฉันเข้างานไม่ใช่หรอไปสิ” เอวาลินพูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบจนดินธภัสเองยังแปลกใจแต่ก็ยอมเดินตามเข้าไปในงานโดยไม่ได้ถามอะไร
พิธีการต่างๆ ดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งถึงเวลาส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอดินธภัสเลือกคอนโดของตัวเองเป็นเรือนหอในระหว่างแต่งงานกับเธอ
“แม่ส่งแกแค่ตรงนี้แหละเพราะคงไม่จำเป็นต้องอวยพรอะไรทั้งนั้น” ผู้เป็นแม่พูดอย่างงอนๆก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป
“พ่อขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขนะ” ผู้เป็นพ่อเดินมาจับไหลของทั้งคู่ด้วยความเอ็นดูก่อนจะเดินตามภรรยาไป
“พี่จะรอวันที่แกพร้อมจะเล่าให้พี่ฟังละกัน ยังไงซะเราก็เหมือนน้องพี่อีกคนมีอะไรบอกพี่ได้นะ” เตโชว์พูดกับน้องชายก่อนจะหันมาพูดกับเอวาลินและเดินออกจากห้องไปพร้อมกับแฟร์รี่
พอส่งแขกเสร็จเอวาลินก็เดินตรงเข้าไปยังห้องนอนนั่งลงหน้ากระจกแล้วค่อยๆ แกะผมของตัวเองออกจนหมด ดินธภัสที่เดินเข้ามายืนมองเธอด้วยความรู้สึกหลากหลาย
“เดย์นาย...”
“ทำไม? จะให้ฉันชวยรูดซิปแล้วจะอ่อยฉันแบบในละครหรอ” ยังไม่ทันที่เอวาลินจะพูดจบดินธภัสก็สวนขึ้นทันที
“ฉันจะถามว่านายจะอาบน้ำก่อนหรือจะให้ฉันอาบก่อน แต่ถ้าอยากจะคิดอะไรบ้าๆ ก็ตามใจฉันจะได้อาบก่อนเชิญจิตนาการตามสะบาย” พอพูดจบเอวาลินก็ลุกเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
“ฉันปรับน้ำอุ่นให้แล้วจะอาบก็อาบได้เลยนะ”
เอวาลินเดินไปนั่งเป่าผมที่โต๊ะเครื่องแป้งโดยไม่มองหน้าดินธภัสสักนิด การกระทำของเอวาลินทำให้เขารู้สึกวุ่นวายใจแปลกแต่ก็ต้องสลัดความคิดตัวเองทิ้งแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเธอหลับไปแล้ว
“เธอเป็นคนยังไงกันแน่อ่ายลี่”
ดินธภัสยืนมองหญิงสาวอย่างพินิจพิเคราะก่อนจะยอมลมตัวลงนอนข้างๆ เธอแต่ก็ยังคงมองใบหน้าหวานที่หลับตาพริ้มอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวก่อนจะยืนหน้าเข้าไปจุ๊บริมฝีปากอิ่มเบาๆ แล้วหลับตาลงเพราะความเหนื่อยล้าจากงาน
แสดงแดดอ่อนๆ ยามเช้าที่สาส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาทำให้อ่ายลี่ต้องเบือนหน้าหนีแต่ด้วยความรู้สึกหนักเหมือนอะไรซักอย่างทับอยู่จนเธอไม่สามารถขยับตัวได้ทำให้เธอต้องลืมตาขึ้นมองภาพชายตรงหน้าอย่างงัวเงียก่อนที่จะกรี๊ดออกมา
“โอ๊ยอะไรของเธอ กรี๊ดทำไมเนี่ย” ดินธภัสยกแขนออกจากเอวบางพลางพลิกตัวหนีเสียงกรี๊ดของเธอ
“นายมานอนกับฉันได้ยังไง!” เสียงของเอวาลินทำให้เขาต้องลุกขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอนมองเธออย่างหงุดหงิด
“เป็นบ้าอะไร? ลืมหรือไงว่าตัวเองแต่งงานมีผัวแล้ว”
“แต่งงาน...” อ่ายลี่ยืนนิ่งทบทวนคำพูดของดินธภัสจนกระทั่งนึกขึ้นได้
“คนจะหลับจะนอนเสียงดังอยู่ได้” พูดจบดินธภัสก็พลอกตัวลงนอนดึงผ้าห่มคลุมจนมิดหัว
“ก็คนมันไม่ชินนิ!!” เอวาลินยู้หน้าก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าห้องน้ำ หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเธอก็ออกจากห้องนอนตรงเข้าห้องครัวทันทีเพียงไม่นานกลิ่นอาหารหอมๆ ก็ลอยไปหาคนที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้องเพราะประตูปิดไม่สนิท
“ทำอะไรกินหอมจัง” ดินธภัสที่ตื่นเพราะกลิ่นอาหารออกมาจากห้องนอนแล้วเดินเข้าไปหาอ่ายลี่ในครัว
“โจ๊กหมู ไปอาบน้ำสิจะได้ออกมากินข้าวเช้า”
“อือ” ดินธภัสตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่ออาบน้ำ
“เดย์วันนี้ฉันจะไปซื้อของนายจะฝากซื้อหรือเปล่า” หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จเอวาลินก็มีแผลนจะไปซื้อของเล็กๆ น้อยๆ
“ไปที่ไหน”
“ว่าจะไปห้างแล้วก็ตลาดสดซื้อของมาติดไว้ทำกับข้าวนิดหน่อย ตู้เย็นนายมันโล่งจนฉันกลัวว่าอดตายซะก่อน
“ก็ผู้ชายอยู่คนเดียวจะให้ซื้ออะไรเยอะแยะนานๆ จะทำกินทีเดี๋ยวฉันไปด้วยแล้วกันจะได้ไปช่วยซื้อ” พูดจบก็ลุกเดินไปหยิบกุญแจรถกับกระเป๋าตังค์แล้วเดินออกจากห้องทันที
“เอ้าอะไรของเขาจะไปก็ไปเฉยไม่รอกันเลย” เอวาลินบ่นไล่หลังก่อนวิ่งไปหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วตามเขาไป
.....................................................................................................................
#ยินดีรับทุกคำติชมของทุกคนนะคะแล้วจะนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นค่ะ
ความคิดเห็น