คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3
สองวันต่อมา…….
“เธอนี้ช้าจริงๆ เลยเร็วหน่อยได้มั้ย” ดินธภัสลดกระจกรถลงเร่งคนตัวเล็กที่เพิ่งเดินลงมาจากคอนโด
“ก็เร็วสุดแล้วเนี่ย ว่าแต่นายจะพาฉันไปไหน?” เอวาลินถามหลังจากที่เธอขึ้นมาบนรถเรียบร้อยแล้ว
“เดี๋ยวก็รู้ไม่ต้องถามมาก” รถหรูเคลื่อนตัวออกจากหน้าคอนโดของเอวาลินได้พักใหญ่ก็จอดตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นคฤหาดเลยทีเดียว
“บ้านายหรอ?” เอวาลินมองบ้านตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน
“อือ ลงมา” ดินธภัสตอบเพียงสั้นๆ
“คุณเดย์ของป้า” หญิงสาววัยกลางคนเดินเข้ามาหาดินธภัสด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“สวัสดีครับป้านิ่ม” ดินธภัสเอ่ยทักทายแล้วเดินเข้าไปกอดอย่างไม่ถือตัว
“เพื่อนคุณเดย์หรอคะ” ป้านิ่มผละจากดินธภัสหันมามองอ่ายลี่อย่างสงสัย
“สวัสดีค่ะ” อ่ายลี่ยกมือไหว้ป้านิ่มพร้อมกับรอยยิ้ม
“พ่อกับแม่ล่ะครับ” ดินธภัสไม่ตอบคำถามของป้านิ่มแต่เปลี่ยนเป็นถามถึงพ่อแม่ตัวเองแทน
“อยู่ห้องนั่งเล่นค่ะ คุณแฟร์รี่กับคุณโชว์ก็อยู่นะคะ”
“ขอบคุณครับป้านิ่ม...ส่วนเธอตามฉันมา” ดินธภัสขอบคุณป้านิ่มเสร็จก็หันมาคว้าข้อมือเธอให้เดินตามเขาไป
“พ่อครับ แม่ครับ”
“อ่าวตาเดย์ไม่กลับบ้านเป็นอาทิตย์แม่นึกว่าแกโดนลักพาตัวไปขายแล้วนะ” หญิงสาววัยกลางคนท่าทางสง่าพูดพลางส่งสายตาประชดมาให้ลูกชาย
“โถ่แม่ แค่อาทิตย์กว่าๆ เองอย่างอนสิครับ” ดินธภัสปล่อยมือจากเอวาลินแล้วตรงเข้าไปกอดผู้เป็นแม่
“สวัสดีค่ะ” ทุกคนมองเอวาลินอย่างสงสัยยิ่งทำให้เธอทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่
“หนูคนนี้ใครหรอลูก”
“เอ่อ...นี่อ่ายลี่ครับ ผมจะแต่งงานกับเธอครับ” ดินธภัสลุกขึ้นยืนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“เดย์แล้วออกัสล่ะ แกเอาเขาไปไว้ไหนอยู่ดีดีก็มาบอกว่าจะแต่งงานกับยัยคนนี้เนี่ยนะ” แฟร์รี่ถามน้องชายตัวเองด้วยความแปลกใจ
“นั้นสิสะใภ้บ้านนี้ต้องเป็นหนูออกัสเท่านั้นคนอื่นแม่ไม่รับ” แม่ของดินธภัสพูดพลางปรายตามองไอลี่ตั้งแค่หัวจรดเท้า
“คุณฟังลูกก่อนสิ” พ่อที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ ในตอนแรกหันมาปรามภรรยา
“ไม่ต้องฟังหรอกค่ะพ่อ จะอะไรสะอีกมาแบบนี้ก็ท้องแน่ๆ” เอวาลินได้ยินคำของแฟร์รี่ก็รู้สึกชาไปทั้งตัวทำไมเธอจะต้องมายืนให้ครอบครัวของเขาดูถูกด้วยทั้งๆ ที่เธอไม่ได้เป็นคนเริ่มเรื่องบ้าๆ นี่เลยสักนิด
“พี่แฟร์ออกไปกับผมให้น้องคุยกับพ่อแม่ก่อน” เตโชว์เห็นสถานะการไม่ค่อยจึงลากพี่สาวออกมาปล่อยให้น้องชายได้คุยกับพ่อแม่ก่อน
“ผมมีเหตุผลจริงๆ ครับแม่ผมจำเป็นต้องแต่งงานกับเธอ”
“เหตุผลอะไรแม่ไม่สน! แต่แม่ไม่รับผู้หญิงคนไหนเป็นสะใภ้เล็กทั้งนั้นนอกจากหนูออกัส”
“แค่ปีเดียวครับแม่ผมจะแต่งกับเธอแค่ปีเดียวแล้วเราจะหย่ากัน” ดินธภัสจำเป็นต้องพูดความจริงบางเรื่องออกไปเพื่อไม่ให้มันบานปลายไปมากกว่านี้
“เดย์พ่อไม่เห็นด้วย แกเห็นว่าการแต่งงานเป็นเรื่องเล่นๆ คิดจะแต่งคิดจะหย่าเมื่อไร่ก็ได้หรอผู้หญิงเขาเสียหายนะ” พ่อดินธภัสไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ลูกชายจะทำ
“ผมมีเหตุผลจำเป็นจริงๆ เรื่องจบเมื่อไหร่ผมจะบอกความจริงทั้งหมดให้ทุกคนฟังแน่ครับ”
“แล้วทำไมลูกถึงบอกตอนนี้ไม่ได้” ผู้เป็นพ่อพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน
“มันจำเป็นจริงๆ ครับเชื่อผมเถอะ”
“แล้วแต่แกก็แล้วกันอยากแต่งก็ไปแต่งกันเองแม่ไม่รับรู้ด้วย” พูดจบผู้เป็นแม่ก็ลุกออกไปจากห้องนั่งเล่นทันทีผู้เป็นพ่อเลยลุกตามภรรยาออกไปเช่นกัน
“ฉันบอกแล้วว่าคนที่นายควรแต่งด้วยคือ ออกัสไม่ใช่ฉัน” เอวาลินเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นเดินไปที่โรงจอดรถของบ้านดินธภัสสักพักร่างสูงก็เดินตามออกมาด้วยสีหน้าหงุดหงิดอย่างชัดเจน
“จะพาฉันไปไหนอีกเนี่ย!!” เอวาลินถามขึ้นเพราะรถเลี้ยวไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางกลับคอนโด
“ดูชุดแต่งงาน” ดินธภัสตอบด้วยสีหน้านิ่งเรียบขณะที่ยังมองไปยังท้องถนน
“จะยังไม่หยุดอีกหรอ ครอบครัวนายไม่มีใครเห็นด้วยเลยนะ แล้วฉันก็ด้วย!”
“เธอเองก็ไม่ได้บอกครอบครัวตัวเองเหมือนกันนิ”
“พ่อแม่ฉันอยู่ต่างประเทศกว่าจะกลับมานายกับฉันก็หย่ากันแล้วพวกท่านไม่จำเป็นต้องรับรู้เรื่องบ้าๆ นี้”
ความเงียบเขาปกคลุมรถอีกครั้งจนกระทั่งรถจอดที่หน้าร้านพรีเวทดิ้งสุดหรูที่ดูแล้วน่าจะเป็นร้านสำหรับคนรวยดินธภัสลงจากรถโดยมีเอวาลินเดินตามไปติดๆ
“น้องเดย์มาหาคุณแฟร์หรอ คุณแฟร์ไม่อยู่นะคะกลับไปบ้านตั้งแต่เมื่อเช้า” พนักงานสาวเดินมาทักทายดินธภัส
“เปล่าครับ ผมมาเลือกชุดแต่งงาน”
“แล้วคุณออกัสล่ะคะพี่จะได้พาไปวัดตัว” พนักงานสาวมองหาคนที่น่าจะเป็นเจ้าสาวของเขา
“เธอคนนี้แหละครับ ฝากด้วยนะครับ” ถึงจะงงแต่ก็ยอมพาเอวาลินขึ้นไปวัดตัวยังสตูดิโอด้านบน หลังจากวัดตัวเสร็จพนักงานสาวก็แอบไปโทรหาเจ้านายของตัวเอง เพียงไม่นานแฟร์รี่ก็เดินทางมาถึงร้าน
“เดย์นี่แกกล้าพายัยนี่มาเลือกชุดที่ร้านพี่เลยหรอหะ!!” แฟร์รี่แผดเสียงใส่น้องชายที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา
“ไหนๆ ก็ต้องเสียตังอยู่แล้วค์ผมเลยคิดว่ามาร้านพี่ดีกว่า” ดินธภัสตอบทั้งๆ ที่ยังไม่เงยหน้ามาจากโทรศัพท์
“ถ้าเป็นออกัสพี่คงดีใจที่แกพามาแต่เป็นยัยนี้พี่ไม่ชอบ” แฟร์รี่มองเอวาลินด้วยสายตาเหยียดๆ
“ขอโทษนะคะ ที่ฉันมันน่ารังเกลียดขนาดนั้น” พูดจบเอวาลินก็วาวสมุดภาพในมือลงบนโต๊ะแล้วเดินออกไปทันที
“นี่เธอจะไปไหน!” ดินธภัสลุกขึ้นมาคว้าแขนเธอไว้ก่อนที่เธอจะเดินไปถึงประตู
“ฉันจะกลับบ้าน! เรื่องบ้าๆ แบบนี้ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้วนายอยากจะทำอะไรก็เชิญ”
“อย่าให้ฉันต้องใช้วิธีเดิม” คำขู่ของดิธภัสทำให้เอวาลินต้องเดินกลับมานั่งเหมือนเดิม
“พี่แฟร์ พี่ก็น่าจะรู้ว่าการที่ผมทำอะไรแบบมันต้องมีเหตุผล พี่เชื่อผมสิเมื่อถึงเวลาผมจะบอกความจริงทุกอย่าง” ดินธภัสหันไปพูดกับพี่สาวอย่างจริงจัง
แฟร์รี่เองพอได้ยินคำพูดของน้องชายก็ทำให้เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งเพราะการที่น้องเธอจะทำอะไรเขามักจะมีเหตุผลที่ทำมันเสมอ ไม่ใช่คนที่จะทำอะไรส่งๆ
“ก็ได้พี่เชื่อแกพี่จะรอฟังเหตุผลของแกแต่พ่อกับแม่เขาคงไม่เข้าใจหรอก”
“ยังไงซะผมก็ต้องแต่ง” คำยืนยันหนักแน่นของน้องชายทำให้แฟร์รี่ไม่ชอบใจอยู่บ้างแต่ก็ยอมตามใจน้องชาย
“นี่อย่างเธอน่ะไม่ต้องเลือกเยอะหรอกแค่งานแต่งหลอกๆจะเลือกไปทำไม”
คำพูดของแฟร์รี่ทำให้เอวาลินที่กำลังเปิดสมุดภาพถึงกับหยุด ‘ใช่สิเธอจะตั้งใจเลือกไปทำไมมันก็แค่งานแต่งปลอมๆก็เท่านั้นเอง’ คิดได้แบบนั้นเอวาลินจึงลือกชุดหน้าที่ตัวเองเปิดค้างไว้โดยไม่ได้สนใจมันเลยสักนิดว่ามันจะเป็นชุดแบบไหน
.....................................................................................................................
#ยินดีรับทุกคำติชมของทุกคนนะคะแล้วจะนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นค่ะ????????????
ความคิดเห็น