คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2
“กรี๊ดดดดด ปล่อยนะปล่อยฉัน เดย์ช่วยกัสด้วย”
“เฮ้ยมึงปล่อยแฟนกูนะเว้ย ตุบ ผลัว ผลัก อัก” ระหว่างทางเดินไปรถเอวาลินได้ยินเสียงโวกเวกโวยวายพร้อมกับเสียงคนต่อสู้กัน
“ช่วยด้วยค่ะ มีคนโดนทำร้ายใครก็ได้ช่วยด้วยทางนี้ค่ะทางนี้” เธอตะโกนออกไปสุดเสียงทำให้ผู้ชายที่รุมทำร้ายออกัสกับดินธภัทรวิ่งหนีกันไปคนละทิศคนละทาง
“เป็นไรมั้ย” เอวาลินที่เห็นว่าผู้ชายพวกนั้นไปกันหมดแล้วจึงเดินเข้าไปช่วยดีเดย์ที่ล้มลงไปกองกับพื้น เพียงไม่นานธาวินก็วิ่งออกมาจากผับพร้อมกับเพื่อนอีกสี่คน
“อ่ายลี่เป็นอะไรรึป่าว เด็กในร้านเข้าไปบอกเราว่ามีคนโดนทำร้าย” เมื่อเห็นว่าเป็นเอวาลิน ธาวินก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันที
“เราไม่เป็นไรวินคนโดนทำร้ายคือดีเดย์กับออกัส” เอวาลินพูดพลางพยุงดินธภัสขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบากส่วนออกัสก็ยืนตัวสั่นอย่างหวาดกลัวกับเหตุการณ์เมื่อครู่
“แก๊งไหนวะกล้ามาทำร้ายคนในถิ่นแก๊งเรา” ไบร์หนุ่มหล่อสไตล์แบดบอยเพื่อนของวินพูดขึ้น
“เออมันจะมากเกินไปแล้วถึงขั้นมาทำร้ายคนในเขตของเรา” เคนยืนมองสถานะการอย่างพิจารณา
“ไอ้วินมึงไปมีเรื่องกับใครวะช่วงนี้” เจเดนถามวินที่เดินเอาเสื้อไปคลุ่มให้ออกัส
“ก่อนมึงจะคุยกันเนี่ยมึงพาเพื่อนสองคนเข้าข้างในก่อนมั้ยคนนึงก็โดนซ้อมอีกคนก็ตกใจ พวกมึงยังจะยืนวิเคราะห์กันอยู่ได้”
ซันชายพูดเตือนเพื่อนตัวเองที่มัวแต่ยืนคิดถึงเรื่องคนร้าย ธาวินและเพื่อนๆ เลยพาดินธภัสกับออกัสเข้าไปหลังร้านนั่งพักในห้องทำงานส่วนตัวของธาวิน ก่อนที่จะเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมาให้
“เดี๋ยวทำแผลเสร็จแล้วกูไปส่ง” ธาวินหันไปบอกดินธภัสที่นั่งให้ออกัสทำแผล
“แล้วเธอเห็นคนที่รุมทำร้ายเพื่อนมั้ย” ซันชายหันมาถามเอวาลินที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ไม่เห็นมันมืดมากฉันได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วยเลย กะว่าตะโกนให้พวกมันตกใจ”
หลังจากทำแผลเสร็จธาวินก็อาสาไปส่งออกัส กับดินธภัทรที่บ้านแต่ด้วยบ้านทั้งสองคนอยู่คนละทางและที่ธาวินเอามาวันนี้เป็นรถซุปเปอร์คาร์ที่นั่งได้แค่สองคนเอวาลินจึงอาสาไปส่งดินธภัสเพราะทางไปบ้านเขาเป็นทางผ่านของเธอพอดี
“บ้านนายไปทางไหน” เอวาลินถามทั้งๆ ที่สายตายังจับจ่องไปยังท้องถนนดินธภัทรบอกเส้นทางจนกระทั่งรถจอดลงที่หน้าคอนโดหรูใจกลางเมือง
“นายไม่กลับบ้านหรอ”
“สภาพนี้กลับไปพ่อกับแม่ฉันคงเป็นบ่นยาวแน่ นี่พาขึ้นไปส่งหน่อย”
“หื้อ? เจ็บขนาดนั้นเลยหรอ” เอวาลินมองสำรวจร่างกายชายหนุ่มที่ไม่ได้ดูว่าจะเจ็บหนักมีเพียงแผลแตกที่มุมปากับหางคิ้วและรอยฟกช้ำเล็กน้อย
“อือเดินไม่ไหว”
เอวาลินไม่คิดอะไรคิดว่าเขาคงเจ็บจริงเลยลงจากรถไปประคองดินธภัสเดินขึ้นคอนโดไปส่งที่ห้องพอถึงหน้าห้องเธอก็ถอยตัวออกให้เขาเดินเข้าห้องแต่ดินธภัสเซเหมือนจะล้มเธอเลยรีบเข้ามาประคองไว้แล้วเดินมาส่งเขาในห้อง
“อ่ายลี่ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ”
“อะไร?”
“เธอต้องแต่งงานกับฉัน”
“นี่นายบ้าไปแล้วหรอ ถึงฉันจะเคยชอบนายก็จริงแต่เราไม่ได้รักกันไม่เคยคบกันนายจะบ้าหรือไง” เอวาลินกล้าพูดออกมาตรงๆ เพราะดินธภัสเองก็รู้อยู่แล้วว่าเธอชอบเขา
“แต่งได้ถ้าฉันจะแต่ง!! เธอก็ไม่มีสิทธ์ปฏิเสธ!"
“คนที่นายควรจะขอแต่งงานคือผู้หญิงที่นายรักนู้นไม่ใช่ฉัน” พูดจบเอวาลินก็หันหลังจะเดินออกจากห้อง
“เธอคิดว่าเข้ามาในห้องฉันแล้วเธอจะได้ออกไปง่ายๆงั้นหรอ” ดินธภัสก้าวไปขวางหน้าเธอไว้
“ถอย! อย่ามาเล่นบ้าๆ” เอวาลินยืนจ้องหน้าดินธภัสอย่างจริงจัง
“ถ้าเธอยอมตกลงฉันจะให้เธอกลับ แต่ถ้าไม่ฉันคงต้องใช้วิธีฉัน” พูดจบดินธภัสก็เดินเข้ามาประชิดตัวเธอ
“ฉันไม่ตกลงบ้าอะไรทั้งนั้นแหละถอย ฉันจะกลับบ้าน”
เอวาลินคิดว่าเขายังเจ็บอยู่เลยไม่กล้าออกแรงผลักเท่าไหร่ ดินธภัสที่ไม่ได้มีอาการเซเลยแม้น้อยรวบตัวเธอขึ้นพาดบ่าแล้วพาเข้ามาในห้องนอนโยนเธอลงกับเตียงอย่างแรงถึงเตียงจะนุ่มแต่จากความแรงของการโยนทำให้เอวาลินจุกไม่น้อยดินธภัสตามขึ้นมาคล่อมเธอทันที
“ฉันให้เธอตอบอีกครั้ง”
“ไม่!!! ยังไงก็ไม่!!”
เอวาลินพูดพร้อมกับพยายามดิ้นให้หลุดจากตัวดินธภัส เมื่อเห็นว่ายังไงเอวาลินก็ไม่ยอมเขาจึงรวบแขนเธอด้วยมือข้างเดียวแล้วดึงเข็มขัดจากเอวขึ้นมามัดข้อมือเธอไว้กับหัวเตียงแล้วถอดชุดเธอออกอย่างรวดเร็ว
“กรี๊ดดดดด เดย์อย่าทำแบบนี้นะปล่อยเรานะปล่อย!!!”
เอวาลินที่เหลือแต่บาร์กับชั้นในตัวน้อยกรี๊ดลั่นพยายามบิดตัวหนีสายตาของเขาที่มองสำรวจร่างกายเธอแถบจะกลืนกิน ดินธภัสกลืนน้ำลายลงคออย่างอยากลำบากเพราะร่างกายของหญิงสาวตรงหน้า อกใหญ่ที่บาร์แถบจะเก็บไม่หมดเอวคอดเล็กกับสะโพกผ่ายที่รับกันเป็นอย่างดีไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นร่างกายสาวแต่เธอทำให้ใจเขาเต้นจนแถบหลุด ดินธภัสไม่รอช้าถอดเสื้อตัวเองออกก่อนทาบตัวลงมาทับเอวาลินทันทีจมูกคมซุกไซ้ไปที่ซอกคอขาวอย่างห้ามใจไม่อยู่ คนที่ไม่เคยโดนสัมผัสสะดุ้งเล็กน้อยและยิ่งดิ้นหนีจมูกคมแต่ยิ่งดิ้นร่างกายของเธอก็ยิ่งเบียดเสียดกับเขาจนชายหนุ่มแถบจะหมดความอดทน
“ดิ้นอีกสิดิ้นเยอะยิ่งเธอดิ้นเยอะฉันยิ่งชอบ” เอวาลินหยุดชะงักกับคำพูดของเขาจึงทำให้รู้สึกถึงบางสิ่งที่สัมผัสอยู่ตรงช่วงร่างของร่างกายเธอ
“เดย์อย่าทำแบบนี้นะฉันขอร้องนายก็มีแฟนอยู่แล้วจะทำแบบนี้กับฉันทำไม” เอวาลินอ้อน วอนทั้งน้ำตาแต่เขาก็ไม่สนใจสอดมือไปด้านหลังปลดบาร์ตัวเล็กออกอย่างรวดเร็ว
“ไม่นะอย่านะ!!!!”
เอวาลินบิดตัวหนีใบหน้าที่ก้มลงยังอกใหญ่ลิ้นร้อนๆ ยิ่งทำให้เธอตื่นตัวและดิ้นสุดแรงเพราะทั้งร้องไห้ทั้งดิ้นแต่ยิ่งดิ้นเธอก็ยิ่งใกล้ชิดกับเขามากขึ้นจนเธอรับรู้ถึงตัวตนของเขาที่มันตื่นขึ้น
“เดย์หยุด!!! ฉันขอร้อง ฉันยอมแล้วอย่าทำแบบนี้”
เอวาลินรวบรวมแรเฮือกสุดท้ายผลักดินธภัสออกจากตัวเอง ดินธภัสหยุดการกระทำทั้งหมดก่อนจะพยายามคุมอารมณ์ตัวเองให้นิ่งแล้วลุกออกจากตัวเอวาลินโดยที่ไม่ลืมดึงผ้าห่มมาปิดร่างกายเธอ
“ตกลงว่าเธอยอมแต่งงานกับฉันแล้วใช่มั้ย” ดินธภัสถามออกไปทั้งๆ ที่พยายามสะกดกลั้นอารมณ์บ้างอย่างของตัวเองไว้
“ใช่ฉันยอมแล้ว แต่นายบอกฉันหน่อยได้มั้ยว่าเพราะอะไรทำไมถึงต้องให้ฉันแต่งงานกับนาย” เอวาลินถามออกไปแต่ในใจก็ยังคงตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่หาย
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้ในตอนนี้ ถ้าเรื่องนี้จบฉันจะบอกเธอเอง”
“แต่ฉัน.......”
“รีบแต่งตัวแล้วกลับบ้านเธอซะก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”
คำพูดของเขาทำให้เอวาลินเผลอมองไปที่จุดต่ำกว่าเอวแล้วก็พบว่ามันอยู่ในสะภาพที่ไม่ปกติ เอวาลินรีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่ทันทีที่ดินธภัสเดินเข้าห้องน้ำไปและรีบออกจากคอนโดของเขาเมื่อลงมาถึงด่านล้างเธอต้องเจอกับสายตาแปลกๆ ของคนที่เดินสวนกับเธอพอถึงคอนโดเอวาลินรีบพุ่งตัวเข้าห้องน้ำอย่างเร็วเพื่อจะอาบน้ำนอนจะได้ลืมเรื่องราวบ้าๆ ในวันนี้ แต่แล้วเธอก็เพิ่งจะเข้าใจในสายตาของคนที่มองเธอเพราะทั้งคอมีแต่รอยแดงเป็นจ้ำๆ ที่เขาทำไว้ เอวาลินเลิกสนใจรอยรีบอาบน้ำเข้านอนทันที
.....................................................................................................................
#ยินดีรับทุกคำติชมของทุกคนนะคะแล้วจะนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นค่ะ
ความคิดเห็น