NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภรรยากำมะลอที่รัก

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 65


    เอวาลินมาถึงที่ทำงานเร็วกว่าทุกวันเพราะยังรู้สึกอายกับคำพูดของดินธภัสจึงเลือกที่จะออกมาก่อนเขาเลยทำให้เธอมาถึงที่ทำงานก่อนใคร

    “คุณอ่ายลี่ ทำไมวันนี้มาเช้าจังคะหรือป้ามาสาย” ป้านวลยกนาฬิกาของตัวเองขึ้นมาดู

    “เปล่าหรอกค่ะป้าพอดีหนูไปธุระมาแล้วขี้เกียจแวะเข้าบ้านอีกเลยตรงมาเลยน่ะค่ะ”

    “โล่งไปทีป้านึกว่าป้ามาสายสะอีก งั้นป้าขอตัวไปทำความสะอาดก่อนนะ" 

    “ค่ะ หนูก็ว่าจะไปหาอะไรทานก่อนเหมือนกัน” จบบทสนทนาทั้งสองคนก็แยกย้ายไปทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ

    เอวาลินกลับเข้ามาที่ทำงานอีกที่ช่วงใกล้เวลาเข้างานพร้อมกับจัดเตรียมเอกสารที่ต้องส่งให้ชลลธีเซนก่อนจะนำเข้าไปวางไว้ในห้องของเขา

    “ท่านประทาน!!” เอวาลินสะดุ้งเล็กน้อยที่ออกมาเจอชลลธีอยู่หน้าห้อง

    “ตกใจขนาดนี้ทำอะไรผิดไว้หรอ” ชลลธีถามทีเล่นทีจริง

    “เปล่าค่ะ แค่เอาเอกสารมาวางเฉยแล้วไม่คิดว่าท่านประทานจะมายืนยุหน้าห้อง

    “น้องมีอะไรก็บอกพี่ได้นะ พี่ยินดีช่วยน้องทุกอย่าง” ชลลธีพูดด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะเขารู้แล้วทั้งเรื่องคนที่ตามเธอและเรื่องที่เธอแต่งงานโดนไม่บอกใคร

    “พี่ทีหมายความว่ายังไงคะ” ด้วยความร้อนใจกับคำพูดของชลลธีจึงทำให้เธอเผลอแทนตัวเขาตามความเคยชิน

    การกระทำของเธอยิ่งทำให้ชลลธีแน่ใจในสิ่งที่คนของเข้าสืบมาได้ เพราะตั้งแต่ที่รู้จักเธอมาเธอไม่เคยโกหกได้เลยสักครั้ง

    “น้องก็รู้ว่าพี่หมายถึงอะไร พร้อมเมื่อไหร่ก็เล่าให้พี่ฟังได้นะถ้ายังเห็นพี่คนนี้เป็นคนสำคัญของน้องอยู่” พูดจบชลลธีก็เดินเลี่ยงเข้าห้องไป

    เอวาลินนั่งทำงานแบบไม่มีสมาธิทั้งวันยิ่งช่วงที่ต้องเดินเอาเอกสารเข้าไปให้ชลลธีเธอยิ่งอึดอัดใจเพราะตั้งแต่เช้าชลลธีก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลยทำตัวเหมือนปกติยิ่งทำให้เธออึดอัด

    “พี่ทีคะ...หลังเลิกงานน้องขอคุยกับพี่ทีเรื่องเมื่อเช้าได้มั้ย” เอวาลินทนความอึดอัดไม่ไหวจึงพูดขึ้นในจังหวะที่รอเอกสารจากชลลธี

    “น้องพร้อมที่จะพูดแล้วหรอ” ชลลธีถามด้วยสีหน้าจริงจัง

    “ค่ะ งั้นเย็นนี้เราไปร้านเดิมนะคะน้องจะเล่าทุก อย่างให้พี่ฟัง”

    หลังเลิกงานเอวาลินและชลลธีมุ่งตรงมายังร้านอาหารประจำที่เขาชอบพาเธอมาเอวาลินเลือกที่นั่งมุมในสุดของร้านเพราะต้องการความเป็นส่วนตัวหลังจากสั่งอาหารเสร็จเอวาลินก็เริ่มเล่าเรื่องราวเกือบทั้งหมดให้ชลลธีฟัง

    “น้องรักผู้ชายคนนั้นใช่มั้ย” ชลลธีถามขึ้นทันทีที่เอวาลินพูดจบ เอวาลินทำได้แค่พยักหน้าเบาๆ กับคำถามของชลลธี

    “พี่ทีอย่าเพิ่งบอกจินเรื่องนี้ได้มั้ยน้องไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ถ้าเจ้าจินรู้เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่” 

    เอวาลินยอมเล่าให้ชลลธีฟังเพราะเธอเห็นเขาเป็นพี่ชายคนนึงและเขายังมีเหตุผลที่จะรับฟังมากว่าน้องชายของเธอที่ใจร้อนและไม่ยอมใครถ้าน้องชายเธอรู้มันจะต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ

    “พี่จะยังไม่บอกจินตอนนี้ก็ได้แต่น้องต้องให้คนของพี่ตามดูแลน้องเพราะคนพวกนั้นอาจจะทำร้ายน้องก็ได้ ถ้าน้องไม่ยอมพี่คงต้องบอกจินและครอบครัวน้อง” ชลลธีมัดมือชกเพราะรู้ว่าถ้าไม่ทำแบบนี้เธอคงไม่ยอมแน่ๆ

    “ก็ได้ค่ะน้องยอมก็ได้”

    “น้องบอกพี่ได้มั้ยทำไมถึงยอมเซ็นสัญญาบ้าๆ ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้องเลยสักนิด” ชลลธียังคงคาดคั้นเพื่อหาคำตอบ

    เอวาลินได้แต่นั่งก้มหน้าไม่ยอมปริปากพูดแม้แต่น้อยเธอจะบอกได้ยังไงว่าดินธภัสใช้วิธีไหนบังคับเธอถ้าบอกไปเรื่องไม่จบแค่นี้แน่ เมื่อเห็นว่าเอวาลินไม่ยอมตอบชลลธีก็เลือกที่จะไม่คาดคั้นเธออีกแม้จะอยากรู้แค่ไหนก็ตาม เพียงไม่นานอาหารที่สั่งไปก็มาเสิร์ฟทั้งคู่นั่งทานอาหารโดยไม่รู้เลยว่าดินธภัสกับออกัสก็อยู่ที่ร้านนี้ด้วย

    “เดย์คะ นั้นภรรยาเดย์ไม่ใช้หรอ” 

    ออกัสชี้ไปโต๊ะมุมในสุดของร้านอาหาร ทำให้ดินธภัสหันไปมองอย่างรวดเร็วเขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้พอปรับอารมณ์ได้ก็หันกลับมาหาออกัสด้วยสีหน้าปกติทั้งที่ในใจอยากจะลุกพาเอวาลินกลับบ้านเดี๋ยวนั้น

    “ชั่งเขาสิ ไม่เห็นเกี่ยวกับเราเลย” ดินธภัสพยายามสงบใจให้มากที่สุด

    “ก็นึกว่าเดย์อาจจะหึงยัยนั้นเพราะถ้าเป็นแบบนั้นออกัสไม่ยอมแน่” ออกัสมองไปที่เอวาลินด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

    ชลลธีและเอวาลินรับประทานอาหารเสร็จก็เลือกที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านเลยแม้ชลลธีอยากไปส่งเธอแต่เอวาลินก็ปฏิเสธเพราะยังไงก็ขับรถมาคนละคันอยู่แล้วและเพราะจีรนัยกลับฮ่องกงไปแล้วเธอจึงกลับมาอยู่ที่คอนโดของดินธภัสเหมือนเดิมเมื่อเอวาลินกลับมาถึงไม่เห็นดินธภัสอยู่ที่คอนโดจึงตัดสินใจโทรหาเขา

    (เอวาลิน : ฮัลโหลเดย์นายอยู่ไหน)

    (ปลายสาย : เดย์อยู่กับฉันคืนนี้เขาไม่กลับแค่นี้นะ...)  ยังไม่ทันที่เอวาลินจะได้ถามอะไรต่อปลายสายก็ตัดสายทิ้งไปก่อนและแน่นอนว่าเดาได้ไม่อยากว่าปลายสายที่รับโทรศัพท์แทนดินธภัสคือใคร

    “ก็เขาเป็นแฟนกันนิ” 

    เอวาลินพูดกับตัวเองก่อนจะลุกไปอาบน้ำและเข้านอน เอวาลินตื่นเช้ามาและหวังว่าจะเห็นเจ้าของห้องนอนอยู่ข้างๆ เช่นทุกครั้งแต่กลับต้องผิดหวังเพราะไม่มีวี่แววของเขาเลยแม้แต่น้อย เอวาลินสลัดความคิดในหัวทิ้งแล้วลุกไปอาบน้ำแต่ตัวก่อนที่จะไปทำงานโดยไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้เช่นทุกครั้ง

     

    วันต่อมา…….

    [ดินธภัส : วันนี้วันเกิดแม่ฉันเดี๋ยวตอนเลิกงานฉันไปรับ] พอเอวาลินมาถึงบริษัทได้ไม่นานก็มีข้อความดังขึ้นเธอจึงหยิบขึ้นมาดูแล้วพบว่าเป็นข้อความของดินธภัส

    [เอวาลิน : ฉันขับรถมานายไปรอที่คอนโดเลยเดี๋ยวฉันกลับเอง] 

    เอวาลินตอบข้อความเสร็จก็เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าทันที เธอกลับมาถึงคอนโดก็พบแต่ความว่างเปล่าไม่เห็นดินธภัสแม้แต่เงาเอวาลินเลยเลือกที่จะอาบน้ำแต่งตัวรอเขา แต่ผ่านไปสองชั่วโมงแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววเลยแม้แต่น้อย

    (เอวาลิน : เดย์นายอยู่ไหนเนี่ย)

    (ดินธภัส : อ่อโทษทีฉันอยู่ที่บ้านแล้วเธอขับรถตามมาเลยนะ) พูดจบดินธภัสด็ตัดสายไป

    เอวาลินขับรถมุ่งตรงมาที่บ้านของดินธภัสที่ตอนนี้ถูกแปลงให้เป็นการจัดปาร์ตี้เล็กสำหรับฉลองวันเกิดของแม่ดินธภัส เอวาลินเดินเข้้าไปในงานพร้อมของขวัญกล่องเล็กที่แวะซื้อมาตอนเลิกงาน

    “แม่ขอบใจมากนะลูกถูกใจแม่มาเลย” เสียงคุณหญิงดารารัตน์พูดกับออกัสอย่างเอ็นดู

    “หนูก็กลัวว่าจะไม่ถูกใจคุณแม่ซะอีก” ออกัสตอบออกไปอย่างนอบน้อม

    เมื่อเอวาลินเดินเข้ามาถึงทุกคนต่างเงียบคุณหญิงดารารัตน์และแฟร์รี่มองมาที่เธออย่างไม่สบอารมณ์ต่างจากผู้เป็นพ่อและเตโชว์ที่ยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร

     


    .....................................................................................................................
    #ยินดีรับทุกคำติชมของทุกคนนะคะแล้วจะนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×