ลิขิตแห่งสายชล - นิยาย ลิขิตแห่งสายชล : Dek-D.com - Writer
×

    ลิขิตแห่งสายชล

    "ขอสายชลที่ไหลริน... โปรดฟังคำวิงวอนของข้าด้วยเถิด"

    ผู้เข้าชมรวม

    836

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    20

    ผู้เข้าชมรวม


    836

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    26
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  29 ม.ค. 64 / 03:10 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

         ถ้าวันนึงคนที่เปรียบเสมือนเป็น 'แสงสว่าง' หนึ่งเดียวในชีวิตของคุณ ได้แปรเปลี่ยนไปเป็น 'ไฟกัลป์' ที่ย้อนกลับมาแผดเผาคุณให้แหลกสลายทั้งกายและใจ

         "นังเด็กเนรคุณ ฉันอุตส่าห์เลี้ยงเเกมาจนโต เเต่ฉันขอให้เเกทำเเค่นี้เเกทำให้ฉันไม่ได้หรอ ไอ้เด็กxx กูน่าจะทิ้งมึงไปตั้งแต่ตอนนั้น xัสเอ้ย! " คำพูดหยาบคายมาพร้อมกับฝ่ามือบางที่เดินทางฝ่ามวลอากาศมากระทบกับใบหน้าของเด็กสาวในชุดนักเรียน

         "เพี๊ยะ!" เสียงฝ่ามือปะทะกับผิวหน้าของเด็กสาวเข้าอย่างจัง พวงแก้มใสสั่นไหวด้วยแรงจากฝ่ามือของผู้เป็นพี่ ผู้ที่เปรียบเสมือนแสงสว่างเดียวในชีวิตของเธอ

        นัยย์ตาเล็กเรียวรื้นไปด้วยน้ำตา หากแต่ไม่ใช่น้ำตาที่เกิดจากความเจ็บปวดทางกาย แต่ของเหลวนี้ คือหลักฐานชี้ชัดที่แสดงถึงบาดแผลที่ได้เกิดขึ้นในหัวใจของเธอแล้วในเวลานี้

        นับตั้งแต่ที่พี่สาวผู้ที่เป็นเหมือนชีวิตของเธอได้กล่าวคำๆนั้น คำที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากคนที่เลี้ยงดูเธอมาราวกับเป็นลูกในไส้และเฝ้ามองดูทุกการเติบโตของเธอ มันเหมือนหัวใจของเธอถูกกรีดแทงด้วยคมมีดแห่งความผิดหวัง เธอเข้าใจก็วันนี้ว่าคำว่าใจสลายมันเป็นยังไง 

        "อีเด็กเวร เเกเคยสำนึกบุญคุณฉันบ้างมั้ย ฮะ? ฉันต้องเอาร่างกายแลกเงิน ยอมโดนคนเค้าดูถูก เพื่อให้เเกได้เรียน ได้มีกินมีใช้จนทุกวันนี้​ เเกเคยสำเหนียกบ้างมั้ย" ไม่มีเสียงตอบรับหรือแม้แต่เสียงสะอื้นจากเด็กสาว มีเพียงเเววตาเลื่อนลอยที่ส่งไปให้

        "ทำไมไม่ตอบ!" เมื่อคู่สนทนาไม่มีการตอบรับใดๆกลับมา ยิ่งทำให้อารมณ์ของผู้เป็นพี่พุ่งสูงขึ้น

        "ได้! ถ้าเเกไม่ตอบฉันถือว่าเเกตกลง เก็บข้าวของลงมาจากห้องของเเกซะ ฉันจะพาเเกไปหาเจ๊เดี๋ยวนี้เลย" เจ้าของเสียงเดินจากไปพร้อมเสียงกระเเทกประตูดังสนั่น แต่ต่อให้มีคนมาตีกลอง จุดประทัดข้างหูของเธอในตอนนี้ คงไม่มีเสียงใดดังเท่าเสียงของพี่สาวเธอที่พูดคำๆนั้นออกมา

        ทุกคนคงได้รู้ถึงชีวิตที่สุดแสนจะบัดซบของฉันเเล้วสินะ ฉันก็เป็นเเค่เด็กม.ต้น ผมยาวเท่าติ่งหู หน้าตาธรรมดาๆคนนึง เเต่ที่มันไม่ธรรมดาคงจะเป็นชีวิตฉันนี่แหละ ที่มันเเสนจะรันทดเป็นพิเศษ จนบางทีฉันก็อิจฉา"ไอ้เกริก"หมาข้างบ้านด้วยซ้ำ 

         เเม่ฉันตายตอนที่คลอดฉันออกมา เรื่องนี้ฟังดูโหดร้ายมากแล้วใช่มั้ยล่ะ? แต่ความบัดซบของชีวิตฉันมันยังไม่จบเท่านี้หรอก พอเเม่ฉันจากไป คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คงเป็นพ่อ พ่อทำใจไม่ได้ที่แม่เสียไป ท่านเริ่มหนีความเจ็บปวดด้วยการดื่มเหล้า พ่อฉันดื่มเหล้าเยอะมาก มากจนพอที่จะทำให้ขาดสติไประรานผู้คนในระแวกบ้าน จนเป็นที่รังเกียจของคนแถวนั้น 

          ชีวิตดำเนินไปเรื่อยๆจนฉันอายุได้ 3 ขวบ จนมาถึงวันนึง วันที่ความรันทดของฉันได้เเสดงอิทธิฤทธิ์อีกครั้ง พี่เล่าให้ฟังว่าวันนั้นเป็นวันที่ฝนตก ซึ่งก็เหมือนทุกวัน พ่อฉันได้ออกจากบ้านไปดื่มเหล้าจนเมามายเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดเรื่องการจากไปของแม่ ถึงมันจะผ่านมาหลายปี แต่ความเจ็บปวดนั้นคงยังฝังลึกในจิตใจของพ่อ ซึ่งฉันและพี่ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าการที่พ่อออกจากบ้านไปในครั้งนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้พบพ่อแบบที่มีลมหายใจ...

         พ่อฉันได้จากไปในวันนั้น ภาพสุดท้ายที่พี่เห็นคือร่างของพ่อที่นอนแน่นิ่งอยู่ในคูน้ำบริเวณบ้าน พี่ฉันเล่าว่าน่าแปลกมากที่ร่างของพ่อดูไม่น่ากลัวเลยแม้แต่น้อย
    ใบหน้าของพ่อดูสดใส ไม่เหมือนคนที่ดื่มเหล้าอย่างหนัก ดวงตาของพ่อปิดสนิท เหมือนคนที่นอนหลับไปเฉยๆ  เหมือนไม่ได้รับความเจ็บปวดใดๆ 

         ในตอนนั้นเหลือเเค่ฉันในวัย3ขวบกับพี่สาวที่อายุย่าง 15 ปี ฉันเเละพี่ไร้ที่พึ่ง ชาวบ้านก็ต่างรังเกียจและพากันหันหลังให้พวกเรา ผลมาจากที่พ่อเคยไประรานพวกเขาไว้ทำให้พวกเราพลอยโดนรังเกียจไปด้วย เเต่เเล้วก็มี 'เจ๊อร' ที่ยื่นมือช่วยเหลือพวกฉัน

        ในตอนนั้นฉันคิดว่าเจ๊อร คือ หนึ่งในความโชคดีที่เกิดขึ้นในชีวิตของฉันแบบนับครั้งได้ เเต่ความคิดนั้นก็สลายหายไปในทันที เมื่อพวกเรากลับมากับเจ๊แล้วพบว่าสิ่งที่เจ๊เป็น คือ แม่เล้า การที่เจ๊ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกเรามันไม่ใช่ความเมตตา แต่มันคือผลประโยชน์ เจ๊รับฉันและพี่มาดูแลเพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากพวกเรา ซึ่งคงจะเดาได้ไม่ยาก  


          การที่แม่เล้ารับเด็กสาววัยขบเผาะ หน้าตาน่ารักอย่างพี่สาวฉันมาอยู่ด้วยนั้นก็คงไม่พ้นให้พี่ฉันทำงานอย่างว่า ถึงมันจะดูเเย่เเต่มันก็เป็นทางออกเดียวสำหรับพวกเราในเวลานั้น ฉันได้เรียน ได้มีกิน ก็เพราะเงินจากการทำงานของพี่สาว 


          ฉันวาดฝันว่าสักวันจะเรียนจบ หางานที่มั่นคงทำเเละพาพี่สาวออกมาจากที่ที่น่ารังเกียจนั่น และเราจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไปจนบั้นปลาย
    เเต่ความซวยที่เกิดขึ้นเป็นประจำในชีวิตของฉันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

          มีลูกค้าที่ร้านของเจ๊ถูกใจฉัน เจ๊เลยบอกให้พี่สาวฉันมาเอาตัวฉันไปให้ลูกค้าคนนั้น พี่สาวฉันที่ฉันรักเเละเคารพมาตลอด ในขณะนั้นเธอได้กลายเป็นคนที่ฉันเหมือนไม่เคยรู้จักมาก่อน พี่ขอในสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าพี่จะพูดมันออกมา...เธอขอให้ฉันไปรับลูกค้าคนนั้น

          ฉันได้เเต่เงียบ ใช้เวลาอยู่กับตัวเองในห้อง หยิบสมุดโน๊ตที่ฉันเขียนในตอนเด็กๆ มานั่งอ่าน ความฝันต่างๆที่ฉันวางเเผนไว้ในอนาคตหลังจากที่ออกไปจากที่นี่ได้เเล้ว มันอาจไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนคนอื่น แต่มันเป็นความปรารถนาที่ล้ำค่าสำหรับฉันมาก


         'เราจะออกไปจากที่นี่ด้วยกัน ฉันจะได้ไปเที่ยวกับพี่ของฉัน เราจะได้นอนกอดกันจนหลับ ฉันจะอ่านนิยายที่ฉันชอบให้พี่ฟัง เเละ ฉันจะได้รับความรักเหมือนนางเอกในนิยายนั่น' ฉันอ่านมันออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ หน้ากระดาษเปียกชุ่มไปด้วยหยดน้ำตา ฉันไม่ได้ร้องไห้มานานเเค่ไหนเเล้วนะ...

          ฉันเคยคิดเล่นๆว่าฉันอยากจะเป็นนางเอกในนิยายที่ฉันอ่าน ไม่ใช่เพราะเธอรวย เธอสวย หรือ เธอเก่ง เเต่เป็นเพราะเธอได้รับความรักจากทุกคน ฉันอยากจะได้รับความรักเเบบเธอคนนั้น เเต่มันคงจะเป็นไปไม่ได้สำหรับฉันในชาตินี้

      "ขอสายชลที่ไหลรินโปรดฟังคำวิงวอนของข้าด้วยเถิด"ฉันเอื้อนเอ่ยประโยคที่ไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน แต่กลับทำให้รู้สึกอบอุ่นในใจอย่างแปลกประหลาด พร้อมกับหลับตาลงเพื่อที่จะงีบหลับพักสายตา 


           'ขอให้ฉันได้รับความรักที่อบอุ่นจากใครซักคน'นี่คงเป็นคำขอครั้งสุดท้ายของฉัน...

            ความคิดของฉันดับวูบลงพร้อมลมหายใจเฮือกสุดท้ายของฉัน ลาก่อนพี่สาว เราคงได้พบกันใหม่ในที่ที่เราจะได้รับความรักอันอบอุ่นอย่างแท้จริง...
    ..........................................................................
    นิยายเรื่องเเรกนะคะ ยังไงก็ฝากตัวด้วยค่ะ 

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น