คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ฉันจะเป็นโจรสลัด!!!
RANDOM
ปริศนาพลังแห่งมนตรา
ตอนที่ 1 ฉันจะเป็นโจรสลัด!!!
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...ณ ดินแดนแห่งน่านน้ำ ผู้คนต่างมุ่งออกสู่มหาสมุทรเพื่อความฝันของตน บ้างออกไปเป็นโจรสลัดและบ้างออกไปเป็นทหารของกองทัพเรือ... ในโลกใบนี่เจ้าหญิง เจ้าชาย สัตว์ในตำนาน เวทย์มนตร์ สิ่งลี้ลับต่างๆล้วนเป็นเรื่องธรรมดาๆ...
ในตำนานเล่าขานกันถึงการต่อสู่ระหว่างนรกกับสวรรค์ศึกระหว่างผู้สร้างและผู้ทำลาย ศึกครั้งนั้นต่างฝ่ายต่างพ่ายแพ้และตายในสนามรบหมดทั้งสิ้นไม่เหลือแม้แต่เทพซักคนและปีศาจสักตนหนึ่ง พลังความชั่วร้ายของผู้ทำลายนั้นได้ถูกรวบรวมอยู่ในสิ่งของที่มีรูปร่างเป็นจันทร์เสี้ยวสีม่วงเข้มชิ้นหนึ่งที่มีนามว่าเรียกว่า Hell Random และพลังความดีงามของผู้สร้างได้ถูกกักเก็บไว้ในสิ่งของที่มีรูปร่างเป็นจันทร์เสี้ยวสีเงินนามว่า Heaven Random บัดนี้สิ่งของลึกลับเหล่านี้ได้ปรากฏอยู่ในห้วงสมุทรลึกลับ
ในโลกแห่งนี้มีคนส่วนน้อยส่วนหนึ่งในโลกเท่านั้นที่เกิดมาแล้วจะมีพลังพิเศษติดตัวมาพลังที่สามารถควบคุม เปลี่ยนแปลง ทำลาย ป้องกันของทุกๆสิ่งบนโลกใบนี้เช่นพลังไฟ พลังน้ำ พลังในการควบคุมแรงโน้มถ่วงเป็นต้นและพลังเหล่านี้เราเรียกว่าพลังโลเกีย ลูเกีย ผู้ที่เกิดมาจะมีสัญลักษณ์คือรอยสักรูปตัวโน๊ตกุญแจซอลที่ต้นแขนขวา
สกุลเงินของโลกใบนี้แทนด้วย เควี แบ่งเป็น 4 เหรียญได้แก่ เหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง และ เหรียญธรรมดาซึ่งเรียกว่าเหรียญวุกกี้นั่นเอง ส่วน ค่าของเหรียญแต่ละเหรียญแบ่งได้ดังนี้
- เหรียญทองมีค่า 100 เควี
- เหรียญเงินมีค่า 50 เควี
-เหรียญทองแดงมีค่า 10 เควี
-เหรียญวุกกี้มีค่า 1 เควี
มหาสมุทรของที่นี่แบ่งเป็น 5คาบสมุทรใหญ่ๆคือ
-North Ocean = เป็นทะเลที่น่ากลัวอันดับ 2
-
-
-
-Random Ocean = ทะเลที่อันตรายและน่ากลัวที่สุด
..........................................................................
เกวียนสีดำทมิฬเล่มใหญ่กำลังแล่นผ่านเข้าไปในเมืองที่มีป้ายบอกชื่อเมืองว่า
‘ทรีเนียร์’ที่อยู่ในทะเลแถบ
“เอ้า...ทุกคนฉันเหมาร้านนี้แล้วน้าฉลองกันได้เต็มที่เล้ย”ชายคนหนึ่งพูดก่อนจะยกเหล้าชนิดเบาขึ้นกระดกยังกะงานปาร์ตี้
“คุณพี่สุดหล่อคร้าบพอดีเอ่อ...ผมอยากเป็นโจรสลัดอ่ะเอ่อไม่ใช่ๆเจ้าแห่งโจรสลัดดีกว่าพาออกเรือไปด้วยดิน้า~~~”เด็กชายวัยน์ 12 ปีนามเปียโร่ เอ็กส์ วอริเออร์กล่าวพร้อมกับส่งนัยน์ตาสีน้ำเงินราวกับห้วงสมุทรจ้องชายผู้นั้นเพื่อรอคำตอบ แต่ทว่ามันก็เหมือนการขัดขวางการดื่มโชว์คอทอแดงของชายผู้นั้น
“ไม่”
คำตอบที่เด็ดขาดดังออกมาจากปากอินทารัส เอ็กส์ วอริเออร์เจ้าของฉายา ‘อสูรวายุ’ผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลเข้มยาวสลวยถึงกลางหลังกับนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนที่จ้องลงมองมายังน้องชาย อินทารัสเป็นกัปตันเรือแห่งกลุ่มโจรสลัด ‘DanGer Wind’คำพูดสั้นๆคำนั้นทำเอารองกัปเรือผู้แสนจะอารมณ์ดี บีเดล เซวาเรียหันมามองแล้วเอ่ยออกไปว่า
“ไอ้บ้าเอ๊ย เด็กมันอยากเป็นก็ปล่อยไปเด้จะขวางไว้หาป๊ะแกหรอ”
“ช่ายยยยย..ผมอยากเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดมายากลอ่ะพาป๋มออกเรือไปด้วยหน่อยดิแล้วอีกอย่างเฮียบีเดล ป๊ะพี่อินทารัสก็ป๊ะผมนา”เปียโร่ยังออดอ้อนไม่เลิกพร้อมกับลูบเรือนผมสีดำสนิทของตนก่อนจะกระโดฟึ่บไปหยิบมีดมาเล่มหนึ่งแล้วกล่าวต่อว่า
“ถ้าพี่ไม่พาผมไปผมจะดับพลังโลเกียลูเกียของผมแล้วแทงเข้าไปนะจะบอกให้”เจ้าเปียโร่ขู่พร้อมตั้งมีดสูงขึ้น
“เชอะ...แล้วแต่แกเป็นนักมายากลริอาจหยิบมีดหยิบปืนดีกว่าแยะยิงโป้งเดียวตาย จบ”อินทารัสพูดแล้วหัวเราะหึๆ นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนกับสีน้ำเงินเข้มสบเข้าหากัน ทัรใดนั้นเปียโร่ก็จ้วงมีดเข้าไปตายตาขวาแล้วร้องสบถดังลั่น
“เจ็บชิบเลยโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”ร้องเสียงดังลั่นแต่ไม่มีแม้แต่คนเดียวในบาร์สงสารพร้อมกับเสียงที่ทุกคนประสานเสียงโดยไม่ได้นัดหมายเอ่ยพร้อมกันว่า ‘ไอ้บ้า’...”
“บ้าขนานแท้”อินทารัสบ่นกระปอดกระแปดวางแก้วเหล้าพลางลุกขึ้นไปเอาพาสเตอร์และแอลกอฮอล์ไปล้างแผลให้น้องชายแท้ๆของตน
“อย่าทำอีกนะ...รู้ไหม”ผู้เป็นพี่พูดด้วยความเป็นห่วงแต่ทว่าเวลาซึ้งๆมักจะอยู่ได้ไม่นาน (มั้ง) และแล้วประตูร้านของ Pirate Bar พังเละดังโครมพร้อมกับเกวียนสีดำทมิฬเล่มใหญ่พุ่งทะลุเข้ามาในร้าน
“อสูรวายุ อินทารัส เอ็กส์ วอริเออร์ กัปตันกลุ่มโจรสลัด DanGer Wind และพวกพ้องโปรดเข้ามอบตัวเดี๋ยวนี้”ชายในชุดคลุมสีดำเดินออกมาจากเกวียนเล่มนั้นพร้อมกับลูกน้องที่ถือปืนไรเฟิลกระบอกใหญ่
อินทารัสถึงกับตาโตเป็นไข่หานยักษ์เมื่อคนที่เขาเรียกว่า หมารับใช้ของกองทัพ มาหาตัวเขาถึงที่แบบนี้แต่ทว่าสภาพตาโตเป็นไข่ห่านยักษ์ก็หายไป เขาหัวเราะด้วยเสียงดังลั่นแกมเยาะเย้ยทำเอาหมารับใช้ของกองทัพทั้ง 3 คนฉุนจัดจนตวัดนัยน์ตาไปยังเจ้าคนไร้มารยาทที่กล้าหัวเราะเยาะกองทัพเรือคนนั้น แต่ทันทีที่สบตากับดวงเนตรเบื้องหน้า คำพูดที่จะเอ่ยออกไปกลับกลืนหายลงไปในลำคอ หมารับใช้ 3 คนต่างคิดว่านั่นคือดวงเนตรอสูรเท่านั้น
“Hey you พี่หยุดๆเดี๋ยวนักมายากลโจรสลัดสุดหล่อคนนี้จัดการเองน่า 55”เปียโร่ส่ายนิ้วต้องห้ามไปยังอาคันตุกะทั้งสามยิ้มยั่วพลางหยิบไพ่ใบหนึ่งออกมาจากสำรับ
“ห่ะๆเด็ก...อย่าง....แก...จะ...ทำ...อะ....ไร....ได้”ชายในชุดคลุมดำที่บัดนี้เสียงยังคงสั่นๆอยู่บ้างเพราะนัยน์ตาที่น่ากลัวดุจอสูรของอินทารัสพูดโอ่ขึ้นพร้อมกับลูกน้องของเขาทั้ง 2 คนมาวิ่งล้อมอินทารัสไว้หมดแล้ว
“โจ๊กเกอร์...ตัวตลกแห่งความตาย”เปียโร่เอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแป้นมือซ้ายกำลังลูบไล้เส้นผมสีดำสนิทขณะที่มือขวากำลังหยิบไพ่โจ๊กเกอร์ขึ้นมา
บัดนี้ไพ่นับร้อยใบปรากฏอยู่รอบๆตัวของอาคันตุกะทั้ง 3 คน ทันใดนั้นไฟก็ลุกพรึ่บขึ้นบนไพ่ก่อนจะพุ่งวนไปรอบๆร่างของอาคันตุกะ พลันอึดใจเดียวร่างของอาคันตุกะทั้ง 3 ก็ปรากฏรอยบาดลึกลงไปในผิวนับร้อยก่อนที่เลือดจะพุ่งกระฉูดออกมาแล้วร่างทั้ง 3 ก็หมอบลงไปกองที่พื้นในขณะที่ไพ่อัคคีนั้นต่างกลายเป็นนกพิราบสีขาวบริสุทธิ์บินวนไปรอบๆแล้ว
“ไพ่มนตรา ของขวัญที่พ่อฝากไว้กับหมอนั่นก่อนที่พ่อจะออกเดินเรือนี่นา”อินทารัสพูดพึมพำกับตัวเองขณะแหวกลูกเรือของตนไปมองร่างของอาคันตุกะที่บัดนี้ไม่มีแม้แต่รอยแผลเหลือแต่ร่องรอยเลือดเท่านั้น พร้อมกับร่างที่เจ้าตัวที่เป็นคนทำเดินผิวปากเล่นกับนกพิราบสีขาวบริสุทธิ์ของตนอยู่
.....................................................................
ณ ท่าเรือแห่งเกาะทรีเนียร์
“นะๆพี่นะ พาผมออกเรือไปด้วยเถอะน้า”เสียงออดอ้อนจากเด็กชายผู้มีเรือนผมสีดำสนิทกับนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มราวกับห้วงสมุทรถ้าจ้องลึกลงไปแล้วจะเห็นความร่าเริงสดใสทอประกายอยู่ในดวงเนตรคู่นั้น เปียโร่กำลังส่งเสียงออดอ้อนผู้เป็นพี่ชายตั้งแต่เช้าตรู่
“ไม่มีทางเด็ดขาดเท่าที่ฉันรู้จักแกมา แกไม่เคยขออะไรที่เหมือนฉันมาก่อนเลยด้วยซ้ำแล้วนี่นึกอะไรถึงอยากจะเป็นโจรลัดก็ไม่รู้ เป็นนักมายากล น่ะดีแล้ว”อินทารัส กล่าวปัดๆเนื่องจากรำคาญเสียงเด็กชายออดอ้อนมา 1 ช.ม.เต็มแล้ว ตั้งแต่เช้าไอ้เจ้าน้องชายตัวดีมันก็พูดแต่จะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดจนเขาชักเริ่มรำคาญ
“โธ่!!!ท่านพี่อินทาร้าสสุดหล่อหล้อหล่อคราวนี้ผมตั้งใจจะเป็นโจรสลัดจริงๆนะ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้พี่เดือดร้อนเป็นแท้แน่นอน”เด็กชายตัวจ้อยยังคงอ้อนวอนต่อไปพยายามทำหน้าตาให้น่าสงสารแล้วใสซื่อบริสุทธิ์อย่างเป็นที่สุดให้คนถูกอ้อนเห็นใจ ทำให้ผู้เป็นพี่เริ่มใจอ่อนแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับสีดำยาวเป็นยาวเป็นยวงของตนเข้าฝักพร้อมกับกระโดดขึ้นไปบนเรือสำเภาลำยักษ์ของต้นแล้วก้มลงมามองน้องชายจ้องหน้าเล็กน้อยแววตา ครุ่นคิดอย่างหนัก
“ผมนึกแล้วว่าพี่ต้องเข้าใจ”เปียโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจระคนยินดีเมื่อเห็นผู้เป็นพี่ส่งนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนให้เป็นเชิงบอกว่าให้ตามขึ้นมาบนเรือ เขาก็คงเริ่มเดาได้แล้วว่าพี่ของเขายอมให้เป็นโจรสลัดแล้ว
เปียโร่เดินขึ้นไปบนเรือสำเภาของกลุ่มโจรสลัด DanGer Wind ภายในเรือไม่มีลูกเรือหลงเหลืออยู่เลยเนื่องจากคนส่วนมากยังนอนสลบสไหลไม่รู้ตัวอยู่เนื่องจากซัดเหล้าไปกันเยอะ เขาเดินตามอินทารัสไปยังห้องกัปตันที่อยู่ส่วนหัวเรือ ภายในห้องนั้นมีกลิ่นหอมฉุยเหมือนดอกไม้ลอยอยู่ชั้นหนังสือสูงจรดเพดาน กับตู้เก็บดาบและปืนวางเป็นชั้นอยู่ทางใต้ของห้อง หน้าต่างบานใหญ่สามบานเปิดออกรับลมภายนอก พื้นที่ทำจากไม้แท้ทำให้ห้องดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้าตัวดีเดินตามพี่ชายต้อยๆไปทันที ชายผู้ถูกเดินตามเริ่มรำคาญอาการประจบสอพลอเกินเหตุของเจ้าน้องชาย จึงหันมาเผชิญหน้ากับมันให้รู้แล้วรู้รอดกันไปข้านหนึ่งชายผู้เป็นกัปตันของหมู่โจรสลัด DanGer Wind เริ่มมองเจ้าน้อยชายตัวดีอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วถอนหายใจอย่างเนือยๆราวกับไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจของตนนั้นถูกต้องแน่นอนหรือไม่
“แกบอกว่า...จะไม่ทำให้ฉันเดือดร้อนใช่ไหม”ผู้เป็นพี่ถามเด็กชายผู้รบเร้าเขามานาน จ้องเข้าไปในแววตาสีน้ำเงินเข้มของเจ้าตัวดี
“คร้าบ”เปียโร่ตอบอย่างหนักแน่นเพื่อให้ผู้เป็นพี่เชื่อใจแล้วยิ้มกว้าง ขณะที่ในใจของเด็กชายกำลังกระโดดโลดเต้นอย่างสุดๆ
“เออ...อย่างงั้นมาหาฉันที่เรือตอนเที่ยงคืนตรงฉันจะให้คำตอบแกและฉันจะไปจากเมืองนี้ภายในวันนี้ด้วย”อินทารัสกล่าวจบก็ถีบเจ้าน้องช้ายตัวดีกระเด้งออกจากห้องแล้วปิดประตูดังปัง...
...................................................................
พระจันทร์ลูกกลมลอยเด่นหราอยู่เหนือฟากฟ้า หลังจากแสงสุริยาบังลับไปจากหมู่แมกไม้ ท้องฟ้าของคืนนี้สดใสไม่มีแม้แต่เศษเมฆมาบดบังรัศมีของแสงจันทร์ที่สาดส่องใบหน้าของผู้มาเยือน หากนี่คือความยิ่งใหญ่ของกลุ่มโจรสลัด DanGer Wind ก็ไม่แปลกเลยที่คืนนี้จะบรรยากาศดีขนาดนี้...
สายลมเย็นพัดพลิ้ว เศษใบไม้ว่อนลอยทวนกระแสวายุอ่อนๆก่อนจะร่วงลงพื้น แสงคบเพลิงส่องประกายจากรอบเรือสำเภาลำยักษ์ แสงคบเพลิงที่ไม่จำเป็นกับคืนงามอย่างนี้เสียเลย เสียงกรนของพวกลูกเรือดังแว่วออกมาเป็นสิ่งที่แสดงว่าพวกนั้นหลับกันอีกแล้ว....
นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มตวัดไปมองสอดส่องยังเรือก่อนจะหันมามองนาฬิกาของตนที่แสดงเวลา 11.45 PM แต่ทว่าเขาก็ยังไม่เห็นมีวี่แววใครออกมาเลย ตรงเวลาเสียจริงจริ๊ง
เด็กชายเดินเลาะเล่นไปตามชายหาดที่ยามนี้หาดทรายสีขาวและเปลือกหอยต่างๆนาๆสะท้อนกับแสงจันทร์ทำให้เป็นที่ชวนมองยิ่งนักแต่ทว่าเมื่อเด็กชายคิดจะลงไปเล่นน้ำในทะเลซักหน่อยก็ต้องหยุดความคิดแบบทันทีทันใดเมื่อเจ้าจระเข้ตัวเป้งดันมาว่ายแถวชายหาดซะงั้นตัวมันยาวประมาณ 10 เมตรนัยน์ตาสีทองสุกสว่างสะท้อนกับแสงจันทร์ มันกำลังว่ายน้ำเล่นแล้วเขาจะลงไปเล่นน้ำกับมันหรือ
แค่คิดก็ชวนสยอง...
เสียงดัก ‘ปิ๊ด’ดังออกมาจากนาฤิกาของเด็กชายแสดงเท่ากับว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนตรงแล้ว เด็กชายรีบวิ่งแจ้นไปยังเรือที่จอดขนาบกับมหาสมุทรโดยมีามอยักษืปักไว้อย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ เงยหน้ามองเสากระโดงเรือเห็นพี่ชายนั่งแกว่งขาไปมาอย่างไม่นึกกลัวทั้งๆที่มันอยู่ห่างจากพื้นตั้ง
“พี่คร้าบตกลงเอายังไงอ่ะ”พูดยังไม่จบประโยค เจ้าพี่ชายของก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วทันใจแต่ทำให้หัวใจเสียวแปล๊บ
“ฉันไม่ให้แกไปแต่...แกต้องเป็นโจรสลัด เป็นเจ้าแห่งโจรสลัดด้วยพลังของตัวเอง จงยืนหยัดด้วยตัวเอง ไม่ใช่เกาะฉันไปตลอดฉันจะรอแกให้แกฝึกฝนโลเกียลูเกีย อัคคี ของแกซะให้คล่องแล้วตามฉันมาฉันจะทิ้งแพรไม้ไว้ให้ละกัน แล้วแกบอกว่าจะไม่ทำตัวเป็นปัญหาไม่ใช่เรอะนี่แหละไม่มีปัญหาเลย”ประโยคที่พูดแบบไม่หายใจอย่างกับจำมา อินทารัสหยิบมีดขึ้นมาเล่มหนึ่งพลางจ่อไปที่ใต้ตาขวาของตน
เปียโร่มองหน้าพี่ชายน้ำตาคลอเบ้า ในใจคิดว่า จะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดด้วยตัวเอง เป็นโจรสลัดมายากล เก่งเมื่อไหร่จะวิ่งแจ้นไปยึดเรือไอ้พี่บ้าซะให้มันรู้แล้วรู้รอด เท่ไม่ใช่เล่น น้ำตาที่บัดนี้ไหลอาบแก้มเขาจะต้องจากพี่ไปอีกแล้วหรือนี่นึกว่าครั้งนี้จะได้ไปอยู่ด้วยกันแล้ว หน้าเนียนตอนนี้เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา เด็กชายเช็ดน้ำตาไปให้หมดแล้วพูดออกไปเสียงดังลั่นว่า
“คร้าบบบบบบบบ!!! ผมสัญญา”เสียงพูดดังลั่นเกิน 120 เดซิเบลแต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อพี่ชายดับพลังโลเกีย ลูเกีย วายุของเขาแล้วเอามีดกรีดลงไปใต้ตาขวาแล้วพูดว่า “แกสัญญาแล้วนะเปียโร่”
“ไอ้พี่บ้า”สบถด่าเป็นชุดที่เห็นพี่ชายทำตามแบบตน
“แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่งแกต้องเอากีตาร์สุดที่รักของฉันไปและต้องเอาคืนในมือฉันให้ได้”พูดไม่ทันขาดคำเจ้าน้องชายที่ตอนนี้กลับมายิ้มแป้นก็ตอบรับว่า
“ของขวัญสุดยอดประเสริฐสุดๆ”เปียโร่พูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มระคนยินดี ยิ้มแป้นมองหน้าพี่ชายด้วยความอึ้ง ทึ่ง เสียวขณะที่พี่ชายกระโดลงมาจากเสากระโดงเรืออย่างงายดายแล้วเข้าไปในห้องกัปตันที่เขาเข้าไปตอนกลางวันและพร้อมกับ PhoeNix Guitarหรือ กีตาร์เพลิงรัตติกาลออกมาให้เขา
เลือดที่ยังไหลอาบแก้มของตนไหลย้อยลงบนกีตาร์เป็นรูปหัวกะโหลกเขาพึมพำกับตัวเองว่า “จะให้เจ้าเปียโร่มันดีป่าววะเนี่ย”
เด็กชายที่เห็นผู้เป็นพี่เดินออกมาอีกครั้งพร้อมกล่องเหล็กสีดำเป็นมันวาววับที่ภายในคงจะใส่กีตาร์เพลิงรัตติกาลอยู่ภายในข้างกล่องเหล็กสีดำวาวนั้นมีตัวอักษรทองสลักว่า Phoenix Guitar ผู้เป็นพี่โยนกบ่องเหล็กกีต้าร์หนัก 25 ก.ก.ใส่น้องชายที่กำลังยังไม่ถึงทำเอาหล่นทำตัวของเปียโร่ดังปึ้ก
“แล้วเจอกัน”
เสียงถอนสมอเรือดังลั่นพร้อมๆกับที่เรือสำเภาลำยักษ์แล่นออกจากชายฝั่งแห่งเมืองทรีเนียร์ ลูกเรือที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับพูดพร้อมกันว่า ‘บ๊ายบายเปียโร่’ ขณะที่เจ้าของชื่อกำลังยกกีตาร์ขึ้นสุดกำลังแล้วโบกมือลาผู้เป็นพี่อย่างเศร้าใจ...
................................................
“คำสุนทรพจน์ที่ให้ไปพูดกับเปียโร่เป็นไงบ้างใช้ได้ป่าววะ”รองกัปตันบีเดลพูดกับกัปตันอินทารัสอย่างรื่นเริงพลางเช็ดปืนพกสีเงินของตนให้วาววับ
“ใช้ได้”เจ้ากัปตันตัวดียิ้มแป้นพร้อมๆกับหัวเราะซะดังลั่นเรือ
................................................
เป็นไงบ้างคับสนุกป่าวเนี่ย ติชมกันได้เลยนะคร้าบ
ผมหน้าจะแต่งอาทิตย์ละตอนอ่ะ พอดีพิมพ์ช้า 55+
ความคิดเห็น