ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ธี ร์ มี ก า รั น ต์ #ธีร์มีการันต์

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3

    • อัปเดตล่าสุด 10 ม.ค. 64


     

     

    Girl you don’t know, nah

    What you do to me

    When I see that crinkle on your nose

    I wonder if you fluently just do you Like you do so effortlessly

    I want you right next to me

    I want you to be my

    Be my, my

    Dane Amar – Green Tea & Honey ft.Jareena Montemayor

     

    2 ปีผ่านไป

                    “อรุณสวัสดิ์”

                    ร่างสูงของชายวัยยี่สิบปีที่ตอนนี้นอนคว่ำหน้าไปกับเตียงนอน เอ่ยทักต้นเดหลีที่วันนี้พึ่งออกดอกเป็นวันแรก  เขาปรับท่าทางของตัวเองจากการนอนคุยกัน เป็นนั่งกอดเข่าคุยกัน 

                    “ไง” ธีร์ยกมือขึ้นไปสัมผัสที่ลำต้น พร้อมทั้งลูบมันเบาๆ เพื่อบอกกับมัน ว่าเก่งมาก เก่งมากที่พยายามออกดอกมาจนได้

                    “เก่งมากครับ” เขากลายเป็นคนที่รอเก่งขึ้น ธีร์ใช้เวลาในการรอให้ต้นเดหลี ต้นนี้งอกดอกขึ้นมาเขาใช้เวลาไปหลายสัปดาห์เลยทีเดียว แต่ทำไงได้ 

                    เขาทำได้แค่รอ รอ รอไปเรื่อยๆ

     

                    บรรยากาศที่ดีที่สุดในหนึ่งวัน ถ้าเขาเลือกได้ เขาขอเลือกเป็นตอนเช้า มันเป็นเวลาที่เรายังสามารถแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าได้อย่างสบายตา และมีอากาศเย็นๆจากน้ำค้างที่คอยสัมผัสกับผิวหนังเราอยู่ตลอดเวลา 

                    ธีร์เดินไปรอบๆห้องตัวเอง เดินไปเปิดหน้าต่างห้องของตัวเองเพื่อให้อากาศมันถ่ายเทได้สะดวก เขาทำทุกอย่างด้วยความเฉื่อยช้าไปหมด ราวกับว่าหนึ่งวันไม่ได้มีเพียงแค่ยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่จริงๆแล้วสำหรับนักศึกษาแพทย์ปี 2 อย่างเขาโลกมันมันมีเวลามากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ เพราะหลังจากกลับจากมหาลัยเขาต้องมานั่งท่องสิ่งที่เรียนไป พร้อมทำความเข้าใจกับ anatomy ของคนที่มันสุดแสนจะซับซ้อน เขานั่งท่องและทำความเข้าใจมันอยู่หลายชั่วโมงจนลงลืมเวลาไปหมด มาดูเวลาอีกทีก็เป็นตีสองของวันถัดไปแล้ว

     

                    “เออๆ กำลังไป” ธีร์รีบพาร่างของตัวเองที่นั่งแช่อยู่บนเก้าอี้ได้ 10 นาที รีบลุกขึ้นไปอาบน้ำหลังจากเพื่อนที่คณะโทรมาตาม โชคดีที่เขาพักอาศัยอยู่ใกล้กับมหาลัยทำให้ไม่ต้องเสียเวลากับการเดินทางมากหนัก การเดินทางในประเทศกะลาแลนด์นี้เป็นสิ่งที่เปลื้องเวลาชีวิตที่สุดแสดที่มีค่าของเขาที่สุด

     

                    ในตอนเก้าโมงธีร์มีคลาส  gross anatomy ต้องเข้าแล็ป ถึงวิชานี้จะสนุกเพราะเขาได้ฝึก hand skill เตรียมสำหรับการผ่าตัดไว้ในตัวไปเลย แต่บางครั้งมันก็แอบเหนื่อยกาย 

                    “กว่าจะมาได้นะมึง ต้องให้อันเชิญ” แบงค์เพื่อนสนิทของเขา เขารู้จักกับมันเมื่อตอนปี1 มันที่ยืนแคว้งคนเดียวกับเขาที่ยืนแคว้งอยู่เมื่อกัน เลยทำความรู้จักกันตอนนั้น จริงๆกลุ่มเพื่อนของเขามี 3 คน อีกคนคือ เงิน เพื่อนหัวฟ้า เขาที่ใช้ชีวิตช้าๆแล้ว พอมาเจอเงิน ธีร์คนนี้ของยอมแพ้

                    “แล้วไอ้เงิน”

                    “กำลังมา…มันบอกให้เราเข้าไปก่อนเลย”

                    “เคๆ”

     

     

    “เหี้ย อย่างยาก”

    “มึงอะไรบ้างวะ ที่ต้องหล่อเลี้ยง-” 

                    เสียงถกถามกันของนักศึกษาแพทย์ปีที่ 2 ที่ออกมาจากแล็ป หลังจากเรียน gross anatomy เป็นการศึกษาโครงสร้างใหญ่ที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ธีร์และแก๊งเพื่อนเดินออกมาพร้อมกัน พร้อมในที่นี้คือมีเงินด้วย สุดท้ายมันก็มาทันเขากับไอแบงค์ที่รอลุ้นกัน ดีใจยิ่งกว่ามันที่เป็นคนมาทัน คลาสนี้ถ้ามาไม่ทัน คือไม่ทันเพราะอาจารย์ป้าแกจะปิดประตูทันที เพราะแกเคยบอกว่าแค่1 นาทีที่มาสายของเรา ก็เท่ากับ เวลาชีวิตของผู้ป่วย

     

                    “ไปกินข้าวไหนดีพวกมึง” เพื่อนหัวฟ้าเอ่ยถาม

                    “ที่ไหนก็ได้”

                    “งั้นโรงอาหารคณะไหม”

                    “โอเค” 

                    สามหนุ่มเพื่อนซี้ก้าวเท้ายาวๆรีบพากันเดินไปยังโรงอาหาร อยู่ในแล็ปตั้ง 3-4 ชั่วโมง โครตหิวท้องของนายแบงค์ตอนนี้มีน้ำย่อยมารออาหารเต็มไปหมดแล้ว มาถึงโรงอาหารก็ต้องรับมุ่งตรงไปร้านประจำ ร้านอาหารตามสั่งของเจ๊ดา รับรองความอร่อยด้วยพุงเขาที่มีแต่อาหารเจ๊ดา แบงค์ไปกินร้านไหนก็ไม่มีร้านไหนสู้ร้านเจ๊ดาได้ พุงเขามีแต่เจ๊ดาคนเดียว มันจงรักภักดีและซื่อตรง

                    “อ้าวว…เจ้าแบงค์ เหมือนเดิมไหมวันนี้” เจ๊ดาเจ้าของร้านอาหารตามสั่งในคณะส่งเสียงทักทายเด็กหนุ่มที่มักมาซื้ออาหารร้านเธอทานประจำ รักเหมือนลูกเหมือนหลาน เจ้าแบงค์มันน่าเอ็นดู 

                    “ครับเจ๊ รู้ใจผมจริงเลย” นี่อ่ะ เจ๊ดาก็เป็นแบบนี้แล้วไอแบงค์ตนนี้จะทำไงได้ ก็ติดบ่วงจงรักภักดีต่อเจ๊ดาตลอดไป 

                    เมื่อได้อาหารกันครบแล้วก็พากันไปหาที่ จับจองกันคนละเก้าอี้ แบงค์กับธีร์นั่งตัวกัน เงินเพื่อนหัวฟ้าที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม นั่งฝั่งตรงข้าม 

                    ”พวกมึงกินเสร็จมีไปไหนอีกไหม?” เพื่อนหัวฟ้าคนเดิมเอ่ยถาม

                    “สัส แบงค์กินช้าๆ มึงรีบไปไหนข้าวไม่ได้หนีมึงสักหน่อย

                    “คนมันหิวไม่ล่ะ” แบงค์ที่ข้าวเต็มปากหันมาพูดกับเพื่อน ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียว มันพ่นเขาที่กินอยู่ออกมาด้วย 

                    “มึงกินดีๆ ได้ไหมวะแบงค์ กูบอกไม่รู้กี่ครั้งแล้ว เวลากินมึงไม่ต้องพูด มึงเลือกสักอย่างสิว่าระหว่างกินกับพูดมึงจะเลือกอะไร”

                     “....”

                     “ติดคอตายแล้วใครจะรับผิดชอบ แดกข้าวเองแต่เสือกเป็นภาระชาวบ้าน”

                     “...” ธีร์และแบงค์หันหน้ามามองกัน เขาเห็นแบงค์มันรีบๆเคี้ยวให้เสร็จเพื่อที่จะได้เถียงเงินมัน เงินเป็นผู้ชายพูดน้อย พูดเยอะก็คือตอนด่าไอ้แบงค์ ย้ำว่าแค่ตอนด่า

                     “ก็ไอ้ธีร์มันถามกูก็ตอบไง”

                    “แต่มึงต้องเลือกไง ว่าจะทำอะไรกันแน่”

                    “เออ ขอโทษ”

                     “เออๆ”

                    “อย่าโกรธกูเลยนะ กูขอโทษ” 

                    “ไม่ต้องมาทำหน้าหมาอ้อนตีนกับกู”

                    “เงินไม่อ่อนโยน” แบงค์แสร้งทำเสียงสองใส่เพื่อนสนิทของตัวเอง ให้มองเห็นถึงความน่าสงสารของตัวเอง เหมือนตอนนั้นเลย ตอนที่เขาอยู่กับการันต์ รันต์มันชอบบ่นเขาตลอด แต่เขาก็ชอบที่จะฟังมันบ่น

                     “ธีร์”

                     “ไอธีร์

                    “ไอเหี้ยธีร์”

                     “อะไร

                    “ใจลอยไปถึงดาวอังคารแล้วมึง”

                    “มีไร”

                     “กูจะถามว่ามึงจะไปไหนอีกไหม”

                    “ไม่วะ...พวกมึงล่ะ”

                     “กูกับเงินกลับห้อง” ธีร์พยักหน้าตอบเพื่อนอีกสองแทนการพูด เพราะพวกเราสามคนต่างคิดเหมือนกันว่าควรแยกย้ายกัน แยกย้ายกันไปนอน แต่เหมือนจะมีแค่เขาที่แยกย้ายเพราะ เงินกับแบงค์สองคนนี้มันเป็นรูมเมทกัน แอบงงเหมือนกันทำไมพวกมันถึงไม่มามอพร้อมกัน แบงค์มันเป็นคนเร็วๆ ส่วนเงิน ช้าๆ สองคนนี้ชอบมีอะไรที่ตรงข้ามกันตลอดแต่แปลกดีที่มันดูลงตัว 

                    “เจอกัน” ธีร์ใช้เวลากลับมาถึงแค่10นาที แต่มันเป็นอะไรที่นานโขงสำหรับการอยู่ข้างนอกในอากาศที่ร้อนระอุ ธีร์ทิ้งตัวลงกับเตียงนอนสีขาวของเขาได้แค่แปปเดียว ก็ต้องลุกขึ้นไปเปลี่ยนชุดอาบน้ำ แค่10 นาที เหงื่อบวกกับกลิ่นให้ห้องแล็ปอีก 

     

                    18.00 

                    หลังจากอาบน้ำเสร็จ ธีร์ก็พาตัวเองฟุบลงนอนกับเตียงนอนในห้องตัวเอง ดีที่วันนี้มียกคลาสเพราะเขาดันหลับแบบยิ่งยาวไปเลย แต่ก็ต้องตื่นเพราะเสียงกุกกันที่ห้องข้างๆ สงสัยมีคงมีคนย้ายเข้ามา ห้องข้างๆเขาเจ้าห้องเก่าพึ่งปล่อยว่างไปไม่นาน เขาค่อนข้างจะสนิทกับพี่ข้างห้องเพราะสายต้นไม้เหมือนกัน มีอะไรค่อยปรึกษากันตลอด เดหลีที่ออกดอกโตได้ก็ต้องขอบคุณพี่เขาเลย

                    “ไง อีกไม่นานเราจะมีพี่น้องเพิ่มแล้วนะ” ปากพูดไป แต่มือค่อยมั่นเช็ดใบของต้นเดหลีไปด้วย เขาค่อยมั่นเช็ดฝุ่นที่เกาะตามใบของเหล่าต้นไม้ในห้องเขาตลอด ธีร์พึ่งเริ่มเป็นคนชอบต้นไม้มาไม่นานเขาเริ่มศึกษาและจริงจังกับมันเหมือน 2ปี ที่แล้ว ธีร์แค่อยากลอง อยากลองดูแลอะไรสักอย่างให้ได้ เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนเขาจะดูแลอะไรไม่เคยได้สักอย่าง 

                    ธีร์พาตัวเองมานั่งที่เก้าอี้ บริเวณระเบียงห้อง มีแก้วช้าที่พึ่งชงใหม่ถือออกมาด้วย จิบช้าไปค่อยมองต้นไม้ที่ตัวเองปลูก ตรงนี้เขาปลูกต้นพลูด่างไว้ พลูด่างเป็นพืชที่เลี้ยงง่าย ต้นแรกที่เขาเริ่มปลูกก็คือ พลูด่าง เขานั่งมองมันพร้อมทั้งจิตใจที่มันฟุ้งซ่าน จุดนี้เหมือนที่สำหรับปล่อยความคิดของตัวเอง ธีร์คิดไปถึงตอนนั้น วันสุดท้ายตอนกลับมากจากค่ายนศท เขาได้รับซองจดหมายฉบับนั้นจากแม่ แม่บอกการันต์เอามาให้แล้วก็รีบๆออกไป เขาเสียใจที่มันไปทั้งแบบนั้น ไม่บอกล่าวอะไรกับเขาเลย เขาที่เป็นเพื่อนสนิทของมัน เอาจริงเขาก็แอบโกรธมันด้วยซ้ำ เขาไม่สามารถติดต่อมันได้เลย เฟซบุ้คที่มันใช้ก็เหมือนถูกปล่อยร่างแบบนั้น พอการันต์หายไปจากโลกเขา เหมือนอะไรบางอย่างในชีวิตเขาหายไป เหมือนเรากินโอวัลตินที่ขาดนมไป

                    “ถ้าเจอกันอีกครั้ง..ก็คงดี”

                    “มึงหายไปไหนวะรันต์”

                    เป็นอีกหนึ่งวันที่ในหัวของเขามีแต่เรื่องการันต์เต็มไปหมด เขาใช้เวลาในการเลิกฟุ้งซ่านไปนานพอสมควร แต่ก็คิดได้ไม่นานท้องเขามันก็ส่งเสียงให้ต้องออกไปหาอะไรมาเติมได้แล้ว 

     

                    ชายหนุ่มวัยยี่สิบปี สวมใส่กางเกงช้างสีแดงกับเสื้อยืดธรรมดา มือถือกระเป๋าตังและถึงขยะที่จะนำไปทิ้ง แต่สายตาก็ไปสะดุดกับโน๊ตที่แปะอยู่หน้าห้องของตัวเอง   (จากห้องข้างๆครับ ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าเสียงดังไป พอดีผมพึ่งย้ายมาใหม่ อาจจะมีเสียงดังรบกวน) ที่เขาคิดไว้จริงด้วยแหะ ธีร์ไม่รีรอเขารีบเข้าไปในห้องอีกรอบ เดินไปหยิบปากกาเพื่อตอบโน๊ตที่แปะอยู่ที่หน้าห้อง

     “ไม่เป็นไรครับ” ธีร์รีบเดินออกไปหาอะไรกินเพราะท้องเขาตอนนี้มันกำลังส่งเสียงตอนสู้กัน 

     

     

    07.00 

                    ถ้าเราทำอะไรติดต่อกัน21วัน มันจะติดเป็นนิสัย เหมือนธีร์ตอนนี้ที่ถึงแม้นจะนอนดึกแค่ไหน กลไลของร่างกายที่หลับอยู่ก็จะทำงานทันทีเมื่อถึงเวลาเจ็ดโมงเช้า ธีร์ชินกับเวลาที่ต้องตื่นไปโรงเรียน กิจวัตรประจำวันตอนตื่นเช้า คือการดูแลเหล่าต้นไม้ในห้อง รดน้ำ ใส่ปุ๋ย บางต้นรดน้ำ 2-3 วันรดครั้ง แต่บางต้นก็ต้องรดทุกวัน นอกจากที่ต้องนั่งจำ anatomy เขาต้องมานั่งจำตารางการรดไม้ หลังจากรดน้ำต้นไม้เสร็จก็ ดื่มชา เขาไม่ดื่มกาแฟ ไม่ชอบมันด้วยซ้ำ มันขมเกินไปสำหรับเขา มุมเดิมที่เดิมแต่ก็นั่งได้แค่ครู่เดียว เพราะแสงแดดที่แรงเกินไป วันนี้ไม่มีเรียน แต่มีอ่านหนังสือ เขาต้องนั่งทำความเข้าใจระบบการทำงานของร่างกายให้บรรลุ

     

                “เอ่อ Coronary groovesหรือร่อง atrioventricular grooveเป็นร่องที่อยู่ระหว่างหัวใจห้องบน หัวใจห้องบน และหัวใจห้องล่างร่องนี้จะเป็นที่วางตัวของแอ่งเลือดโคโรนารีทางพื้นผิวด้านหลังของหัวใจ หัวใจห้องล่าง-” หนังสือชีววิทยากองรวมเต็มโต๊ะ หนังสือที่เด็กสายวิทย์ทุกคนต้องมี เล่มปลาหมึกที่ช่วยชีวิตของของเขาไว้ ถูกขีดเขียนโน๊ตเต็มไปหมด

                    “นึกสิธีร์ อย่าจำมัน” มือสองข้างลูบหัวตัวเอง ลูบจนกว่าจะนึกออกเขาเลือกใช้วิธีการทำความเข้าใจมากกว่าการจำไม่งั้น เขาจะไม่เข้าใจสน

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก 

                    เสียงจากประตูห้องทำให้ชายหนุ่มต้องละจากกองหนังสือ รีบสาวเท้าเดินมาเปิดประตูด้วยความสงสัยเพราะโดยปกติจะไม่มีใครมา นอกจากพี่ข้างห้อง แต่พี่เขาก็ย้ายไปแล้ว เขารีบเปิดประตู แต่ก็ต้องชะงักเพราะคนที่ยืนอยู่หลังประตูคือคนที่หายไปเกือบสองปี

                    “ร..รันต์”

     

     

    #ธีร์มีการันต์

    สวัสดีค่ะ หายไปนานเลย สัญญาว่ารอบนี้จะแต่งให้จบแบบจริงๆ ช่วงนี้เราฟุ้งซ่านเลยหากิจกรรมทำ เมื่อปี่ที่แล้วเราไม่ได้ฟุ้งซ้านขนาดนี้ ตอนนี้ความคิดในหัวตีกันเยอะมาก  ติดชมได้เหมือนเดิมเลยนะคะ 

    แฮปปี้นิวเยียนะคะทุกคน

                    

                    

                    

                

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×