คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1
ห่างแค่เพียงเอื้อมมือแต่มันคือแสนไกล
ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท
ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป
เพื่อนสนิท-ดา เอ็นโดรฟิน
“…”
“ไอ้รันต์”
“…”
“ไอ้เหี้ยรันต์โว้ยยย!”
“เหี้ยไรของมึงเนี๊ยบ! จะตะโกนใส่หูกูทำไม?”
“ก็กูเรียกมึงหลายครั้งแล้ว มึงไม่หันมา”
“อืม…แล้วมึงมีไร”
“อ่อ..คือกูจะถามว่ามึงรู้ไหมว่ะ? ใครมันมาเอาขนมมาตั้งให้กู”
“กูจะไปรู้ได้ไง”
“ก็คิดว่ามึงจะรู้ไง มึงมาโรงเรียนเร็วสุดแล้วในห้องเราอ่ะ”
“กูไม่รู้ แล้วกูไม่ได้ว่างมานั่งดูให้มึงอยู่”
“เออๆ เย็นชาจังว่ะมึง”
การันต์ขยับแว่นตากลมของตัวเอง เสหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง ทำเหมือนไม่สนใจคำพูดของเพื่อนสนิทตัวเอง แต่ธีร์มันก็ไม่เคยรู้หรอกว่า
การันต์เพื่อนสนิทมันคนนี้นะสนใจทุกคำที่มันพูด สนใจเรื่องของมันทุกเรื่อง
การันต์รู้ว่านายธีรภัทรไม่ค่อยได้กินข้าวเช้าเพราะมันชอบตื่นสาย เขาเลยต้องลงทุนต้องมาโรงเรียนๆเช้า เพื่อซื้อขนมให้มันกินรองท้องไว้ เขาทำมาแบบนี้มาตลอด1 ปี แล้วเขาก็จะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะตื่นมาโรงเรียนเช้าๆ
“มึง”
“….”
“ไอ้รันต์ หลับเหรอว่ะ” ธีร์หันไปสะกิดเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ ฟุบหน้าหลับลงไปราบกับโต๊ะ ธีร์ไม่เคยเข้าใจเพื่อนสนิทของตัวเองทั้งๆที่บ้านมันอยู่ใกล้ๆโรงเรียนแท้ๆ แต่มันแม่งมาโรงเรียนเช้าทุกวัน หรือจริงๆไอ้รันต์มันเป็นยามของโรงเรียนว่ะ แต่คงไม่ใช่หรอกมั้ง
“ไอ้รันต์..ตื่นก่อนได้ไหม?”
“….”
“กูมีเรื่องจะคุยด้วย”
“ว่ามา กูฟังอยู่”
“มึงฟังกูนะ”
“เออๆ…เล่ามาสักที”
“คือกูว่าจะจีบของขวัญ”
“ของขวัญห้องศิลป์อ่ะนะ”
“ใช่ๆ”
“อืม เอาสิ”
“มึงต้องช่วยกูนะ” การันต์หันหน้ามาหาเพื่อนสนิทของตัวเอง ยิ้มและพยักหน้าให้เพื่อเป็นคำตอบ
“ขอบคุณไอ้เพื่อนสนิท”
“อืม เพื่อนสนิท”การันต์รู้สึกแย่กับการที่เขาบอกอีกฝ่ายไปว่า เขาเป็นเพื่อนสนิท ทั้งๆที่เขาไม่ได้คิดกับธีร์แค่เพื่อน เขารู้สึกแย่กับตัวเองมาตลอด รู้สึกแย่ตั้งแต่ที่เขารู้ว่าความรู้สึกของตัวเองที่มีให้ธีร์มันมากกว่าที่เพื่อน เขาไม่ชอบที่ตัวทรยศความเป็นเพื่อนของอีกฝ่าย ทั้งๆที่ธีร์มันไว้ใจให้เขาอยู่ในสถานะเพื่อนแท้ๆ เขาก็ควรเป็นเพื่อนที่ดีให้ธีร์สิ
การันต์นายมันห่วยสิ้นดี แค่เป็นเพื่อนให้ธีร์ยังทำไม่ได้ นายมันไร้ความผิดชอบ!
.....................................................
12.00 น.
เวลาสิบสองนาฬิกา เป็นเวลาพักเที่ยงของนักเรียนมอปลาย โรงเรียนประจำอำเภอแห่งนี้จะแบ่งเวลาพักเที่ยงเป็นสองช่วงคือสำหรับมอต้นและสำหรับพี่ๆมอปลายถึงจะเป็นโรงเรียนประจำอำเภอแต่ก็ไม่ได้มีโรงอาหารที่สามารถจุนักเรียนสายชั้นได้ แต่ถึงโรงอาหารจะไม่ได้ใหญ่แต่ร้านขายอาหารก็มีเพียงพอสำหรับนักเรียนทั้งหมด
“รันต์วันนี้กินข้าวเที่ยงไรดี”
“วันนี้กูว่าจะกินข้าวมันไก่ มึงอ่ะกินไร”
“กินเหมือนมึงเลย…กูฝากซื้อข้าวด้วยเดี๋ยวไปซื้อน้ำมาให้ เอาน้ำเหมือนส้มเหมือนเดิมนะ” การันต์พยักหน้าตอบเพื่อนสนิทของตัวเอง มองร่างสูงของเพื่อนสนิท ที่สูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเอ็ดเดินห่างออกไป อ่า เขาก็นึกสงสัยว่าทำไมวันนี้มันถึงจะไปซื้อน้ำให้ ทั้งๆที่ปกติมักจะไปซื้อพร้อมกันตลอด
“มันร้ายไม่เบาเลยนะ”
“ห่ะ…ใคร”
“ก็ไอ้ธีร์ไง นู้นมึงดู” การันต์หันไปมองตามทิศทางที่เพื่อนห้องเดียวกันชี้บอกเขา เขาเห็นนายธีรภัทรยืนคุยกับพูดเธอคนนั้น มันพูดคุยกับเธอคนนั้นราวกับรู้จักเธอมาตั้งนานแล้ว ไหงตอนมาบอกเขามันบอกจะเริ่มจีบ
“เห็นมันคุยกับเขาได้สองสามเดือนแล้วนะ” เป็นเพื่อนคนเดิมที่บอกเขา
“อืม น่าจะ”
“อ้าว..นี่มึงยังไม่รู้อีกเหรอ”
“อืม พึ่งรู้เพราะมึง”
“พวกมึงเป็นเพื่อนสนิทกันจริงๆป่ะเนี๊ยบ!”
“นั่นสิ”
เพื่อนสนิทกันจริงป่ะว่ะ
“เดี๋ยวกูมา ฝากบอกไอ้ธีร์มันด้วยว่ากินไปเลยไม่ต้องรอ”
“อ่า โอเคเข้าใจ ไปเถอะ”
“ขอบใจมึงมากไอ้เท็น”
“ไอ้เท็น ไอ้รันต์ไปไหนว่ะ”
“อ่อ ข้าศึกบุกนะ มันฝากบอกมาว่าให้มึงกินข้าวไปก่อนเลยไปต้องรอ”
“เคๆ”
“ไอ้ธีร์”
“ว่า”
“มึงกับของขวัญ” เท็นยกนิ้วชี้สองข้างมาซี้กันเพื่อบอกถึงถึงสถานะของพวกมันสองคน
“เหี้ยไรของมึง อย่าไปทำให้ใครเห็นล่ะ แล้วกูกับขวัญคุยๆกันอยู่”
“เหมือนไอ้รันต์มันจะยังไม่รู้”
“อืม กูพึ่งบอกมันวันนี้”
“เป็นกูเสียใจแย่ เรื่องเพื่อนสนิทตัวเอง”
“ไอ้รันต์มันไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”
“มึงแน่ใจนะ”
“เออๆ”
“ก็ดี งั้นน้ำไอรันต์กูขอนะ”
“เอาตังค์มา”
“งกชิบหายกับเพื่อนแค่นี้เอง”
“กูหมดไปเท่าไรแล้ว กับคำว่าเพื่อนแค่นี้เอง”
“ห้าบาทพอได้ไหม?”
“เออๆ ช่วงโปรโมชั่นลดห้าสิบเปอร์เซ็น”
“ขอบพระคุณยิ่งครับ”
“อ่ะ…เอาไป”
อีกฟากหนึ่งของอาคารมีร่างของเด็กผู้ชายใส่แว่นที่สูงร้อยเจ็ดสิบห้าปรากฏอยู่ การันต์กำลังพยายามจัดการกับความรู้สึกแย่ๆของตัวเอง ถ้าตอนนี้เขายังนั่งกินข้าวอยู่คงมีหวังแสดงสีหน้าแย่ๆให้เพื่อนสนิทตัวเองเห็นแน่ๆ
ความรู้สึกของเขา เขาก็จะจัดการกับมันเอง
ในตอนนั้นแรงสั่นของมือถือในกระเป๋ากางเกงนักเรียนของการันต์ ช่วยเรียกสติการันต์ไว้ แล้วมันก็ปรากฏเป็นเบอร์ของคนที่เขากลัวจะแสดงสีหน้าแย่ๆให้ เขาไม่ลังเลที่จะไม่รับมัน เอาจริงๆเขาก็ไม่เคยที่จะปฎิเสธเพื่อนสนิทของตัวเองได้เลย ถึงแม้ตอนนั้นเขาขะรู้สึกแย่แค่ไแต่ธีร์มันก็ไม่ได้ทำอะไรผิด อย่างที่เขาบอก ความรู้สึกของเขา เขาก็จะจัดการกับมันเอง
(ว่าไง)
(มึงโอเคไหม?)
(อืม โอเคสิ ข้าศึกบุกนิดหน่อยนะ ฮ่าๆ) ไม่ กูไม่โอเคเลย
(งั้นก็ดีแล้ว ให้กูรอกินข้าวพร้อมมึงไหม?)
(ไม่ๆ มึงกินไปเลย ไม่ต้องรอกู)
(โอเค)
(อืม งั้นวางแล้วนะ)
(เดี๋ยวสิ)
(ว..ว่า)
(ไอ้เท็นมันบอกว่า มึงรู้แล้วที่กูคุยกับขวัญได้สองสามเดือนแล้ว ขอโทษที่กูไม่ได้บอกมึง) อืม นั่นสิ ทำไมมึงไม่บอกกูนะ หรือจริงๆแล้วเราไม่ได้สนิทกัน
(ฮ่าๆ แค่นี้เองไม่เป็นหรอก มันเป็นเรื่องของมึงนิ กูเป็นแค่เพื่อน) กูก็แค่เพื่อน
(ไม่โกรธกูจริงๆนะ) โกรธได้ด้วยเหรอ? ไม่ดีกว่าถ้ากูโกรธมึง กูก็มารู้สึกแย่เอง
(กูโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ)
(งั้นก็โอเค รีบๆมาล่ะ)
(อืม วางแล้วนะ)
.......................................................
16.00 น.
“อาทิตย์หน้า อย่าลืมพาปอดหมูมาด้วย เดี๋ยวครูไปโพสต์แจ้งในกลุ่มอีกที แล้วเนื้อหาวันนี้อย่าลืมไปทบทวนด้วย สงสัยอะไรเก็บไว้มาถามในคาบ”
“ครับ/ค่ะ”
“ยกเก้าอี้ขึ้นให้เรียบร้อย”
“นักเรียนทั้งหมดนั่งตรง ทำความเคารพ”
“ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ” ประชากรในห้องมอห้าทับหนึ่งรีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋า พาตัวเองออกจากห้องชีวะ เพื่อกลับบ้าน
สองร่างของเพื่อนสนิทที่ส่วนสูงต่างกันเดินเคียงกันออกไป คนหนึ่งสูงร้อยแปดสิบเอ็ดส่วนอีกคนก็ร้อยเจ็ดสิบห้า ธีร์กับการันต์มักจะเดินกลับบ้านด้วยกันเสมอ ธีร์จะเดินไปส่งเพื่อนสนิทก่อนจะกลับบ้านของตัวเอง แต่เห็นทีวันนี้การันต์คงต้องเดินกลับบ้านคนเดียว
“มึงวันนี้กูไม่ได้ไปส่งที่บ้านนะ”
“กลับพร้อมขวัญเหรอ”
“อืม”
“อ่า งั้นแยกกันตรงนี้นะ ไม่อยากอยู่เป็นก้างนะ”
“ค่อยแยกกันหน้าโรงเรียนก็ได้”
“เดินไปเลย กูเดินออกไปคนเดียวได้”
“งั้นกูไปแล้วนะ”
“อืม บายกลับดีๆ”
“มึงด้วย” เป็นอีกครั้งของวัน ที่เขาต้องมองร่างของเพื่อนสนิทที่ค่อยๆเดินไปหาใครอีกคน แล้วเป็นอีกครั้งที่เพื่อนคนเดิมที่โรงอาหารทักเขา
“เดินกลับด้วยกันไหม?”
“ไม่เป็นไร กูไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้”
“อืม กลับดีๆ”
18.00 น.
“รันต์ลงมากินข้าวได้แล้วลูก”
“ครับแม่” บ้านของการันต์เป็นบ้านไม้สองชั้น มันเป็นบ้านพักครูที่เขาอาศัยอยู่มาตั้งแต่ขึ้นมอหนึ่ง สมาชิกในครอบครัวมีแค่การันต์กับแม่สองคน พ่อเขาเสียไปเมื่อสองปีที่แล้ว เสียตอนปฏิบัติหน้าที่นะ ช่วงแรกก็ยากที่จะทำใจได้ แต่โชคดีที่เขามีแม่เป็นผู้หญิงแกร่ง แม่ไม่เคยร้องไห้สักครั้ง หรือบางทีเขาอาจจะไม่เห็นเอง แต่เขาก็รับรู้ว่าทำไมแม่ถึงไม่อยากร้องไห้ตอนมีเขา แม่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับการันต์ และเขาก็สัญญากับตัวเองไว้ว่าเขาจะไม่ดื้อไม่ซนไม่ทำให้แม่ต้องเสียใจ
“วันนี้มีแกงจืดด้วย แม่รู้ได้ไงว่ารันต์อยากกิน”
“ก็แม่เป็นแม่รันต์ไง”
“รันต์รักแม่นะครับ” รันต์เข้าไปกอดหอมแม่ตัวเองแทนคำขอบคุณที่ทำของโปรดให้เขาทาน
“รันต์”
“ครับ”
“เรื่องที่แม่จะย้ายนะ ผ่านแล้วนะ”
“ครับ แล้วเราจะย้ายตอนไหนครับ?”
“จบเทอมนี้ หรือรันต์ว่าควรรอให้ลูกจบมอหกก่อน”
“ย้ายเลยครับแม่ แม่กับรันต์รอมาตั้งนาน”
“อืม แล้วเรื่องเพื่อนลูกล่ะ แม่กลัวว่าพอย้ายแล้วลูกจะหาเพื่อนยาก”
“แม่ก็รู้ ว่ารันต์เข้ากับคนเก่งจะตายไป”
“แม่รู้ว่าลูกของแม่นะ น่ารักขนาดไหน” หญิงสาววัยกลางคนเอื้อมมือมาหวังจะหยิกแก้มของลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ แต่ก็ผิดคาดที่ลูกชายของเธอหลบได้
“เดี๋ยวรันต์ล้างจานเองนะ”
“ขึ้นห้องไปทำการบ้านเถอะ เดี๋ยวแม่ทำเอง”
“ครับ งั้นรันต์ไปก่อนนะ รันต์รักแม่นะครับ”
“แม่ก็รักเหมือนกันครับ” ตั้งแต่ที่พ่อการันต์เสียไป ทำให้เขาคิดได้ว่าเขาไม่อยากเสียใจทีหลังอีกแล้ว ตอนมีพ่อเขาไม่เคยบอกรักพ่อเลยเขาเสียใจจนมาถึงทุกวันนี้ที่ตอนนั้นไม่ยอมพูดมันออกไป ถ้าการันต์รู้ก่อนหน้านี้ เขาจะพล่ำบอกรักพ่อกับแม่ทุกครั้งที่เจอหน้าจะเขาไปกอดไปหอมท่านทุกครั้ง
....................................................
21.30 น.
การันต์ใช้เวลาในการทำการบ้านแค่หนึ่งชั่วโมงอีกหนึ่งชั่วโมงกว่าๆเขาใช้เวลาไตร่ตรองกับตัวเองว่าเขาจะพิมพ์ไปบอกเพื่อนสนิทเรื่องที่เขาจะต้องย้ายโรงเรียนยังไงดี ร่างเล็กของเด็กผู้ชายวัยสิบเจ็ดปี นั่งกอดเข่าตัวเองบนเก้าอี้พร้อมทั้งกัดเล็บตัวเอง เขากลายเป็นเด็กที่เวลาไม่มั่นใจก็จะกัดเล็บตัวเอง มันกลายเป็นนิสัยเขาไปแล้ว
T : มึง
karan : ว่า
T : กูว่ากูชอบขวัญจริงๆ แล้วว่ะ
karan : อ่า แล้ว
T : มึงจะหลับแล้วเหรอ ?
karan : อืม ใกล้จะนอนแล้ว
T : เออ
T : งั้นไม่เป็นไร
T : ฝันดี ไปนอนเถอะ
karan : อืม ฝันดี
การันต์ทำตัวเป็นเพื่อนสนิทที่แย่อีกแล้ว เรื่องแบบนี้เขาควรอยู่ข้างๆคอยให้ธีร์มันปรึกษาสิ
เป็นเพื่อนสนิทที่แย่อีกแล้วนะนายการันต์
แต่การันต์คิดว่าดีแล้ว เป็นแบบนี้ดีแล้ว ถ้าเรื่องนี้เขาคิดว่าให้คำปรึกษาไม่ได้ก็ไม่ควรไปตอบปากรับธีร์มันอีก ส่วนเรื่องที่เขาจะย้ายโรงเรียนคงต้องพับเก็บไว้ก่อน ตอนมีเวลานะถ้ามีเวลาเขาจะบอกว่าเพื่อนสนิทคนนี้จะไม่อยู่แล้ว
ธีร์ที่ไม่มีการันต์นะ ยังไงมันก็อ่านว่าธีได้ มันเหมือนเดิม
แค่ไม่มีเขาคนหนึ่งธีร์มันก็มีเพื่อนคนอื่นได้
#ธีร์มีการันต์
ฝากด้วยนะคะ เรื่องแรกของเรา
ฟิลกู๊ดแน่นอนนะคะ
คอมเม้นติชมได้ตามสบายเลยนะคะ
ความคิดเห็น