คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ⁽ 08 ⁾
( 08 )
2x18 - The Last Dance
ตลอดสองสามวันที่ผ่านมาโรซาเบลล่าไม่ได้คุยหรือออกไปพบกับใครเลยแม้แต่คนในครอบครัวเอง เธออยู่ห่างดราม่าและเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างๆให้มากที่สุดแน่นอนว่าเธอยังคงได้รับข้อความ การโทรหาจากคนอื่นๆและสเตฟานที่คอยอัพเดทความเป็นไปของละครเหนือธรรมชาติ
พ่อมดสองคนของเอไลจาห์ตาย แคทเธอรีนออกจากสุสานและโดนเคลาส์จับไป แม่แท้ๆของเอเลน่าเผาตัวเองต่อหน้าเธอ เจนน่าออกจากบ้าน โจนาสพยายามฆ่าทุกคนในร้านกิลล์ แมทรู้เรื่องแวมไพร์ของแคโรไลน์และบลาๆ
เบลล่ายังคงรู้สึกได้ถึงความโกรธและถูกทรยศผ่านเส้นเลือดแต่จางลงมากแต่ที่เธอขังตัวเองอยู่ในห้องเพราะกลัวว่าจะเผาบ้านไหม้สักวันหนึ่ง ดูจากคืนที่เธอเกือบเผาป่าพลังของเธอก็ดูรุนแรงถ้าควบคุมมันไม่ได้ จากวันนั้นที่ได้เบาะแสว่าพลังของเธอเกี่ยวข้องกับไฟเธอก็เริ่มหาทางควบคุมและศึกษาสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกัน
แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเธอยังคงจุดไฟโดยตั้งใจไม่ได้มากนักแต่เธอพบว่าสัตว์วิเศษที่เกี่ยวข้องกับไฟมีหลายชนิดด้วยกัน ฟินิกซ์ มังกร ไฟร์เบิร์ดและอื่นๆและเบลล่าได้เดาว่าตัวเองเป็นอะไรไปในทุกวัน
เบลล่าเดินเข้าไปในห้องเรียนหลังจากหยุดไปสองวันและเห็นเอเลน่าถือใบโชว์งานเต้นรำยุค 60 ทำให้เบลล่ายิ้มน้อยๆ สเตฟานส่ายหัวและเอเลน่าก็หันหาบอนนี่ที่ยิ้มๆทำให้สเตฟานกรอกตาและเบลล่าก็ตัดสินใจปรากฎตัวนั่งข้างสเตฟาน เขาหันมองเธอด้วยรอยยิ้ม "เธอกลับมาแล้ว" เขาพูดเบาๆและเบลล่าก็ขยิบตาพยายามลืมเรื่องของเอไลจาห์ออกจากหัว
นัยตาสีฟ้าของเธอเห็นอลาริคเดินเข้ามาและความรู้สึกแปลกๆในท้องก็เกิดขึ้นอีกครั้งทำให้เธอขมวดคิ้วเพราะมันเหมือนกันกับวันที่เอไลจาห์โดนกริชแทง เธอยังคงไม่ให้อภัยพวกเขาเต็มร้อยแต่เธอจะละมันไปเพราะตอนนี้เคลาส์ที่กำลังพยายามเสียสละน้องสาวของเธอดูสำคัญกว่ามาก "สวัสดีนักเรียน วันนี้...เราเรียนอะไรกัน"
เบลล่าขมวดคิ้วกับพฤติกรรมแปลกๆของอลาริค อย่าไว้ใจเขา เสียงในหัวของเธอดังขึ้นและเบลล่าก็เลือกเก็บมันเอาไว้เพราะเซนส์เธอไม่เคยผิดพลาด "งานเต้นรำย้อนยุคคืนนี้ตลอดอาทิตย์จะอบอวลด้วยยุค 60 ค่ะ" นักเรียนคนหนึ่งบอกกับครูสอนประวัติศาสตร์ที่ดูแปลกไปในวันนี้ของพวกเขา
"ใช่ ยุค 60" นัยตาสีฟ้าของเบลล่าสังเกตเห็นนัยตาของอลาริคจ้องมองเอเลน่าและเบลล่าก็ขมวดคิ้วกับการกระทำแปลกๆของเขา "อืม..ยุค 60 ครูหวังว่ามันคงมีอะไรดีๆให้ได้เล่าบ้างนะ แต่...มีแต่เรื่องที่ไม่ค่อยจะดีนักน่ะ ยกเว้นวงสี่เต่าทองที่พอจะดีหน่อย แล้วมีอะไรอีกล่ะเรื่องขีปนาวุธคิวบา มนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ เรื่องวอร์เทอร์เกท"
"เรื่องนั้นอยู่ยุค 70 ค่ะริค..ฉันหมายถึงครูซอลท์แมนน่ะค่ะ" เอเลน่ารีบแก้ทันที่รู้ว่าเรียกชื่อครูผิดจากคนอื่น "ใช่ มันก็ปนๆกันไปนั่นแหละช่วงปี 60 กับ 70 ขอบใจนะ เอเลน่า" เบลล่าสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นแปลกๆจากอลาริคและเสียงกระซิบในหัวของเธอเรื่อยๆที่บอกว่าอย่าไว้ใจเขาและโดยไม่รู้ตัวเมื่อก้มหน้าลงมองโต๊ะดวงตาสีฟ้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีส้มเพลิงชั่วครู่โดยไม่รู้ตัว
—
เบลล่ารวมตัวกับแก๊งคนอื่นๆในห้องนั่งเล่นบ้านซัลวาทอร์ด้วยความกังวลเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเคลาส์สะกดเพื่อนร่วมชั้นของเธอคนหนึ่งให้ชวนเอเลน่าไปเต้นรำคืนนี้ "งั้นเราจะไปงานเต้นรำหาเขาให้พบ" เดม่อนพูดและเบลล่าก็กรอกตาด้วยความรำคาญ "จริงหรอแล้วเราจะทำยังไงล่ะเราไม่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง" สเตฟานถาม
"บางอย่างบอกฉันว่าเขาไม่ได้อายุ 16แล้วก็มีสิว" นัยตาสีฟ้าจ้องมองการโต้เถียงเงียบๆ "เขาอาจอยู่ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้เขาอาจสะกดใครที่โรงเรียนไว้ก็ได้ นี่มันไม่ปลอดภัยอย่างที่พวกนายคิดไว้แล้วใช่มั้ย" การพูดคุยเล็กๆดังขึ้นด้วยเสียงเคาะประตูจากอลาริคที่เดินเข้ามา "นายมาแล้ว"
เบลล่ามองไปที่เขาและความรู้สึกในท้องของเธอก็ดูจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ "ขอโทษที่มาช้า" เขาบอก "ฉันจะไปร่วมงานเต้นรำในคืนนี้ฐานะพี่เลี้ยง เคลาส์เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว" เดม่อนบอกกับอลาริคและเบลล่าก็ขยับเข้าไปใกล้สเตฟานเล็กน้อยเพื่อแสวงหาความสบายใจที่มีอยู่ในตอนนี้อันน้อยนิด
"เอาล่ะ พอเราหาเขาพบแล้วจะทำยังไงต่อมีแผนโจมตียังไงล่ะ" เอเลน่าถามพวกเขา "ฉันไง" บอนนี่บอกและเบลล่าก็หันไปสนใจเธอ "ฉันนี่แหละแผนเขาไม่มีทางรู้หรอกว่าฉันใช้พลังได้มากขนาดไหน ถ้าเขาหาฉันเจอ ฉันก็ฆ่าเขาได้" บอนนี่อธิบายเสริมและเบลล่าก็เม้มริมฝีปากด้วยความประหม่า
"มันคงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก เขาเป็นแวมไพร์ที่ยิ่งใหญ่และร้ายกาจที่สุดนะ" อลาริคพูดและเบลล่าก็แอบคิดไม่ได้ว่าเขาอาจจะยังมีด้านดีหลงเหลือจากเรื่องเล่าของเอไลจาห์ "อลาริคพูดถูก ถ้าหากเขา..." เดม่อนพูดและพยายามใช้ความเร็วแวมไพร์ของเขาวิ่งไปหาบอนนี่แต่เธอก็ยกมือขึ้นและส่งเขาออกไป
เบลล่ายิ้มเยาะ "อืม น่าประทับใจมาก" สเตฟานพูดและเบลล่าก็หัวเราะคิกคัก "ไม่สำคัญหรอกว่าเขาเป็นพวกดั้งเดิมหรือเปล่าฉันคว่ำใครก็ได้ที่เข้ามาทำร้ายฉัน ฉันฆ่าเขาได้ เอเลน่า ฉันรู้ว่าฉันทำได้" บอนนี่พูดและเบลล่าก็ถอนหายใจเล็กน้อย
"คืนนี้เธอเป็นเดทของฉันเบลล่าน้อย" เดม่อนพูดและเบลล่าก็หันไปหาเขาด้วยความไม่พอใจ "แล้วทำไมฉันต้องเป็นเดทของนาย" เธอถามด้วยความเย้ยหยันและยังโกรธเขาจากเรื่องเอไลจาห์ "เพราะถ้าเธอไม่ฉันจะหักแขนเธอเป็นชิ้นๆ" เขาพูดด้วยความคุกคามและเบลล่าก็ก้าวเข้าไปใกล้เขาเล็กน้อย
"อืม ไม่แน่หรอกนะฉันอาจจะเผานายด้วยไฟนรกก่อนก็ได้" เธอพูดด้วยรอยยิ้มประชดประชันและวินาทีต่อมาเขาก็พยายามวิ่งเข้าหาเธอด้วยความเร็วแวมไพร์แต่แล้วเธอก็ทำสิ่งที่ตนเองคาดไม่ถึง
เธอใช้ความเร็วแวมไพร์ตรึงเขาเข้ากับกำแพง "ทำมันอีกทีฉันจะเผาแขนนายให้เกรียม" ดวงตาสีฟ้าของเธอส่องประกายสีส้มเพลิงจางๆออกมาก่อนจะหายไปและเธอก็ยิ้มเยาะ เบลล่าเอามืออกจากเขาและเดินออกไปทางหน้าบ้านพร้อมกับระลึกถึงความทรงจำเมื่อกี้ "ตราบเท่าที่เธอยังใส่สร้อยเส้นนี้เธอจะสามารถใช้ความสามารถของคุณได้หากเกิดอันตราย" เสียงของแม่มดในวันที่เธอโดนลบความทรงจำดังเข้ามาและเบลล่าก็ยิ้มกว้าง "ขอบคุณค่ะเอไลจาห์"
—
เบลล่าเดินเข้าไปพร้อมกับสเตฟาน เอเลน่า บอนนี่ เจเรมี่และเดม่อนในงานเต้นรำธีมยุค 60 สเตฟานและคนอื่นๆมีคำถามเกี่ยวกับความเร็วที่เธอใช้ในช่วงบ่ายและเบลล่าก็ตอบเพียงเธอไม่รู้ "คืนนี้เรามีเสียงเรียกร้องเป็นพิเศษการแสดงนี้สำหรับเอเลน่า จากเคลาส์" ดาน่าพูดและเบลล่าก็มองไปที่น้องสาวบุญธรรมด้วยความกังวล
"นั่นเป็นวิธีห่วยสิ้นดีเขาแค่พยายามหลอกล่อพวกเรา" เดม่อนพูดและเบลล่าก็กลืนน้ำลายอย่างประหม่า "ฉันรู้จักทุกคนที่นี่" เอเลน่าพูดพลางมองไปรอบๆ "เขาอาจไม่ได้อยู่ที่นี่ก็ได้เขาแค่อยากให้เราเชื่อว่าเขาอยู่ที่นี่" สเตฟานปลอบประโลมขณะที่มือของเบลล่ารู้สึกร้อนขึ้นเล็กน้อย "นี่งานปาร์ตี้นะพวกสนุกกันหน่อยสิ ให้เขาเข้ามาหาเราเอง" เดม่อนบอก
"เป็นความคิดที่ดี" บอนนี่บอกและลากเจเรมี่ออกไปทำให้เบลล่ายิ้มน้อยๆ "ริคอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวฉันมา" เดม่อนบอกและเดินออกไปทำให้เบลล่ามองไปทางริคที่มองดูรอบๆงาน ที่นี่ เสียงกระซิบในหัวบอกเธอแบะเบลล่าก็ขมวดคิ้ว เขาอยู่ที่นี่แล้ว มันบอกเธออย่างนั้นทำให้เบลล่ากลืนน้ำลายด้วยความกลัวเล็กน้อย
นับตั้งแต่งานเลี้ยงสวมหน้ากากที่บ้านล็อควู้ดจัดการกับแคทเธอรีนเธอก็มีเสียงกระซิบในหัวของเธอเองอยู่หลายต่อหลายครั้งแต่เบลล่ากลับไม่สงสัยมันเพราะเธอคิดว่าเป็นเพียงอะไรก็ตามที่อยู่ข้างในตัวเธอและเป็นพลังให้กับเธอ
คนผมสีเพลิงเล่นสร้อยด้วยความประหม่าก่อนจะมองไปรอบๆเพื่อมองดูผู้คนเต้นรำอย่างสนุกสนาน เธอส่ายหัวยิ้มเล็กน้อยก่อนจะจ้องมองไปทางริคที่กำลังจ้องมองมาทางเธอและเบลล่าก็ยิ้มให้เขาก่อนจะกลมกลืนไปกับฝูงชน
"เอเลน่า เบลล่า" เสียงของอลาริคดังขึ้นหลังจากเอเลน่า เบลล่าและบอนนี่คุยกันเล็กน้อย "มีอะไร" คนผมสีเพลิงถาม "เขาได้ตัวเจเรมี่ไป" ดวงตาของเบลล่าเบิกกว้าง "อะไรนะ" บอนนี่ถามซ้ำ "ใช่ เคลาส์ได้ตัวเจเรมี่ไปกันเถอะ" เขาและสามสาววิ่งไปโดยไม่เห็นอลาริคที่ปิดประตูยิ้มเยาะตามหลัง
เมื่อกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปเรื่อยๆความรู้สึกในท้องของเบลล่าก็ตีตื้นหนักขึ้น "คุณกำลังพาเราไปไหน" เอเลน่าถาม "อีกนิดเดียว" เขาพูดและเบลล่าก็ขมวดคิ้ว "มีบางอย่างผิดปกติ" คนผมสีเพลิงพูดออกมา "เจเรมี่อยู่ไหน" บอนนี่ถามเขาแต่ที่น่าแปลกคือเขาหยุดเดินด้วยเสียงของรอยยิ้มขนาดใหญ่
"ฉันแค่ต้องออกมาจากงานเต้นรำนั่น ยุค 60 ไม่ใช่ช่วงเวลาของฉันนั่นเสียงใครกันล่ะฉันชอบยุค 20 มากกว่า ทั้งสไตลส์ ปาร์ตี้ แล้วก็ดนตรีแจ๊ส" ทั้งสามคนขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกแปลกๆ "อลาริค คุณมีเวอร์เวนอยู่ไหม" เอเลน่าถามเขา
"ทำไมถึงถามฉันอย่างนั้นล่ะเอเลน่า" อลาริคถามด้วยรอยยิ้มเยาะและนัยตาสีฟ้าของเบลล่าก็มองด้วยความประหม่า "เขากำลังถูกสะกด" เอเลน่าเอ่ย "ไม่ใช่ลองใหม่อีกครั้ง" อลาริคบอก "เกิดอะไรขึ้น" บอนนี่ถามและเอาตัวเองคั่นกลาง เคลาส์ เคลาส์ เคลาส์ เสียงกระซิบในหัวของเบลล่าดังขึ้นเป็นชื่อเดียวของแวมไพร์อันตรายที่สุดในโลก
"ฉันจะใบ้ให้นะ ฉันไม่ใช่อลาริค" และระฆังก็ดังในหัวของเบลล่าอย่างรวดเร็ว "เคลาส์" คนผมสีเพลิงพึมพำใต้ลมหายใจ "แปลกใจล่ะสิ ใจเย็นก่อนเอเลน่า ฉันไม่ได้มาทำร้ายเธอหรอก เธอด้วยเบลล่า พวกเธอไม่ใช่เป้าหมายของฉันในคืนนี้" เคลาส์ในร่างอลาริคบอกกับสองสาว "แต่เป็นเธอ" เขาพูดกับบอนนี่และวิ่งเข้าหาเธอแต่เธอโยนเขาเข้ากับล็อกเกอร์
"ตอนนี้ฉันบอกอะไรไปหรือเปล่าว่าฉันรู้จักแม่มดน่ะ เธอจะโจมตีฉันได้ยากกว่าเดิมเยอะ" เคลาส์ในร่างอลาริควิ่งเข้าบอนนี่อีกครั้งและเธอก็ส่งเขาออกไป เคลาส์หัวเราะเยาะ "เอาให้เต็มที่ ปล่อยออกมาเลย ถ้าเธอฆ่าร่างนี้ฉันก็จะไปอยู่ในร่างใหม่อาจจะเป็นเจเรมี่ก็ได้" เคลาส์พูดและเบลล่าก็มองเขาด้วยสายตากลัวเล็กน้อย
"ไป วิ่งหนี" เอเลน่า เบลล่าและบอนนี่วิ่งออกมาและบอนนี่ก็ใช้เวทมนตร์เธอปิดประตู "เกิดอะไรขึ้น" เดม่อนถาม "เคลาส์อยู่ในร่างอลาริค" เดม่อนทำหน้าไม่เข้าใจ "อะไรนะ" เบลล่าถอนหายใจ "เขาครอบครองร่างหรืออะไรบางอย่าง" เบลล่าบอกแวมไพร์และดวงตาเขาก็เบิกกว้าง "ไปหาสเตฟานเดี๋ยวนี้" เดม่อนบอกและเอเลน่ากับเบลล่าก็พยักหน้าและวิ่งออกไป
พวกเขาเดินเข้าไปในโรงยิมเพื่อค้นหาสเตฟาน "เฮ้ เป็นอะไรหรือเปล่า" แคโรไลน์ถาม "อืม เราแค่...เรากำลังตามหาสเตฟาน" เบลล่าบอกกับแคโรไลน์ "เอาจริงๆ เกิดอะไรขึ้น" แคโรไลน์ถามขึ้น "อยู่กับแมทนะ เข้าใจมั้ย" เอเลน่าถามและพวกเขาก็มองไปรอบๆจนพบเข้ากับสเตฟาน สองสาวรีบวิ่งไปหาเขาทันที
"เกิดอะไรขึ้น" สเตฟานถามสองสาวและเบลล่าก็ใช้มือลูบผมสีเพลิงของเธอ "เคลาส์" เอเลน่าพูดและสเตฟานก็จับมือของเอเลน่ากับเบลล่าก่อนจะพากันวิ่งไปหาเดม่อนและบอนนี่ "โอ้อยู่นี่เอง" เดม่อนพูด "ทำอะไรอยู่น่ะ บอนนี่อยู่ไหน" เบลล่าถามด้วยความร้อนรนกับความรู้สึกในท้องของเธอ
"เธอทำในสิ่งที่ต้องทำ" เดม่อนพูดด้วยสายตาเรียบเฉย "เธออยู่ไหน" สเตฟานถามพี่ชายของเขา "สเตฟานปล่อยให้เธอทำไป" เขาบอก "บ้าจริง เดม่อนเธออยู่ไหน!" เมื่อพวกเขาวิ่งไปเรื่อยๆจนเจอเข้ากับบอนนี่ในห้องโถงที่มีร่างอลาริคคุกเข่า บอนนี่เลือดออกและไฟที่ติดๆดับๆเพราะเวทมนตร์
เธอหันมาหาพวกเขาและปิดประตูใส่ "บอนนี่ ไม่!" เอเลน่าตะโกน สเตฟานและเอเลน่าช่วยกันทุบประตูขณะที่เบลล่าขอร้องเวทมนตร์เกี่ยวกับความสามารถของเอไลจาห์เงียบๆและพยายามพังประตู พวกเขายังคงเห็นบอนนี่พยายามจัดการเคลาส์ในร่างอลาริคด้วยเวทมนตร์อันมหาศาลเธอหันมาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มครั้งสุดท้ายก่อนจะล้มลงและทุกอย่างก็หยุดลง "ไม่!"
ไฟดับลงและประตูก็เปิดออกได้ เอเลน่า สเตฟานและเบลล่ารีบเข้าไปหาร่างของบอนนี่ทันที "บอนนี่ บอนนี่ บอนนี่ บอนนี่ เฮ้ สเตฟาน เธอไม่หายใจ" เอเลน่าพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้าและเบลล่าก็มองไปที่เพื่อนแม่มดของเธอด้วยความเศร้า "สเตฟาน ฉันหาชีพจรเธอไม่เจอ" เอเลน่าพูดด้วยเสียงแตก
"สเตฟาน ทำอะไรก็ได้ ได้โปรด" เบลล่าขอร้องเขาและมองด้วยนัยตาสีฟ้าเศร้าเต็มไปด้วยน้ำตาสีใส "สเตฟานให้เลือดกับเธอ ทำอะไรก็ได้ ได้โปรด" เบลล่าขอร้องเขาอีกครั้งเธอเสียบอนนี่ไปไม่ได้ บอนนี่คือคนที่เธอสนิทด้วยพร้อมๆกับสเตฟาน แคโรไลน์และเจเรมี่ "มันสายไปแล้ว ผมเสียใจ"
เอเลน่าและเบลล่าคร่ำครวญเงียบๆกับร่างไร้วิญญาณของบอนนี่ "สเตฟานเอาเบลล่าและเอเลน่าออกไปฉันจะจัดการกับศพเธอเอง" เดม่อนพูดและนัยตาสีฟ้าก็เงยหน้าขึ้นมองแวมไพร์ด้วยสายตางุนงง สับสนและโกรธ "หมายความว่าไงจัดการเอง" เอเลน่าถามกับเขา "นายอำเภอรู้เรื่องนี้ไม่ได้สิ่งสุดท้ายที่เราต้องการคือการตายอย่างมีเงื่อนงำ"
"แต่นี่บอนนี่นะ!" เอเลน่าตะโกนใส่เขา "พาพวกเธอกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ฉันจะเก็บกวาดเรื่องนี้เอง" เดม่อนสั่งสเตฟาน เบลล่ากัดฟันและลุกขึ้นก่อนที่สร้อยของเธอจะเปล่งแสงสีม่วงของอเมิสต์อย่างไม่มีใครเห็นและดับไป มือของเธอร้อนราวกับไฟแต่เบลล่าก็หลับตาควบคุมมันสิ่งสุดท้ายที่เธอต้องการคือการเผาโรงเรียนนี้ให้วอดวาย
เบลล่าลืมตาเฝ้ามองสเตฟานดึงเอเลน่าออกไปและเธอคร่ำครวญถึงเจเรมี่ "ฉันจะหาเขาให้พบ" เดม่อนบอกกับเธอขณะที่สเตฟานพาเอเลน่าและเบลล่าออกไปอย่างเงียบๆ
สองพี่น้องนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นซัลวาทอร์ด้วยน้ำตาที่เปรอะแก้มเนียน เบลล่าจ้องมองไปยังพื้นและเงยขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงสเตฟานที่โอบกอดเธอไว้เงียบๆ เขาผละออกไปเมื่อได้ยินเสียงประตูและเบลล่ากับเอเลน่าก็รีบลุกขึ้นยืนทันที "นายทำอะไรกับเธอ" เบลล่าพูดกับเดม่อนด้วยความโกรธ
"ช่วยทำให้เธอสงบลงได้มั้ย" เดม่อนพูดและเบลล่าก็เย้ยยัน "อย่าพูดเหมือนว่าเราไม่ได้อยู่ตรงหน้าได้มั้ย นายรู้ใช่มั้ย โอ้เห็นแก่พระเจ้านายรู้ว่าถ้าบอนนี่ใช้พลังทั้งหมดนั่นเธอจะต้องตาย ใช่มั้ย" เบลล่าพูดด้วยความโกรธและเศร้าที่สะสมภายในอย่างกับไฟเล็กๆที่ลุกโชน "ใช่" เมื่อเขาตอบทำให้เบลล่ากัดฟันและไฟในเตาพิงก็ลุกแรงขึ้น
"ใช่ ฉันรู้" เบลล่าใช้ความสามารถของเอไลจาห์ตรึงเขาไว้กับกำแพงและโยนออกไปอย่างรุนแรงพร้อมด้วยไฟในเตาพิงที่กำลังลุกโชนอย่างรุนแรงราวกับโดนเติมเพลิงเข้าไปข้างใน "เธอต้องฟังฉันและเตรียมพร้อมกับสิ่งที่ฉันกำลังจะบอก" เดม่อนพูดและเบลล่าก็มองเขาอย่างรุนแรงพร้อมกับเปลวไฟในเตาพิงที่สงบลงเล็กน้อย
"บอนนี่ต้องตาย การที่เคลาส์ใช้ร่างของอลาริคเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก เธอไม่ได้เตรียมตัวกับเรื่องนั้นและเขาก็จะไม่หยุดแล้วเราก็ไม่อาจหยุดเขาได้จนกว่าเขาจะรู้ว่าบอนนี่ตายแล้ว เขาต้องเชื่อแบบนั้น" เขาพูดและเบลล่ากับเอเลน่าก็ขมวดคิ้ว "บอนนี่ไม่เป็นไร" เดม่อนพูดก่อนจะเดินออกไปทำให้เบลล่าหายใจอย่างโล่งอกเมื่อรู้สึกได้ว่าความรู้สึกในท้องของเธอหยุดลงในที่สุดกับการรู้ว่าบอนนี่ยังไม่ตาย
เบลล่านั่งอยู่ในห้องนอนบ้านกิลเบิร์ตของเธอเมื่อรู้สึกได้ถึงสเตฟานที่เข้ามาในห้อง "เฮ้" เธอทักทายเขาเบาๆ ตั้งแต่เบลล่าโดนลากไปที่เรื่องเหนือธรรมชาติเธอก็พบว่าเบลล่าค่อนข้างจะชอบสเตฟานมากกว่าพี่ชายของเขา "ถ้าจะมาถามฉันว่าทำไมถึงมีความสามารถแบบแวมไพร์ล่ะก็ฉันก็ไม่ค่อยรู้หรอกนะ"
เบลล่าพูดและมันเป็นเรื่องจริงที่การมีความสามารถของเอไลจาห์เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเวมทนตร์จากแม่มด "อืม..มันเป็นความลับที่ว่าตั้งแต่งานเลี้ยงสวมหน้ากากฉันก็มีความรู้สึกแปลกๆตั้งแต่นั้นมา" เบลล่าอธิบายกับเขา "ยังไง" สเตฟานถามและเบลล่าก็หลับตาก่อนจะเปิดขึ้นอีกครั้งให้เห็นดวงตาสีส้มเพลิงสวยงาม
เธอเม้มปากก่อนจะมองไปที่เขาเพื่อพบว่าเขาดูตกตะลึง เธอยิ้มเล็กๆและมันก็กลับเป็นสีธรรมชาติของเธอก่อนเบลล่าจะเล่าทุกอย่างยกเว้นความทรงจำเกี่ยวกับเอไลจาห์และครอบครัวก่อนหน้านี้ "ไม่ว่าเธอจะเป็นอะไรฉันเชื่อว่าเธอควบคุมมันได้" สเตฟานบอกกับเธอและเบลล่าก็ยิ้มให้เขา “ขอบคุณสเตฟาน”
ความคิดเห็น