ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the umbrella academy — lonely wolf , five hargreeves

    ลำดับตอนที่ #3 : THREE –— FATHER'S FUNERAL

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 64


    — ( งานศพของพ่อ )
    1x01 We Only See Each Other at Weddings and Funerals


    "วันนี้วันที่เท่าไหร่ เอาให้เป๊ะๆ" ไฟว์ถามขณะที่พี่น้องทั้งหมดของเขานั่งอยู่ในห้องครัวและเขากำลังหาของทำแซนวิชด์มาชเมลโล่ของโปรด "24" แวนย่าตอบ "เดือนอะไร" เขาถามอีกครั้งขณะที่หยิบห่อขนมปังออกมา

    "มีนาคม" จูเลียตตอบและไฟว์ก็เงยหน้าขึ้นมองเธอ ยิ้มเล็กๆที่มุมปากของเขาเมื่อสังเกตว่าเธอยังคงดูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป ."ดี" เขาตอบสั้นๆพลางนำขนมปังออกมาวางและจูเลียตก็พยายามข่มอารมณ์ดีใจทั้งหมดเอาไว้ภายข้างในตัวเธอแม้ว่าจะยาก การมีอารมณ์ที่สูงกว่าคนปกติทั่วไปว่ายากแล้ว จัดการกับมันยากกว่า

    "มาคุยกันดีมั้ยว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น" ลูเธอร์ถามไฟว์และเมื่อเขาไม่ตอบลูเธอร์ก็เสริมมัน "มันเป็นเวลา 15 ปีแล้วนะ" และจูเลียตก็เม้มริมฝีปากของเธอ "มันนานกว่านั้นเยอะ" เขาพูดเผชิญหน้ากับลูเธอร์และเทเลพอร์ตสั้นๆไปหยิบโหลแก้วมาชเมลโล่ก่อนจะเทเลพอร์ตกลับมา

    "ไม่คิดถึงพลังนั้นเลย" เขาพึมพำใต้ลมหายใจ "หายไปไหนมา" ดิเอโกถามพลางและจูเลียตก็เอียงคอสงสัยว่าเขาไปในมา ในอนาคตหรือว่าอดีต? "อนาคต ขอบอกว่ามันแย่มาก" และเคลาส์ก็เย้ยหยัน "บอกแล้วไง!"

    "ฉันน่าจะฟังพ่อ กระโดดข้ามปริภูมิเป็นอีกเรื่องหนึ่ง กระโดดข้ามเวลาก็เหมือนเสี่ยงดวง" เขาพูดและสังเกตเห็นกระโปรงที่เคลาส์ใส่อยู่ "กระโปรงสวย" และจูเลียตก็กรอกตาเมื่อสังเกตเห็นว่าเขายังกวนประสาทเหมือนๆเดิม "โอ้ ขอบคุณ"

    "เดี๋ยว แล้วนายกลับมาได้ยังไง" แวนย่าถามคำถามที่ทุกคนสงสัยมานานหลายนาที "ในตอนท้ายฉันต้องส่งสติสัมปชัญญะไปข้างหน้าไปสู่สถานะควอนตัมที่ถูกหยุดไว้ในวัยเด็กที่มีอยู่ในทุกช่วงเวลาที่เป็นไปได้ทั้งหมด" และจูเลียตก็พยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อย

    "ไม่เห็นจะเข้าใจเลย" ดิเอโกบ่นกับคำตอบของเขา "ถ้าฉลาดกว่านี้จะเข้าใจ" และดิเอโกก็ลุกขึ้นยืนพร้อมจะโจมตีแต่ก็กลับไปนั่งลงเมื่อลูเธอร์เอื้อมมือออกมาพร้อมกับจูเลียตที่ส่งสายตาอันตรายไปยังเขาอย่างรวดเร็ว

    "แล้วนายอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน" จูเลียตหันกลับไปสนใจไฟว์ขณะที่กลิ่นของเขายังคงวนเวียนรอบตัวเธอ "ประมาณ 45 ปี" และคนผมสีน้ำตาลก็อึ้งกับคำตอบของเขาพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย

    "นี่กำลังจะพูดว่านายอายุ 58 หรอ" ลูเธอร์ถาม "ไม่ใช่ สติของฉันอายุ 58 แต่ปรากฎว่าร่างกายกลับ 15 อีกแล้ว" เขาบ่นเล็กๆขณะที่หยิบแซนวิชด์ขึ้นมา "มันเป็นไปได้ยังไง" แวนย่าถามเขาและจูเลียตเชื่อว่าพี่น้องทุกคนของเธอมีคำถามกับการกลับมาของเขา

    "โดโรเรสพูดอยู่เสมอว่าสมการมันไม่ถูกต้อง เดาว่าเธอคงกำลังหัวเราะเยาะ" ไฟว์พูดพร้อมกับยักไหล่และคิ้วของจูเลียตก็ขมวดพร้อมกับความหึงหวงที่พุ่งพวยอย่างรุนแรงจนทำให้เธอต้องเย้ยหยันออกไป

    "โดโรเรส?"

    ไฟว์ยิ้มเล็กๆขณะที่สังเกตเห็นว่าเขายังคงมีผลต่อเธอแต่เขากลับไปตอบและหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาแทน "เดาว่าฉันคงพลาดงานศพสินะ" เขาพูด "นายรู้ได้ยังไง" ลูเธอร์ถามออกไป และจูเลียตพบว่าตัวเองได้กลิ่นของความสงสัยและโล่งใจของพี่น้องของเธออบอวนทั่วห้องอาจเป็นเพราะการกลับมาของไฟว์ที่ทำให้เขาดูเปลี่ยนไปจากเดิมนิดหน่อย

    "นายไม่เข้าใจคำว่า 'อนาคต' ตรงไหน หัวใจวายหรอ" เขาเย้ยหยันและถามซ้ำเพื่อยันยันสาเหตุการตายของเรจินัลดิ์ที่ปรากฎบนหนังสือพิมพ์

    "ใช่"
    "ไม่ใช่"

    ดิเอโกและลูเธอร์ตอบพร้อมกันแต่ด้วยคนละคำตอบที่แตกต่างกัน "ดีใจที่ไม่เห็นว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง" เขาพูดพร้อมกับเริ่มเดินออกไป "แค่นี้หรอ จะพูดแค่นี้หรอ?" อัลลิสันถามเขา "จะให้พูดอะไรอีกล่ะ วงจรชีวิต" จูเลียตยิ้มเยาะพร้อมกับหัวเราะเบาๆเมื่อเขาเดินออกไป

    "ก็..น่าสนใจดี"


    จูเลียตเดินเข้าไปในห้องของไฟว์อย่างประหม่าพร้อมกับเลียริมฝีปากของเธอเมื่อเห็นเขากำลังใส่เสื้อคลุมอยู่ เธอเคาะประตูเบาๆทำให้เขาหันมาและสังเกตเธอที่ยืนอยู่ข้างหน้าของเขาไม่กี่ฟุต

    ไฟว์พบว่าตัวเองกำลังสังเกตหญิงสาวที่เขาหลงรักอย่างรวดเร็ว เธอตัวสูงขึ้นและผมสีน้ำตาลของเธอก็ยาวขึ้น มันถูกม้วนเป็นลอนเล็กน้อยพร้อมกับนัยตาสีเขียวที่มีประกายของชีวิตที่เขาชอบ แต่ดูเหมือนว่าร่างกายของเธอจะหยุดเติบโตหลังจากเขาไปไม่กี่ปีพร้อมกับความเยาว์ที่ดูงดงาม

    "มีอะไรหรอ" เขาถามเธอด้วยเสียงที่อ่อนโยนและจูเลียตก็หลับตาลงก่อนจะเปิดขึ้นมองเขาอีกครั้ง "ฉันรอนายมานานสิบห้าปีโดยสูญเสียความหวังเล็กๆน้อยๆที่เคยมีไปในแต่ละวันจนไม่มีอีกต่อไป" จูเลียตสูดลมหายใจแรงพร้อมกับกลั้นน้ำตาที่คลอขู่ว่าจะไหลลงมา

    "ฉันอยากจะยอมแพ้กับนายจริงๆ....แต่ฉันทำไม่ได้" เธอพูดด้วยเสียงที่แตกและไฟว์ก็นั่งลงบนเตียงนุ่มของเขาพร้อมกับดึงเธอลงมาข้างๆเขา บีบมือเธอน้อยๆเพื่อให้กำลังใจ "ฉัน...ยังรักนายอยู่" จูเลียตพูดระดับเดียวกับเสียงกระซิบและน้ำตาแรกก็ร่วงหล่นลงมาตามแก้มเนียนสีระเรื่อสวยงาม

    ไฟว์ยิ้มให้เธอก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปปาดน้ำตา "ฉันก็ยัง..รักเธอ เหมือนเดิมเสมอมา" เขาพูดด้วยเสียงระดับเดียวกันและจูเลียตก็ยิ้มกว้างพร้อมกับก้มหน้าที่แดงระเรื่อของเธอโดยการก้มลงไปข้างล่าง

    ก่อนเธอจะรู้ตัวเธอก็รู้สึกว่าตนเองโดยดึงเข้าไปในอ้อมกอดอบอุ่นและกลิ่นอันคุ้นเคยที่เธอคิดถึงตลอดสิบห้าปีที่ผ่านมา ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยแวววาวแห่งชีวิตและเรืองแสงสีทองอำพันของหมาป่า เธอถอนหายใจก่อนจะซุกหน้าลงดมกลิ่นของเขาและโอบรอบตัวเขาแน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปไหนอีก

    พวกเขาอยู่อย่างนั้นกันนานนับนาทีก่อนจูเลียตจะผละออกมาและยิ้มให้กับเขา "ไปงานศพพ่อกันเถอะ"


    พี่น้องฮาร์กรีฟส์ เกรซและโพโกออกมาข้างนอกพร้อมด้วยร่มของพวกเขาเองในขณะที่ลูเธอร์ถือโกศที่ของพ่อเอาไว้และพวกเขาทั้งหมดก็เริ่มยืนเรียงกันเป็นครึ่งวงกลมใกล้ๆกับรูปปั้นของเบน

    "เกิดอะไรขึ้นหรอ" แม่ที่เป็นหุ่นยนต์ถามและจูเลียตก็กลืนน้ำลายลงอย่างประหม่า "พ่อเสียชีวิตค่ะ จำได้ไหม" จูเลียตพูดเตือนความจำของเธอและเกรซก็ตอบออกมาด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย "อ้อ ใช่ จริงด้วย"

    "แม่โอเคมั้ย" อัลลิสันถามและดิเอโกก็ตอบ "ใช่ แม่สบายดี แม่แค่ต้องการพักผ่อน เธอก็รู็ ชาร์จพลัง" เขาพูดขณะที่ตนเองยืนเปียกฝนใกล้ๆกับแม่หุ่นยนต์ของพวกเขาและมือของจูเลียตก็เอื้อมไปจับกับไฟว์ขณะที่ยังคงมองไปข้างหน้า

    "เริ่มเมื่อพร้อมเลย" โพโกพูดและลูเธอร์ก็เปิดโกศออกมาก่อนจะเทขี้เถ้าของพ่อลงกับพื้น "อาจจะดีกว่านี้ถ้ามีลมสักหน่อย" จูเลียตยิ้มเยาะเบาๆกับคำพูดของเขาและจ้องมองไปยังขี้เถ้าของผู้ที่เป็นพ่อของเธอ

    "มีใครอยากจะพูดอะไรมั้ย" บริเวณนั้นยังคงเต็มไปด้วยความเงียบกริบของแต่ละคน "งั้นก็ได้ พูดถึงในทุกรูปแบบเซอร์เรจินัลดิ์ ฺฮาร์กรีฟส์ทำให้ผมได้เป็นสิ่งที่ผมเป็นในวันนี้" โพโกเริ่มและจูเลียตก็ถอนหายใจ "เพียงแค่นั้น ผมจะสำนึกบุญคุณเขาตลอดไป เขาเป็นเจ้านายและเพื่อนของผม ผมจะคิดถึงเขาอย่างยิ่ง เขาได้ทิ้งมรดกซับซ้อนเอาไว้"

    "เขาเป็นสัตว์ประหลาด" ดิเอโกขัดคำพูดของโพโก "พ่อเป็นคนไม่ดีแล้วก็เป็นพ่อที่แย่มาก ไม่มีพ่อแล้วโลกน่าอยู่ขึ้น" และจูเลียตก็กรอกตาไปมาใส่เขาแม้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นจริงก็ตามที "ดิเอโก!"

    "ฉันชื่อหมายเลขสอง เธอรู้ไหมว่าทำไมเพราะว่าพ่อของเราไม่เคยคิดจะตั้งชื่อให้พวกเราเลย เขาให้แม่เป็นคนตั้ง" และจูเลียตก็มองลงไปเพราะรู้ดีว่าสิ่งที่ดิเอโกพูดมานั้นเป็นจริงทั้งหมดและไฟว์เป็นคนเดียวที่ได้ชื่อตามหมายเลขของเขา

    "มีใครอยากจะกินอะไรมั้ย" แม่ถามและแวนย่าก็ตอบกลับเธอ "ไม่เป็นไรค่ะแม่" เธอยิ้มให้และตอบกลับเบาๆ "โอเคจ้ะ" และนัยตาสีเขียวของจูเลียตก็มองไปรอบๆสถานที่หลังบ้านที่ครั้งหนึ่งเคยดูสดใสกว่านี้มาก

    "ถ้าอยากจะแสดงความเคารพกันก็เชิญเลยแต่อย่างน้อยก็อย่าโกหกว่าพ่อเป็นคนยังไง" เธอสังเกตได้ถึงความโกรธเล็กๆที่ปะทุอยู่ภายในตัวของลูเธอร์ "นายควรหยุดพูดได้แล้ว" เขาเตือนด้วยเสียงที่ต่ำลงและดูเป็นผู้นำ "นายควรเข้าข้างฉันที่สุดสิหมายเลขหนึ่ง"

    "ฉันเตือนนายแล้วนะ" ลูเธอร์พูดอีกครั้ง "พ่อทำร้ายนายซะขนาดนั้น....พ่อส่งนายออกไปไกลนับล้านไมล์!" ดิเอโกตอกย้ำกับความเป็นจริงที่ลูเธอร์ได้เผชิญ "ดิเอโก หยุดพูดเดี๋ยวนี้!" 

    "พ่อคิดว่านายรกหูรกตามากขนาดนั้นเลย" และด้วยถ้อยคำสุดท้ายเส้นความอดทนของลูเธอร์ก็ขาดสะบั้นลง เสียงหมัดเหวี่ยงอากาศและต่อยกันไปมาดังชัดขึ้นในหูของจูเลียตและทุกคนขณะที่เธอและพี่น้องถอยห่างออกไป "หนุ่มๆ!หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ" โพโกเตือนและจูเลียตก็ถอนหายใจออกมาเมื่อรู้ว่าพวกเขาจะไม่ฟังใคร

    "มาสิ พ่อคนเก่ง" เสียงต่อสู้ด้วยหมัดยังคงดังขึ้นเรื่อยภายใต้เสียงฝนพร่ำ "หยุดนะ!" แวนย่าตะโกนใส่พวกเขา "ต่อยเขา! ต่อยเขาเลย!" จูเลียตถอนหายใจกับเสียงเชียร์ของเคลาส์และกรอกตาไปมาที่พี่น้องสองคนของเธอ

    เธอสังเกตเห็นโพโกส่ายหัวและเริ่มเดินออกไป การต่อสู้เริ่มใกล้เข้ากับรูปปั้นเบนมากขึ้นเรื่อยๆและจูเลียตก็มองดูพวกเขาด้วยสายตาที่กังวลเล็กน้อย ลูเธอร์ต่อยเขาอีกครั้งและจับเขาไว้แต่ดิเอโกหลบไปได้และยืนอยู่ตั้งตัวหน้ารูปปั้นเบน "ฉันไม่มีเวลากับเรื่องไร้สาระนี่" ไฟว์พูดและปล่อยมือของจูเลียตก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านเป็นคนต่อไป

    "มาสิ พ่อคนเก่ง!" ดิเอโกส่งเสียงท้าทายเขาและวินาทีต่อมาก็เหมือนเป็นภาพสโลว์เมื่อลูเธอร์พลาดต่อยรูปปั้นเบนร่วงลงจนหัวของเขาหลุดออกไป เสียงคำรามต่ำหลุดรอดออกมาจากจูเลียตก่อนเธอจะถอนหายใจออกมา

    "และก็ลาก่อนรูปปั้นของเบน" อัลลิสันพูดพร้อมกับเดินกลับเข้าบ้านไป ดิเอโกหยิบมีดออกมาและขวางไปเฉียดโดนยังแขนเสื้อของเขาทำให้เสื้อขาดและมีเลือดไหลออกมา จมูกของเธอเริ่มได้ยินที่เปลี่ยนไป เธอไม่เคยได้กลิ่นของลูเธอร์เปลี่ยนไปมาก่อนและเธอได้กลิ่นของสัตว์แต่จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่ใช่สัตว์

    "ห้ามตัวเองไม่เป็นเลยใช่มั้ย" แวนย่าพูดกับเขา "ได้เนื้อหาไปเขียนหนังสือเล่มต่อไปหรือยังล่ะ" เขาเย้ยหยันกับแวนย่าและมองตรงเข้าไปในสายตาของน้องสาว "เขาก็เป็นพ่อของฉันเหมือนกัน" แวนย่าพูดและเดินจากไป ตามด้วยจูเลียตที่ถอนหายใจและส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินออกไปเข้าสู่ตัวบ้าน

    "แม่ครับ เข้าไปข้างในกันเถอะ" ในที่สุดดิเอโกก็เข้าไปข้างในพร้อมแม่ทิ้งไว้เหลือเพียงเคลาส์คนเดียวในลานกว้างพร้อมกับขี้เถ้าของพ่อและรุปปั้นเบนที่แตกกระจาย เขาเดินไปและนั่งยองๆข้างขี้เถ้านั่น "ผมพนันว่าพ่อคงถูกใจสินะ ทีม แบบท็อปฟอร์ม เหมือนสมัยก่อนเลย" เขาสูบบุหรี่ครั้งสุดท้ายก่อนจะทิ้งมันลงไปในขี้เถ้า ลุกขึ้นยืนและเริ่มเดินห่างจากมันไป

    "เป็นงานศพที่เยี่ยมที่สุดเลย"

    LAST EDIT ; 4 JAN. 2021
    PUBLICIZE ; 5 JAN. 2021
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×