ลำดับตอนที่ #24
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : ⁽ 22 ⁾
( 22 )
3x14 - Dangerous Liaisons
หลังจากการพบปะกับครอบครัวดั้งเดิมเมื่อคืนทำให้โรซาเบลล่าเหนื่อยเล็กน้อย เธอได้รีเบ็คก้ากลับมา. . .แล้วก็โคล คนที่เบลล่ารู้สึกว่าไว้ใจได้และพวกเขาสามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้จากนั้นก็มีฟินน์...ผู้ที่แอสทริดเตือนเธอไว้ว่าอย่าไว้ใจอะไร และคนสุดท้ายคือเอสเธอร์หรือแม่ของพวกเขา เบลล่ารู้สึกไม่ดีกับเธอและแน่นอนว่าแอสทริดก็เช่นกัน พวกเขาสงสัยว่าเอสเธอร์มีแผนอะไรบางอย่างที่ไม่น่าไว้ใจ
ปัจจุบันโรซาเบลล่านั่งอยู่บนโซฟาพยายามเคลียร์ความคิดของเธอเมื่อเสียงกริ่งดังขึ้น เธอขมวดคิ้วก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตูบานไม้สีขาวและพบกับกล่องสีขาวที่ผูกริบบิ้นสีทองอย่างดีกับจดหมายอันหนึ่ง
มือเรียวหยิบมันขึ้นมาก่อนจะถอยหลังและปิดประตูบ้านอย่างเงียบๆ เธอเดินไปยังโซฟาและวางกล่องไว้ข้างหน้าก่อนจะแกะซองจดหมายออกเผยให้เห็นบัตรเชิญเข้าร่วมงาน
"ขอเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงของครอบครัวไมเคิลสัน เย็นนี้เวลาหนึ่งทุ่ม เพื่อร่วมเต้นรำ ดื่มค็อกเทลและเลี้ยงฉลอง" เธออ่านจากนั้นก็เริ่มพลิกดูด้านหลังที่มีข้อความเขียนเอาไว้ด้วยลายมือคุ้นเคย 'ได้โปรดเป็นเกียรติเต้นรำกับผมทีนะ ,นิก'
คนผมสีแดงปล่อยรอยยิ้มเล็กๆออกมาก่อนจะเม้มริมฝีปาก วางบัตรเชิญลงและเริ่มเปิดกล่องสีขาวสวยงาม ข้างในมีชุดเดรสยาวสีทองอ่อนสวยงามอยู่ มันเป็นเกาะอกที่มีแขนเสื้อในระนาบเดียวกัน ชุดเดรสถูกปักด้วยดอกไม้เล็กๆน้อยๆสีสันต่างๆมากมาย
เธอปล่อยหัวเราะเล็กๆออกมาก่อนจะใช้มือลูบไปที่ชุดเดรสเบาๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ารีเบ็คก้ามีส่วนช่วยในการเลือกให้เธอ นัยตาสีฟ้าสวยงามของเบลล่าเต็มไปด้วยประกายแห่งชีวิตและความสุขที่ไม่เคยพบมาก่อนเป็นครั้งแรก
ในช่วงเวลางานเลี้ยงใกล้เริ่มโรซาเบลล่าแต่งตัวด้วยชุดเดรสที่เคลาส์ให้มาพร้อมกับผมสีแดงสตอเบอร์รี่ที่ถูกม้วนเป็นลอนด์และปล่อยลงมา ปากที่ถูกทาสีส้มนู้ดและดวงตาที่แต่งเป็นสีทองประกายใส
สวมสร้อยคออเมทิสต์ที่ไม่เคยถอดออกกับต่างหูรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ประดับด้วยเพรชเม็ดเล็กๆและมีรูปดาวสีทองห้อยลงมา สวมสร้อยข้อมือสีทองเป็นรูปใบไม้บนมือข้างซ้ายและสุดท้ายพร้อมกับรองเท้าหนังสีขาวเรียบๆ
โรซาเบลล่า ฮิลส์หายใจเข้าและออกเป็นการตั้งสติก่อนที่มือของเธอจะเปิดประตูบานใหญ่ของคฤหาสน์เข้าไปในที่สุด ข้างในเต็มไปด้วยผู้คนมากมายในชุดเดรสสวยงามและสูท
เธอมองไปรอบด้วยดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย การตกแต่งและดนตรีบรรเลงทำให้เบลล่ายิ้มออกมาด้วยความสุขใจ ไฟประดับประดาตามบรรไดงามและเธอก็ไม่สามารถมีความสุขไปมากกว่านี้
ครั้งหนึ่งในชีวิตเบลล่าจะปล่อยให้ความสุขของตัวเองมากก่อนคนอื่น เธอคิดขณะเดินเข้าไปและยิ้มให้กับผู้คนที่ยิ้มให้เธอ มองไปรอบๆก่อนจะพบกับเอไลจาห์ที่เริ่มเดินมาหาเธอ
"เอไลจาห์" เบลล่าทักทายด้วยรอยยิ้ม เขายิ้มกลับมา "เธอดูสวยนะโรซาเบลล่า" เขาชมเชยและเบลล่าก็ยิ้มกว้างยิ่งขึ้นไปอีก "ขอบคุณค่ะ ใช้เวลานิดหน่อยแต่คุ้มค่า"
เขายื่นแขนออกมาและเบลล่าก็ควงเขาเดินเข้าไปในงาน ไม่กี่ฟุตข้างหน้ามีชายหนุ่มในชุดทักซิโด้ยืนอยู่ที่เธอจำได้ว่าเขาคือโคล "น้องชาย" เอไลจาห์เริ่ม
โคลยิ้มให้เบลล่าก่อนจะจับมือเธอขึ้น "เราไม่ได้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ โคล ไมเคิลสัน" เขาจูบที่หลังมือของเธอ "โรซาเบลล่า ฮิลส์" เธอยิ้มและดวงตาของเขาก็เบิกกว้างเล็กน้อย
"ฮิลส์?!" เขาหันไปหาเอไลจาห์ "พี่ชาย ไม่เห็นบอกเลยว่ามีไฟว์เบิร์ดอยู่ที่นี่ด้วย" เบลล่าก้มหน้าลงเขินอายขณะที่เอไลจาห์หัวเราะเบาๆ "เพราะนายไม่ถามยังไงล่ะ"
"โอ้อยู่นี่เอง" เสียงของรีเบ็คก้าดังขึ้นทำให้เบลล่าเงยหน้าขึ้นมอง รีเบ็คก้าดึงเธอเข้าไปกอดก่อนจะผละออกมา "เธอดูสวยเหมือนเคยนะเบ็คก้า" เบลล่าชมเชยรีเบ็คก้าในชุดสีเขียวเรียบสวยงาม
"ฉันก็พูดแบบเดียวกับเธอได้เหมือนกัน" รีเบ็คก้าพูดและเบลล่าก็หัวเราะคิกคัก ทันใดนั้นสายตาสีฟ้าของรีเบ็คก้ามองไปข้างหลังและเบลล่าก็ขมวดคิ้ว "อะไรหรอ"
เธอหันไปเพื่อพบกับสายตาของเคลาส์ในชุดสูทที่เข้ากับเขาอย่างมากทำให้เธออ้าปากค้างเล็กน้อย "นิก" เธอกระซิบออกมาโดยไม่เห็นรีเบ็คก้าที่ยิ้มเยาะ "ฉันเชื่อว่ามีคนต้องการคุยกับเธอ"
เบลล่าหันไปหารีเบ็คก้าที่ยิ้มก่อนจะดันเบลล่าไปข้างหน้าทำให้เธอถอนหายใจ โรซาบลล่ารสบรวมความกล้าก่อนจะเดินไปหาเคลาส์ที่ยืนอยู่และกระแอมลำคอ "สวัสดียามเย็นที่รัก" เขาทักทาย
"สวัสดีค่ะ" เธอพูดอายๆทำให้เคลาส์ยิ้มเล็กๆออกมา "เธอดูสวยนะ" เขาชมเชยทำให้เบลล่ากลั้นยิ้มเอาไว้ "คุณก็....ดูหล่อไม่เบา" เธอชมเชยเขากลับทำให้เขายิ้มออกมา
เขายื่นมืออกมา "ต้องการดื่มที่รัก?" เขาถามและเบลล่าก็วางมือลงบนมืออบอุ่นของเขา "แน่นอน นำไปเลย" เธอพูดขณะที่ยอมให้เคลาส์จูงมือเธอไปยังบาร์ที่มีเครื่องดื่มแชมเปญอยู่
เขาหยิบหนึ่งและยื่นให้เธอที่รับอย่างยินดี หางตาเธอสามารถเห็นพี่น้องซัลวาเทอร์และเอเลน่ามองด้วยความไม่พอใจขณะที่รีเบ็คก้ามองเธอด้วยความสุขเป็นประกายภายในนัยตาสีฟ้าสดใส
ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวว่าต้องแยกกัน เบลล่าก็หัวเราะไปกับมุกตลกของเคลาส์และเคลาส์ก็หัวเราะไปกับเรื่องเล่าในวัยเด็กของเธอที่แบ่งปันอย่างงดงาม มือของพวกเขากำแน่นไม่เคยปล่อยแม้แต่วินาทีเดียว
จนกระทั่งเสียงเคาะแก้วสีใสดึงพวกเขาหลุดจากภวังค์ของกันและกัน มองขึ้นไปเห็นเอไลจาห์ที่ยืนอยู่บนขันบันได "ทุกท่าน กรุณารวมตัวกันทางนี้ด้วยครับ"
"ขอตัวก่อนนะที่รัก" เคลาส์พูดเบาๆก่อนจะปล่อยมือของเธอ เบลล่าพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเล็กๆให้กับเขาก่อนที่เขาจะจากไปแต่ไม่วายจูบแก้มเนียนของเธอเบาๆ
นัยตาสีฟ้ามองพี่น้องดั้งเดิมที่อยู่ด้านบนของขั้นบันได โคลอยู่บนสุด ตามด้วยเคลาส์ เอไลจาห์รีเบ็คก้าและฟินน์ จากนั้นก็มีเอสเธอร์ที่เดินลงมาสมทบ
"ยินดีต้อนรับ ขอบคุณที่มาร่วมงานนะครับ ทราบไหมครับเมื่อใดก็ตามที่แม่ของผมให้มีการรวมตัวกันของครอบครัวแบบนี้ถือเป็นธรรมเนียมสำหรับเราที่จะเริ่มต้นคืนนี้ด้วยการเต้นรำ" เอไลจาห์พูดอย่างชำชอง
ความรู้สึกในลำไส้ของเบลล่าทำให้เธอต่อต้านการขมวดคิ้วเอาไว้และเวทมนตร์ของเธอก็ไหลเวียนแสดงให้รู้ว่าแอสทริดกำลังเฝ้ามองอยู่เช่นกันและเธอสามารถเข้าควบคุมร่างกายของเบลล่าได้ทุกเมื่อถ้าต้องการ
"คืนนี้เราจะเต้นรำจังหวะวอลซ์แบบพื้นเมืองดั้งเดิม ดังนั้นถ้าท่านหาคู่เต้นรำของตนเองได้แล้วกรุณาออกมาที่ฟลอร์เต้นรำได้เลยครับ" เอไลจาห์พูดจากนั้นเบลล่าก็วางแชมเปญลง
เธอหันไปหาเคลาส์ที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว ไม่ต้องมีคำถามหรือพูดด้วยซ้ำ เบลล่าควงแขนเขาและเดินเข้าไปในห้องบอลรูมที่ตกแต่งอย่างหรูหราและสวยงาม
จังหวะเพลงเริ่มและการเต้นรำก็เริ่มขึ้น นัยตาของเบลล่าเปล่งประกายด้วยความสง่าและทะนงอย่างงดงาม พวกเขาหันไปด้านข้างเพื่อก้มหัวให้กันและกันก่อนจะสลับที่และเต้นรำกับคู่ของตนต่อไป
นัยตาของเบลล่าสบกับของเคลาส์ก่อนจะละออกไปด้วยรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้า วินาทีต่อมาเขาก็หมุนตัวเบลล่าและนำกลับมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา มือของเธอวางไว้ที่ไหล่ของเขาขณะที่อีกมือจับกับเขาเอาไว้และมือข้างหนึ่งของเขาก็วางไว้ที่เอวของเธอ
นัยตาสีฟ้าสองคู่จ้องมองกันและกันด้วยความรักที่มองออกอย่างเห็นได้ชัด เธอเต้นรำกับเคลาส์ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า สายตาไม่เคยละจากเขาแม้แต่วินาทีเดียว
"ฉันดีใจที่เธอมานะ" เขาพูดและเบลล่าก็ยิ้ม "แน่นอน ก็นายให้ชุดมาแล้ว อีกอย่างมาสนุกก็ไม่เสียหาย" เธอพูดกับเขาขณะที่ยังคงเต้นรำต่อไปนัยตาสีฟ้าแอบเห็นรีเบ็คก้ากับแมทและเอเลน่ากับเดม่อน
"รู้ไหม ฉันยังคิดถึงเรื่องจูบวันนั้นอยู่เลย" เคลาส์สารภาพและเบลล่าก็กลอกตา แก้มของเธอแดงระเรื่อ "หุบปากน่า" เธอกระซิบทำให้เขาหัวเราะคิกคักเบาๆ
พวกเขาเต้นรำไปอีกพักก่อนเคลาส์จะเอ่ยขึ้น "รู้ไหม เธอเต้นรำเก่งมากเลยนะ" เขาชมและเบลล่าก็ยิ้ม "แคโรไลน์บังคับให้ฉันฝึกกับเธอน่ะบอกว่าสักวันฉันอาจจะเป็นมิสมิสติค ฟอลส์ได้"
เคลาส์ยิ้ม "เรากำลังจะเปลี่ยนคู่" เธอเอ่ยบอกก่อนที่วินาทีต่อมาเคลาส์จะเริ่มหมุนตัวของเธอและเบลล่าก็เปลี่ยนไปอยู่ในอ้อมแขนของคนอื่น
เธอเต้นรำอยู่ในอ้อมแขนของโคลที่ยิ้มให้เธออย่างมีสเน่ห์ "ไฟว์เบิร์ดหรอที่รัก?" เขาถามและเบลล่าก็ฮัมเพลงตอบกลับ "ตัวสุดท้ายในโลก" เธอเอ่ยเสริม
"ฉันไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับพวกมันมากนักรู้ไหมแต่ได้ยินมาว่าพวกเขามีเวทมนตร์ไหลเวียนอยู่" โคลบอกขณะที่พวกเขายังคงเต้นรำต่อไป "ก็ใช่แต่แค่ใช้มันไม่ได้ แปลกดี"
เธอยิ้มให้เขาเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเพลงจบลง "เราน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีกันได้นะที่รัก ว่ามั้ย" เขายื่นมือออกมาและเบลล่าก็หัวเราะคิกคัก "แน่นอนโคล" เธอจับมือกับเขา
—
เบลล่าสนุกกับตัวเองภายในงานเลี้ยง เธอยิ้มและหัวเราะมากมายจนกระทั่งแอสทริดเริ่มกระซิบในหัว เอสเธอร์วางแผนบางอย่างกับฟินน์ ทำให้เบลล่าขมวดคิ้วทันที
เธอรู้ว่าเธอต้องช่วยพวกเขา ทั้งแอสทริดและเบลล่าจะต้องวางแผนในไม่ช้า เบลล่าเดินไปยังห้องห้องหนึ่งก่อนที่จะปิดประตูและหลับตาลงปล่อยให้แอสทริดรับช่วงต่อ
เมื่อลืมตาขึ้นนัยตาสีฟ้าของเธอก็กลายเป็นสีส้มสมบูรณ์ มือของเธอยื่นออกมาทั้งสองข้างและแอสทริดในร่างของเบลล่าก็เริ่มพึมพำคาถาใต้ลมหายใจ
เวทมนตร์ที่สามารถรู้สึกได้เกิดขึ้นก่อนที่เทียนในห้องนั้นจะสว่างขึ้น ความรู้สึกร้อนเผาไปทั่วร่างกายของเบลล่าและไม่กี่วินาทีต่อมาการพึมพำคาถาก็หยุดลง
เบลล่าหายใจออกเมื่อเธอสามารถกลับมาควบคุมได้อีกครั้ง เธอรู้สึกได้ว่าพลังงานของเธอถูกดูดออกไปเล็กน้อย "คาถาเมื่อกี้คืออะไร" เธอถามแอสทริด
ไม่ว่าเอสเธอร์จะวางแผนอะไรอยู่อย่างน้อยมันจะช่วยให้ผลของคาถาเอสเธอร์ลดลง มันจะไม่แสดงอย่างเต็มที่อีกต่อไป แอสทริดตอบและเบลล่าก็ฮัมเป็นคำขอบคุณ
ในเวลาต่อมา โรซาเบลล่าเดินออกมาสูดอากาศข้างนอกและพบเจอเข้ากับม้าสีน้ำตาลขนสวยงามตัวหนึ่ง เธอยิ้มเบาๆและลูบไล้ที่แผงคอของมันโดยไม่รู้ตัวว่ามีคนเดินตามเธอออกมา "เธอชอบม้างั้นสิ" เคลาส์ถามพลางหยุดยืนเคียงข้างโรซาเบลล่า
หญิงสาวหันไปหาเขาและยิ้มเบาๆและฮัมเสียงในลำคอเป็นคำตอบของคำถาม "ว่ากันว่าธรรมชาติสร้างไฟว์เบิร์ดขึ้นมา และเท่าที่จำความได้ฉันก็ชอบเหล่าสัตว์มาตั้งแต่เด็กๆ"
นัยตาสีฟ้าหันกลับไปจ้องมองมองเจ้าม้าด้วยรอยยิ้มแห่งความเมตตา "เธอรู้ไหมม้ากับคนน่ะ มันตรงข้ามกันเลยนะ" เคลาส์เริ่มพูดหลังจากเงียบกันไปสักพักหนึ่ง
"พวกมันซื่อสัตย์ พ่อฉันตามล่าฉันมากว่าพันปีและวันที่เขาตามฉันมาใกล้ที่สุดก็เป็นวันที่เขาฆ่าม้าตัวโปรดของฉัน เขาตัดคอมันด้วยดาบเป็นการเตือน" ไฟว์เบิร์ดสาวขมวดคิ้ว
คนผมแดงเดินเข้าไปใกล้ลูกผสมก่อนจะวางมือข้างหนึ่งลงบนแก้มของเขาและใช้นิ้วโป้งปัดมันเบาๆ "ฉันเข้าใจว่าการสูญเสียสิ่งที่รักไปเป็นยังไง ใจหายและรู้สึกหลงทาง ราวกับชิ้นส่วนของคุณถูกพรากออกไป" เธอพูดเบาๆ
นัยตาสีฟ้าของเคลาส์มองเข้าไปในนัยตาสีฟ้าของเบลล่าด้วยความรู้สึกมากมายที่ล้นอก เบลล่ายิ้ม "ต่อไปนี้ไม่ต้องกังวลแล้วนะตราบเท่าที่ฉันมีชีวิตอยู่ จะไม่มีใครหน้าไหนพรากอะไรจากนายไปได้อีก"
เคลาส์พูดไม่ออกชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะโน้มตัวลงและประทับจูบลงบนริมฝีปากของเบลล่า เธอตอบรับจูบนั้นด้วยความยินดี มันเป็นจูบที่ไม่ได้ร้อนแรงหากแต่ทว่ากลับอ่อนโยนและอ่อนหวานเสียจนน่าประหลาดใจ
เขาผละออกมาและยิ้มมุมปาก "เธอตัวเย็นนะที่รัก" เขาล้อเล่นและเบลล่าก็ขมวดคิ้ว "ไม่ ฉันตัวไม่เย็น อย่ามา" เธอพูดด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อยและเคลาส์ก็หัวเราะออกมา
—
พวกเขากลับเข้าไปในงานเมื่อคุยกันจนพอใจแล้ว โรซาเบลล่ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติทันทีที่ตนเองก้าวเข้ามาและกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก แชมเปญถูกเสิร์ฟต่อหน้าเธอและเคลาส์และเบลล่าก็ยิ้มอย่างมีมารยาท
เสียงเคาะแก้วดึงดูดความสนใจของคนในงาน "อรุณสวัสดิ์ยามเย็นค่ะทุกท่านสุภาพบุรุษและท่านสุภาพสตรี เหล่าบริกรกำลังนำแชมเปญมาเสิร์ฟให้ท่านแล้วค่ะ ดิฉันขอเชิญท่านให้ชูแก้วดื่มพร้อมฉัน"
นัยตาสีฟ้าจ้องมองไปยังแชมเปญสีชมพูสวยงามที่ดูประหลาดตา เธอสามารถสัมผัสได้อย่างง่ายดายว่ามันมีเวทมนตร์ซ่อนอยู่ "สำหรับฉันแล้วไม่มีความสุขใดเทียบเท่ากับการได้เห็นครอบครัวของฉันกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง" เอสเธอร์พูด
คนโกหก แอสทริดกระซิบและเบลล่าก็เม้มริมฝีปากกลั้นยิ้ม "ดิฉันอยากจะขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของค่ำคืนแสนวิเศษนี้ ดื่มค่ะ" เมื่อเธอพูดจบทุกคนก็พูดเชียร์ตามก่อนจะยกขึ้นดื่ม
สายตาของเบลล่าไม่เคยละจากเอสเธอร์ เธอยกมันขึ้นแต่ไม่ได้ดื่มลงไปเพียงแค่แกล้งทำเท่านั้น อย่างน้อยเธอก็มั่นใจได้ว่าเวทมนตร์ของแอสทริดจะได้ผล
เคลาส์พาเธอขึ้นไปชั้นสองพลางบอกว่าเขามีอะไรให้ดูก่อนจะนำเธอไปยังห้องห้องหนึ่ง "แล้วคุณมีอะไรจะให้ฉันดูล่ะคะ" เธอถามพลางมองไปรอบๆห้อง มันเป็นห้องที่เต็มไปด้วยผืนผ้าใบ แปรงและพู่กันสี จานสีต่างๆมากมายรวมถึงสีน้ำด้วย
"หนึ่งในความหลงใหลของฉันไงล่ะ" เขาพูดและเบลล่าก็พยักหน้า พวกเขายืนหยุดอยู่หน้าภาพวาดขนาดใหญ่ มันเป็นภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติทำให้เบลล่ามองมันด้วยความหลงใหล
มุมปากของเธอขยับยิ้มขึ้นเบาๆ เมื่อมองลงไปที่โต๊ะก็พบกับกระดาษที่ถูกวาดภาพแล้วหลายใบ หากแต่ทว่าภาพวาดของหญิงสาวที่สง่างามราวกับรูปปั้นได้ดึงดูดเธอ
เธอมองมันด้วยความประทับใจ "เอไลจาห์บอกว่าคุณวาดภาพได้ดีแต่ก็ไม่คิดว่าจะดีถึงขนาดนี้" เธอพูดด้วยความประทับใจและมองขึ้นไปที่เคลาส์ "จริงๆแล้วงานภาพวาดทิวทัศน์ภาพหนึ่งของฉันถูกแขวนอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ โดยไม่มีใครสังเกตเห็นเลย เธอเคยไปไหมล่ะ"
เบลล่าส่ายหัว "ตั้งแต่เกิดถึงแปดขวบฉันอยู่ในเมืองเล็กๆจากนั้นพอโดนอุปถรรมโดยพี่ชายของคุณ เขาก็พาฉันไปสองสามเมืองแต่ไม่เคยออกนอกประเทศเลย พอสิบขวบเขาก็ลบความทรงจำฉัน ปกปิดตัวตนและฉันก็ติดหนึบอยู่ที่นี่"
"ฉันจะพาเธอไปเอง" เขาเสนอและเบลล่าก็มองเขาทันที "ไปที่ไหนก็ได้ที่เธออยากไป โรม. . .ปารีสหรือโตเกียวดีล่ะ" เขาพูดยิ้มๆและเบลล่าก็หัวเราะคิกคักออกมา
ไฟว์เบิร์ดสาวยิ้มออกมาและเอียงศีรษะมอง "แน่นอน นายพาฉันไปที่ไหนฉันก็ไปนั่นแหละ" เธอพูดและเดินเข้าไปใกล้เขาก่อนจะวางมือข้างหนึ่งลงบนหัวใจที่เต้นระรัวของเขา
"หัวใจนายเต้นเร็ว มันเป็นเพราะฉันหรือเปล่า" เธอกระซิบและมองไปที่เขาด้วยความหลงใหล เคลาส์ดึงเธอเข้ามาใกล้ก่อนจะยกยิ้มมุมปากและเบลล่าก็ยิ้มกว้างออกมา
"แน่นอนที่รัก" เขากระซิบกลับและมันทำให้เธอยิ้มกว้างกว่าเดิมก่อนจะหัวเราะคิกคักออกมา เธอโน้มตัวเข้าไปจูบเขาเบาๆที่ริมฝีปากก่อนจะผละออกมา นัยตาสีฟ้าเปล่งประกายด้วยความสุขอันหาที่ไหนไม่ได้
เสียงวุ่นวายด้านนอกงานดึงดูดทำให้เบลล่ารีบวิ่งออกไปดูก่อนจะกับเดม่อนที่ยืนคร่อมอยู่เหนือร่างของโคล ไมเคิลสันที่ตอนนี้เสียชีวิตชั่วคราวจากการหักคอ
"เดม่อน! นายเป็นบ้าไปแล้วหรือไง" สเตฟานถาม ครอบครัวแวมไพร์ดั้งเดิมพร้อมกับเอเลน่าเดินออกมาข้างนอกพร้อมๆกัน "ก็คงจะนิดหน่อยน่ะ ก็ฉันเป็นตัวสร้างปัญหาไงล่ะ" เขาตอบก่อนจะหันหลังและเดินออกไปทำให้เบลล่าถอนหายใจ
ไม่นานต่อมาเบลล่าก็สามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย เธอนั่งลงหน้ากระจกและเริ่มถอดต่างหูออกแต่แล้วความรู้สึกบางอย่างก็ทำให้เธอหยุดมือก่อนจะหันไปด้านซ้าย
บนเตียงนอนมีกล่องสีดำผูกริบบิ้นวางอยู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเอามันมาไว้ เธอหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินขึ้นไปหยิบกล่องและเปิดออกเพียงเพื่อพบกับม้วนกระดาษสีกาแฟอ่อน
เมื่อคลี่มันออกก็พบว่ามันเป็นรูปภาพวาดของเธอในงานวันนี้พร้อมกับเจ้าม้าตัวสีน้ำตาลนั่น ข้างล่างมีเขียนเอาไว้ว่า 'ขอบคุณสำหรับคืนนี้ เคลาส์'
โรซาเบลล่าช่วยไม่ได้แต่ยิ้มกว้างออกมาและดวงตาของเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นสีส้มครู่หนึ่งก่อนจะดับวับหายไป
—
หลังจากกลับบ้านมาราวๆสองชั่วโมงเบลล่าก็ตื่นขึ้นด้วยอาการหอบ ไม่สิ ไม่ใช่เบลล่าตัวจริงหรอกมันคือคนที่อาศัยอยู่ในร่างของเธอต่างหาก ไฟว์เบิร์ดดั้งเดิมหรือหญิงสาวนามแอสทริด
แอสทริดในร่างเบลล่าลุกขึ้นทันทีก่อนจะดีดนิ้วทั้งสองข้างและเทียนรอบห้องก็ถูกจุดขึ้น สร้อยอเมทิสต์ส่องแสงสีม่วงเรืองท่ามกลางแสงไฟอันน้อยนิดก่อนที่แอสทริดจะหลับตาลง
มือทั้งสองข้างกางออกและการพึมพำคาถาก็เริ่มขึ้น ในห้องที่ปิดหน้าต่างสนิทเริ่มมีลมประหลาดเกิดขึ้น ไฟเทียนที่จุดอยู่กลายเป็นสีม่วงอันตรายและอากาศข้างนอกก็ดูแปรปรวนกว่าปกติ
เสียงฟ้าผ่าเกิดขึ้นสองสามครั้งขณะที่ร่ายมนตร์ ลมแรงขึ้นเรื่อยๆและสีของไฟจากเทียนก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆจากสีม่วงไปยังสีฟ้าก่อนจะหยุดที่ขาวบริสุทธิ์
เมื่อเสียงพึมพำคาถาหยุดลง ลมประหลาดก็หายไป ไฟจากเทียนเปลี่ยนกลับไปเป็นสีส้มดังเดิม เบลล่าที่เคยอยู่ในภวังค์การนอนหลับถูกปลุกตื่นขึ้นและส่งเสียงถาม แอสทริด?
แอสทริดถอนหายใจ "ไม่ต้องห่วงนะเด็กน้อย ทุกอย่างจะเรียบร้อย" และเธอก็ยิ้มมุมปากก่อนที่ดวงตาจะกลายเป็นสีส้มอันตราย
talk ;
นิยายแฟนตาซีอะไรก็เป็นไปได้ค่ะ555555555555 เรารู้สึกว่าตัวเองแต่งแบบมั่วมาก อ่านรู้เรื่องกันมั้ยคะ TT แอสทริดจะมีบทบาทมากขึ้นนะคะส่วนแผนของเธอในอนาคตเรายังไม่ได้การันตีค่ะ รอดูกันต่อไป
ชุดของเบลล่า
![](https://i.pinimg.com/564x/6f/db/7a/6fdb7a1d50d1b5cf4ce550528f780670.jpg)
![](https://i.pinimg.com/564x/ef/1b/96/ef1b96af1f9feec58f66b746d3fa9764.jpg)
![](https://i.pinimg.com/564x/7e/38/c5/7e38c523903a21013e8c0371e71325b2.jpg)
![](https://i.pinimg.com/564x/6c/1f/4c/6c1f4c6942ab8d95f6d3f119e1e36479.jpg)
![](https://i.pinimg.com/564x/f1/04/b0/f104b05fb7f8991b214624c9bc88abcd.jpg)
![นิยายแฟร์ 2024](https://image.dek-d.com/contentimg/2024/writer/assets/fair/07/reader_850x90.webp)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น