ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the vampire diaries — fire on fire , klaus mikaelson

    ลำดับตอนที่ #21 : ⁽ 19 ⁾

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 65


    12 Gifs ideas | aesthetic gif, animation art, grave of the fireflies
    ( 19 )
    3x09 - Homecoming



    งานคืนสู่เหย้าคือวันนี้และโรซาเบลล่าก็ไม่พลาดมัน เพราะถ้าพลาดมันหมายถึงการที่รีเบ็คก้าตามตัวเธอก็ไม่เอาด้วยหรอก อีกอย่างนิกสัญญาว่าเขาจะกลับมาวันนี้เพราะฉนั้นเธอต้องคว้าโอกาสไว้ให้ได้

    มือเรียวจัดเรียงเครื่องประดับและชุดที่ต้องใช้ใส่ไปงานขณะที่ฮัมเพลงไปด้วยก่อนจะตัวแข็งค้างเมื่อรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผดเผาไหม้ในเส้นเลือดแม้จะไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ก็ตาม

    สัญชาตญาณบอกให้เธอโทรหารีเบ็คก้าและเบลล่าก็ทำตามนั้น มือเรียวกดเบอร์ของแวมไพร์สาวผมบลอนด์ก่อนจะรอ... ผ่านไปหลายนาทีสายก็ถูกตัดเข้าสู่วอยเมลล์ทำให้เธอขมวดคิ้ว

    "เฮ้ เบ็คก้านี่เบลล่าเองนะ ช่วยโทรกลับด้วย" เธอพูดฝากข้อความเสียงก่อนจะวางสายแต่ไม่สามารถสลัดความรู้สึกแปลกๆออกไปได้ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะถอนออกมา

    เธอหยิบชุดเดรสขึ้นมา มันคือชุดเดรสสีดำสายเดี่ยวคอวีที่เปล่งประกายระยิมระยับ แอสทริดช่วยเธอเลือกชุกเมื่อวันก่อนและเบลล่าก็ใช้เงินของตนเองจ่าย เธอไม่ได้รวยหรอกแค่ว่าเงินในธนาคารมันเพิ่มขึ้นมาตั้งหลายปีแล้วต่างหากซึ่งเธอรู้ว่าเอไลจาห์เป็นคนโอนมาให้

    เมื่อเธอเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็หันไปมองในกระจกและยิ้มออกมา เธอทำผมเป็นลอนก่อนจะปล่อยลงมาและแต่งหน้าเล็กน้อยปิดท้ายด้วยการทาลิปสติกสีชมพูอ่อน

    เบลล่าไม่ได้ถอดสร้อยคออเมทิสต์ออกเพราะยังไงซะมันก็เข้ากับชุดเธออยู่ดี เธอมองไปที่เครื่องประดับอื่นๆและหยิบมันขึ้นมาใส่ มันเป็นสร้อยข้อมือสีแบบโซ่สีทองที่มีอัญมณีกลมสวยงามอยู่ตรงกลางก่อนที่โซ่จะเชื่อมกับแหวนสีทองที่มีอัญมณีรูปแบบเดียวกันใส่ลงบนนิ้วกลางจากนั้นก็ซ้อนทับด้วยแหวนสีทองเรียบบนนิ้วกลางอีกครั้ง

    เบลล่าใส่รองเท้าส้นสูงแบบที่เธอคิดไว้แล้วว่าสามารถวิ่งได้สะดวก มันเป็นสีดำที่มีประกายระยิบระยับและเส้นผูกรอบข้อเท้า เบลล่ายิ้มสร้างความมั่นใจให้ตนเองก่อนจะหมุนตัว

    "งั้น ฉันดูเป็นไงบ้าง" เบลล่าถามแอสทริดขณะที่ปัดผม น่าทึ่งมาก เคลาส์จะต้องตาค้าง แอสทริดบอกและเบลล่าหัวเราะคิกคักก่อนจะหยิบโทรศัพท์ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปแต่ไม่ลืมที่จะโทรหารีเบ็คก้าอีกรอบ



    หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมโรงยิ้มเบลล่าก็ย้ายไปคฤหาสน์ล็อควู้ดที่จัดงานได้อย่างรวดเร็วทำให้เธอยิ้มเล็กน้อย ผู้คนแน่นหนาและกระโดดไปตามเสียงดนตรี แสงสีและแอลกอฮลส์อยู่ในงานเรียบร้อย

    เบลล่าเลิกคิ้วก่อนจะเดินไปยังมุมหนึ่งที่มองเห็นได้ชัด มองดูผู้คนไปมา เธอรู้สึกเหมือนเดจาวูในคืนที่เธอโดนลักพาตัว ความรู้สึกแปลกๆในลำไส้ที่อธิบายไม่ได้ทำให้นัยตาสีฟ้ามองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง

    เธอไม่รู้จักผู้คนส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ

    เสียงดนตรีเริ่มหยุดลงเมื่อผู้ชายสวมสูทคนหนึ่งเดินขึ้นเวทีไป ไฟส่องหน้าเขาทำให้เบลล่าอ้าปากค้างเล็กน้อย "สวัสดีครับทุกคน! ผมอยากจะขอบคุณทุกคนที่อยู่กับผมที่นี่เพื่อเลี้ยงฉลอง มันเป็นการจากไปที่ยาวนาน"

    เคลาส์สบตากับเบลล่าและเธอก็เริ่มยิ้มจากนั้นเขาก็กระโดดลงมาจากเวทีก่อนจะเดินไปหาเบลล่าที่ยิ้มรอเขาอยู่แล้ว "เธอดูน่าทึ่งนะที่รัก" เคลาส์ชมและเบลล่าก็เก็บปอยผมไว้หลังหู "ขอบคุณค่ะ"

    ใบหน้าของเธอแดงเล็กน้อย "นายก็...ไม่แย่เกินไปนะ" เธอชมเขากลับและเขาก็หัวเราะคิกคักทำให้เบลล่ายิ้มมากขึ้นจากนั้นสเตฟานก็เดินเข้ามาและเริ่มพูด "เป็นการคืนสู่เหย้าจริงๆเลยนะ"

    "ฉันวางแผนจะฝังศพพ่อมาพันปีแล้วล่ะ ไม่เคยมีงานไหนที่เชิญคนพวกนี้มาก่อนนายคงเข้าใจนะ" เคลาส์บอก "แล้วไงต่อล่ะ หยุดหนีแล้วหรอ" สเตฟานถาม

    "ตอนนี้ฉันก็จะรวมญาติอีกครั้ง" ดวงตาของเบลล่าสว่างขึ้นเมื่อได้ยินมันหมายความว่าเอไลจาห์อาจถูกปลดกริชออก "ครอบครัวของคุณหรอ คุณหมายถึงคนที่อยู่ในโลงที่เอาไปไหนมาไหนด้วยน่ะหรอ"

    "ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป ไมเคิลตายไปแล้วนี่อะไรที่มันแล้วก็ให้แล้วไป" เคลาส์พูดจากนั้นพวกเขาก็สังเกตเห็นราชินีคืนสู่เหย้า "ดูเหมือนราชินีคืนสู่เหย้าจะเดินอยู่ท่ามกลางผู้คน ยิ่งทำให้ฉันเชื่อว่ารีเบ็คก้าไม่ได้อยู่ที่นี่ เธออยู่ที่ไหน" เบลล่าขมวดคิ้วมองไปรอบๆ

    "ผมไม่รู้ ผมนึกว่าเธอออกมากับแมทซะอีก" สเตฟานตอบและเบลล่าก็หรี่ตาลง "โอ พูดความจริงมาเถอะสเตฟาน น้องสาวฉันอยู่ไหน" เคลาส์ถามอีกครั้ง

    เบลล่าเม้มริมฝีปากด้วยความรู้สึกเตือนภัยในลำไส้ของเธอ "ผมบอกว่าผมไม่รู้ไงล่ะ คุณอยากให้ผมพาไปหาพ่อตอนนี้เลยมั้ยล่ะ" สเตฟานเสนอ "มันคงไม่เป็นงานปาร์ตี้ถ้าไม่มีแขกผู้มีเกียรติใช่มั้ยล่ะ ไปพาเขามาหาฉันสิ"

    "ก็ได้ บางทีน่าจะมีอะไรแลกเปลี่ยนกันหน่อยนะ" สเตฟานบอก "อิสระภาพของผมจากการสะกดคุณไงล่ะ" สเตฟานเสริมเมื่อเห็นสีหน้างุนงงของเคลาส์

    "โอ นายอยากได้อิสระภาพงั้นหรอ เมื่อเขาตายและอาวุธของเขาถูกทำลายนายก็เป็นอิสระ" เคลาส์พูด "ฉันยินดีอย่างยิ่งที่จะคืนมันให้กับนาย"

    สเตฟานพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปและเคลาสก์ยื่นมือออกไปหาเบลล่า "ขอเต้นได้มั้ยครับ?" เขาถามและเบลล่าก็หัวเราะ "แน่นอนค่ะ" เธอวางมือลงบนเขาก่อนจะปล่อยให้เขาดึงเธอเข้าไปในฝูงชน

    แขนของเธอโอบรอบเอวของเขาขณะที่มือของเขาโอบรอบเอวเธอและทั้งคู่ก็เริ่มเต้นรำกัน เบลล่าไม่สามารถมีความสุขได้มากกว่านี้อีกแล้วราวกับว่าทั้งโลกมีเพียงแค่พวกเขาสองคน

    ไมเคิลอยู่ที่นี่ ซัลวาเทอร์วางแผนฆ่าเคลาส์ แอสทริดกระซิบและเบลล่าก็ขมวดคิ้วทันที มองไปมาในฝูงชนก่อนจะดึงตัวเข้าไปใกล้หูของเคลาส์และเริ่มกระซิบให้เพียงเขาได้ยิน

    "พวกเขาจะไม่เอาไมเคิลที่ถูกกริชมา พวกเขาวางแผนจะฆ่าคุณ" เธอผละออกมาเห็นใบหน้าของเคลาส์เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายและเบลล่าก็ถอนหายใจ "ฟังนะ ฉันรู้ว่านายหวาดระแวงแต่นายต้องเชื่อใจฉัน ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผน ฉันเพิ่งรู้ด้วยซ้ำว่าไมเคิลไม่ได้ถูกกริชเพราะฉนั้นนายต้องเชื่อใจฉันและฉันจะช่วยนายฆ่าเขา"

    เคลาส์ถอนหายใจ "ฉันเชื่อใจเธอที่รัก" เบลล่ายิ้ม "ดี" เธอรู้ว่าเขาจะสงสัยในคำพูดของเธอบางประโยคและไม่เป็นไรเพราะเธอมีเวลาอีกเยอะในการอธิบายให้แก่เขา

    พวกเขาละจากกันก่อนเบลล่าจะถามขึ้น "อยากดื่มหรอ?" เธอเลิกคิ้วซุกซนและเขาก็ยิ้มพอใจ พวกเขาเดินไปหยิบเบียร์ออกมาขวดหนึ่งจากนั้นก็ตรงไปหาเอเลน่า

    "คู่เดทของเธอไปไหนซะล่ะ" เคลาส์ถาม "ไปเอาเครื่องดื่มมาให้ฉันน่ะ" เอเลน่าตอบและเบลล่าก็หรี่ตาเมื่อรู้สึกแปลกประหลาด "ดูเหมือนต้องขอบคุณเธอสำหรับการตายของไมเคิลนะ"

    "เขาพยายามเอาตัวฉันไป ฉันไม่มีทางเลือก" เอเลน่าตอบ "ก็ยังน่าประทับใจอยู่ดี มันไม่ง่ายเลยที่มนุษย์จะใช้มีดปักอกพวกดั้งเดิม" เคลาส์สังเกต

    "มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกนี่" เอเลน่าตอบและเบลล่าก็กลอกตาเล็กน้อย "ถูกต้อง เอไลจาห์ไงล่ะ" เคลาส์พูดก่อนจะมองไปรอบๆและเบลล่าสังเกตเห็นเอเลน่าดูไม่ปกติ

    จากนั้นวินาทีต่อมาเคลาส์ก็สังเกตเห็นด้วยเช่นกัน "เธอดูลนๆนะ" เขาตั้งข้อสงสัย "ฉันไม่ได้ลน ฉันก็แค่ไม่ชอบคุณเท่านั้น" เอเลน่าตอบ "งั้นเข้าประเด็นเลยล่ะกัน ผู้คนไล่ล่าฉันมาเป็นพันปีแล้วฉันก็นำหน้าพวกเขาหนึ่งก้าวเสมอดังนั้นไม่ว่าเธอคิดจะทำอะไรอยู่ก็เอาเลย ทำให้ดีที่สุดเลยนะเธอไม่มีวันทำสำเร็จหรอก"

    หลังจากการขู่แล้วเบลล่าก็ถอนหายใจ "ฉันจะไปหาแคร์โรไลน์" เธอพึมพำบอกเคลาส์และเขาก็พยักหน้า "แน่นอนที่รัก ปลอดภัย" เขาพูดและเบลล่าก็บีบแขนเขาด้วยความมั่นใจก่อนจะเดินออกไป

    เธอมองไปรอบๆพยายามหาเพื่อนสาวผมบลอนด์แต่ก็ไม่พบจากนั้นความรู้สึกในลำไส้ของเธอก็แรงขึ้นก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำสำหรับโรซาเบลล่า




    โรซาเบลล่าตื่นขึ้นด้วยอาการปวดหัวเล็กน้อยและรู้สึกได้ถึงเลือดที่ด้านหลังศีรษะ เธอคร่ำครวญขณะที่รู้สึกว่าถูกโยนไปที่ใครบางคน นัยตาสีฟ้าปรับทัศนียภาพก่อนมองว่าตรงหน้าของเธอคือเคลาส์ที่ดูตกใจและหวาดกลัว

    ไมเคิล แอสทริดกระซิบและเบลล่าก็เข้าใจ ข้างๆเธอคือเอเลน่าและนัยตาสีฟ้าของเธอก็มองไปที่เคลาส์ เคลาส์มีแผน แอสทริดบอกกับเธออีกครั้งและเธอก็เชื่อใจเขามากพอ

    "ออกมาเผชิญหน้ากับฉันสินิกเคลาส์ ไม่งั้น..พวกเธอตาย" เบลล่ากลืนน้ำลายและวางแผนเงียบๆในหัวกับแอสทริดที่รอคอยเตรียมหากมีอะไรผิดพลาด เธอรู้สึกได้ว่าเลือดของเธออบอุ่นขึ้นและมือของเธอก็ใกล้จะพร้อมจุดไฟเผา

    "เอาเลย ฆ่าพวกเธอ" เคลาส์พูดและเบลล่าก็มองเขาด้วยสายตาตกใจเล็กน้อยแต่เธอรู้ว่าเขามีแผน "ไม่นะ เคลาส์เขาจะทำจริงนะ" เอเลน่าพูดขอร้อง

    "ถ้าเธอตาย ไอ้พวกนี้ก็จะเป็นเดนอสูรกลุ่มสุดท้ายของแก" ไมเคิลพูดถึงเอเลน่า "และถ้าเธอนี้ตาย นายก็จะโดดเดี่ยวไปตลอดกาล" เขาพูดถึงเบลล่าที่จ้องมองไปยังนัยตาสีมหาสมุทรอันลึกล้ำของเขาด้วยความมั่นใจ

    "ผมไม่ได้ต้องการพวกเขาหรอก ผมแค่ต้องการฆ่าพ่อเท่านั้น" เคลาส์พูด "แล้วมันจะจบยังไล่ะนิกเคลาส์ แกจะมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันด์โดยไม่มีใครเคียงข้างอยู่เลยงั้นหรอ ไม่มีใครใส่ใจนายอีกต่อไปแล้วเด็กน้อยแกจะเหลือใครล่ะนอกจากพวกภักดีที่ถูกบังคับ ไม่มีใครหรอก ไม่มีสักคน" ไมเคิลพูด

    เบลล่ารู้สึกอยากจะต่อต้านคำพูดนั้นแต่เธอรู้ดีกว่าว่าควรจะเงียบๆไว้ มือของเธออุ่นขึ้นในวินาทีที่สองและเบลล่าก็เตรียมพร้อม "ผมกำลังบอกให้พ่อทำอยู่นี่ไง ฆ่าพวกเธอซะ"

    "ออกมาข้างนอก มาเผชิญหน้ากับฉันเจ้าเด็กขี้ขลาดจะได้ไม่ต้องทำแบบนี้" ไมเคิลพูดและเบลล่าก็มองขณะที่น้ำตาของเคลาส์ไหลลงอาบแก้มทำให้หัวใจของเบลล่าแตกสลาย

    "ตลอดชีวิตพ่อประเมินผมต่ำมาตลอด ถ้าพ่อฆ่าเธอพ่อก็จะเสียศักดิ์ศรีของพ่อ เอาเลยสิ ฆ่าพวกเธอเลยสิ เร็วๆสิตาแก่ ฆ่าพวกเธอ ฆ่าพวกเธอ!" เขาตะโกนออกมา

    "ความหุนหันของแกนิกเคลาส์ มันจะมีอยู่และเป็นเช่นนี้ตลอดไป มันเป็นเพียงสิ่งเดียวทีทำให้แกเป็นผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้ไงล่ะ" จากนั้นไมเคิลก็แทงเอเลน่าขณะที่เคลาส์อ้าปากค้าง

    จากนั้นเดม่อนก็ออกมาจากที่ซ่อนและแทงเคลาส์ทำให้เบลล่าเผามือของไมเคิลทำให้เขาปล่อยเธอแต่ก็ไม่วายรู้สึกเจ็บใต้หัวใจของเธอทำให้เบลล่ากัดฟันแน่น

    เบลล่าที่อะดรีนาลีนสูดฉีดพล่านมองไปที่แคทเธอรีนผู้ปลอมแปลงเป็นเอเลน่าลุกขึ้นยืน "แคทเธอรีน" ไมเคิลพึมพำ แคทเธอรีนยกวูฟเบนส์ขึ้นและโยนขึ้นฟ้า "คาบูม" โยนไปที่เลือดผสมก่อนจะหนีไป

    คนผมแดงคุกเข่ายกมือไปที่ไมเคิลทำให้เขาจับหัวล้มลงด้วยความเจ็บปวด เธอบังคับให้ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วเขาก่อนจะแผดเผาไปทั่วร่างกายเหมือนการโดนแสงแดด

    เธอหันไปหาเคลาส์เพื่อพบว่าสเตฟานช่วยเขาไว้โดยการตรึงเดม่อน "นิก! แท่งไม้!" เธอตะโกน เขาเข้าใจทันทีและหยิบแท่งไม้ขึ้นมา เร่งความเร็วก่อนที่จะแทงไปที่ไมเคิลและเบลล่าก็ลดมือลง

    ทั้งเธอและเขาเฝ้ามองไมเคิลถูกเผาไหม้ เบลล่าถอนหายใจก่อนจะจับแผลไว้ด้วยความเจ็บปวด "นายทำอะไรลงไป" เดม่อนถามด้วยความหงุดหงิด "เขาได้รับอิสระภาพแล้ว" เคลาส์พูดขณะที่ช่วยเบลล่าลุกขึ้นยืน

    "ขอบคุณนะเพื่อน นายไม่ต้องทำตามที่ฉันบอกแล้ว นายเป็นอิสระแล้ว" เคลาส์พูดพวกเขาหันไปพบว่าเดม่อนจากไปแล้ว ด้วยเหตุผลนี้สเตฟานจึงจากไปตาม

    เบลล่าเริ่มล้มลงเมื่อเธอรู้สึกอ่อนแอ เคลาส์สังเกตก่อนจะใช้ความเร็วของแวมไพร์เร่งพาเธอไปที่บ้านพัก เบลล่าถอนหายใจเหนื่อยอ่อน "นายรู้บ้านฉันได้ยังไง" เธอถาม

    "พรสวรรค์น่ะที่รัก" เขาตอบติดตลกก่อนจะวางเธอลงบนโซฟาและกัดข้อมือก่อนจะป้อนเลือดให้เบลล่าโดยที่เธอรับมันไปด้วยความยินดี เบลล่าถอนหายใจและผละออกมาเมื่อรู้สึกได้ว่าแผลของเธอสมานเรียบร้อย

    "ขอบคุณ" เธอกระซิบและยิ้ม เขายิ้มกลับ "ยินดีเสมอที่รัก"




    talk ;
    เราขอข้ามตอนที่ 10 ไปนะคะ เราจะไปกันที่ตอนที่ 11 เลย ใกล้การรวมตัวของครอบครัวแล้วค่ะ

    ชุดของเบลล่า

       
    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×