ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the vampire diaries — fire on fire , klaus mikaelson

    ลำดับตอนที่ #18 : ⁽ 16 ⁾

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 64


    ROMANOFF ─ plot shop - TVD, TO, & LEGACIES - Wattpad
    ( 16 )
    3x04 - Disturbing Behavior



    การเป็นเพื่อนกับรีเบ็คก้าทำให้โรซาเบลล่าอดนึกถึงแคโรไลน์ไม่ได้ หลังจากการระเบิดอารมณ์เล็กๆของแวมไพร์สาวดั้งเดิมพวกเขาก็ตัดสินใจว่าเป็นการดีที่จะให้รีเบ็คก้าซื้อเสื้อผ้าใหม่โดยเสื้อผ้าในยุค 1920 นั้นไม่เข้ากับยุคสมัยนี้เอาซะเลย

    มือเรียวของเบลล่าเลือกชุดจากไม้แขวนที่คิดว่าดูเหมาะกับรีเบ็คก้าขณะที่ความรู้สึกไม่ควรไว้ใจสเตฟานยังคงเตือนเธอเรื่อยๆ "ชุดนี้มันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้นะ" เสียงของเธอดังออกมาจากห้องลองชุด "มันมีอยู่แค่นั้นแหละ"

    ไม่นานแวมไพร์ผมบลอนด์ก็เดินออกมาจากห้องแต่งตัว "งั้นผู้หญิงในศตวรรษที่ 21 นี่แต่งอย่างกับโสเภณีว่ามั้ย ขนาดฉันใส่กางเกงขายาวยังดูไม่ค่อยงามเท่าไหร่"

    "เธอใส่กางเกงขายาวแต่สาวสมัยนี้แทบไม่ใส่อะไรด้วยซ้ำ" เคลาส์พูดและเบลล่าก็กลอกตาก่อนจะอ้าปากค้างเล็กน้อยเมื่อเจอชุดสีดำเดรสสั้นเรียบๆที่มีสไตลส์กับเสื้อแขนสั้นสีเนื้อและกางเกงยีนส์ขาสั้น

    "ดนตรีนี่อย่างกับเสียงรถกระเช้าชนกัน" รีเบ็คก้าแสดงความคิดเห็นและเบลล่าก็เดินไปใกล้ๆผู้หญิงคนนั้น "มันเป็นเพลงเต้นรำน่ะเบ็คกี้" เบลล่าตอบด้วยรอยยิ้มเล็กๆ

    "ผู้คนเต้นรำด้วยเพลงแบบนี้หรอ" สเตฟานฮัมตอบและนิกก็ขัดจังหวะดีๆ "เสร็จรึยังล่ะ" เบลล่าหันไปเลิกคิ้วใส่เขา "ทำไมพี่ต้องมีน้ำโหด้วยล่ะ" เบ็คก้าถามพี่ชายของเธอ

    "ฉันต้องการสิ่งๆหนึ่งจากเธอไปให้แม่มดของฉันเพื่อหาสาเหตุว่าทำไมลูกผสมที่ฉันสร้างถึงตายและสิ่งนั้นมันก็คือสร้อยคอของเธอแล้วเธอก็ทำมันหายไปแล้ว" เบลล่าส่ายหัว "เธอไม่ได้ทำมันหายนิก มันหายไปตั้ง 90 ปีแล้วต่างหาก อย่าทำตัวเป็นตูด" เบลล่าบอกเขาและหันไปยิ้มให้กับรีเบ็คก้าที่ยิ้มพอใจ

    "งั้นคุณคิดว่าไง" รีเบ็คก้าถามความคิดเห็นจากสเตฟาน "ผมชอบนะ" สเตฟานตอบและเบลล่าก็หรี่ตาที่เขา "อะไรนะ ผมบอกว่าผมชอบไง" สเตฟานถาม

    "ฉันจับคุณโกหกได้เสมอ สเตฟาน" รีเบ็คก้าตอบและเบลล่าก็ยื่นสองชุดให้เธอไปลองและพยักหน้าให้กำลัง รีเบ็คก้าหยิบชุดไปก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องลองชุด

    เธอมองผู้ชายสองคน "เก่งมาก ทำได้ดี" เคลาส์พูด "คุณถอนกริชออกจากเธอเองนะ" สเตฟานบอกและรีเบ็คก้าก็ตอบกลับทันที "ฉันได้ยินนะ" เบลล่าหัวเราะคิกคัก "เอาล่ะผมขอออกไปสูดอากาศหน่อย" สเตฟานพูดและเดินออกไป

    เบลล่าถอนหายใจและหยิบแก้วแชมเปญจากเคลาส์และดื่มรวดเดียวหมดก่อนจะส่งแก้วเปล่ากลับให้เขาด้วยรอยยิ้มเยาะ เธอนั่งลงบนเก้าอี้ที่สเตฟานเคยนั่งและเริ่มเล่นกับสร้อยคอ

    ในวินาทีต่อมาดวงตาของเธอก็กลายเป็นสีขาวบดบังดวงตาสีฟ้าสวยงามและอเมทิสต์ก็เปล่งแสงสีม่วงพร้อมกับร้อนขึ้นนิดหน่อยก่อนที่วิสัยทัศน์ของโรซาเบลล่าจะเปลี่ยนไป

    เธอเห็นสร้อยคอสีองลวดลายสวยงามที่มีเมล็ดทับทิมเล็กๆอยู่ตรงกลางและเธอรู้สึกคุ้นเคยกับมันแต่ไม่สามรถบอกได้ว่าที่ไหนหรือจากใครทำให้เธอไม่สามารถวางมันได้ลง

    เบลล่ากระพริบตาก่อนจะพบว่าตัวเองกลับมาที่ปัจจุบันและทุกอย่างก็กลับไปเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอกลืนน้ำลายและขมวดคิ้วก่อนจะเริ่มถาม "เฮ้ เบ็ค?" เธอเรียก

    "ว่าไง" รีเบ็คก้าตอบกลับมาจากห้องลองชุด "สร้อยคอของเธอเป็นสีทองที่มีทับทิมเล็กๆอยุ่ด้วยหรือเปล่า?" เธอรู้สึกได้ว่าเคลาส์หันมามองเธอด้วยคิ้วที่ขมวด ผ่านไปสักพักรีเบ็คก้าถึงตอบกลับมา "ใช่ เธอรู้ไหมว่ามันอยู่ไหน"

    คราวนี้เบลล่าดูงุนงงมากขึ้น "ไม่รู้สิ...เหมือนเคยเห็นที่ไหนแต่จำไม่ได้ ขอโทษนะเบ็ค" เธอเม้มริมฝีปาก "ไม่เป็นไร" รีเบ็คก้าตอบด้วยรอยยิ้มน้อยๆและเบลล่าก็เอนตัวลงหันไปมองเคลาส์ที่ยิ้มให้เธอ

    "ฉันสาบานเลยว่าเคยเห็นมันที่ไหนสักแห่ง" เธอพึมพำกับเขา "ไม่เป็นไรหรอกที่รักถ้าจำไม่ได้" เคลาส์บอกพร้อมกับจับมือเธอและเบลล่าก็ถอนหายใจก่อนจะพยักหน้ายิ้มเบาๆ



    พวกเขาไปที่บาร์ของกลอเรียหลังจากรีเบ็คก้าพอใจกับชุดแล้ว เบลล่านั่งใกล้ๆกับเคลาส์มองดูกลอเรียร่ายมนตร์เมื่อสเตฟานเดินเข้ามา "คุณทิ้งพวกเราไป"

    "ใช่ ผมขอโทษซื้อของบำบัดนั่นทำให้หัวผมระเบิด" สเตฟานตอบ เขาซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ เสียงกระซิบของแอสทริดทำให้เบลล่าหรี่ตามองเขา "เล่าให้ฟังหน่อยสิ" เคลาส์เรียกร้อง

    "เธอทำอะไรอยู่น่ะ" สเตฟานถามพลางมองกลอเรีย "ล้มเหลวไง" เคลาส์ตอบ "มันยากที่จะหาสิ่งที่ไม่มีเบาะแสอยู่ในมือเลย" กลอเรียโต้กลับและเบลล่าก็เลิกคิ้วเสนอ "งั้นใช้เบ็คก้าสิ เธอใส่มันมาเป็นพันปีเชียวนะ"

    กลอเรียยิ้มให้เบลล่าและรีเบ็คก้าก็เดินไปหาเธอ "มาดูซิว่าเธอจะช่วยหาทางออกได้มั้ย" กลอเรียพูด "เอาล่ะ ส่งมือมาเลยสาวน้อย" จากนั้นกลอเรียก็เริ่มร่ายมนตร์เพื่อหาสร้อยคอขณะที่เบลล่ารู้สึกได้ถึงเวทมนตร์ในห้อง

    เธอวางหัวลงบนไหล่ของเคลาส์และเขาก็โอบแขนรอบเอวเธอ "เธอกำลังตามหาสร้อยคออยู่หรอ" สเตฟานถามขณะที่กลอเรียยังคงตามหาสร้อยคออยู่

    "ฉันรู้สึกได้ถึงบางอย่าง...." กลอเรียเริ่ม ทั้งเคลาส์และเบลล่ามองดูด้วยความอดทนจากนั้นไม่นานกลอเรียก็ปล่อยมือรีเบ็คก้า "ฉันพบมันแล้ว" กลอเรียประกาศและเบลล่าก็ยิ้มให้รีเบ็คก้า

    "งั้นมันอยู่ไหนล่ะ" รีเบ็คก้าถาม "มันไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้นหรอกคนสวย ฉันเห็นภาพ มีเด็กสาวกับเพื่อนๆของเธอ" กลอเรียพูด "ใช่คงเป็นศพเด็กสาวกับเพื่อนๆที่ตายแล้วถ้าฉันไม่ได้สร้อยของฉันคืน"

    "ฉันคงต้องเพ่งมากกว่านี้เพื่อให้เห็นรายละเอียด" กลอเรียพูด "งั้นทำเลยสิ" เคลาส์พูด "ฉันต้องการเวลามากกว่านี้และสถานที่ด้วย คุณกำลังเร่งรัดฉันอยู่นะ"

    "เรารอได้" เคลาส์บอก "ฉันมั่นใจว่าคุณรอได้แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันขอ" เบลล่ามองดูเคลาส์กับกลอเรียที่จ้องตากันจนกระทั่งสเตฟานขัดขึ้น "เฮ้ ทำไมเราไม่กลับมาใหม่ล่ะผมชักหิวแล้วนะ ผมจะให้คุณเลือกว่าอยากกินคนไหนดี"

    เบลล่า รีเบ็คก้าและเคลาส์มองกันไปมาก่อนจะตัดสินใจเดินตามสเตฟานไปแต่ทว่าเบลล่าก็ไม่พลาดที่จะดึงแวมไพร์ดั้งเดิมสองคนมาใกล้ๆและกระซิบในระดับที่สเตฟานไม่มีวันได้ยิน "เขาซ่อนอะไรบางอย่างอยู่" เธอกระซิบ

    "ทำเป็นว่าเราไม่รู้เรื่องอะไรเลย" เคลาส์แนะนำและเบลล่าก็คล้องแขนกับรีเบ็คก้าก่อนจะเดินออไปพร้อมๆกันด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย




    เบลล่าได้มิลเชกค์สีสวยแก้วหนึ่งในขณะที่สเตฟานและเคลาส์ได้ผู้หญิงสองคนและดื่มเลือดจากพวกเธอ "สาวๆของฉันตายแล้ว ฉันเบื่อ" รีเบ็คก้าบอกและเบลล่าก็ดื่มมิลเชกค์ไปเรื่อยๆ

    "นายไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ยที่บอกว่านายกำลังหิวน่ะ" เคลาส์พูด "วันนี้มันนานมากเลยนะ" สเตฟานตอบ "พยายามทำตัวใกล้ชิดกับเธอ" เคลาส์เอ่ยถึงรีเบ็คก้า

    "คุณใจร้ายมากทำไมถึงใจร้ายแบบนี้ คุณเคยรักฉัน" รีเบ็คก้าถาม "นั่นมัน 90 ปีมาแล้วนะรีเบ็คก้าให้เวลาเขาหน่อยสิ" เคลาส์เอ่ยและเบลล่าก็กลอกตา "ทำไมพี่ถึงต้องไปเข้าข้างเขาด้วย"

    "น้องรักเพราะว่า..พี่รู้สึกสงสารผู้ชายที่ไม่ได้ให้ในสิ่งที่เธอต้องการน่ะสิ" เคลาส์พูด "หยุดทำให้ฉันเป็นเหมือนนางมารร้ายได้แล้ว ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น" รีเบ็คก้าพูด

    "พันกว่าปีที่ใช้ชีวิตมา มันบอกฉันในทางตรงข้ามนี่" เบลล่ากลอกตา "คุณไม่ได้เที่ยวปิกนิกเหมือนกันนี่ ผมเพิ่งไปอยู่กับคุณมาฤดูร้อนเดียวแล้วผมรู้สึกเหมือนกับว่าอยากระเบิดหัวตัวเองทิ้ง"

    รีเบ็คก้าและเบลล่าหัวเราะคิกคัก "วิเศษไปเลย" จากนั้นสเตฟานก็ปล่อยหญิงสาวที่ตายแล้วลงบนพื้นก่อนจะเริ่มเดินออกไป "ผมต้องไปแล้ว" เบลล่าวางแก้วเปล่าลง

    "เขาจะไปไหน" รีเบ็คก้าถาม "ไปเขียนชื่อลงบนผนัง เรื่องมันยาวน่ะ" เคลาส์พูดและเบลล่าก็ถอนหายใจ ราวๆนาทีหนึ่งต่อมาเธอก็เริ่มรู้สึกไม่สบาย

    เมื่อเธอลุกขึ้นและกำลังจะเดินโรซาเบลล่าก็เริ่มเดินเซ "โว้วๆๆ" เคลาส์ส่งเสียงทำให้รีเบ็คก้าหันมองเธอ "เธอโอเค?" รีเบ็คก้าถามและเบลล่าก็ยิ้มให้เธอ "ใช่ ฉันแค่เวียนหัวนิดหน่อย" เบลล่าถอนหายใจและปิดเปลือกตาลง

    วินาทีต่อมาที่เธอลืมตาขึ้นและนัยตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีส้มอันตราย ความรู้สึกอบอุ่นเริ่มเกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นก่อนที่ทุกอย่างจะกลับเป็นปกติ "มีอะไรผิดปกติ" เคลาส์เดินไปหาเธอ

    เบลล่าขมวดคิ้ว "ไม่รู้สิ อาจจะแค่นอนไม่ค่อยพอล่ะมั้ง" เธอยักไหล่และเอนหัวลงบนอกของเคลาส์ก่อนจะถอนหายใจออกมา




    หลังจากที่สเตฟานหายไปเป็นเวลานานทั้งสามก็ตกลงที่จะปตรวจสอบกัน เบลล่าและเคลาส์จะไปตรวจสอบขณะที่รีเบ็คก้าจะอยู่รอที่โกดัง

    เมื่อเปิดประตูบาร์เข้าไปเบลล่าก็ขมวดคิ้วทันที "เวทมนตร์หายไปแล้ว ฉันรู้สึกได้" เธอพูดกับเคลาส์ก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อตระหนัก "กลอเรียหายไปแล้ว" นัยตาสีฟ้าจ้องไปในนัยตาของเคลาส์ที่ดูดุดันขึ้นมาทันที



    เคลาส์เปิดประตูและเดินเข้าไปในโกดังทันทีหลังจากที่พวกเขาพบว่าแม่มดหายตัวไป "กลอเรียไปแล้ว เธอเก็บของไปหมดเราต้องหาแม่มดคนใหม่โดยเร็ว"

    ทั้งเขาและเบลล่ามองดูรีเบ็คก้า "เกิดอะไรขึ้น" เบลล่าถาม "มีอย่างผิดปกติ เบลล่าพูดถูก เขาถามถึงไมเคิล เขาไม่ได้เข้าข้างเรานิก ฉันรู้สึกได้" รีเบ็คถ้าบอก 

    "เธอผิดแล้ว" สเตฟานพยายามแก้ตัว "เคลาส์" แต่เคลาส์ก็เร่งความเร็วไปหักคอเขาทำให้เบลล่าขมวดคิ้วขณะที่พยายามหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นและสเตฟานปิดบังอะไรอยู่

    ภาพความทรงจำปรากฎอย่างรวดเร็วต่อหน้าเธอ ในวันพิธีกรรม เอเลน่าและสร้อยคอจากนั้นเธอก็ตระหนักว่าที่เขาทำตัวเหมือนซ่อนอะไรบางอย่างมาตลอดฤดูร้อนคือเพื่อปกปิดความจริงที่ว่าน้องสาวบุญธรรมของเธอมีชีวิตอยู่

    "เธอมีชีวิตอยู่..." เบลล่าพึมพำขณะที่ยังคงมองไปที่ศพชั่วคราวของสเตฟาน นัยตาสีสวยของเธอเริ่มมีน้ำตาสีใสก่อตัวขึ้นและความรู้สึกก็ปะทุอย่างมากมายในอกของเธอ

    เบลล่ามองไปที่เคลาสและรีเบ็คก้า "นิก...ฉันคิดว่าเอเลน่ายังมีชีวิตอยู่" เบลล่ากลืนน้ำและความรู้สึกทรยศก็เข้ามาหาเธอทำให้น้ำตาร่วงหล่นสู่แก้มเนียน

    "เธอไม่ควรจะมีชีวิตอยู่แล้ว" เบลล่าพยายามปฎิเสธ "เบลล่า" รีเบ็คก้าเรียกและเบลล่าก็เม้มริมฝีปาก "เธอรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มั้ย" นิกถามพลางมองดูเธออย่างระมัดระวัง

    เบลล่าส่ายหัวทันที "ฉันพึ่งรู้" เธอกระซิบและนัยตาสีฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีส้มทันที "ไม่ว่านายกำลังวางแผนอะไรอยู่นิก...นับฉันเข้าไปด้วย" สายตาของเธอเปลี่ยนไปและเบลล่าก็สูดหายใจเข้าลึกๆ

    "งั้นถึงเวลากลับสู่มิสติก ฟอลส์แล้วสินะ" เคลาส์พูดและยิ้มเยาะเมื่อรู้ว่าเบลล่าจะไม่เข้าข้างน้องสาวของเธอ



    เบลล่านั่งรอขณะที่เคลาส์ปลุกสเตฟาน ใบหน้าของเธออ่านไม่ออกและดูว่างเปล่า "ขอโอกาสให้ผมได้อธิบายโอเคมั้ย" สเตฟานพูด "ไม่จำเป็นหรอก ฉันไม่ได้โกรธแค่สงสัยน่ะ ดูเหมือนทั้งรีเบ็คก้าและเบลล่าจะคิดว่านายกำลังปิดบังบางอย่าง เรื่องราวส่วนหนึ่งในอดีตของนายที่สำคัญก็คือพวกเธอมีสัญชาตญาณที่แม่นมากๆ กึ่งๆพลังเหนือธรรมชาติ"

    เบลล่ายิ้มเยาะ "ดังนั้น ฉันเลยคิดว่าฉันน่าจะตรวจสอบดูซะหน่อย ให้เห็นกับตาว่านายซ่อนอะไรอยู่" จากนั้นเคลาส์ก็ยื่นมือให้เบลล่าก่อนทั้งสองคนจะเดินไปที่ประตูรถขนของ

    เคลาส์เปิดมันออกและแสงสว่างก็ส่องเข้ามา ทิวทัศน์ของเมืองอันคุ้นเคยปรากฎขึ้นเบลล่าถอนหายใจและพูดขึ้น "ขอต้อนรับกลับสู่เมืองมิสติก ฟอลส์ สเตฟาน"





    talk ;
    ตอนแรกว่าจะเขียนฉากที่ว่าเคลาส์จับคอเบลล่าเพื่อถามหาความจริงค่ะแต่คิดว่าไม่ดีกว่า55555555555 มันจะดูขัดแย้งกันตรงที่เบลล่าจริงใจบอกว่าสเตฟานปิดบังบางอย่างอยู่ ปล.เราอ่านทุกคอมเมนท์นะคะ ฮื่ออ ขอบคุณทุกๆคนสำหรับการอ่าน กำลังใจและคอมเมนท์นะคะ เราดีใจมากๆเลย พูดไม่ถูกจริงๆค่ะ555555 มันใจฟูมากๆ
    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×