ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the vampire diaries — fire on fire , klaus mikaelson

    ลำดับตอนที่ #13 : ⁽ 12 ⁾

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 64


    Pin on ZOE || Muse

     ( 12 )

    2x22 - As I Lay Dying


    เปลือกตาสีมุกเปิดขึ้นก่อนจะกระพริบสองสามครั้งเพื่อปรับภาพการมองเห็น เธอขมวดคิ้วและลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองไปรอบๆเมื่อเห็นว่าที่ที่เธออยู่คือป่าในตอนกลางวันเพียงแต่มันไม่มีสัตว์เช่นนก พูดง่ายๆคือไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่มีเพียงแสงจากดวงอาทิตย์และสภาพแวดล้อมของต้นไม้ในป่าเท่านั้น

     

    “ในที่สุด” เสียงผู้หญิงที่ดังมาจากข้างหลังทำให้โรซาเบลล่ารีบหันไปมอง ผู้หญิงคนนั้นมีผมสีเดียวกันกับเธอเพียงแต่มีดวงตาสีอัมพัน ชุดของเธอดูทันสมัยและผมของเธอยาวสลวย เธอมีแหวนที่มีเม็ดทับทิมสีเลือดอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ เสียงของเธอคุ้นเสียจนทำให้เบลล่าไม่สามารถปล่อยมันไปได้

     

    ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างอ่อนโยน “สวัสดี ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะแต่เรามีเรื่องต้องคุยกันอย่างมากเลยล่ะ” เธอพูดและเบลล่าก็กลืนน้ำลายอย่างประหม่า เก้าอี้สองตัวถูกสร้างขึ้นด้วยเวทมนตร์ของผู้หญิงที่เบลล่ายังไม่รู้ชื่อ

     

    “โอ้ ฉันนี่เสียมารยาทจริงๆ ลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อแอสทริด” เธอยิ้มและเบลล่าก็รู้สึกปลอยภัยไม่ต้องกังวลอะไรใดๆ เธอหายใจเข้าลึกๆ “แล้ว…เธอต้องการจะคุยเรื่องอะไรล่ะแอสทริด”

     

    แอสทริดยิ้ม “อืม มันอาจจะตกใจนิดหน่อยนะแต่ว่า..” หลังจากนั้นเธอก็เริ่มเล่าเกี่ยวกับตัวเธอ ว่าเธอถูกสร้างมาได้อย่างไรและกลายเป็นไฟเบิร์ดตัวแรกอย่างไร ตกหลุกรักและจากไปก่อนที่สองพันปีต่อมาเธอจะเจอเบลล่าและเข้าสิงเพื่อใช้ร่างของเธอในการทำสิ่งต่างๆ

     

    เบลล่ารู้สึกอึ้งและตกใจไปในเวลาเดียวกันแต่แอสทริดบอกกับเธอว่าจุดประสงค์เพียงเพื่อปกป้องคนที่เบลล่ารักและช่วยเธอเท่านั้นและไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น เบลล่าสามารถเรียกใช้แอสทริดได้และแอสทริดจะไม่ทำอันตรายใดๆกับเธอตราบเท่าที่เบลล่ายังคงเป็นมุ่งมั่นกับการปกป้องคนที่เธอรัก

     

    “ฉันจะอยู่ในหัวของเธอแต่ถ้าเธออยากเห็นฉันฉันก็สามารถปรากฎให้เห็นได้นะ” แอสทริดแจ้งและเบลล่าก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อยแม้ว่ามันจะรู้สึกแปลกๆก็ตามทีที่จู่ๆก็มีวิญญาณมาสิงอาศัยร่างแต่ไม่ทำอันตราย “แล้วถ้าสมมุติฉันต้องการเธอมันจะรู้สึกยังไงเวลาเธอครอบครอง?”

     

    แอสทริดทำท่าคิด “อืม..รู้สึกแปลกๆไม่เป็นตัวเอง ประมาณนั้นนะ” เบลล่าพยักหน้าและเธอก็นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าได้ “โอ้พระเจ้าช่วย แล้วเคลาส์กับเอลีล่ะ คนอื่นๆ..”
     

    “ไม่ต้องห่วง เอไลจาห์ดูแลเธออย่างดีและเคลาสก็วิ่งวนอยู่ในร่างหมาป่าใกล้ๆ" แอสทริดบอก

     

    เบลล่าถอนหายใจทันใดนั้นเธอก็รู้สึกท่วมท้น การตายของเจนน่า เอเลน่า…มันทำให้เธอเศร้าและอยากจมอยู่กับหมอน ร้องไห้และไม่ทำอะไรเลย น้ำตาสีใสคลอท่วมดวงตาสีฟ้านภา “ฉัน…ฉันช่วยฆ่าเจนน่า” เบลล่าพูดอย่างสั่นเครือ

     

    แอสทริดดึงร่างของเบลล่าเข้ามากอดทันใดนั้นเธอก็ปล่อยทุกอย่างออกมาโดยไม่สามารถกักเก็บมันไว้ได้ดี “ฉันฆ่าเจนน่า” เบลล่ากระซิบสลับกับสะอื้น “ชู่วๆ ไม่เป็นไร ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย” แอสทริดลูบหัวเธออย่างปลอบประโลม

     

    ผ่านไปราวชั่วโมงเบลล่าก็หยุดร้องไห้และผละตัวออกจากอ้อมกอดของแอสทริด “ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย” แอสทริดบอกกับเบลล่าและปาดน้ำตาของเธอออกจากแก้มเนียน

     

    เบลล่าพยักหน้าและทุกอย่างก็เริ่มเบลอๆ “เธอต้องตื่นแล้วแต่จำไว้ว่าฉันจะอยู่กับเธอเสมอ” เสียงของแอสทริดจางหายและเปลือกตาสีมุกก็เปิดขึ้นอีกครั้ง

     

    ภาพที่เธอเห็นคือความมืดในตอนกลางคืนและเบลล่าก็ลุกขึ้นนั่งช้าๆ เธอยังคงรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่เล็กน้อย “อะไร..” เธอกระซิบก่อนที่เสียงเดินจะดังขึ้น เธอมองขึ้นไปเห็นเอไลจาห์ในชุดสูทเดินมาใกล้ๆ ใบหน้าของเขากระทบกับแสงของดวงจันทร์

     

    “เอลี” เธอเอ่ยอย่างโล่งอก “ฉันเห็นว่าเธอตื่นแล้ว” เขาพยักหน้า “ฉันสลบไปนานเท่าไหร่” เธอถามพลางกลืนน้ำลาย “ราวๆวันกว่า” เบลล่าพยักหน้าและหันไปทางซ้ายก่อนจะเจอกับหมาป่าสีดำที่เอียงคอมองเธออย่างสงสัย

     

    “เคลาส์?" เธอถามออกมาและคำตอบก็ได้รับการยืนยันเมื่อหมาป่าสีดำเดินเข้าไปใกล้เบลล่าก็จะใช้หัวของมันวางลงบนตักของเธอ เบลล่าหัวเราะคิกคักก่อนจะหาวออกมา เธอยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่

     

    คนผมสีแดงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอนหลังพิงต้นไม้และหลับตาปล่อยให้ตัวเองล่องลอยไปสู่ความฝันแสนหวานในค่ำคืนนั้น

     

     ครั้งต่อไปที่ตื่นมาโรซาเบลล่าสังเกตว่าดวงอาทิตย์ได้ขึ้นเรียบร้อยแล้วและเธอก็อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยจากเคลาส์ที่นอนอยู่ในร่างเปลือยเปล่าของเขากับเอไลจาห์ที่ยืนรอเพื่อให้เขาตื่นอยู่ เธอลุกขึ้นยืนช้าๆและไม่ถึงนาทีต่อมาเคลาส์ก็เริ่มตื่นขึ้นด้วยรอยยิ้มเยาะอันเป็นเอกลักษณ์บนใบหน้าของเขา


    เอไลจาห์โยนเสื้อให้เขาและโรซาเบลล่าก็หันหลังเพื่อให้เขาสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย "ยุ่งอยู่ตลอดเลยนะ" เอไลจาห์บอกเขา "นั่นมันอัศจรรย์" เธอได้ยินเคลาส์บอกกับพี่ชายของเขา


    "มันนานเท่าไหร่แล้ว" เคลาส์ถาม "เกือบสองวัน" เอไลจาห์ตอบและเบลล่าก็เล่นกับสร้อยคอของเธออย่างประหม่า ยังคิดไม่ตกเกี่ยวกับความฝันที่เธอได้รับเมื่อคืนนี้ "พระจันทร์เต็มดวงมาถึงและได้ผ่านไปแล้ว นายก็ยังเป็นหมาป่าอยู่"


    "ฉันจะกลายร่างเมื่อไหร่ก็ได้ ดีใจที่ได้รู้นะ" เบลล่าสามารถได้ยินรอยยิ้มในน้ำเสียงของเขา "ฉันจำ...ทุกคนที่ฆ่าได้" เคลาส์พูด "ใช่สิ ก็ฉันตามเก็บสิ่งที่นายทำมาตลอดนี่"


    "เหมือนกับเมื่อก่อนไงพี่ชาย" ดวงตาของเบลล่ามองไปรอบๆป่าที่พวกเขาอยู่และยิ้มเล็กน้อย "นายก็ได้ไปสนุกมาแล้ว ฉันเชื่อว่าเรามีเรื่องต่อรองกัน" เอไลจาห์บอกกับเคลาส์


    "ถูกต้องแล้วเรื่องอะไรอีกล่ะ โอ้ ใช่เดี๋ยวนะ ฉันจำได้แล้วเรื่องนั้นนี่เอง นายต้องการกลับไปหาครอบครัวของเรา" เบลล่าถอนหายใจ "นายให้คำสัญญาไว้แล้ว นิกเคลาส์" เธอรู้ว่าเอไลจาห์ใส่ใจเรื่องคำสัญญามากแค่ไหน "พี่น้องที่ไหนจะผิดคำพูดกันล่ะ ถึงแม้ท่านจะพยายามฆ่าข้า"


    "ฉันจะทำก็ได้แต่ฉันไม่ทำ" เอไลจาห์บอก "หันกลับมาได้แล้วที่รัก" เคลาส์พูดกับเบลล่าและเธอก็หันหลังกลับไปพบกับต้นฉบับสองคนที่ยืนอยู่เคียงข้างกัน ดวงตาของเบลล่ามีโอกาสได้มองผ่านสายตาสีฟ้าอันเย็นชาของเคลาส์เป็นครั้งแรกและเธอรู้สึกได้ว่ามันมีอารมณ์มากมายอยู่ในนั้น


    "ตอนนี้ไม่มีใครทำได้แล้วแม้แต่นายก็ตาม ใจเย็น เอไลจาห์ทุกอย่างได้รับการให้อภัย" เคลาส์พูดกับพี่ชายของเขา "พวกเขาอยู่ไหน" เบลล่ามองอย่างคาดหวังที่เคลาส์ "นายต้องร่าเริงหน่อย ฉันจะพานายไปหาพวกเขาโดยเร็วที่สุด"


    พวกเขากลับไปยังอพาทเมนต์ของอลาริค ประตูถูกเปิดออกและแคทเธอรีนก็เริ่มพูดทันที "เคลาส์ คุณกลับมาแล้ว" เธอเดินออกมาพร้อมกับสเตฟาน "ดูว่าใครติดสินใจมาเยี่ยม" ดวงตาสีฟ้าของเบลล่ามองเขาด้วยความงุนงง 'เกิดอะไรขึ้น' เธอคิด


    "นายนี่มันโผล่มาได้ตลอดเลยนะใช่มั้ย" เคลาส์ถาม "ผมอยากให้คุณช่วย เรื่องพี่ชายของผม" สเตฟานพูดและเบลล่าก็เลิกคิ้วด้วยความสนใจว่าเกิดอะไรขึ้นขณะที่เธอหลับไป "ไม่ว่าเรื่องอะไรก็คงต้องรอก่อนนะ" เคลาส์พูด


    "เห็นไหมว่าฉันมีข้อผูกพันกับพี่ชายอยู่ ซึ่งนั่นต้องรีบจัดการโดยด่วน" เบลล่าและเอไลจาห์มองหน้ากันก่อนเธอจะยิ้มให้เขาและเดินตามเคลาส์ไป "คงเข้าใจนะว่าครอบครัวสำคัญแค่ไหนไม่งั้นนายคงไม่มาที่นี่หรอก น้องชายฉันให้สัญญาว่าจะให้ฉันได้พบกับครอบครัวอีกครั้ง"


    เบลล่ากลั้นหายใจเมื่อรู้สึกตรึงในท้องของเธอ "แล้วฉันก็จะทำไงล่ะ" เคลาส์พูดก่อนจะถือกริชขึ้นมาและแทงเอไลจาห์เข้าที่หัวใจทำให้ดวงตาของเบลล่าเบิกกว้างและพยายามจะหยุดเขาแต่แคทเธอรีนก็จับเธอเอาไว้แน่น "ไม่!"


    เธอฟังขณะที่เขากรีดร้องก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเทาและล้มลงไป เบลล่ากลืนน้ำลายและมองเคลาส์ด้วยความสยองขวัญและในขณะเดียวกันที่แคทเธอรีนปล่อยเธอไปเคลาส์ก็ตรึงสเตฟานไว้กับกำแพง "ตอนนี้ ฉันจะทำยังไงกับนายดีนะ"


    ดวงตาสีฟ้าของเบลล่าเฝ้ามองขณะที่เคลาส์แทงไม้เข้าไปในท้องของสเตฟาน ความรู้สึกหมุนอยู่ในอกของเธอก่อนจะมองลงไปที่ศพของเอไลจาห์เงียบๆ เธอถอนหายใจและรู้ว่าถ้าเธอต้องการปลดปล่อยเขาเธอจะต้องทำข้อตกลงกับเคลาส์


    สเตฟานคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดและไม่ช้าแคทเธอรีนก็ก้าวเข้ามาช่วย "เขาแค่พยายามจะช่วยพี่ชายของเขา" เธอพูด "พวกแม่มดบอกว่าคุณมีวิธีรักษา มาทำข้อตกลงกันแค่ให้ยารักษามาผมจะทำทุกอย่างที่คุณต้องการ"


    เคลาส์ปล่อยให้สเตฟานล้มลงก่อนจะเดินไปเทเลือดลงถ้วย "ปัญหาก็คือฉันไม่รู้ว่านายจะมีดีพอสำหรับฉันหรือเปล่าน่ะสิ ที่นายเป็นอยู่ตอนนี้นายก็แค่รู้สึกว่าอายที่ไร้ประโยชน์"



    นัยตาสีฟ้าของเบลล่ามองสถานการณ์ตรงหน้า "ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับแวมไพร์ตนนี้ ชายผู้บ้าคลั่ง เปิดๆปิดๆความรู้สึกของตัวเองมาหลายสิบปี ตอนที่เขาปิดมัน เขาไม่ธรรมดาเลย ปี 1917 เขาไปที่มอนเทอเรย์แล้วกวาดล้างผู้อพยพทั้งหมู่บ้าน นักฆ่าตัวจริง"


    เคลาส์พูดและเมื่อโรซาเบลล่ามองหน้าสเตฟานก็ตระหนักได้ว่าแวมไพร์ที่เคลาส์พูดถึงคือตัวสเตฟานเอง "ฟังคุ้นๆมั้ยล่ะ" เคลาส์ถาม "ผมไม่ได้เป็นแบบนั้นมานานมากแล้ว"


    "งั้นนั่นคงเป็นแวมไพร์ที่ฉันทำข้อตกลงด้วยได้ นั่นเป็นพรสวรรค์ที่ฉันใช้ได้ตอนที่ฉันออกจากเมืองนี้ แคทเธอรีน่า มานี่ซิ" เคลาส์เรียกและเบลล่าก็มองสถานการณ์อย่างวิเคราะห์


    เคลาส์ยื่นมือออกมาและแวมไพร์ห้าร้อยปีก็วางมือลงบนมันก่อนที่เคลาส์จะปล่อยใบหน้าลูกผสมออกมาและกัดเธออย่างรวดเร็วทำให้แคทเธอรีนจ้องมองมือตัวเองด้วยความสยดสยอง "ไม่ ไม่" และเคลาส์ก็กัดข้อมือตัวเองก่อนจะบังคับเลือดของเขาป้อนลงไปในปากของแคทเธอรีน


    เบลล่ามองด้วยความสนใจเมื่อรอยกัดของแคทเธอรีนหายไปอย่างช้าๆ "นายต้องการวิธีรักษาใช่มั้ย นี่ไงล่ะ" เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ "เลือดของคุณคือยารักษา" เบลล่าตระหนัก


    "ตงต้องขอบคุณธรรมชาตินะ ตอนนี้..มาคุยกันดีกว่า นายกับฉัน" เบลล่าถอนหายใจก่อนจะปิดตาลงและเก็บความรู้สึกทุกอย่างลงไปก่อนจะเปิดตาสีฟ้าเย็นยะเยือกของเธอ เธอไม่สามารถให้ความรู้สึกมาตัดสินได้ถ้าอยากได้เอไลจาห์กลับคืนและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธออยากหนีจากเมืองนี้ไปไกลๆ


    เธอมองดูขณะที่เคลาส์กรีดมือตัวเองเพื่อให้เลือดไหลลงไปในขวดแก้ว "นี่ไงล่ะ นายอยากช่วยชีวิตพี่ชายนายใช่มั้ย ดื่มฉลองสิบปีหน่อยเป็นไง รู้ไหมฉันมีแผนสำคัญสำหรับนายเลยนะเมื่อเราออกจากเมืองนี้"


    "ผมชักจะไม่ชอบแล้วสิ" เขาพูด "งั้นก็แย่หน่อยนะ นายอาจตัดสินใจผิดมหันต์เชียวนะ" เคลาส์เริ่มเทเลือดลงในอ่างแต่แล้วสเตฟานก็หยุดเขา "เดี๋ยวก่อน"


    "ตอนนี้คงชอบขึ้นมามากแล้วสิ ฉันอยากให้นายดื่มเป็นเพื่อนหน่อย" เขาโยนถุงเลือดถุงหนึ่งไปที่สเตฟาน เขารับมันก่อนจะเปิดออกและดื่มอย่างลังเล "ดื่มให้หมดซะ" เคลาส์สั่ง สเตฟานลังเลขึ้นเรื่อยๆ


    "นายทำทุกอย่างที่ฉันสั่งและฉันก็ช่วยพี่นาย นั่นแหละข้อตกลง" เคลาส์บอกและเบลล่าก็เห็นสเตฟานยกดื่มเลือดหมดทั้งถุงอย่างกล้ำกลืนทำให้เบลล่ารู้สึกแย่กับเขา แต่เคลาส์ก็ยังหยิบถุงเลือดอีกถุงขึ้นมาและโยนไปที่เขา "ดื่มอีกสิ" สเตฟานเปิดก่อนจะดื่มมันอีกครั้งทำให้เธอถอนหายใจ



    ให้ความรู้สึกยาวนานกว่าชั่วโมงที่เธอมองดูสเตฟานดื่มเลือดจากถุง อีกครั้งและอีกครั้งวนไปไม่หยุดหย่อน เลือดกระจายเต็มพื้นและเปรอะเปรื้อนทำให้เธอย่นหน้าด้วยความขยะแขยง


    "นายให้ความร่วมมือดีมากดูเหมือนนายจะชอบมากเลยนะ" เคลาส์พูดและเดินไปใกล้สเตฟานก่อนจะโยนเลือดอีกถุงให้ "ไม่อีกแล้ว ไม่จนกว่าคุณจะให้ยารักษาแก่ผม"


    "ไม่จนกว่าเราจะตกลงกันได้ มันเป็นทางเลือกของนายนะสเตฟาน นายจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ มิสติกฟอลส์ หรือจะยอมรับสิ่งที่นายเป็นอย่างแท้จริงก็ได้ออกไปจากเมืองนี้กับฉันและก็ได้ช่วยพี่ชายเอาไว้" เบลล่ามองขณะที่เคลาส์ยื่นถุงเลือดให้กับสเตฟาน


    สเตฟานรับมันมาก่อนจะดื่มมันอย่างเร่งรีบ "วัดใจกันได้เลยล่ะ" เบลล่ามองเคลาส์ที่ลุกขึ้น "ที่รัก..." เขาหยิบขวดเลือดก่อนจะบังคับแคทเธอรีนขณะที่ถือขวดยา "เอานี่ไปให้เดม่อนแล้วกลับมาด้วยล่ะ"


    "คุณอยากให้ฉันจากไปหรอ" เธอถาม "ไม่!" สเตฟานตะโกน "ใช่แล้ว" เคลาส์พูดและเบลล่าก็มองออกถึงความตื่นเต้นในสายตาของแคทเธอรีนที่เป็นประกายชัดเจน "แล้วถ้าฉันเป็นเธอ..." แคทเธอรีนรับขวดยาและรีบออกไปทันที "...ฉันจะรีบเลยล่ะ" เบลล่ามองไปที่เคลาส์ก่อนจะหันไปมองศพเอไลจาห์อีกครั้ง


    เธอและเคลาส์มองตากันก่อนที่เขาจะยิ้มเยาะและเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ มองดูสเตฟานคร่ำครวญ "เธอจะไม่เอาไปให้เขา" เบลล่าถอนหายใจ "เชื่อสิสเตฟ เธอจะเอามันไปส่งถึงที่" เบลล่ารู้สึกได้ว่ามากพอกับที่แคทเธอรีนต้องการอิสระเธอก็ไม่ได้อยากให้เดม่อนตาย


    เคลาส์หันไปหาเบลล่าที่มองเขาอยู่ "ฉันเชื่อว่าเรามีข้อตกลงกันนะที่รัก" เขายื่นมือออกมาและมองเอไลจาห์ที่ตายไปชั่วคราว เบลล่ามองมือเขาก่อนจะมองสายตาอันเจ้าเล่ห์ของเขา "เรามีข้อตกลงแล้ว" เธอเดินไปจับมือกับเขาในขณะนั้นเองเธอก็รู้สึกว่าเธอกำลังทำข้อตกลงกับปีศาจ


    เธอจะเอาเอไลจาห์กลับคืนนี้แม้มันหมายความว่าเธอจะต้องออกจากเมืองและแน่นอนว่าให้ความภักดีของเธอแก่เขา และอย่างที่เธอเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เขาบอกไว้ว่าอย่าตัดสินเนื้อหาที่หน้าปก โรซาเบลล่า ฮิลส์ไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไป


    -


    โรซาเบลล่ายืนอยู่กับสเตฟานมองเคลาส์สั่งคนให้เอาโลงศพเอไลจาห์ไปไว้กับคนอื่นๆ "ดังนั้น...แคทเธอรีน่าทำได้ทันเวลามั้ยล่ะ" เขาถามขณะมองสเตฟานตรวจสอบข้อความมือถือ


    "คุณจะไม่ได้เห็นเธออีก" สเตฟานบอก "เพราะเธอใช้เวอร์เวนหรอ ฉันอยู่มานานแล้วสเตฟาน ไม่บ่อยนักที่ฉันรับบทเป็นคนโง่นอกจากนั้นเธอคงไปไหนไม่ได้นานหรอกนายจะช่วยให้ฉันได้พบ"


    สเตฟานเดินเข้าไปใกล้เขา "จริงๆแล้วคุณต้องการอะไรจากผม" เขาถาม "ไว้จะอธิบายทั้งหมด เมื่อเราออกจากเมืองเล็กๆที่น่าเศร้านี้" เบลล่ามองพวกเขาสองคนพลางอดรู้สึกไม่ได้ว่าเธอจะกลับมาที่นี่อีกเร็วกว่าที่เธอคิดไว้


    "แล้วเราเสร็จธุระที่นี่กันหรือยังล่ะ เราไปกันได้หรือยัง" เขาถาม "ก็ไม่เชิง เห็นไหมว่าฉันมีของขวัญให้นายด้วยนะ" เบลล่ายืดตัวตรงและมองดูขณะที่เขามองไปยังด้านหลัง "มานี่สิที่รัก ไม่ต้องกลัวไปหรอก"


    หญิงสาวผู้น่าสงสาร เสียงแอสทริดก้องอยู่ในหัวเป็นครั้งแรกตั้งแต่หลังจากฝันถึงเธอทำให้เบลล่าเม้มริมฝีปากเมื่อมองหญิงสาวคนนั้นเปล่งประกายด้วยความกลัว "ดูนี่ ฉันอยากมั่นใจว่านายเคารพข้อตกลงของเรา...ว่านายจะทำตามที่ฉันสั่ง"


    เคลาส์ลูบผมหญิงสาวไปด้านหลังและเบลล่าก็รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร เขากัดคอของเธออยู่ราวสามวินาทีก่อนจะผละออก "ฉันสะกดให้เธอเชื่อฟังฉันได้แต่นักล่าตัวจริง...จะสนุกกับการล่า" เขาพูดก่อนจะปล่อยให้เธอวิ่งหนีไปและกรีดร้อง


    เบลล่ามองดูขณะที่สเตฟานวิ่งโดยใช้ความเร็วแวมไพร์ไปยืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาวก่อนจะดูดเลือดและฆ่าเธอทิ้ง เคลาส์ยืนมองด้วยความพอใจเมื่อเห็นเส้นเลือดใต้ตาของเขา "ตอนนี้เราไปกันได้แล้ว"


    คนผมแดงถอนหายใจและมองด้วยความสงสัยเมื่อเคลาส์ยื่นมือไปทางเธอ เธอมองอย่างลังเลพลางละเลยเสียงหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นก่อนจะตัดสินใจวางมือลงบนเขาและมองดูขณะที่เขายิ้มอย่างพึงพอใจ กุมมือและพาเธอไปที่รถ




    CONTINUTE IN SEASON THREE




    talk ;

    ซีซั่นสองจบแล้วค่ะเรากำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลที่สามของซีรีส์นี้แล้ว เย่ จริงๆแล้วเรามีแผนที่วางไว้อย่างยาวนานสำหรับโรซาเบลล่าและขอโทษที่อาจทำให้งงนะคะแต่คิดว่ามันคงสมเหตุสมผลแหละ เราจะพยายามอย่างเต็มที่กับฤดูกาลต่อไปเพราะเราตื่นเต้นมากที่จะได้เขียนเกี่ยวกับตระกูลดั้งเดิม รวมกับพลังของโรซี่ที่จะมีให้เห็นอีกมากแน่นอนค่ะ รอติดตามได้เลยนะคะ >3

    ขอโทษที่หายไปนานค่ะ หายไปจนเรากำลังจะเปิดเทอมอีกครั้งแล้ว 555555555 ไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้นค่ะ ติดแฟนฟิคอังกฤษเป็นข้อแก้ตัวเดียวที่เราให้ได้ ;_; เรากำลังจะปรับหลายๆอย่างเลยค่ะ และจะพยายามกลับมาเขียนให้มากขึ้นค่ะ

    และ... นิยายเรื่อง Thundergirl กับ Lonely wolf กำลังจะกลับมาค่ะ เรากำลังพยายามกลับมาแต่งอยู่ ภายในเดือนธันวาเราจะพยายามเขียน Fallen Angel ให้จบและจบซีซั่นสี่ของเรื่องนี้ค่ะก่อนที่เราจะเริ่มภาคต่อในเดือนมกราคมตอนปลายเดือนเพราะฉนั้นอดทนรอกันนิดนึงนะคะ เรากำลังปรับตัวให้ดีขึ้นค่ะ ทั้งเรื่องการเรียน การเขียนและชีวิตประจำวัน เราจะพยายามปรับให้มันสมดุลกัน จนถึงตอนนี้ตอนแรกของซีซันสามจะอัปเดตในอาทิตย์ที่สองของเดือนหน้าค่ะ
     

     


     

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×