ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the vampire diaries — fire on fire , klaus mikaelson

    ลำดับตอนที่ #12 : ⁽ 11 ⁾

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 64



    abbey cowen Tumblr posts - Tumbral.com

    ( 11 )

    2x21 - The Sun Also Rises


    บลล่าและเอเลน่านั่งอยู่ข้างๆน้าเจนน่าที่ยังคงดูสับสนและมึนงง “โอ้หัวของฉัน เกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย” เจนน่าถาม “น้าจำได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง” เบลล่าถามเจนน่าที่หันไปหาเอเลน่า “หนูโทรหาน้า หนูดูกลัวมาก” และเบลล่าก็หันไปหาเอเลน่าที่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่เธอที่โทรไปแน่ๆ

     

    “โอ้ น้าน่าจะรู้ว่านั่นไม่ใช่หนู ทันทีที่น้าเดินออกจากบ้านก็มีคนจับตัวน้าไปเป็นแวมไพร์” เจนน่าบอกเล่า “เคลาส์ เขาคือเคลาส์” เบลล่าเอ่ย “เขาบังคับให้น้าดื่มเลือดของเขาแล้วน้าก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยหลังจากนั้น เราอยู่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น”

     

    “เราอยู่ที่เหมืองหินค่ะ เขาเอาตัวเรามาที่นี่” เอเลน่าบอกกับเจนน่า “แล้วทำไมน้าถึงจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ” เจนน่าถามและเบลล่าก็เม้มริมฝีปากด้วยความประหม่าขณะที่ความรู้สึกผิดก่อตัวขึ้นเรื่อยๆทีละเล็กน้อย “น้าเจนน่า น้าจำได้มั้ยตอนที่หนูบอกน้าว่าคนที่จะกลายเป็นแวมไพร์เป็นยังไง”

     

    “ได้สิ ถ้าเธอตายโดยมีเลือดแวมไพร์อยู่ในตัวมันก็จะ..” เจนน่าพูดก่อนจะค่อยๆตระหนัก “โอพระเจ้า เขาฆ่าน้า” เบลล่าวางมือบนหลังเจนน่าพยายามปลอบโยน “น้าเจนน่าฟังนะคะ ทุกอย่างจะเรียบร้อย หนูจะพาน้าออกไปจากที่นี่” เอเลน่าบอกกับเจนน่า

     

    “น้าเป็นแวมไพร์หรอ” เจนน่าถาม เบลล่ากลืนน้ำลาย “แล้วฉันก็พนันได้เลยว่าเธอกำลังหิว” เกรตาพูดและเบลล่ากับเอเลน่าก็สังเกตเห็นหินแหลมใกล้ๆ เธอพยายามจะไปเอามันมาให้ห่างแต่ทว่าเกรตาก็ใช้เวทมนตร์ผลักเธอถอยหลังไปยังวงกลมแห่งพิธีกรรมก่อนจะร่ายมนตร์จุดไฟล้อมรอบไว้

     

    เบลล่าและเจนน่ามองไปรอบๆ หญิงสาวผมแดงไม่ได้รับอันตรายใดๆทั้งสิ้นเธอเห็นน้องสาวของเธอพยายามจะฝ่าวงเวทมนต์ไฟออกมา “ไม่ต้องพยายามจะฝ่าออกมาหรอก ฉันร่ายมนตร์รอบๆวงนี้แล้วไม่ว่าจะพยายามยังไงเธอก็ติดบ่วงไฟแล้วล่ะ” เกรตาพูด

     

    “เกรตา ปล่อยพวกเธอไปเถอะ” เอเลน่าขอร้องแต่เบลล่ารู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ “เคลาส์เลือกเธอแล้ว” เกรตาพูดขณะที่แม่มดกรีดหินบนข้อมือปล่อยให้เลือดออก “ไม่นะ” เอเลน่าร้อง นัยตาสีฟ้าของเบลล่ามองไปที่น้องสาวบุญธรรมของเธอด้วยความรู้สึกผิดในดวงตา

     

    “ดื่มซะ” เกรตายื่นข้อมือให้แวมไพร์เกิดใหม่ “เจนน่า อย่านะ” เอเลน่าพยายามเตือน เบลล่าถอยห่างเล็กน้อย “ฉันทำไม่ได้” เจนน่าพึมพำ “ปล่อยเธอไปนะ เฮ้” เบลล่ามองขณะที่แม่มดนำมือใกล้เจนน่ามากขึ้นจนกระทั่งเธอต้องดื่มเลือดนั่นอย่างห้ามไม่ได้

     

    เบลล่าลุกขึ้นยืนมองเจนน่าที่ดื่มเลือดแม่มดอยู่สักพักก่อนที่เกรตาจะผลักเธอออกไป “น้าเจนน่า มันจะไม่เป็นไร” เอเลน่าบอกน้าสาวและเกรตาก็ร่ายมนตร์เพลิงล้อมรอบเบลล่าและเจนน่า “เฮ้ น้าเจนน่า มองมาที่หนู” เอเลน่าร้องเรียก “มันจะไม่เป็นไร มันจะต้องเรียบร้อย”

     

    -

     

    เบลล่ายังคงอยู่เคียงข้างเจนน่าในขณะที่พวกเขารอเวลา “น้ารู้สึกยังไงบ้าง” เอเลน่าถาม “ฉันรู้สึกเหมือนเป็นตัวเองเพียงแต่ทุกอย่างมันสว่างขึ้น ไฟก็ร้อนขึ้นบางส่วนในตัวของน้าตื่นกลัวแต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งของน้าที่ไม่อยากจะรู้สึกอะไรเลย” เจนน่าอธิบาย

     

    “แวมไพร์สามารถปิดด้านที่เป็นมนุษย์ได้ค่ะนั่นเป็นด้านที่เจ็บปวด” เอเลน่าบอก “น้ากำลังจะตายใช่มั้ย” เจนน่าถามและเบลล่าก็กอดร่างของเจนน่าไว้ พยายามที่จะปลอบโยนก่อนที่ทุกอย่างจะดิ่งลงเหวไปในคืนนี้

     

    “ไม่ค่ะ หนูจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น หนูไม่สนว่าจะต้องทำอะไรบ้าง” เอเลน่าเอ่ยและวินาทีต่อมาพวกเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของใครบางคนทำให้ทั้งสามหันไป “นั่นใครน่ะ” เจนน่าถาม “นั่นต้องเป็นมนุษย์หมาป่าแน่ๆ” เอเลน่าเอ่ย

     

    นัยตาสีฟ้าของเบลล่ามองเห็นเกรตานำจูลส์ออกมาและวางร่างของเธอลง “เกิดอะไรขึ้นกับฉัน” เบลล่ามองมนุษย์หมาป่าด้วยสีหน้ารังเกียจเมื่อครั้งหนึ่งเธอกับพวกพ้องของเธอพยายามจะฆ่าเบลล่า “ฉันร่ายมนตร์เพื่อให้เธอกลายร่างช้าลงด้านในของเธอกำลังพยายามจะต่อต้านน่ะสิ”

     

    วินาทีต่อมาเกรตาก็ร่ายมนตร์จุดไฟล้อมรอบมนุษย์หมาป่า “เกรตา แม่มดควรจะทำให้เกิดสมดุลธรรมชาติมันเป็นหน้าที่ของเธอต่อพวกเขาที่จะทำให้คำสาปนั้นคงอยู่นะ” เอเลน่าพยายามโน้มน้าวแม่มด “ฉันมีหน้าที่ต่อเคลาส์ คำสั่งใหม่นะ” เกรตาพูดอย่างแข็งขัน

     

    ไม่นานเคลาส์ก็เดินออกมาและเบลล่ารู้ว่าเธอหมดเวลาแล้ว “ดีใจที่รู้ว่าฉันยังมีคู่หูอยู่นะ” เขาพูด “สวัสดีที่รักทุกคน เราพร้อมกันหรือยัง” เบลล่าสูดหายใจลึกๆเตรียมพร้อมกับทุกอารมณ์และเหตุการณ์ในคืนนี้ นัยตาของเธอมีประกายเพลิงสีส้มหมุนวน

     

     

    เสียงกรีดร้องของมนุษย์หมาป่าสาวดังก้องไปทั่วบริเวณขณะที่พิธีกำลังจะเริ่มต้น “ข้าได้พลอยสีน้ำเงินมาแล้วข้าใช้เวลา 500 ปีเพื่อตามหาสิ่งนี้ข้าเกลียดที่ต้องผูกพันกับมัน” เขาหยิบพลอยสีน้ำเงินออกมาและยื่นให้เกรตา “ดวงจันทร์ผ่านจุดสูงสุดของมันไปแล้วจำได้ใช่มั้ยว่าท่านต้องทำอะไรบ้าง” เกรตาถาม

     

    “ข้าจำได้” เกรตาหย่อนหินลงบนแท่นและพิธีกรรมก็เริ่มขึ้น เบลล่าลุกขึ้นยืนอย่างเต็มตัว “เริ่มกันได้หรือยัง” เคลาส์พูดและหันไปทางเบลล่าที่สูดหายใจลึกๆอีกครั้ง

     

    เธอหันไปหาเจนน่าและเอเลน่าด้วยน้ำตาคลอเล็กน้อย “ฉันขอโทษจริงๆ” เธอกระซิบและเริ่มก้าวเดิน เธอมองไปที่ไฟและมองไปที่เคลาส์อีกครั้งที่พยักหน้าให้เธอด้วยความมั่นใจ

     

    โรซาเบลล่ามองตรงและก้าวออกจากวงไฟโดยไม่มีอันตรายใดๆ ไม่มีแม้แต่ความร้อนที่เผาไหม้เธอขณะที่เจนน่าและเอเลน่ายังคงดูงุนงง พริบตานัยตาสีฟ้าสดใสก็เปลี่ยนเป็นสีส้มเพลิงอันตราย เบลล่าหันไปหาเกรตาในทันทีและเริ่มเดินไปเหมือนกำลังทำตามคำสั่งราวกับหุ่นยนตร์


    “คุณทำอะไรกับเธอ” เอเลน่าร้องถามขณะที่เบลล่าเดินเข้าไปใกล้แม่มดเรื่อยๆ เคลาส์ยิ้มเยาะ “เรามีบทสนทนากันนิดหน่อย” เขาตอบและมองเบลล่าที่ยืนเคียงข้างกับเกรตา ดวงตาของเธอส่องประกายสีส้มท่ามกลางยามราตรีอันมืดมิด

     

    เบลล่าหยิบหินและกรีดที่ฝ่ามือ ปล่อยให้เลือดไหลออกมาจับมือข้างหนึ่งของเกรตาไว้และหลับตา วินาทีต่อมาแสงสีทองปรากฎขึ้นบนแขนของเบลล่าและย้ายไปยังเกรตาก่อนจะดับลงและเมื่อคนผมแดงลืมตาขึ้นมาเธอก็รู้สึกได้ถึงเวทมนตร์ที่เชื่อมต่อกับแม่มดสาว

     

    คนผมสีแดงปล่อยมือแม่มดและรู้ได้ว่าการเชื่อมต่อเริ่มต้นขึ้นและมันจะจบลงเมื่อเธอตัดมันหรือแม่มดตนนั้นตาย เบลล่าหันไปหาจูลส์ในวงกลม ยกมือขึ้นและดับไฟวงกลมของเธอลง

     

    วินาทีต่อมาจูลส์เห็นโอกาสและพยายามที่จะทำร้ายเคลาส์แต่เขาเร็วกว่า เคลาส์จับจูลส์ลงพื้นและฉีกหัวใจออกจากอกปล่อยให้เอเลน่าและเจนน่าอ้าปากค้าง

     

    เคลาส์เดินไปยืนบนแท่นหินพิธีกรรมและบีบเลือดจากหัวใจใส่ชามพิธีกรรม ดวงตาสีส้มเพลิงของเบลล่าลุกเป็นไฟและยังคงเผาไหม้อยู่ เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองไปที่เอเลน่าหรือเจนน่าจากความรู้สึกผิดที่ก่อตัว

     

    “นี่หมายความว่ามันได้ผลใช่มั้ย” เคลาส์ถาม “มันได้ผล” เกรตาตอบ เบลล่ามองไปแวมไพร์ดั้งเดิมพลางคิดถึงเอไลจาห์ เธอรู้จักเขาดีและอาจจะดีพอที่จะรู้ว่าเขาจะไม่ฆ่าน้องชายของเขา เธอหวังว่าเธอจะคิดถูกในเรื่องนั้น

     

    ทันทีที่เสร็จจากหัวใจหมาป่าเคลาส์ก็เดินไปหาเจนน่าช้าๆ เบลล่ามองไปครอบครัวกิลเบิร์ตด้วยรู้ว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะเชื่อมต่อกับครอบครัวนี้ “สวัสดีเจนน่า” เคลาส์พูด เจนน่าลุกขึ้นช้าๆ “ปล่อยเธอไป ฉันเข้าใจว่าฉันต้องตายแต่เธอไม่ต้อง…” เอเลน่าพยายามจะเข้าใกล้เคลาส์แต่ไฟก็ขวางเธอ

     

    “ระวังหน่อย” เคลาส์เตือน “เอเลน่า อย่า” เจนน่าบอก “ไม่นะน้าเจนน่า เราปล่อยให้เจเรมีไร้ญาติไม่ได้นะ ฉันทำตามกฎของคุณ ทำทุกอย่างที่คุณบอกฉัน ฉันไม่ได้หนี ได้โปรดเถอะ”

     

    เคลาส์ดูเหมือนจะพิจารณามันสักพัก “นั่นสินะ ผมไม่ยักจำได้ว่าคุณอยู่ในรายชื่อแขกนะ” เคลาส์มองไปด้านบนทำให้นัยตาสีเพลิงของเบลล่าดับลงก่อนจะมองไปยังสเตฟานบนหน้าผาใกล้ๆ

     

    เบลล่าหวังว่าเธอจะสามารถใช้เวทมนตร์จากสร้อยคอเพื่อฟังบทสนทนาได้แต่น่าเสียดายที่ทำไม่ได้เธอเลยไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน เบลล่ากระพริบตาและจับสร้อยเมื่อรู้สึกอ่อนแรงลงเล็กน้อย ต้องเป็นผลมาจากการเชื่อมต่อ

     

     ราวๆห้านาทีต่อมาทั้งสเตฟาและเคลาส์ก็ลงมาจากหน้าผา “ค่อนข้างลำบากใจใช่มั้ยล่ะ รู้ไหมมันสนุกดีนะ พูดถึงเรื่องการปกป้องครอบครัว แล้วก็นี่ไงล่ะสเตฟาน ตามที่นายขอ”

     

    เบลล่าขมวดคิ้ว “งั้น เธอจะเลือกใครดีล่ะเอเลน่า” เคลาส์ชี้ไปมาระหว่างสองคนทันใดนั้นเบลล่าก็ตระหนักได้ว่าสเตฟานเตรียมตัวที่จะแทนที่น้าเจนน่าและตายแทนเธอ

     

    เอเลน่ามีน้ำตาคลอ “ไม่” นัยตาสีฟ้าสดใสของเบลล่ามองฉากตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ปะปนกัน “โอ้ ไม่ต้องกังวลไปหรอกเพราะมันก็ไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว” เคลาส์พูดจากนั้นเขาก็หยิบไม้และแทงเข้าไปข้างหลังสเตฟาน เบลล่าสะดุ้งกับฉากที่ได้เห็น

     

    “ไม่ สเตฟาน!” เบลล่าน้ำตาคลอและมองสเตฟานที่เจ็บปวด “ฉันมีแผนอย่างอื่นสำหรับแฟนของเธอฉันต้องการให้เขาเป็นๆแต่สำหรับตอนนี้..” จากนั้ันเคลาส์ก็หักคอสเตฟานอย่างรุนแรง

     

    “เมื่อไหร่ก็ได้ที่เธอพร้อมนะ เกรต้า” เบลล่ากลับมาเฝ้ามองแม่มดที่พึมพำคำภาษาละตินและวงแหวนแห่งไฟของเจนน่าก็หายไป “ไม่นะ” เอเลน่าพึมพำ

     

    “ตาเธอแล้ว” เคลาส์พูดและนัยตาสีฟ้าของเบลล่าก็มองเจนน่าด้วยความรู้สึกผิดที่ล้นอก น้ำตาสีใสคลอและเธอรู้สึกหายใจลำบาก

     

    “ไม่นะ น้าเจนน่า ไม่” เอเลน่าพยายามจะฝ่าไฟอีกครั้งแต่มันก็กักเธอเอาไว้ “ไม่เป็นไร เอเลน่า น้ารู้ว่าต้องทำอะไร” เจนน่าพูด จากนั้นเจนน่าก็ใช้ความเร็วแวมไพร์พุ่งเข้าไปกัดคอเกรต้าทำให้แม่มดกรีดร้อง

     

    เบลล่าอ้าปากค้าง เท่าที่เธอจะประมวลผลได้เคลาส์ก็เข้ามาแทรกแซงโดยการแทงไม้เข้าที่หลังเจนน่า เบลล่ากลั้นน้ำตาและก้อนสะอื้นที่ติดอยู่ในลำคอของเธอ

     

    เจนน่าร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะล้มลง “น้าเจนน่า ไม่นะ” เอเลน่าร้องไห้ออกมา “ปิดมันซะ น้าเจนน่า ปิดความรู้สึกซะ” เอเลน่าพูดกับเจนน่าและเบลล่าก็น้ำตาไหลออกมา

     

    “น้าจะได้ไม่ต้องกลับอีกต่อไป” เอเลน่าบอกเธอ หลับตา เสียงกระซิบในหัวพูดขึ้นและเบลล่าก็หลับตาลงไม่อยากเห็นฉากตรงหน้าอีกต่อไป เธอกำมือแน่นและแม้จะไม่เห็นแต่เธอยังสามารถได้ยินเสียงอยู่

     

    “ไม่ น้าเจนน่า” เบลล่าได้ยินเอเลน่าร้องตะโกน เสียงลมหายใจสุดท้ายของเจนน่าและเสียงคร่ำครวญของเอเลน่า เบลล่ารู้ได้ว่าเคลาส์ได้เสียสละเจนน่าเรียบร้อยแล้ว

     

    โรซาเบลล่าเปิดตาในอีกราวๆสิบนาทีต่อมา หลีกเลี่ยงการมองลงไปข้างล่างและจดจ้องอยู่กับพิธีกรรม เธอได้ยินเสียงสะเตฟานตื่นขึ้น

     

    ขณะที่แม่มดยังคงพึมพำคาถาอย่างต่อเนื่องและเลือดก็ไหลรินลงจากชาม เบลล่ารู้สึกได้ว่าพลังงานของตนถูกระบายออกและมันเกือบทำให้เธอหน้ามืดไปชั่วขณะ เธอรู้สึกได้ถึงเวทมนตร์ของธรรมชาติที่ไหลเวียนผ่านร่างกาย มันให้ความรู้สึกอบอุ่นในเส้นเลือดของเธอเอง

     

    เธอกลัวว่าเธอจะสูญเสียการควบคุมจากอารมณ์ทั้งหมดที่เผชิญดังนั้นเบลล่าจึงทำในสิ่งที่ทำได้ ทำให้ตัวเองรู้สึกว่างเปล่า ให้นานที่สุดจนกว่าเธอจะพร้อม

     

    เธอมองเห็นเคลาส์เริ่มเดินไปหาเอเลน่าช้าๆ “ได้เวลาแล้ว” ไฟที่อยู่รอบเอเลน่าดับลง เคลาส์ยื่นมือออกไปและเอเลน่าก็ลุกขึ้นจากนั้นเธอก็เมินเฉยเขาก่อนจะเดินไปยังแท่นพิธีด้วยตัวเอง

     

    เคลาส์เดินไปหาเธอเร็วๆพอๆกันก่อนจะจับใบหน้าของดอพเพิลเกงเกอร์ “ขอบใจนะ เอเลน่า” เขากระซิบ “ไปลงนรกซะ” เธอกระซิบจากนั้นเคลาส์ก็เริ่มดื่นเลือดจากเธอ เบลล่าจ้องเขาไปในตาเอเลน่าด้วยน้ำตาไหลครั้งสุดท้าย

     

    ทุกสิ่งราวกับภาพเคลื่อนไหวช้าๆเมื่อเอเลน่าเริ่มอ่อนแรงและหลับตาลงก่อนที่เคลาส์จะปล่อยเธอไปและจากนั้น เธอก็ตายลงในที่สุด เบลล่ามองด้วยน้ำตาสีใสและดวงตาที่เปล่งประกายสีส้มเพลิง เธอกำลังอ่อนแรงและอ่อนแอ อีกไม่นานเธอจะหมดสติ เธอรับรู้ได้

     

    ไฟที่แท่นพิธีกรรมดับลงพร้อมกับเสียงสวดมนตร์ของแม่มด เบลล่ามองไปที่พระจันทร์ มันกำลังเกิดขึ้น เสียงในหัวของเธอกระซิบและเธอก็มองกลับไปที่เคลาส์ที่เริ่มกระดูกหัก

     

    เสียงกระดูกแตกเกิดขึ้นอยู่ราวเกือบนาทีก่อนที่เคลาส์จะถูกโยนไปโดยเวทมนตร์ ไฟถูกจุดขึ้นอีกครั้งและลมก็พัดอย่างแรง เสียงฟ้าผ่าเกิดขึ้นและเมื่อเบลล่าหันไปมองต้นตอก็พบกับบอนนี่ที่กำลังร่ายคาถาเพื่อจุดประสงค์เดียว จัดการกับเคลาส์

     

    เธออ้าปากค้างด้วยความตกใจก่อนจะประมวลผลอะไรได้เดม่อนก็เดินมาจากข้างหลังและหักคอเกรต้า เสียงร้องของเคลาส์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธรรมชาติแปรปรวนและเบลล่าก็ทรุดล้มลงนั่งกับพื้นหินด้วยความอ่อนแรง การเชื่อมต่อถูกตัดขาดและเบลล่าก็หายใจหอบ

     

    เธอรู้สึกเหนื่อยราวกับว่าพึ่งไปวิ่งมาเป็นกิโล “ไม่ แกตายไปแล้วนี่” เคลาส์ปฎิเสธที่จะเชื่อ ไฟล้อมรอบเคลาส์และเบลล่ารู้สึกได้ว่ามันรุนแรงมาก บอนนี่ยังคงร่ายคาถาต่อไปซึ่งทำให้เคลาส์เจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น

     

    หางตาของเบลล่าสังเกตเห็นเดม่อนเดินเอาศพเอเลน่าไปวางใกล้สเตฟาน ธรรมชาติกำลังปั่นป่วนรวมถึงเวทมนตร์ข้างในของเบลล่าด้วยเช่นกัน เธอยันตัวลุกขึ้นช้าๆเมื่อรู้สึกว่ามีแรงมากพอ

     

    ต่อมาเอไลจาห์เดินไปหาเคลาส์อย่างช้าๆและนิ่งสงบ บอนนี่หยุดร่ายคาถาและเบลล่าก็กลืนน้ำลาย “เอไลจาห์” เคลาส์พูด “สวัสดีน้องชาย”

     

    เอไลจาห์จมมือของเขาลงไปในตำแหน่งหัวใจของเคลาส์และเบลล่าก็เบิกตากว้าง “ในนามของครอบครัวเรา นิกเคลาส์” เขาเริ่มแต่เคลาส์ก็แทรกทันที “ฉันไม่ได้ฝังพวกเขาไว้ที่ทะเล” เคลาส์พูด “อะไรนะ” เบลล่าก็เริ่มเดินอย่างช้าๆ “ศพพวกเขาปลอดภัย ถ้านายฆ่าฉัน นายจะไม่มีวันได้เจอพวกเขา”

     

    “เอไลจาห์” สเตฟานเรียกเขา “อย่าไปฟังเขา” แต่จากที่เบลล่ารู้จักเอไลจาห์มาเขาจะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเขาถ้ามันหมายถึงไว้ชีวิตเคลาส์ก็ตาม “เอไลจาห์ ฉันพานายไปหาพวกเขาได้” เคลาส์กระซิบ

     

    “ฉันให้สัจจะแก่นาย พี่ชาย” เบลล่ามองไปที่เขาและสูดหายใจเข้าลึกๆ “เอลี..” เธอกระซิบออกมาด้วยความอ่อนแรงและใช้แรงสุดท้ายที่เหลืออยู่จากเวทมนตร์ของสร้อยเร่งความเร็วแวมไพร์ไปอยู่ใกล้เขา

     

    “จัดการซะไม่งั้นฉันจะจัดการกับนายสองคน” บอนนี่บอก “เธอจะตายนะ” เอไลจาห์เตือน “ฉันไม่สน” แม่มดเบ็นเน็ตบอกเขาและเบลล่าก็วางมือของเธอไว้ที่ไหล่ของเอไลจาห์ “เอลี…” เธอพูดกับเขาและเขาก็มองเธออย่างเข้าใจ เบลล่าได้ฟังเรื่องราวของครอบครัวมามากมายและเธออยากเจอพวกเขา หลังจากผ่านไปหลายสิบปี นี่อาจเป็นโอกาสเดียว

     

    จุดสีดำกระพริบในการมองเห็นของเบลล่าและเสียงรอบข้างก็หายไปบางส่วน “ฉันขอโทษ” ด้วยคำสุดท้ายของเอไลจาห์เขาก็พาเบลล่าที่ล้มลงหมดสติและเคลาส์ออกไปด้วยความเร็วของแวมไพร์

     

     

     

     

    talk ;

    ยังไม่จบเหลืออีกตอนก่อนจะเข้าซีซั่นสามค่ะ บอกเลยว่าอารมณ์มาเต็มแน่ๆ5555555555555 เราจะพยายามแต่งในดีที่สุดนะคะ;-;

    แล้วก็ขอบคุณที่คอมเม้นท์กันมาตลอดนะคะ มันให้กำลังใจเราได้ดีมากๆ555555 รักรีดเดอร์ทุกคนนะคะ >3 ใครที่เจอปัญหาอะไรอยู่ก็สู้ๆไปด้วยกันค่ะ ส่งกอดไปสำหรับใครที่ต้องการกอดนะคะ

     

     

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×