ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the vampire diaries — fire on fire , klaus mikaelson

    ลำดับตอนที่ #7 : ⁽ 06 ⁾

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 64



    ???????????“???‘???????????????????‘ | ✓ - i. the vampire diaries - Wattpad

    ( 06 )

    2x14 - Crying Wolf


    แสงรุ่งอรุณในยามเช้าปลุกให้เบลล่า ฮิลส์ตื่นขึ้นจากการหลับไหล เปลือกตาสีมุกเปิดให้เห็นนัยตาสีฟ้า เธอคร่ำครวญจากอาการเหนื่อยล้าที่ยังมีอยู่เล็กน้อยจากเมื่อวานและเมื่อหันไปด้านข้างก็พบว่าเอไลจาห์หายไปแล้วมันทำให้เบลล่าอดผิดหวังเล็กๆไม่ได้แต่เธอก็ปัดความคิดมันออกไปก่อนจะลุกขึ้นตรวจสอบข้อความจากโทรศัพท์

    UNKNOW : ฉันต้องการให้คุณไปงานเลี้ยงน้ำชากับฉันวันนี้

    - E
     

    เบลล่าขมวดคิ้วด้วยความงงว่าเขาเอาเบอร์ของเธอมาได้ยังไงแต่แล้วเธอก็คิด เขาคือเอไลจาห์ ไมเคิลสันแวมไพร์ผู้สูงศักดิ์ ทำให้หัวเราะเบาๆกับตัวเอง
     

    โอเค เจอกันในอีกประมาณครึ่งชั่วโมง

    คุณเปลี่ยน UNKNOW เป็น Eil Mikaelson
     

    Eil Mikaelson : เราจะไปกินข้าวก่อนไปงานเลี้ยง

    นั่นเยี่ยมมาก ขอบคุณค่ะ
     

     

    เมื่อเขาไม่ตอบอะไรอีกเธอก็ไปลุกขึ้นและเริ่มแต่งตัว วันนี้เบลล่าแต่งตัวด้วยเดรสสั้นสีพีชที่ดูสุภาพกับทรงผมสีเพลิงที่ปล่อยตรง เบลล่ายิ้มเยาะกับตัวเองก่อนจะเดินลงไปด้านล่างเมื่อได้ยินเสียงรถจากด้านนอก
     

    "คุณดูสวย โรซาเบลล่า" เอไลจาห์กล่าวทันทีที่เขาเห็นเธอเดินออกจากบ้านกิลเบิร์ต "ขอบคุณค่ะ คุณก็หล่อเหมือนเดิมเอไลจาห์" เบลล่ายิ้มให้เขาก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งรถไปงานเลี้ยงน้ำชาในที่สุด
     

    ระหว่างทางการไปเอไลจาห์ได้โปรดเพลงแจ๊สคลอเบาๆทำให้เบลล่าฮัมตามก่อนจะโยกตัวช้าๆไปตามจังหวะและมันทำให้เอไลจาห์ยิ้มเล็กน้อย เมื่อถึงคฤหาสน์ล็อควู้ดเบลล่าก็ส่งเสียงที่น่ารำคาญออกมาทันที "ฉันเกลียดงานเลี้ยง" เอไลจาห์หัวเราะเบาๆก่อนจะยื่นแขนให้เบลล่าและควงเข้าไปในงาน
     

    "โอ้ สวัสดีค่ะ" แครอลทักทายเอไลจาห์ที่เข้าไปทักเธอและเบลล่าก็ปล่อยให้เอไลจาห์เดินเรื่อง "สวัสดีครับ ผมเอไลจาห์แล้วก็นี่ลูกสาวทูนหัวของผมโรซาเบลล่า ผมคิดว่าคุณคงรู้จักแล้ว" แวมไพร์ในชุดสูทกล่าว "เธอไม่เคยพูดถึงเลย" แครอลกล่าวกับเบลล่าและเธอก็เม้มริมฝีปากอย่างประหม่าก่อนจะส่งยิ้มให้นางสาวล็อควู้ด
     

    "เอ่อ เราไม่ค่อยได้เจอกันน่ะค่ะ" เธอไม่ได้โกหกเพราะเขาทิ้งเธอไปตอนเธอแปดขวบหลังจากรับเลี้ยงเธอเพียงสองปี เธอฟังเอไลจาห์และแครอลคุยกันไปเรื่อยๆด้วยความตกอยู่ในภวังค์ของความทรงจำ
     

    "คุณใช้เวลาในริชมอนด์เพื่อเขียนหนังสือของคุณนานมั้ยคะ ที่นี่มีประวัติศาสตร์มากมาย" เบลล่าหันกลับมาสนใจบทสนทนาเมื่อแครอลพูดขึ้น "ไม่หรอกครับ ส่วนใหญ่ผมจะเจาะไปที่เมืองเล็กๆแถบเวอร์จิเนียมีงานวิจัยมากมาย เป็นวิชาการมากด้วย" เอไลจาห์กล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กๆและเบลล่าก็กุมมือกันด้วยความประหม่า "น่าสนใจจังค่ะ"

    หางตาของเบลล่าสามารถเห็นเดม่อนเดินเข้ามาในงานเลี้ยงได้พร้อมกับแฟนใหม่ของเขา? "เดม่อน ประหลาดใจจังค่ะ" แครอลกล่าว "แครอล ดีครับ" พวกเขาทักทายกันด้วยการจูบแก้มเบาๆ "เอไลจาห์คะ ฉันอยากให้คุณรู้จักกับเดม่อน ซัลวาทอร์ค่ะตระกูลของเขาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งมิสติก ฟอลส์ค่ะ"
     

    "ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบคุณครับ" เดม่อนกล่าวและเบลล่าก็มองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างอึดอัด "ไม่เลย ผมต่างหากที่ยินดีอ้อและผมคงคิดว่าคุณรู้จักกับโรซาเบลล่าอยู่แล้ว" เอไลจาห์ชี้ไปที่หญิงสาวข้างๆเขาที่ยิ้มให้เดม่อนอย่างอึดอัด เธอและเดม่อนไม่ได้สนิทกันมากนักเพราะด้วยปลายปัจจัย เบลล่าค่อนข้างจะสนิทกับสเตฟานมากกว่า
     

    "ครับแน่นอน" เขากล่าวและเบลล่าก็พยายามจะออกจากสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้ "เอ่อ เอลีคะ หนูไปรอบๆนะ" เธอเอ่ยบอกกับเขาและใช้ศัพท์ที่เคยใช้เมื่อยังเด็ก ความทรงจำยังคงกลับมาทีละนิดและช้าๆแต่เบลล่าเชื่อว่าวันหนึ่งมันจะกลับมาครบทั้งหมด เขาพยักหน้าและยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะจูบหน้าผากเบลล่าทิ้งไว้สองสามวินาทีและผละออก
     

    "มีอะไรโทรนะ" เขาพูดและเบลล่าก็พยักหน้าก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายมากขึ้นทิ้งให้เดม่อนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคน
     


     

    เบลล่าเปิดเข้าไปในประตูบ้านพักซัลวาทอร์หลังจากได้ยินเรื่องราวของวันนี้ "มาพอดีเลยเบลล่าตัวน้อยฉันกำลังสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเอไลจาห์" เขาพูดด้วยเชิงประชดประชันขณะที่อลาริคหัวเราะเบาๆและเบลล่าก็นั่งลง "เขาเหมือนพ่อของฉันเดม่อน เขาช่วยฉันไว้แต่ฉันจะไม่ลงรายละเอียดใดๆทั้งสิ้น"
     

    เบลล่าอธิบายกับเดม่อนและนั่งฟังเขาสองคนคุยกันพร้อมกับเบอร์เบินในมือ "คอเป็นไงบ้างล่ะ" อลาริคถาม ใช่ เธอเกือบลืมไปเลยที่เขาไปยั่วยุเอไลจาห์จนโดนดินสอแทง "ก็เจ็บนะ" เขาตอบ "ใช่ เอไลจาห์เป็นคนน่ากลัวแต่ผมเขาสวยนะ" อลาริคพูดและเบลล่าก็มองไปทางเขา "อืมม ไม่เห็นด้วยมากกว่านี้"
     

    เขาหัวเราะเบาๆกับคำพูดของเบลล่า "เฮ้ เอาอีกสักแก้วมั้ยล่ะ" อลาริคลุกขึ้นยืนและหยิบแก้วเบอร์เบินออกไป "หมอนี่คงตายยากจริงๆ" เดม่อนบ่นพึมพำ "ใช่ ผมคงคิดหลายรอบก่อนจะเชื่อเรื่องกริชกับเถ้านั่นว่าจะฆ่าเขาได้คุณคงต้องการแหล่งข้อมูลเพิ่มอีก" และเบลล่าก็ขมวดคิ้ว กริชกับเถ้า? "แต่ฉันไม่มีแหล่งข้อมูลนี่"
     

    "แล้วเรื่องนายกับแม่นักข่าวสาวนั่นล่ะ" อลาริคถาม "เธอใจกล้าดีนะ" เบลล่ากรอกตาเมื่อรู้ว่าเขาต้องบังคับเธอ "อย่าฆ่าเธอแล้วกันขอร้อง" อลาริคพูด "ถ้าฉันทำใครจะรายงานข่าวการตายของเธอ" เบลล่ากรอกตาไปที่เขาอีกครั้ง "อย่าฆ่าก็แล้วกัน ได้ไหมเธอเป็นเพื่อนของเจนน่าแล้วมันก็แย่พอแล้วที่ผมต้องโกหกทุกเรื่อง ผมไม่ชอบโกหกเลย"

    "โอ้ พระเจ้าผมต้องไปแล้วต้องไปรับเจนน่า ไม่ต้องห่วงผมจะออกไปเอง" อลาริคพูดและเบลล่าก็นั่งอยู่ในความสงบกับเดม่อนจนกระทั่งได้ยินเสียงดัง พวกเขาเดินไปดูอลาริคที่โดนแทงและล้มลงกับพื้น

     

    เสียงกระโดดลงจากข้างหลังดังขึ้นและเบลล่าก็จำได้ว่ามันเป็นหนึ่งในหมาป่าเมื่อคืนก่อน เขาและเดม่อนสู้กันก่อนที่หมาป่าจะฉีดเวอร์เวนใส่เขา "เดม่อน!" เบลล่าร้องเรียกขณะดูเดม่อนเหวี่ยงเขาไปทั่วๆก่อนจะล้มลงไปในที่สุดและเบลล่าก็ตกตะลึง "shit." เธอสถบออกมาก่อนจะกลืนน้ำลายอย่างประหม่าและรู้สึกได้ถึงคลื่นความร้อนที่แผ่กระจายรอบๆ

     

    "ให้ตายสิ แกนี่แข็งแรงเป็นบ้าต้องใช้หมดเข็มกันเลยนะ" วินาทีต่อมาที่เธอรู้สึกคือเข็มทิ่มทะลุผิวหนังของเธอ เธอรู้ได้ทันทีว่ามันเป็นเวอร์เวนทำให้เธอฮึดฮัดก่อนจะแกล้งทำเป็นสลบ เธอจำเป็นต้องทำเพื่อให้พวกเขาเชื่อเพราะตอนนี้เธอคิดไม่ออกจริงๆว่าควรทำอะไร
     

    "ไง เดม่อนและเบลล่า ดีใจที่ได้เจออีกครั้งนะ" เธอได้ยินเสียงจูลส์พูดและเบลล่าก็คร่ำครวญในหัวของเธอ bitch เบลล่าที่ตอนนี้แกล้งทำเป็นสลบได้แต่ฟังเสียงและให้พวกหมาป่าพาเธอไปเรื่อยขณะที่คิดแผนการ
     

    ผ่านไปราวสิบห้านาทีเบลล่าที่แกล้งสลบกระพริบตาแกล้งทำเป็นว่าตื่นขึ้นก่อนจะสังเกตได้ว่าเธอถูกล่ามโซ่พร้อมกับเดม่อนที่สภาพดูแย่กว่ามากและอลาริคที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา "อรุณสวัสดิ์นายและนางขี้เซา ฉันเคยดูหนังนี้ครั้งหนึ่งมีฉากเปลือยแบบทรมานพวกเขาใส่ปลอกคอนี่ด้วยนะ มันเจ๋งมากเลยฉันเลยปรับแต่งเข้ากับตะปูไม้ดูแล้วพอฉันดึง..บู้" หมาป่าตนหนึ่งพูดและเบลล่าก็กัดฟันเมื่อได้ยินเสียงครวญครางจากเดม่อน
     

    "ได้ยินว่านายมีมูนสโตนอยู่" จูลส์พูดและเบลล่าก็กรอกตา "โอ้ รู้มั้ยตอนนี้มันช่างประชดประชันจริงๆนะให้ฉันบอกนะว่าเรื่องนี้จะเป็นไงต่อเธอจะทรมานฉันแต่ไม่พูด ใครสักคนเสียหัวใจไปครั้งที่แล้วเป็นเมสันแฟนหนุ่มของเธอ" เดม่อนพูดและจูลส์ยิ้มเยาะก่อนที่เธอจะดึงปืนออกมาและยิงเข้าที่หัวไหล่ของเบลล่าทำให้เธอร้องออกมา
     

    "You're death." เบลล่ากัดฟันพูดด้วยความโกรธขณะที่พยายามหาทางหลุดพ้นจากโซ่ นัยตาสีฟ้ามองไปที่หญิงสาวหมาป่าด้วยความเกลียดชัง เธอหลับตาพยายามควบคุมความโกรธที่กำลังปะทุในไม่ช้า "รู้มั้ยว่าข้อดีของปืนสั้นคืออะไร มันเจ็บไปทั้งตัวเลยล่ะเจ็บสุดๆ มูนสโตนอยู่ไหน"

     

    "ลืมไปได้เลยที่รัก เธอจะไม่มีวันได้มันไปหรอก" เบลล่ากัดฟันรู้สึกได้ถึงความร้อนที่กำลังกระจายไปทั่วร่างกาย "หานี่อยู่หรอ" เธอลืมตาอย่างช้าๆเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เบลล่ายิ้มเบาๆ เขาเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มและถือมูนสโตนไว้ก่อนจะวางมันลง "เอาสิ มาหยิบไป" เขาพูดด้วยท่าทางเชื้อเชิญแต่เบลล่ารู้ว่านี่เป็นกลหลอก
     

    หมาป่าตัวหนึ่งพุ่งเข้าหามันด้วยความเร็วของหมาป่าแต่เอไลจาห์ก็ชนะเขาได้ด้วยการควักหัวใจออกมาและทำแบบเดียวกันกับอีกสองคน เธอไม่เคยเห็นเขาฆ่าคนมาก่อนอย่างน้อยก็ครั้งเดียวตอนเขาฆ่าเทรเวอร์เท่านั้น มันทำให้เบลล่ากลัวเล็กๆแต่ก็อดยิ้มเยาะไม่ได้ จูลส์รีบออกไปในขณะที่อีกคนพยายามหมอบหลีกหนีราวกับว่าเอไลจาห์จะไม่เห็นเขา
     

    "แล้วเธอล่ะ ที่รักหืม อยากได้สักช็อตไหมล่ะ" ชายคนนั้นส่ายหัวอย่างรวดเร็ว "ไม่หรอ ผู้หญิงไปไหนแล้วล่ะ" เอไลจาห์ถาม "ฉันไม่รู้" เดม่อนตอบเขาขณะที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ของความทรมาน "ไม่สำคัญหรอก" เขาพูดก่อนจะฆ่าชายคนนั้นและเบลล่าก็ถอนหายใจออกมา
     

    เอไลจาห์ที่สังเกตเห็นเบลล่าก็รีบเข้าไปหาเธอก่อนจะดึงโซ่ออกและสังเกตเห็นเลือดที่ไหล่ของเธอ "ขอโทษนะ" เขากระซิบเบาๆก่อนจะดึงกระสุนออกมาและเบลล่าก็ร้องด้วยความเจ็บปวด ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็รับรู้ได้ถึงรสชาติของโลหะที่ไหลเข้าปาก
     

    เมื่อเขารักษาเบลล่าเสร็จแล้วก็เดินไปดึงโซ่ของเดม่อนออก "นายคงรู้สินะว่านี่เป็นครั้งที่สามที่ฉันช่วยชีวิตนายเอาไว้" เขาพูดก่อนจะรับเบลล่าและมูนสโตนออกไป 

     

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×