ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Genshin impact X Fate] เอเทอร์ผู้ใช้พลังของวีรชน

    ลำดับตอนที่ #3 : การพบเจอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.17K
      96
      8 เม.ย. 65

    ก็อย่างนี้แหละ เทพไม่รู้จักนั่นพาไปตัวน้องสาวของชั้นไป…..

    และชั้นก็ถูกเทพร่ายผนึกและสูญเสียพลังที่เคยมีไป 

    พวกเราที่เคยก้าวข้ามผ่านโลกต่างๆ มามากมายก็มาติดอยู่ที่นี่…

     

     

    "นั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นกี่ปีมาแล้วกันแน่นะ ชั้นไม่รู้เลย…" นั่นคือเรื่องราวที่ตัวของเอเทอร์ได้พบเจอมาก็คือ น้องสาวของเขาได้ถูกพาตัวไปและตอนที่ตัวของเอเทอได้ตื่นขึ้นมาน้องสาวของเขาก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนกันแน่เหมือนกัน

     

     

    "แต่…ชั้นจะต้องหาวิธีที่จะตรวจสอบให้ได้ หลังจากที่ตื่นขึ้นมาชั้นก็เร่ร่อนคนเดียวไปเรื่อยๆ จนถึงเมื่อก่อนที่มาเจอกับเธอ…" เอเทอเอ่ยก่อนจะหันหน้าไปมองที่ตัวของไพม่อนเด็กสาวตัวน้อยที่กำลังลอยบินอยู่ข้างๆตัวของเขา

     

     

    "อืม ตอนนั้นต้องขอบคุณเธอมากเลยนะ ไม่งั้นชั้นคงจะจมน้ำตายไปแล้ว" ไพม่อนเอ่ยพลางย้อนไปถึงตอนที่ตัวเองโดนเอเทอร์ที่กำลังตกปลาอยู่แล้วไพม่อนก็มาติดเบ็ดของเอเทอร์พอดีก็เลยทำให้เธอรอดมาได้เฉียดฉิวมาพอดี ตัวของเอเทอก็เลยได้เพื่อนร่วมทางอีกคนนึงก็คือ ไพม่อนนั่นเอง

     

     

     

     

    "เพราะงั้นแล้วชั้นจะคอยเป็นผู้ชี้นำทางที่ดีนะ" ไพม่อนเอ่ยด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

     

     

    "เอาล่ะ ออกเดินทางกันเถอะ" ถึงชั้นจะไม่รู้ว่าในตอนนั้นอเวนเจอร์เป็นใครตัวของชั้นเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่บางทีในฝันของชั้นเองก็มักจะเห็นตัวของเขาบางครั้ง ในระหว่างทางเอเทอร์และไพม่อนก็ได้เดินทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขาได้เจอเข้ากับเมืองเข้าแล้วจนได้ในที่สุด

     

     

    "นั่นคือ staue of the seven" ไพม่อนบอกพร้อมกับชี้ไปยังรูปปั้นหินสูงราวๆ 3 เมตรที่ตั้งตระหง่านอยู่

     

     

    "รูปปั้นของเทพได้กระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ ในแผ่นดินเป็นสัญลักษณ์ถึงการคุ้มครองโลกจากเทพทั้งเจ็ด" ไพ่ม่อนอธิบายเกี่ยวกับรูปปั้นให้เอเทอร์ได้รู้จักกับรูปปั้นตัวนั้น

     

     

    "ซึ่งในหมู่ทั้งเทพทั้งเจ็ดนั้น เทพตนนี้ควบคุม ลม" ไพม่อนบอกให้รู้ว่ารูปปั้นตัวนั้นก็คือ เทพลม ซึ่งที่แห่งนี้ก็ได้รับการดูแลจากเทพแห่งลมอย่างนั้นสินะ "ถึงจะไม่รู้ว่าที่เธอจะตามหาอยู่จะใช้เทพลมหรือไม่ แต่ว่า…" 

     

     

    "ที่ชั้นนำเธอมายังดินแดนของเทพแห่งลมก่อนนั้นมีเหตุผลอยู่นะ" ไพม่อนเอ่ยก่อนจะบินนำทางไปให้ ส่วนเอเทอร์เองก็เดินตามตัวของไพม่อนไปด้วย "อย่างที่ทุกคนรู้ดี ภาษาและบทกวีนั้นจะล่องลอยไปกับสายลมในหมู่บ้านนั้นจะต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับน้อฃสาวของเธออยู่แน่ ชั้นคิดแบบนั้นนะ" 

     

     

    "แน่นอนว่า จะต้องได้รับคำตอบจากเทพหรือไม่นั้นต้องลองดูก่อนถึงจะรู้" ไพม่อนพูดจบทั้งสองคนก็ได้มาถึงหน้ารูปปั้นเทพแห่งลม…

     

     

    "นี่ไงล่ะ ลองแตะดูสิ" ไพม่อนบอกให้ตัวของเอเทอร์ลองแตะที่รูปปั้นดู ซึ่งเอเทอร์ก็รู้สึกลังเลเล็กน้อยแต่ว่า ถ้าเป็นเพื่อที่จะตามหาน้องสาวของเขาที่หายไปมันก็ต้องลองเสี่ยงเท่านั้นแหละ…

     

     

    "อ่ะ อื้ม" เอเทอร์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ตัวของรูปปั้นหินแขนซ้ายของเอเทอร์ยื่นมือไปแตะไปที่รูปปั้นของเทพลมพอมือของเอเทอร์แตะไปที่รูปปั้นเทพลมเท่านั้นแหละ 

     

     

    ลมมากมายได้เริ่มแผ่ขยายออกมาจากรูปปั้นนั้นก่อนที่ลมจะเริ่มหมุนตามรูปปั้นจนลมพวกนั้นรวมตัวกันไปที่จุดบนสุดของรูปปั้นก่อนจะปรากฎเป็นพลังงานวงกลมสีเขียวปรากฎออกมาพร้อมกับลอยตัวลงมาที่มือของเอเทอร์ "นะ นี่มัน!!" ก่อนที่ลมนั้นจะเข้าไปในตัวของเอเทอร์

     

     

    "อ่ะ!! นะ นี่มัน" เอเทอร์รู้สึกตกใจเล็กน้อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่น่ะ ซึ่งในระหว่างนั้นเองอยู่กับมีเสียงดังก้องขึ้นมาในหัวของเอเทอร์มาว่า 

     

     

    "ข้าเป็นคนที่ถนัดกับธาตุลมอย่างนั้นสินะคะ" 

    เสียงของหญิงสาวผู้มีน้ำเสียงอันนุ่มนวลช่างไพเราะดังก้องขึ้นมาในหัวของเอเทอร์ จนไพม่อนเห็นแบบนั้นก็ถามเอเทอร์ขึ้นมาด้วยความรู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย "เป็นอะไรหรือเปล่า รู้สึกอะไรกับธาตุในโลกนี้บ้างมั้ย" 

     

     

    "อ่ะ อื้มแล้วเธอว่าเป็นไงล่ะ" เอเทอร์ถามเรื่องเมื่อกี้ที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อกี้ที่ไพม่อนน่าจะพออธิบายได้มั้ง "อ่า อืม ดูเหมือนว่าเพียงแค่สัมผัสกับรูปปั้นแล้วเธอจะได้รับพลังของ ลม ทันทีเลยนะ…คนบนโลกนี้หากอยากจะได้รับพลัง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะง่ายแบบเธอตอนนี้" 

     

     

    "ที่แท้พลังที่แท้จริงของชั้นก็คือ…" เอเทอร์

     

     

    "อืม เพราะว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ใช่คนจากโลกนี้นี่นะ ซึ่งจากทางนี้มุ่งไปทางตะวันตกก็จะไปถึงเมืองแห่งอิสระภาพ mondstadt" 

     

     

    "monstadt คือเมืองแห่งลม ซึ่งบูชาเทพแห่งลม หนึ่งในเทพทั้งเจ็ด เธอผู้ซึ่งสามารถลับพลังจากรูปปั้นเทพนั้นไม่แน่อาจจะเจอเบาะแสอะไรบางอย่างจากในเมืองนี้ก็ได้นะ" 

     

     

    "นอกจากนี้เอง mondstadt ยังมีเหล่านักกวีพเนจรอีกมากมายไม่แน่อาจจะรู้อะไรเกี่ยวกับน้องสาวของเธอบ้างก็ได้" 

     

     

    "ส่วนพลังธาตุของโลกนี้ตอบสนองต่อการอธิษฐาน ชั้นคิดว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีนะ" 

     

     

    "อ่ะ ระวังนะ สไลม์น่ะ" สไลม์ตัวนั้นพุ่งเข้าโจมตีใส่เอเทอร์ด้วยการกระโดดเข้าไปหาอย่างรวดเร็วพร้อมกับร่างของสไลม์ที่เป็นไฟถ้าเกิดโดนเข้าก็คงจะโดนเผาหรือเป็นแผลโดนลวกแน่ๆ แต่ทว่าเอเทอร์กลับกระโดดหลบได้ทันเสียก่อนโดยใช้พลังของธาตุลมที่พึ่งได้รับมาซึ่งนั่นทำให้ทั้งตัวเอเทอร์รวมถึงไพม่อนด์ก็ต่างอึ้งพร้อมกัน 

     

     

    "หลบได้ด้วยล่ะ" ไพม่อน

     

     

    "ช่วยไม่ได้นะ!!" เอเทอร์ที่เห็นว่ามีสไลม์โผล่ขึ้นมาเรื่อยๆแบบนี้คงจะปล่อยไปไม่ได้แน่เจ้าตัวไม่รอช้าจะเตรียมต่อสู้แต่แล้วจู่ๆก็มีธนูปรากฎขึ้นมาบนมือของเอเทอร์เป็นธนูสีดำฟ้า

     

     

    คันธนู

     

     

    ถึงเขาจะตกใจบ้าง แต่ทว่าสไลม์ก็พุ่งเข้ามาโจมตีเอเทอร์เข้าซะแล้ว แต่ไม่รู้ว่าตัวของเอเทอร์ไม่เคยใช้ธนูมาก่อนแต่อยู่ๆ เอเทอร์กลับจับคันธนูในมือเล็งยิงใส่สไลม์แทบจะในทันที ลูกธนูที่เป็นลมได้ปรากฎบนคันธนูก่อนที่เอเทอร์จะปล่อยเชือกธนูยิงใส่สไลม์เข้าเต็มๆ จนตัวของสไลม์ที่โดนลูกธนูยิงใส่ก็ตัวแตกละเอียดทันที

     

     

    "ธนูงั้นเหรอ ดีล่ะ" เอเทอร์มองดูธนูในมือของตนอย่างครุ่นคิดเล็กน้อยว่าทำไมความรู้สึกตอนได้จับธนูคันนี้แล้วมันรู้สึกว่า มันช่างคุ้นเคยเสียเหลือเกิน แต่ในระหว่างที่เอเทอร์กำลังสับสนอยู่นั้นไพม่อนที่สังเกตุเห็นสไลม์ขนาดยักษ์อยู่ด้านหลังของเอเทอร์ซะแล้ว

     

     

    "ข้างหลัง!! เอเทอร์" ไพม่อนรีบตะโกนเรียกเอเทอร์ แต่ในช่วงพริบตานั้นเองนัยต์ตาของเอเทอร์ได้แปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวชั่วครู่นึง เอเทอร์ขยับแขนทั้งสองข้างของเขาจับไปที่คันธนูอีกครั้งก่อนจะเอนหลังตัวล้มลงไปที่พื้นพร้อมกับง้างธนูเล็งไปที่สไลม์ยักษ์ตัวนั้นก่อนจะปล่อยคันศรยิงลูกธนูใส่เจ้าสไลม์ตัวนั้นเข้าเต็มๆ 

     

     

    จนร่างของมันถูกพลังของธาตุลมฉีกร่างของมันเป็นชิ้นๆ อย่างรวดเร็วและภายในชั่วครู่นึงนั้นเองที่ดวงตาของเอเทอร์กลับมาเป็นสีเหลืองดังเดิม…

     

     

    "เอ๊ะ เมื่อกี้นี่มัน" เอเทอร์รู้สึกตกใจมากเพราะว่า ท่าทางการต่อสู้เมื่อกี้มันดูไม่สมกับเป็นตัวของเขาเลยสักนิดเดียว มันเพราะอะไรกันนะ ทางด้านไพม่อนได้บินเข้ามาหา "ว้าว เมื่อกี้นี่มันพลังของธาตุลมที่ได้รับมาจาก staue of the seven เมื่อกี้นี้นี่" 

     

     

    "อา….อิจฉาอ่ะ ชั้นเองก็อยากมีวิธีต่อสู้เท่ๆ อย่างนี้บ้างอ่ะ" ไพม่อนเอ่ยด้วยความอิจฉาที่สามารถสู้ได้แบบเอเทอร์ได้บ้าง ซึ่งเอเทอร์ก็รู้สึกอายๆเล็กน้อยว่า เมื่อกี้ดูจะไม่เหมือนตัวของเขาสู้เลยนะ

     

     

    "น่าๆ เอาเป็นว่าไปกันต่อเถอะ" เอเทอร์ตอบกลบเกลื่อนไปด้วยเพราะเอเทอร์เองก็ไม่รู้ว่าพลัง เมื่อครู่ที่เอเทอร์ใช้เมื่อกี้นี้มันคืออะไรกันแน่ 

     

     

    (เมื่อกี้นี่มัน พลังอะไรน่ะ ทั้งตอนใช้ธนูเมื่อกี้ก็ด้วยเหมือนจะไม่ใช่ความสามารถของเราเลยนี่นา…)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×