คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Part 2 :Acquaintance (คนรู้จัก)
ณ บริษัท Invite co.,ltd.
“บริษัท Inviteได้รับการยอมรับว่าเป็นบริษัทที่มีคุณภาพดีที่สุดในเกาหลี อีกทั้งเพื่อเป็นเครื่องยืนยัน บริษัทของเรายังได้รับรางวัลจากประเทศต่างๆมากมาย ทั้งด้านคุณภาพสินค้า คุณภาพการส่งออก ฯลฯ และถ้าเราขาดบุคคลสำคัญ คนนี้ไปบริษัทเราก็คงไม่สามารถก้าวกระโดดมาไกลได้ถึงเพียงนี้ ซึ่งบุคคลนั้นก็คือ...คุณจองยุนโฮ ประธานบริษัทเลือดใหม่ไฟแรงของเราคนนี้ครับ ขอเชิญท่านขึ้นมากล่าวอะไรบนเวทีเลยครับ”
จองยุนโฮหนุ่มเลือดใหม่ไฟแรงที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสามารถ เขาประสบความสำเร็จทั้งที่อายุยังน้อยและไม่เคยล้มเหลวในหน้าที่การงานเลยสักครั้ง อีกทั้งยังหน้าตาหล่อเหลาชนิดโลกละลายกันเลยทีเดียว สมแล้วกับที่เป็นลูกชายของหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Inviteขึ้นมา
ร่างสูงโปร่ง สัดส่วนตรงตามตำราชายหนุ่มมาดแมน ก้าวขายาวๆด้วยท่าทีสุภาพ ขึ้นไปบนเวทีตามคำเชื้อเชิญของพิธีกรรูปร่างอ้วนคนนั้น......เพื่อกล่าวสคริปยืดยาวที่เขาเพิ่งนั่งท่องเมื่อคืนนี้ไปหมาดๆ
หลังจากที่งานฉลองแสดงความยินดีกับประธานบริษัทหนุ่มสิ้นสุดลงไปแล้ว เจ้าตัวก็ถึงกับเหนื่อยจนแทบไม่อยากจะลืมตาขึ้นเลยทีเดียว ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าพ่อของเขามาร่วมงานด้วยแล้วล่ะก็ เขาก็คงจะหลับเป็นตายก่อนที่งานจะเลิกเสียอีกแน่ะ
“เป็นไงยุนโฮลูกพ่อ พ่อภูมิใจในตัวแกจริงๆเลย สมแล้วกับที่เป็นลูกของพ่อ คงจะเหนื่อยมามากแล้วสินะ แกไปพักผ่อนเถอะ พ่อก็อยากพักผ่อนบ้างแล้วเหมือนกัน”ร่างท้วมสูงใหญ่ของผู้เป็นพ่อค่อยๆขยับช้าๆและมองลูกชายอย่างปลื้มปีติ มุมปากหนายกขึ้นให้ลูกชายก่อนที่จะหันหลังกลับไปที่รถเพื่อเดินทางกลับบ้าน โดยมีบอดี้การ์ดสวมชุดดำเดินตามไปเป็นแพ
“เป็นไงบ้างวะไอ้หมี เหนื่อยล่ะสิแก”ยุนโฮพยายามลืมตาที่หนักอึ้งขึ้นมองต้นตอของเสียง จึงพบว่าชายอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็คือเพื่อนสนิทที่สุดของเขานั่นเอง ปาร์คยูชอน
“เหนื่อยจนแทบอยากจะล้มตัวลงนอนตรงนี้ได้เลยว่ะ ไอ้ไก่” ยุนโฮพูดออกไปด้วยความสัตย์จริงแต่กลับเรียกเสียงหัวเราะของเพื่อนหนุ่มรูปหล่อตัวดีนั่นออกมาได้อย่างไม่อายใคร
“ขำอะไรวะ ฉันซีเรียสนะโว้ย!”ยุนโฮเริ่มไม่สบอารมณ์กับเพื่อนของตัวเอง
“ฉันรู้อยู่แล้วหรอกน่าว่าแกต้องเป็นอย่างนี้ ไป!ฉันเตรียมอะไรไว้ให้แกเล็กๆน้อยๆเผื่ออาการแกอาจจะดีขึ้น แล้วเจอกันที่โรงแรมของไอ้คิบอมมันนะ บายโว้ย!” ยูชอนส่งยิ้มเจ้าเสน่ห์ให้กับเพื่อนของเขาซึ่งมันเสี่ยงมากต่อการโดนเพื่อนของเขาเตะ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเพื่อนรักไม่ชอบให้เขายิ้มแบบนั้น แต่ก็ยังจะทำ!
.
.
.
“สวัสดีค่ะ ท่านประธาน จองยุนโฮ เชิญทางด้านนี้เลยค่ะ” พนักงานสาวสวยของโรงแรมเพื่อนซี้อีกคนของเขากำลังต้อนรับด้วยกิริยา วาจาสุภาพ นอบน้อม โดยไม่ต้องรีรอให้ใครบอก พร้อมกับเดินนำทางไปสู่ห้องที่ยูชอนจองไว้แต่แรกด้วยความคล่องแคล่ว
หญิงสาวจัดแจงเปิดประตูให้เรียบร้อยก่อนที่ยุนโฮจะก้าวเข้าไปในห้องสุดหรู บรรยากาศสุดเจ๋งของโรงแรมหกดาว โดยที่คนธรรมดาไม่สามารถเข้ามาเหยียบที่นี่ได้อย่างแน่นอน นอกเสียจาก...คนรวยมากๆเท่านั้น
ยุนโฮถอดเสื้อสูทราคาแพงที่แสนหนักอึ้งของเขาทิ้งลงบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่จะก้าวยาวๆไปที่โซฟานุ่มๆตรงสุดมุมห้อง สักพักเขาก็ได้กลิ่นของอโรมาบำบัด ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อที่ไหล่ของเขาเหมือนมีคนมาบีบมันเอาไว้
“เฮ้ย!”เขาส่งเสียงอุทานออกมาเมื่อเบื้องหน้าของเขามีนางฟ้า เอ้ย! มีคนมานั่งอยู่ที่โซฟาตัวเดียวกันกับเขา
ร่างเล็กที่แสนบอบบาง ผิวที่ขาวละเอียดเนียนนุ่มน่าสัมผัส ใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดาตัวน้อย มาปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าเขา
หรือว่า.....
เขาจะฝันไป......
“คุณครับ”เทพธิดาตัวน้อยเบื้องหน้าเอื้อนเอ่ยเสียงที่แสนหวาน ไพเราะ น่าฟังออกมา แต่เดี๋ยว...คะ...ครับเหรอ! เทพธิดาพูดคำว่าครับเหรอ? เพิ่งจะรู้นะเนี่ยวะ...ว่า......
“คุณ! เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ”เสียงหวานใสนั่นเปล่งออกมากระชากใจอีกครั้ง แต่คราวนี้สติของท่านประธานหนุ่มเริ่มอยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว
“คุณเข้ามาได้ยังไง?”ยุนโฮพยายามปรับระดับเสียงให้อยู่ในระดับที่เป็นปกติ
“ก็...”
“แล้วเหตุผลที่คุณเข้ามาล่ะ? อะไร?”
“ผมได้รับการว่าจ้างจากคุณยูชอนเพื่อที่จะ...”
“มาทำอะไร?”
“นวดผ่อนคลายครับ”
“น่ะ....น่ะ...น่ะ...นวด! เฮอะ!มือเล็กๆอย่างนายเนี่ยนะจะนวดใครเขาไหว แวบแรกก็ดูไม่ออกแล้วว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย บอกจุดประสงค์ของนายมาดีกว่า”ยุนโฮแกล้งพูดให้ร่างบางตกใจเล่น
“นายเป็นใคร?”ยุนโฮเป็นฝ่ายตั้งคำถามอีกครั้ง
“ผม...คิมแจจุงครับ”เป็นไปตามคาดอย่างที่คิดไว้ คำเนี้ยแหละที่ยุนโฮต้องการแต่ไม่กล้าถามออกไปตรงๆ
“นายคงฝีมือดีไม่เบาสินะ ไอ้ยูชอนมันถึงจ้างให้นายมานวดฉันน่ะ”ยุนโฮพูดขณะที่ล้มตัวลงนอนคว่ำบนโซฟาตัวเดิมแล้วหันหน้าอันหล่อเหลาของเขาไปหาคนสวยที่กำลังนั่งยิ้มตาปรือ
“งั้นก็นวดเลยสิ ถ้านายไม่หลับไปซะก่อนน่ะนะ”ร่างบางหุบยิ้มทันทีที่รู้ว่าหน้าหล่อคนนั้นหันไป พร้อมกับเบ้ ปากอย่างเอาแต่ใจเพราะความง่วงนอน
มือเรียวสวยกดนวดลงไปที่ไหล่ของชายหนุ่มรูปงามด้วยน้ำหนักที่พอดี แต่นวดไปได้ไม่กี่ครั้งก็ต้องหยุดลงเพราะชายหนุ่มที่นอนอยู่ตรงหน้าของเขาขัดขึ้น
“เฮ้อ!ฉันว่าฉันไปอาบน้ำก่อนดีกว่า”ไม่พูดเปล่าเพราะเจ้าของเสียงนั้นกลับลุกไปด้วยความรวดเร็วและมุ่งตรงไปที่ห้องน้ำทันที ปล่อยให้ร่างบางนั่งงุนงงอยู่ตรงนั้นคนเดียว
ร่างบางมองสอดส่องไปทั่วทุกมุมห้องพลางคิดว่าถ้าเจ้าตัวได้อยู่ห้องหรูๆแบบนี้บ้างก็คงจะดี แต่อยู่ๆภาพของชายหนุ่มรูปหล่อที่เขาเพิ่งได้สัมผัสไหล่ที่มีแต่กล้ามเนื้อเมื่อกี้ กลับแทรกขึ้นมาแทนความคิดใดๆทั้งหมด
ใบหน้าที่หล่อคมราวกับเทพบุตรมาเกิด รูปร่างที่มีแต่กล้ามเนื้อสวยงามน่าสัมผัส ผิวที่ขาวนวลจนแทบห้ามความรู้สึกที่อยากจะสัมผัสไว้ไม่ไหว คนอะไรจะเพอร์เฟคบาดใจได้ถึงเพียงนี้
แต่แล้วความคิดนี้ก็ต้องดับวูบลง เพราะคนที่เขาเพิ่งกล่าวชมในใจเมื่อครู่นี้ เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ ผมที่ถูกย้อมด้วยสีน้ำตาลเหลือบแดงลีบลงและเปียกปอน ผ้าขนหนูสีขาวสะอาดถูกมัดอย่างลวกๆไว้ที่เอว หยดน้ำเล็กๆที่เกาะอยู่บนร่างกายส่วนบนของชายหนุ่มช่างเป็นอะไรที่สวยงามและเพลิดเพลินเสียจริงเชียว
“นายจะจ้องฉันทำไมนักหนาน่ะ”ร่างบางสะดุ้งเมื่อถูกเจ้าตัวทักเข้าให้
“ปะ...เปล่าครับ”เขาแก้ตัวพร้อมกับหยิบขวดน้ำมันอโรม่า มาทาไว้ที่มืออย่างร้อนรน ซึ่งท่าทีน่ารักๆแบบนั้นทำให้เรียกเสียงหัวเราะจากร่างสูงได้ไม่ยาก แต่กลับทำให้ร่างบางหน้าแดงจนทำอะไรไม่ถูก ซึ่งกิริยาแบบนั้นร่างสูงถึงกลับควบคุมสติไว้ไม่อยู่ จึงกระแอมออกมาเพื่อเรียกสติตัวเองกลับคืน
“นายจะนวดฉันไม่ใช่เหรอ ก็เอาสิฉันพร้อมแล้ว”ร่างสูงพูดพร้อมกับเดินไปนั่งหันหลังให้คนสวยที่โซฟาอย่างว่าง่าย
“เบาๆนะ ฉันปวดไหล่มาก”ร่างสูงทิ้งท้ายก่อนที่ร่างบางจะลงมือนวดสัมผัสเบาๆไปที่ไหล่ของคนตัวสูง สัมผัสบางๆนั้นช่วยให้คนตัวสูงผ่อนคลายได้มาก บวกกับน้ำมันที่คนสวยทาไว้แต่แรกยิ่งทำให้เขาสบายมากขึ้น
มือบางไล่ลงไปถึงหลังที่มีหยดน้ำเกาะของร่างสูง เขารู้สึกประหม่ามากที่ได้นวดสัมผัสชายคนนี้ เพราะอะไรกันนะ?
“นี่! มีสมาธิหน่อยสิ”ยุนโฮพูดหลังจากที่รับรู้ได้ว่าน้ำหนักที่มือของคนสวยนั้นไม่สม่ำเสมอกัน
“ขอโทษครับ”
“อืมมม...แล้ว...นายทำงานอยู่ที่ไหนน่ะ”ยุนโฮตั้งคำถามเพื่อชวนคุย
“ชรีวรรณ สปาครับ”
“อ๋อ ร้านประจำของไอ้ยูชอนมันน่ะนายได้เจอมันบ้างหรือเปล่าล่ะ”
“ครับ เขาเป็นลูกค้าประจำของผมมาเกือบสองเดือนแล้ว”
“นายเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่สินะ”
“ครับ”
“อืม งั้นดี ต่อจากนี้ไปฉันเป็นลูกค้าประจำของนายอีกคนแล้วกันนะ”
“...ครับ”ร่างบางตอบรับอย่างงงๆ
“แล้ว...นายมาที่นี่เพราะจุดประสงค์อื่นด้วยหรือเปล่าล่ะ”
“จุด...อะไรนะครับ?”ร่างบางตอบอย่างงุนงงที่สุด เพราะเขาไม่เข้าใจว่าที่ฝ่ายนั้นพูดหมายถึงอะไร?
“อย่ามาทำเป็นงงหน่อยเลยน่า ค่าตัวของนายน่ะเท่าไหร่กัน?”ร่างสูงพูดโดยไม่มีอาการกระดากปากเลยสักนิดในขณะที่ร่างบางตกใจสุดขีดจนพูดอะไรไม่ออก
“ว่าไงล่ะ ฉันจะได้จ่ายให้เท่าไหร่ก็ว่ามา”ร่างบางได้ยินคำพูดดูถูกนี้ออกจากปากได้รูปของชายหนุ่มสุดหล่อนั่นอีกครั้ง คราวนี้สมองที่มีแต่รอยหยักของร่างบางถึงกับอึ้งจนคำพูดทั้งหมดมันมาจุกอยู่ที่ลำคอระหงของร่างบาง
“ผม....ไม่.....”ร่างบางพยายามจะอธิบายว่ามาที่นี่เพียงเพราะค่าจ้างของยูชอนเท่านั้น แต่ไม่รู้ทำไมเวลาที่ใบหน้าอันหล่อเหลาตรงหน้านั้นเข้ามาใกล้เขามากขึ้นทุกที...ทุกที มันรู้สึกเหมือนหัวใจสูบฉีดเลือดแรงกว่าปกติ ใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน จนมีเหงื่อเม็ดโตผุดออกมาทั่วใบหน้าอันเกลี้ยงเนียนนั้น กลับทำให้สร้างเสน่ห์ขึ้นมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
“คือ......”ร่างบางพยายามเรียกสติกลับคืนมาอีกครั้ง และเขาคงจะทำสำเร็จถ้าข้อมือเล็กๆของเขาไม่ถูกคนตรงหน้าบีบมันไว้ ใบหน้าอันหล่อเหลาเข้ามาชิดใกล้มากขึ้นจนร่างบางรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆของร่างสูง
เสียงหายใจของแจจุงถี่ขึ้นเร็วมากจนน่ากลัว แต่กลับทำให้ยุนโฮเข้าใจว่านี่คือการเร่งจังหวะ(?)เพื่อตอบสนองการกระทำของเขา
ปลายจมูกของร่างสูงเลื่อนเข้ามาชิดติดกับจมูกเรียวเล็กของร่างบางแล้ว
พอถึงตอนนี้แจจุงเรียกสติกลับคืนมาได้ ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นมากไปกว่านี้ เขาจึงรีบตวัดมืออีกข้างขึ้นและฟาดลงไปที่ใบหน้าของคนตรงหน้าอย่างสุดกำลัง จนเกิดเสียง ‘เพี๊ยะ’ ที่ดังจนน่าตกใจ
ร่างสูงจึงเรียกสติของตัวเองกลับคืนมาได้ ขณะที่แก้มข้างซ้ายของเขารู้สึกร้อนผ่าวด้วยความเจ็บปวดขึ้นมาทันที
“เฮอะ! นี่เธอกล้าปฏิเสธฉันด้วยวิธีที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อนแบบนี้น่ะเหรอ”ยุนโฮพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบจนน่ากลัวซึ่งต่างจากการกระทำอันอ่อนโยนของเขาเมื่อกี้นี้อย่างกับคนละคน
“แล้วทีคุณล่ะ! ดูหมิ่นคนทุกคนที่เข้ามานวดคุณ ด้วยวิธีแบบนี้หรือเปล่า!”แทนที่แจจุงจะใช้น้ำเย็นเข้าลูบ แต่กลับตวาดใส่หน้านายจ้างที่เขากำลังทำงานรับใช้อยู่ อย่างระเบิดอารมณ์ ช่างเป็นวิธีที่โง่มากสำหรับคนฉลาดๆอย่าง คิมแจจุง
“ว่าอะไรนะ...นี่นาย!”เมื่อยุนโฮได้ยินคำพูดพวกนั้นที่ไม่เคยมีใครกล้าพูดอย่างนี้กับเขามาก่อน ก็ยิ่งรู้สึกโมโหจนความเจ็บปวดที่แก้มข้างซ้ายของเขากลับกลายมาเป็นอาการชาที่ไร้ความรู้สึกใดๆอีก แต่กว่าที่จะได้พูดอะไรออกมา เสียงของนางฟ้าในคราบของคนที่ชื่อ คิมแจจุงก็กลับแทรกขึ้นด้วยอารมณ์โมโหที่ไม่น้อยไปกว่าเขาเลย
“คนรวยๆ เค้าดูหมิ่นคนที่เพิ่งรู้จัก ด้วยวิธีสกปรกๆอย่างนี้เองน่ะเหรอ อ๋อ!ฉันเข้าใจล่ะคุณคงจะเคยเจอแต่คนที่ยอมคุณทุกอย่างน่ะสินะ หึ๊! คุณก็เลยเป็นคนเอาแต่ใจแบบนี้นี่เองน่ะ ฉันล่ะไม่แปลกใจเลย ที่.......”
ร่างบางไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อริมฝีปากหนาก็กดจูบแรงๆลงบนริมฝีปากบางอย่างไม่กลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะเจ็บเลยแม้แต่น้อย
ความตกใจแผ่ซ่านเข้ามาทุกอณูความรู้สึกของแจจุง จนกล้ามเนื้อของเขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีก เขาทำได้แต่เพียงเบิกตากว้างให้ได้มากที่สุด และปล่อยให้ร่างสูงตรงหน้าตักตวงความหวานในโพรงปากแสนหวานของเขาไปเท่าไหร่ก็ได้ โดยที่เจ้าตัวทำอะไรไม่ได้เลย
หรืออาจจะเป็นเพราะว่า...................
เขาไม่เคย......................
..........โดนอะไรแบบนี้มาก่อน..........
มันถึง................. (>////<)
และในที่สุด...........เจ้าของร่างสูงผู้หล่อเหลาคนนั้นก็ยอมผละออกจากร่างบาง เมื่อเวลาผ่านไปยาวนานพอสมควร เพราะเขารู้สึกว่าคนตรงหน้าเริ่มหายใจไม่สะดวก พลางมองไปที่นางฟ้าแสนสวยที่ซึ่งตอนนี้กำลังหายใจอย่างถี่รัวเพราะต้องการออกซิเจน ดวงตาที่ตื่นตระหนกมองมาที่เขาอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งเรียวปากบางที่ตอนนี้เผยอขึ้นเล็กน้อยด้วยความที่ร่างกายต้องการออกซิเจนเป็นอย่างมาก
อะไรกันที่ทำให้ร่างสูงทำแบบนี้..........
ทั้งๆที่เขาไม่เคยทำแบบนี้กับคนที่เพิ่งรู้จักกันเพียงครั้งแรก..........
นอกเสียจาก.........
เวลาที่เขาต้องการมากๆเท่านั้น!...........
เมื่อแจจุง(พยายาม)เรียกสติที่มีอยู่(น้อยนิด)กลับคืนมา และทันทีที่สติกลับคืนมาได้นั้นมือเรียวบางก็เงื้อขึ้นไปในอากาศโดยอัตโนมัติ หมายจะทิ้งกำลังทั้งหมดลงไปบนแก้มขาวใสของชายที่อยู่ตรงหน้า
“ก็ลองดูซิ่ ถ้าอยากจะโดนแบบ...เมื่อกี้” ยุนโฮตั้งใจพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวนเพื่อที่จะให้อีกฝ่ายโมโหเล่นๆ
แต่พอแจจุงได้ยินดังนั้นก็กลับน้ำตาไหลพรากทันที มือเรียวที่เคยเงื้อขึ้นอยู่กลางอากาศกลับเลื่อนลงมาปิดใบหน้าไว้อย่างสุดทน เขาไม่สามารถจะกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไปแล้ว เขาตกใจเหลือเกิน ไม่ว่าชายหรือหญิงคนไหนก็ไม่เคยทำกับเขาแบบนี้ ไม่เคยเลยแม้แต่ครอบครัว......
“น่ะ...นี่เธอเป็นอะไรไปน่ะ?” น้ำเสียงของยุนโฮเปลี่ยนไปเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของคนตรงหน้า นี่เขาทำอะไรร้ายแรงมากไปใช่มั๋ย? ว่าแต่ว่าเขาไม่เคยโดนใครจูบมาก่อนเลยหรือไง ถึงได้..........
“ฮือออออออออ!” เสียงร้องไห้ของแจจุงเข้ามาขัดความคิดของยุนโฮ
“นี่นาย! ฉันถามว่าเป็นอะไร” แต่แทนที่ยุนโฮจะแสดงออกไปว่าสำนึกในความผิดแล้ว กลับตะคอกใส่คนตรงหน้าเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ซึ่งก็ไม่ได้ผลตามคาดเพราะร่างบางกลับร้องไห้หนักยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก จึงอดไม่ได้ที่อ้อมแขนแข็งแกร่งจะดึงร่างที่สั่นเทาเข้ามากอดด้วยความอ่อนโยน
ร่างบางที่สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมอกแกร่งเริ่มอ่อนแรงลง จนเสียงเงียบสนิทไป พอสังเกตลมหายใจที่ยาวสม่ำเสมอก็แน่ใจได้ว่านางฟ้าตัวน้อยได้หลับไปแล้ว
‘คนอะไรจะน่ารักน่าเอ็นดูได้ถึงขนาดนี้’ยุนโฮคิดขณะที่อุ้มร่างบางมาวางไว้บนเตียงที่แสนนุ่มสบายอย่างแผ่วเบา พร้อมกับนั่งลงข้างๆแล้วมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู มือใหญ่ยกขึ้นลูบไรผมที่มาระเกะกะใบหน้าแสนหวาน แทบจะทำให้เขาใจละลายลงไปกองตรงนั้น มุมปากหนายกขึ้นอย่างพึงพอใจ ก่อนที่จะล้มตัวลงไปนอนข้างๆกับร่างบาง และถือโอกาสรั้งร่างบางเข้ามานอนกอด
“ช่วยไม่ได้นะที่ฟ้ากำหนดให้เรามาเจอกัน คิมแจจุง”ยุนโฮพูดก่อนที่จะประทับรอยจูบลงไปที่หน้าผากเกลี้ยงเนียนของคนที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราว.....
..........
.....
...
-Talk-
อ่าาาาา~อันย้งฮาเซโยนะคะ ตอนนี้มันยังไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่เลย(เหรออออ~)
ฮ่าฮ่าฮ่า...ล้อเล่นน่ะค่ะ
คือว่าอยากให้ทุกคนเตรียมใจเอาไว้ก่อนล่วงหน้าว่ามันต้องมีฉากอะไรอย่างนั้นแน่นอน ยังไงก็ฝากเอาไว้ด้วยเพราะว่ามันเป็นเรื่องแรกที่เขียน และเป็นฉากแรกที่เขียนโดยเงอะๆงะๆ ยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะถ้ามันยังติดขัดอะไร
ก็~ช่วยเม้นต์เข้ามาหน่อยแล้วกันนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น