คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [OS] 212 [ Chambers & Debuchy ]
Mathieu Debuchy
หน้าโหด นิสัยโหด แต่นั่นแหละ 555555555555555555555
Calum Chambers (เด็กเส้นวะ ไอ้หมอนี่ 5555555555555555)
และฉากสวีทสองเรา #ใช่เหรอ?
นักเลงพอกัน -*-
อ่านฟิกกันเถอะคะ 555555555555555555555
***********************************************************************************
*ฟิกเรื่องนี้เอามาสังเวยความเครียดที่สะสมมาทั้งสองวัน บอลแพ้ มอไซต์แพ้ ชีวิตตตมันบัดซบบบบ
[OS] 212 [Chamber & Debuchy]
Arsenal Fiction
เลิกเรียนสถานที่คาลัมแชมเบอร์มักจะมามากกว่าไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนต่อคือบริษัทของพ่อ บริษัทของพ่อไม่ใช่บริษัทใหญ่และเขาก็ไม่จำเป็นต้องมาทุกวันเพราะพ่อไม่ได้คาดหวังให้เขาสืบทอดกิจการต่อ และเขาเองก็ไม่ได้จะมานั่งเป็นมนุษย์หน้าคอมแบบพ่อ อย่างคาลัมชอบที่จะอยู่กับสวนดอกไม้ของปู่มากกว่าซะอีก แม้ว่ามันจะไม่เหมาะกับบุคลิกอย่างเขาก็เถอะ
“คุณพ่อคุณอยู่ข้างในห้องเชิญครับ” ทันทีที่คาลัมเดินมาถึงโต๊ะทำงานที่เรียงกันราวๆ6-7โต๊ะ (คาลัมไม่เคยสนใจที่จะนับจริงจัง) คาลัมหยุดเดินตรงโต๊ะเดิมที่เขามักจะมาเป็นประจำทุกเย็นเมื่อมีโอกาส เจ้าของโต๊ะเงยหน้ามองเขาแว้บเดียวแล้วก็พูดคำเดิมๆที่คาลัมขี้เกียจจะฟัง
“ผมไม่ได้มาหาพ่อ ผมมาหาคุณ” ผู้ชายฝรั่งเศสตาคมติดจะดุเล็กน้อย มองหน้าคาลัมก่อนลุกขึ้นยืน แล้วกระดิกนิ้วให้คาลัมเดินตาม ซึ่งคาลัมก็ไม่มีปัญหาเขาก็เดินตามอีกคนอย่างเคย
มาติเยอเดบูชี่เดินนำอีกฝ่ายเข้ามาในห้องครัวที่ไม่มีคน ก็แน่ละนี่ก็เลยเวลาเลิกงานมาพักใหญ่ ทั้งบริษัทก็เหลือแค่มาติเยอกับเจ้านายเท่านั้น และก็มีแต่เขานี่แหละที่ชอบมาทำงานสายแล้วก็เลิกดึก ซึ่งพ่อของไอ้เด็กที่เดินตามก็อนุญาต แต่จริงๆมาติเยออยากได้ห้องทำงานของหัวหน้ามากกว่าการมาทำงานสายๆอีก
ก็เขาชอบทำงานเงียบๆนี่หว่าถึงจะมีสมาธิ
“เอาโกโก้มั้ย?” มาติเยอหนุ่มฝรั่งเศสที่อุตสาห์ถ่อสังขารมาจากบ้านเกิด มาทำงานกราฟฟิกดีไซน์ในอีกประเทศหันไปถามลูกเจ้านายที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากเขานัก
คาลัมส่ายหน้า ก่อนเดินเข้าไปใกล้มาติเยอมากกว่าเดิม
“เฮ้ย! ยืนห่างๆก็ได้ จะชงกาแฟ” มาติเยอผลักไหล่เด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทางหงุดหงิด แต่อีกฝ่ายกลับยกยิ้มน้อยๆให้เขาแทน
“คุณก็หันหลังไปชงดิ กลัวอะไร” คาลัมนอกจากจะไม่ยอมขยับออกจากที่เดิม ยังก้มหน้ามองอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม
มาติเยอกรอกตาไปมาก่อนพูดเซ็งๆ
“ตกลงจะเอาไง” บางครั้งมาติเยอก็เบื่อสงครามประสาทกับไอ้เด็กตรงหน้า ก็ถามมันไปตรงๆแต่ผลลัพธ์ก็คงเหมือนเดิม
บางทีเขาก็สงสัยผู้ดีอังกฤษลึกๆนิสัยแบบไอ้เด็กนี่กันหรือเปล่า หรือเป็นเฉพาะคนตรงหน้า
“ก็เหมือนเดิม” คาลัมยังคงมองหน้ามาติเยอที่ยังคงสบถอะไรบางอย่างไปมาที่คาลัมไม่ค่อยเข้าใจ แต่เขาคิดว่าคงไม่พ้นด่าเขาเป็นภาษาฝรั่งเศสแน่ๆ ความรู้สึกมันบอกแบบนั้น
“เด็กแบบนายนี่มีกี่คนกันแน่ หรือเป็นแบบนี้ทั้งประเทศ” ยังไงก็อดไม่ได้ที่จะว่า มาติเยอไม่ได้สนุกนักที่โดนเด็กอายุน้อยกว่าเป็นสิบปีแบบนี้ป่วนประสาท
“ก็ผมคนเดียวมั้ง” คาลัมพูดพลางยักไหล่
“*Tu m'emmerdes!(กวนประสาทชิบ)”
“ผมฟังออกนะ” คาลัมขยับตัวเองมาใกล้ผู้ชายฝรั่งเศสที่ยังคงหลอกด่าเขา แต่คาลัมไม่ได้รู้สึกโกรธแม้แต่น้อย
เพราะก็โดนอีกฝ่ายว่าแบบนี้บ่อยๆจนเขาพอจะเข้าใจความหมาย มันก็ช่วยไม่ได้นะ อีกฝ่ายถึงจะอายุมากกว่าเขาสิบปี แต่ทุกครั้งที่คุยกันคาลัมกลับรู้สึกว่าอีกฝ่ายโตกว่าเขาแค่อายุ ส่วนอย่างอื่นก็..... (ยักไหล่)
“แล้วยังไง” มาติเยอเองก็ไม่ได้สนว่าเด็กตรงหน้าจะรู้สึกยังไงที่โดนเขาด่า เพราะทุกครั้งที่มาติเยอด่าไปอีกฝ่ายก็ไม่เห็นจะรู้สึกโกรธแค้นเขา จนบางครั้งเป็นเขาเองที่โมโหแทน
“คุณครับ... เราเลิกทะเลาะกันดีกว่านะ” มาติเยอไม่เคยนึกชอบสายตาที่คาลัมมองมาที่เขาแบบนี้ มันควรเป็นเขาสิที่ทำแบบนี้มากกว่าไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่
“คาลัมแชมเบอร์ นายมันไอ้เด็กตัวแสบ”
“อ่า... ใช่ผมยอมรับ” คาลัมว่าพลางยื่นแขนไปวางที่เคาท์เตอร์ ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้ที่ตอนนี้เขาแทบจะขังมาติเยอไว้ในอ้อมกอด แต่มาติเยอก็ไม่ได้พยายามหนีไปทางไหน เพราะถึงเดินหนีไปสุดท้ายไอ้เด็กนี่ก็ลากเขากลับมาอยู่ดี
“มาติเยอ..... ผมอยากไปฝรั่งเศสบ้านคุณจัง ดอกไม้ที่โน้นสวยกว่าที่บ้านผมมั้ย” คาลัมก้มหน้าให้หน้าผากชนกับอีกฝ่ายพลางมองปากมาติเยอที่พูดตอบเขา
“ที่บ้านไม่มีดอกไม้ปลูกแต่ผัก” มาติเยอก็ยังเป็นมาติเยอ ยังคงพูดจาให้คาลัมอดจะหัวเราะน้อยๆไม่ไหว เขากำลังสงสัยว่าตัวเองแก่แดดหรือมาติเยอไม่ยอมโตกันแน่
“งั้นผมจะไปปลูกทิวลิปสีแดงที่บ้านคุณเอง แล้วอยากให้คุณรู้ว่าทิวลิปสีแดงตอนนี้ผมอยากมอบให้คุณคนเดียว” มาติเยอที่เอาแต่ก้มหน้ากลับเงยหน้าขึ้นมาจนคาลัมต้องขยับหน้าออก มาติเยอผู้สนใจแต่คอมพิวเตอร์กลับรู้ว่าทิวลิปสีแดงหมายถึงอะไร จะใครซะอีกละถ้าไม่ใช่ไอ้เด็กตรงหน้าที่เคยโยนกระดาษแผ่นหนึ่งให้เขา แล้วบอกให้ไปท่องความหมายของดอกไม้มาให้ได้ไม่งั้นถูกลงโทษ แล้วก็เป็นเขาเองที่บ้าจี้ทำตามอีกฝ่าย แต่สุดท้ายเขาก็ตอบผิดเพราะไม่ได้สนใจที่จะท่องจริงจังจนโดนทำโทษอย่างที่อีกฝ่ายคาดหมายไว้ และคราวนี้ก็เช่นกันแม้เขาจะไม่ได้ตอบคำถามผิด แต่ก็โดนลงโทษด้วยริมฝีปากของอีกคนที่ประกบลงมา ก่อนจะดึงดูดริมฝีปากบนล่างของเขาจนมาติเยอเองเผลอโอบเอวอีกฝ่าย แต่ไม่ทันที่จะได้เปิดปากให้ปลายลิ้นของอีกฝ่ายได้สอดเข้ามา คาลัมกลับจูบริมฝีปากมาติเยออย่างแรง พลางขยับไปหอมแก้มเขา
“เลิกงานแล้ว กลับห้องของคุณเร็ว!” ไม่ทันจะมาติเยอจะได้ตั้งสติ คาลัมก็ดึงแขนอีกฝ่ายให้เดินตามไปอย่างรวดเร็ว มาติเยอทำได้เพียงแต่ต้องตามอีกฝ่ายไป ส่วนงานกับกระเป๋าน่ะเหรอ? คงต้องกลับมาให้เจ้านายด่าพรุ่งนี้ แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของเขา เป็นความผิดของลูกชายเจ้านายล้วนๆ ลูกชายเจ้านายที่เคยกระซิบข้างหูเขาแล้วบอกความหมายของดอกทิวลิปสีแดงว่า ‘ตกหลุมรักมาติเยออย่างปักหัวปำและรักเขาอย่างสุดหัวใจ’........ บายยย
END
*ไม่มีไรแต่งให้คนอิจฉาเดอบูชี่เล่นๆ 555555555555555555555555
ปล. เรื่องนี้แต่งยากกว่าฟิกน้องหมีอีก แต่งไปแต่งมาโคตตตงงงงงงงง
ความคิดเห็น