ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] Doctor’s Order [KrisHan]

    ลำดับตอนที่ #2 : 2. อยากช่วยจริงๆนะ

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 57


     

    ::ตอนสองมันมาแล้ววว 5555  ฟิกเรื่องนี้แต่ละตอนไม่ยาวนะ มาสั้นๆ เป็นเหตุการณ์ไปๆ อาจจะต่อเนื่องกันบ้าง

    จะออกนอกทุ่งบ้างก็ตามประสา  ทำใจนะรีดเดอร์นะ  -0- ::

     
     

     

    สาระ?ก่อนอ่าน

    *LAB  - ก็คือผลตรวจสารคัดหลั่งจากร่างกาย เช่น เลือด ปัสสาวะ เป็นต้น  ซึ่งการตรวจแต่ละอย่างจะบ่งบอกภาวะโรคที่เป็นอยู่
    เพื่อให้วินิจฉัยโรคได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น

    *ER (Emergency Room) – ห้องฉุกเฉินนั่นแหละ  ด่านแรกของรพ.เลยนะจ๊ะ

     

    *OR (Operation  Room) – ห้องผ่าตัด  

     







     

    Doctor’s Order

    ตอน....  อยากช่วยจริงๆนะ

                             Twitter: Tag #ฟิกหมอหล่อ

                                        © www.krishanmate.co.nr

     

     

     

     

    Truuuuuuuuuu

     

    “พี่ๆ มีเคสด่วนที่ER ตอนนี้คนไข้ร้องใหญ่เลย แต่เขาไม่ยอมให้ผมแตะตัวเลย ทำไงดีพี่!” เสียงกึ่งตะโกนดังเข้ามารบกวนโสตประสาท จนอู๋อี้ฝานที่งัวเงียรับโทรศัพท์กลางดึกถึงกลับตาสว่าง  ตาสว่างเพราะอะไรน่ะเหรอ?

     

    หึๆ      หวงจื่อเทา     กูไม่ใช่พี่มึง!!!!

     

    “ไอ้ควาย! มึงโทรดูเบอร์มั้ย?  กูเป็นชิปออโธเว้ย!” ร้องตะโกนใส่คนโทรศัพท์แบบไม่เกรงใจ    เพราะเขาเผลอหลับในห้องทำงานที่คณะ ตอนนี้ไม่มีใครเลย  อยู่คนเดียว  ว่าแต่... ทำไมกูไม่กลับไปนอนที่ห้องพักครับ   

     

    “อ้าว  พี่คริสเหรอ?  โทษทีอะ นึกว่าพี่ลู่หาน งั้นวางละ” พูดจบมันก็วางในทันที    

     

    ลู่หาน?        ชื่อนี้ช่างมีความหมาย  ตาสว่างของจริง  ลืมไปเลยว่าเดือนนี้มันอยู่กับลู่หาน   อี้ฝานรีบเก็บข้าวของ

    ก่อนสปีดออกจากคณะในทันที

     

    ไปตามหาหัวใจก่อนครับ    

     

     

     

     

    “โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย   ปวดจะตายอยู่แล้วว  ตายแน่เลยยย ฮืออออ ตายแน่ๆๆๆๆๆ”  เสียงหวีดแหบของเด็กหนุ่มตัวเล็กดังลั่นห้องฉุกเฉินรพ.ชื่อดัง  โดยมีหมอหนุ่มคนหนึ่งยืนทำหน้ากลืนไม่เข้าไม่ออก

    อ๋อ  ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมไม่มีใครไปยืนข้างๆ  โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รพ.คนอื่น   ปวดหูอะบอกตรงๆ  ใครจะไปทนอยู่ใกล้ๆได้

     

     

    “เกิดอะไรขึ้นจื่อเทา” เป็นลู่หานที่ถามขึ้นทันทีที่วิ่งมาถึงER

     

    “ผมก็ไม่รู้”

     

    “ไม่รู้ได้ไงวะ  มึงเป็นหมอนะเว้ย!” เสียงทุ้มจากผู้ชายตัวสูงที่มาพร้อมลู่หานกึ่งตะโกนใส่จื่อเทาแทน  

    จื่อเทาหันมามองหน้าเซ็งๆ    เดนท์สามมาทำไมวะ  ไม่ได้อยู่เวรนิ่ครับพี่

     

     

    “พี่ชานเลี่ยก็ถามเอาเองดิ” โบ้ยให้พี่จัดการเอาเองซะ  เป็นหมอนิ่ เดนท์สามด้วย จัดเลยเองเลย

    ผมจะขอถอยไปยืนดู

     

     

    “พี่ครับมันเกิดอะไรขึ้น” เมื่อเห็นน้องในทีมตัวเองเริ่มทะเลาะกันเอง  ลู่หานเลยหันไปถามพี่พยาบาลที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก

    เลยได้คำตอบกลับมาว่า คนไข้รายนี้โอดโอยเสียงดังตั้งแต่รับเคสเข้ามา  แล้วก็ไม่ยอมให้ทำอะไรเลย

    จนหมอจื่อเทาแล้วก็หมอคนอื่นๆทำได้แค่ยืนมองตาปริบๆ  จนต้องโทรหาเขาให้มาช่วยดูให้  จบการอธิบาย ลู่หานก็พยักหน้ารับ ก่อนสาวเท้าไปยืนข้างรถเข็นนอนที่มีร่างของเด็กผู้ชายที่คาดว่าน่าจะเป็นเด็กมัธยมนอนอยู่

     

    “น้องครับๆ   ใจเย็นครับ  ปวดตรงไหนบอกพี่ได้นะ” ลู่หานพยายามพูดเสียงนุ่มเพื่อให้คนไข้คุยกับเขา

    เหมือนจะได้ผลหน่อยๆ เด็กหนุ่มหยุดหวีดก่อนหันมามองหน้าลู่หาน ก่อนสะอึกสะอื้นใส่แทน

     

     

    “ฮืออออ หมอน่ารักจัง...  ผมเจ็บท้องอะครับ  เจ็บมากๆเลย”   เออ...  ทุกคนเงียบกริบ   ประโยคแรกคืออะไรวะ

    แล้วไอ้ท่าทางแบบนั้นน่าฆ่าชิบหายเลย 
    และดูจะเป็นชานเลี่ยที่รู้สึกมากกว่าคนอื่นหน่อย จึงละจากสงครามประสาทกับจื่อเทา แล้วพุ่งไปยืนข้างๆลู่หาน

     

    “แล้วเจ็บตรงไหนละ  บอกมาสิ”  สงสัยชานเลี่ยจะเผลอทำเสียงกับหน้าดุด้วยความหมั่นไส้มากไปหน่อย  เจ้าเด็กนั่นจึงร้องโอดโอยขึ้นอีก

     

    “โอ้ยยยยยยยย เจ็บบบบบบบ  เจ็บจังงงงงงงงงงงง”   มาอีกแล้วเสียงหวีดหู  จนทุกคนต้องถอยห่างอัตโนมัติ 

     

     

    “นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับ”  จู่ๆก็มีเสียงๆหนึ่งถามขึ้นพร้อมร่างสูงผมทองสว่างของเจ้าตัว   ทุกคนหันไปมองในทันที

     

    หมออี้ฝาน  ทำไมมาอยู่ที่นี้ได้?

     

     

    “ลู่หาน.....  มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ”  อ๋อวววววววววววววว   รู้จุดประสงค์ละ   พอเห็นเจ้าตัวเอ่ยถามอีกคนทันที

    ทุกคนถึงกับจุดยิ้มที่มุมปากหล่อทั้งคู่ไม่น่าเลยยยยยยยย

     

    “ไม่ใช่เวรพี่นิ่  ทำไมพี่มาอยู่ที่นี้”  เป็นชานเลี่ยที่หันไปถาม  อี้ฝานแสยะยิ้มให้ชานเลี่ย  ถามงี้อยากมีเรื่องเหรอครับ

     

    “ใช่ไม่ใช่แล้วจะมาไม่ได้หรือไง” ไม่ได้ชื่อลู่หาน ไม่จำเป็นต้องคุยดี

     

    “ก็ไม่มีอะไร๊  ผมแค่สงสัยเอง   พี่มาก็ดีแล้วครับ ช่วยพี่ลู่หานหน่อยสิครับ  คนไข้พี่ลู่หานเลยนะครับ งอแงน่าดู” เหมือนจะช่วยเชียร์ให้อยู่ใกล้ลู่หานแต่ดูแล้วเหมือนจะมีอย่างอื่นแอบแฝง

     

    “ลู่หานงั้นผมดูเคสช่วยนะ”  หันไปพูดกับคนข้างๆ  ลู่หานถอนหายใจแบบเบื่อๆ

     

    “คนไข้ดูแล้วไม่ได้กระดูกหัก  มันก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับคุณ” ถึงเคสจะยุ่งยากแค่ไหน ก็ไม่ได้อยากให้คนอย่างแกมาช่วยหรอกโว้ยยย  ไอ้หน้าม่อ

     

    “แต่อยากช่วยอ่า.... นะๆ”

     

    “ไม่!

     

    “โอ้ยยยย  ปวดดดดดดดด  ปวดท้องจะตายแล้วววว” แล้วเสียงหวีดก็ดังขึ้นแทรกการปะทะคารมของทั้งคู่

    อี้ฝานนิ่วหน้าเล็กน้อย  แต่ก็นั่นแหละ เสนอหน้ามาช่วยเขาแล้วนิ่ ต้องหน้าด้านหน้าทนเข้าไว้

    เพราะตอนนี้ไอ้เดนท์สามมันเหมือนส่งกระแสจิตเยาะเย้ยเขามาจากข้างหลัง   เหอะ  กูเจ๋งกว่าที่มึงคิดนะครับชานเลี่ย

     

    “ใจเย็นๆครับน้อง เจ็บตรงไหนบอกพี่หมอได้นะ” ทอดเสียงให้นุ่ม ทำหน้าให้เหมือนเทพบุตรเข้าไว้  อี้ฝานค่อยๆพูด

    ก่อนตบท้ายด้วยรอยยิ้ม...  และเหมือนจะได้ผล  เด็กหนุ่มที่โวยวายเสียงดัง จ้องหน้าอี้ฝานปริบๆ เสียงหวีดร้องเงียบหายไปทันที

     

    “พี่หมอ...หล่อจัง.........”   

     

    ฮึ้ย ไอ้เด็กเวร!   พร้อมใจกันสบถด่าอยู่ในใจ   

     

    ส่วนลู่หานก็ได้ถอนหายใจทิ้งอย่างเหนื่อยหน่าย  ถึงแม้จะไม่อยากให้อี้ฝานมายุ่งเกี่ยวกับเคสตัวเอง

    แต่ถ้ามันมายุ่งแล้วทำให้เรื่องง่ายขึ้นก็ถือว่าเป็นผลดีต่อตัวเขา

     

    “พี่หมอ...  ป๋ายเซี่ยนเจ็บตรงนี้” ไม่พูดเปล่าเปิดเสื้อขึ้นแล้วเอามือไปจิ้มๆตรงท้องด้านขวา 

    อี้ฝานยิ้มรับก่อนเอามือลงไปกดตรงที่เด็กหนุ่มบอก   ทุกคนในห้องฉุกเฉินเงียบกริบรอดูการตรวจร่างกายที่แสนง่ายดายของอี้ฝาน พลางคิดในใจว่าทำไมไม่มาให้เร็วกว่านี้  มีเพียงชานเลี่ยที่มองอย่างไม่สบอารมณ์

     

    พออี้ฝานกดลงไปแล้วปล่อยมือ ป๋ายเซี่ยนก็ร้องโอ้ยขึ้นมา  ลู่หานก็รู้ทันทีแล้วว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเป็นอะไร

     

     

    “จื่อเทาขอผลLab*”    จื่อเทาพอได้ยินก็ยื่นแฟ้มประวัติให้ลู่หานทันที      ลู่หานรับแฟ้มมาก่อนมองดูค่าLab ก็พยักหน้าทันที

     

    set OR เลยนะ  เดี๋ยวพี่ขึ้นไปรอ”  ยื่นแฟ้มคืนให้จื่อเทา     ก่อนมองไปที่คนไข้ตัวน้อยเจ้าปัญหาที่ตอนนี้นอนมองหน้าอี้ฝานตาพริ้ม  

     

    “เปี้ยนป๋ายเซี่ยนครับ  มีผู้ปกครองมาด้วยมั้ยครับ  เป็นไส้ติ่งอักเสบจะต้องผ่าตัดนะครับ”

     

    “ห๊ะผ่าตัดเลยเหรอ  งื้ออ ไม่เอา ผมกลัวมีด  พี่หมอสุดหล่อป๋ายเซี่ยนกลัว” ไม่ว่าเปล่ายังเอามือไปจับแขนอี้ฝานไว้

    สร้างความเอ็นดูเหลือคณาให้แก่ผู้คนที่ได้พบเห็น    =______=

     

    “ถ้าไม่ผ่าไส้ติ่งจะแตกแล้วเน่าในท้องนะครับป๋ายเซี่ยน  เชื่อพี่หมอลู่หานนะ  เดี๋ยวพี่หมอคริสจะเข้าไปอยู่ในห้องผ่าตัดกับป๋ายเซี่ยนเอง”  ใครเชิญญญ  ใครเชิญให้เข้าไปรกให้ORไม่ทราบวะ      แต่ก็นั่นแหละเพราะคำพูดหลอกล่อของหมอนั่น

    ป๋ายเซี่ยนเลยยอมผ่าตัดแล้วบอกว่าอีกสิบนาทีคุณลุงจะมาเซ็นยินยอมผ่าตัดให้  ซึ่งลู่หานไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่ว่าเพราะอี้ฝานเคสนี้ถึงยินยอมแต่โดยดี  แต่.... ยืนห่างๆหน่อยได้มั้ยวะ  จะมายืนใกล้ทำไมเนี่ย

     

    “ลู่หานเคสนี้เสร็จไปกินข้าวกันนะ” 

     

    “ไม่ไป”  ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาลู่หานตอบในทันที

     

    “โหยยย คิดหน่อยก็ไม่ได้  นี่ผมอุตสาห์มาช่วยเลยนะ ถ้าไม่ได้ผมต้องคุยกันอีกนานเลยนะ”  เหอะ นายก็แค่ใช้สกิลหน้าม่อแค่นั้นแหละ  และเด็กนั่นก็ดันตกหลุมพรางมันก็แค่นั้น

     

    “งั้นก็ขอบคุณมากที่มาช่วย แม้จะไม่ได้รับเชิญ” ไม่วายจะแอบแขวะตอนท้าย  ซึ่งอี้ฝานก็หาได้แคร์ไม่ มากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว  บอกแล้วไงคนนี้รักจริงนะ จีบจริง หม้อจริง เฮ้ย! ไม่ใช่ดิ   คนนี้จริงจัง  จีบออกนอกหน้าจนโดนินทาทั้งรพ.ก็ไม่สน ก็ชอบอะ จะทำไม

     

    “ลู่หานอ่า.... ผมปั่นงานตั้งแต่เย็นจนเผลอหลับในห้องทำงานที่คณะ  ยังไม่ได้กินไรเลยนะ ไม่เห็นใจผมบ้างเหรอ” พยายามใช้สายตาวิงวอน    ลู่หานหันหน้าหนีไม่สนใจ  ก่อนเอามือไปกดลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังห้องผ่าตัด

     

    “นั่นเรื่องของนาย” เมื่อเข้ามาในลิฟท์ก็พูดใส่แบบไม่แยแส  จนอี้ฝานต้องถอนหายใจแล้วก็เงียบเสียงไป 

    ลู่หานแอบมองอีกฝ่ายแว้บเดียวก็เห็นว่าอี้ฝานทำหน้ายิ่งกว่าหมาถูกทิ้ง  แต่เขาไม่เห็นจะสน คนแบบนี้ก็ต้องโดนอย่างงี้แหละ

     

    “เฮ้ย  ไส้ติ่งเคสเดียวนิ่  ของออโธมีเหรอวะ”  ซิ่วหมิ่นเอ่ยทัก เมื่อเห็นอี้ฝานเดินตามลู่หานมาต้อยๆ เข้าในเขตห้องผ่าตัด

     

    “มีแค่เคสเดียวนั่นแหละ  ซิ่วหมิ่นเวรดมยาเหรอ”เอ่ยถามกลับ  ซิ่วหมิ่นพยักหน้ารับ พลางมองไปทางอี้ฝานที่ยืนหดหู่อยู่

     

    “ไงอี้ฝาน  ทำหน้าเหมือนหมาที่เจ้าของไม่ให้ข้าว”   นานๆจะเห็นอี้ฝานทำท่าแบบนี้ ซิ่วหมิ่นอดไม่ได้จะถากถางอีกฝ่ายอย่างสนุกสนาน

     

    “หุบปากนะไอ้สัด!” เหอะ ถึงมันจะซึมๆแต่ปากก็หมาเหมือนเดิม

     

    “ดูมันนะลู่หาน  ปากเสียชะมัด ห้ามชอบมันเลยนะ กูไม่เชียร์”  อ้าวววว  นั่นปากเหรอไอ้หมิ่น 

    อี้ฝานอยากกระโจนเข้าไปต่อยไอ้เพื่อนบ้าสักหมัด  ถ้าไม่ติดว่าลู่หานยืนอยู่ด้วยนะ มึงตายยยย

     

    “หึหึ  ไม่บอกเราก็ทำแบบนั้นแหละ” ลู่หานที่บอกเจตนารมณ์อย่างชัดเจนก็เดินลิ่วๆเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ

    อี้ฝานได้แต่อ้าปากพะงาบๆมองตาม ก่อนหันขวับมามองซิ่วหมิ่นอย่างมาดร้าย

     

    “ไอ้เปา”

     

    “ไงอี้ฝาน”  คนนี้ก็ยังคงกวนประสาท

     

    “มึงจีบใครกูจะแย่งจีบให้หมด  กูไม่ได้มึงก็ต้องไม่มีใคร มึงคอยดูกูทำแน่  คนอย่างกูเอาจริง! หึหึ” พูดเสียงดังชัดเจนด้วยสายตามาดมั่น จนซิ่วหมิ่นเสียววาบ  ก่อนก่นด่าตามท้าย  เพราะอี้ฝานหยิบเสื้อผ้าแล้วเดินหนีไปเข้าห้องน้ำแล้ว

    โอ้ยยยย  นี่ไม่น่าเลยนะ ไม่น่ากวนตีนมัน    ซิ่วหมิ่นได้แต่โอดครวญกับตัวเองอย่างเศร้าใจ

    ......

    ..

    .

     

     

     

     

     

     

    จบ

     

     
     

     

     

    ***ฮิ้ววว ตัวละครเพิ่มมาตั้งสองแหน่ะ  คนแรกก็คือ ชานเลี่ย หรือ ชานยอลนั่นเอง เป็นเดนท์สาม
    ก็คือแพทย์ที่มาเรียนต่อเฉพาะทางปีสามแล้ว ชานเลี่ยมาเรียนไรเหรอ? ก็ปีสามแล้วยังอยู่ทีมกะลู่หาน
    ก็ต้องมาเรียนศัลกรรมนั่นแหละจร้า

    อยากป่วยเหรอ?  อยากโดนผ่าตัดแบบน้องป๋ายเซี่ยนก็ป่วยสิจ๊ะสาวๆ แล้วรีเควสขอเดนท์สามมาผ่าให้หน่อยนะๆ ไรงี้

    5555555555555        ตอนหน้าจะมาเมื่อคิดมุกออก  ^0^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×