คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : บทที่1 ตอนที่15 แสนล้านภพ แสนล้านชาติ ชั่วนิจนิรันดร์
ขณะที่อิจิโร่กำลังจะใช้เวทย์ทำให้รินลืมโรเซ่ไปตลอดชีวิต ก็หันไปมองสีหน้าของโรเซ่เพื่ออยากเห็นใบหน้าอันสิ้นหวังของเขา
“ชีวิตของฉัน...มันพังไปนานแล้ว ตัวฉันน่ะมันบิดเบี้ยว โลกใบนี้เองก็เช่นกัน....ปลดผนึกปีศาจ”
สิ้นเสียงนั้น ฝ่ามือข้างซ้ายของโรเซ่ที่เป็นสัญลักษณ์หน้าฮันเนียก็ส่องแสงสีแดง โซ่ที่พันธการโรเซ่ก็ละลายหายไป ตอนนี้จะไม่มีใครได้เห็นใบหน้าภายใต้หน้ากากฮันเนียสีแดง ตัวแทนแห่งความริษยา ที่จะนำพาความสิ้นหวังมาด้วย
“อาาาา.....ฮึ่ม!”
“อั้ก!!! แค่ก! แค่ก! เร็วมาก!! ไม่สิ ทำไมแกถึงใช้เวทมนตร์ได้กันล่ะ!?”
“สิ่งนี้หาใช่เวทมนตร์ที่พวกเจ้ารู้จัก แต่มันคือความริษยาต่อผู้มีพลัง แล้วต่อมาความริษยานี้ก็จักเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวัง พลังที่แข็งแกร่งที่สุดของข้า”
“อึก!...โรเซ่....”
ในพริบตาเดียว โรเซ่ก็พุ่งเข้ามาใช้มือขวาบีบคอของอิจิโร่ในทันที พร้อมด้วยวิธีการพูดที่ไม่ใช่ตัวเขา ราวกับกำลังถูกบางอย่างสิงร่างอยู่
“แกไม่มีสิทธิ์มาบีบคอฉันคนนีั!! เป็นแค่คนไร้ค่าแท้ๆ!! Cross : Flame Slash!!”
“หืม?...นี่คือการโจมตีของเจ้างั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้นถึงตาข้าบ้างล่ะ
『
วิชาเทพแห่งความสิ้นหวัง
รูปแบบที่ 1
หมัดพิชิตเวลา
』”
“อุ้กกก!!!! อ๊อก!!!”
อิจิโร่ใช้เวทย์โจมตีใส่อีกครั้งแต่ก็ไม่สร้างรอยแผล รอยขีดข่วนใดๆให้กับโรเซ่เลย ก่อนขเาจะใช้กระบวนท่าที่มิร่าไม่เคยเห็นเขาใข้มาก่อน กระบวนท่าที่เขาใช้ก่อนหน้านี้มิร่าเป็นคนสอนเขาเอง แต่กระบวนท่านี้ มิร่าไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักมาก่อน
พริบตาเดียวโรเซ่ปล่อยมือขวาที่บีบคออิจิโร่แล้วกำหมัดแน่นชกใส่ลิ้นปี่เข้าเต็มแรง ราวกับช่วงเวลาตรงนั้นถูกตัดขาด ทั่วร่างกายของอิจิโร่เต็มไปด้วยบาดแผลเหมือนเป็นรอยดาบฟัน
“คุณมิร่า ฉันรู้สึกว่าเขาแปลกไป เกิดอะไรขึ้นกับเขากันคะ?”
“ฉัน... ฉันไม่เคยเห็นโรเซ่เป็นแบบนี้เลย ฉันไม่รู้เหมือนกัน”
มิร่ารีบมาช่วยรินทำลายโซ่ที่มัดตัวเธออยู่ ก่อนจะถูกถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับโรเซ่ แม้แต่มิร่าที่มีพลังที่สามารถล่วงรู้ได้ทุกอย่างก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโรเซ่
“หัวหน้าครับ พวกเรามาช่วยแล้ว!!”
“พวกลิ่วล้อของเจ้า...จงสูญสลายไปทั้งวิญญาณซะ!!”
“เฮือก!! เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเรากัน!? ไม่!!”
สิ้นสุดคำพูด พวกลูกน้องที่เพิ่งมาสมทบก็สลายหายไปไร้ร่องรอย
“นี่มันเรื่องเxี้ยอะไรวะเนี่ย!? ”
“ดูเหมือนเจ้าของร่างนี้จะมีความแค้นกับเจ้าไม่น้อยเลย...ถือว่าเป็นของตอบแทนแก่การมอบร่างกายนี้ให้แล้วกัน
『
วิชาเทพแห่งความสิ้นหวัง
ผสานรูปแบบที่ 4 กับ 5
ความหวาดกลัว ชั่วนิรันดร์
』”
โรเซ่ใช้มือซ้ายจับหัวอิจิโร่ที่เจ้าตัวกำลังนั่งทรุดด้วยสีหน้าอันสิ้นหวังอยู่นั้นขึ้นมาแล้วใช้วิชาที่ไม่รู้จักอีกครั้ง เกิดหลุมดำขนาดเล็กดูดอิจิโร่เข้าไปข้างใน ขณะที่อิจิโร่กำลังโดนดูดก็หันไปมองพวกโรเซ่แล้วรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุด
“อั้ก!!....อ๊าก!!! .....อย่าเข้ามา!!!! ไม่!! ไม่!! อ๊ากกก!!!”
“เจ้าจักอยู่ในนั้นยาวนานกว่าแสนล้านภพ แสนล้านชาติ เพราะมันคือชั่วนิจนิรันดร์”
สิ้นเสียงก็หันหลังกลับเตรียมจะเดินออกไป แต่มิร่าก็เข้ามาขวางเอาไว้ก่อน
“โรเซ่อยู่ที่ไหน? ไม่สิ แกเป็นใครกัน?!”
“เจ้าของร่างนี้ชื่อโรเซ่งั้นหรือ? เป็นชื่อที่เหมาะแก่คำว่าสิ้นหวังเสียจริง ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย แต่เจ้าของร่างนี้ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเจ้าคือข้า เทพปีศาจแห่งความริษยาและความสิ้นหวัง ฮันเนีย”
“อึก!!....อะไรกัน!? ภาพที่กำลังโผล่เข้ามาในหัว ฉันไม่เห็นจะเคยรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้มาก่อนนี่?!”
“คุณมิร่า!?”
เมื่อได้ยินชื่อนั้นมิร่าก็มีอาการปวดหัวขั้นรุนแรง ภาพต่างๆเริ่มเข้ามาในหัวของเธอ จนรินต้องเข้ามาดู
“อย่างนี้นี่เอง อึก!....ฉันเข้าใจแล้วว่าการที่ผู้ทำสัญญากับเผ่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ จะมีสัญลักษณ์บางอย่างปรากฏบนร่างกายบางจุด ฮ่าๆๆ...ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ สัญลักษณ์ของคนอื่นๆยังบ่งบอกถึงพลังที่ผู้ทำสัญญาจะสามารถใช้มันได้ ส่วนของโรเซ่มันคือสิ่งที่ฉันต้องผนึกเอาไว้นี่เอง”
“คุณมิร่าบอกฉันทีว่าจะสามารถทำให้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้ง”
“อ่า แน่นอนสิรินจัง ถ้าเธอตะโกนเรียกชื่อเขาด้วยใจจริงของเธอ ฉันมั่นใจว่าเป็นไปได้แน่นอน”
มิร่ารู้แล้วว่าสิ่งที่แล่นเข้ามาในหัวคืออะไร และความลับของสัญลักษณ์นั้นคืออะไร เธอได้บอกวิธีเรียกโรเซ่กลับมาให้รินรู้
“โรเซ่!...รีบๆตื่นสักทีสิ! นายไม่ได้กระจอกขนาดต้องโดนเจ้านี่สิงเลยไม่ใช่เหรอ?!”
“เปล่าประโยชน์น่ายัยหนู...ข้าบอกแล้วว่าร่างนี้เป็นของข้าเรียบร้อยแล้ว”
“อัดพลังแล้วชกเลยรินจัง!!”
รินตะโกนเรียกชื่อของโรเซ่ เป็นครั้งแรกใน2เดือนที่ผ่านมา ในที่สุดเธอก็เรียกชื่อของเขาแล้ว แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น จนมิร่าเชียร์ให้รินอัดมานาของเธอไว้มนหมัดแล้วชกหน้าได้เลย
“คิดว่าจะทำได้งั้นหรือ? ตัวข้านั้นรวดเร็วกว่าเจ้านักยัยหนู--!?”
“ตื่นได้แล้วโรเซ่!!! Judgement!!”
“อึก!! บ้าน่า! ทำไมเจ้าถึงเร็วกว่าได้กัน!?”
ด้วยความมั่นใจในตัวเองมากเกินไปไม่สมกับเป็นโรเซ่ ทำให้รินนั้นเคลื่อนที่มาด้วยความเร็วที่เหนือความคาดหมาดแล้วใช้หมัดที่อัดแน่นไปด้วยมานาต่อยใส่แก้มซ้ายของโรเซ่จนกระเด็นไป แล้วหน้ากากส่วนที่ปิดตาเอาไว้ก็แตกหัก ก่อนที่ส่วนหน้ากากที่ยังเหลือกลับมาเป็นสัญลักษณ์บนฝ่ามือข้างซ้ายอีกครั้ง
ไม่กี่นาทีต่อมา โรเซ่ก็ฟื้นคืนสติกลับมา
“อึก! เกิดอะไรขึ้น?...ริน! ปลอดภัยดีหรือเปล่า? ไม่ได้โดนทำอะไรใช่ไหม?!”
“อะ อือ นายจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?”
เมื่อฟื้นขึ้นมาโรเซ่ก็รีบถามรินด้วยความเป็นห่วงพลางเอามือจับไหล่เขย่าตัวรินไปมา
“ค่อยยังชั่ว...จำ? ฉันทำอะไรลงไปเหรอ?”
“นายเพิ่งจะส่งไอ้เจ้าสุเมรากิสู่มิติแห่งความว่างเปล่าไปชั่วนิจนิรันดร์...ดูเหมือนฉันคงต้องห้ามนายใช้ไอ้สิ่งที่ปลดผนึกแล้วสิ”
มิร่าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นว่าโรเซ่นั้นทำอะไรขณะที่เขาไม่รู้สึกตัว
“ดีนะ ที่วิธีพูดของนายในตอนนั้นเป็นแบบญี่ปุ่นสมัยก่อนนู้น ถ้ามาเป็นแบบของยุคกรุงศรีอยุธยาอย่างคำว่า ออเจ้าอะไรอย่างนี้ ฉันคงต้องไปเช็คสายเลือดของนายแล้วล่ะว่าใช่ลูกครึ่งอังกฤษจริงหรือเปล่า?”
“พลังนี่งั้นเหรอ? แล้วฉันฟื้นกลับมาได้ยังไง? ถ้าวิเคราะห์ตามที่เธอเล่ามารวมกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว นั่นน่าจะยากนะที่ฉันจะแย่งการควบคุมกลับมาได้น่ะ”
“ใช่ แค่ง่ายนิดเดียวเลย แค่ให้รินจังเป็นคนเรียกชื่อนายทแค่นี้ก็ได้สติกลับมาแล้ว”
โรเซ่ยังสงสัยอยูาว่าเพราะอะไรเขาถึงฟื้นกลับมาแล้วแย่งการควมคุมกลับมาได้ มิร่าจึงบอกว่าเหตุผลนั้นรินเป็นคนทำ ทำให้เจ้าตัวต้องหันไปหา
“จริงเหรอ? เห้อ....ในที่สุดเธอก็ยอมเรียกชื่อฉันสักทีนะริน ค่อยสมกับเป็นคู่หูกันขึ้นมาหน่อยแล้วนะ”
“อะ อะไร?!”
“จับมือไง ขอฝากตัวอีกครั้งนะ ริน”
“อืม ทางนี้ก็เหมือนกัน...ระ โร...เจ้างั่งโรเซ่!!”
“ดูเหมือนจะอีกยาวไกลนะที่จะเรียกชื่อโดยไม่มีเติมคำนำหน้าหรือต่อท้าย”
เหมือนว่ากำลังจะไปได้ด้วยดีแล้ว แต่รินก็เกิดอ้ำอึ้งสักพักก่อนจะเติมคำใส่กับขื่อของโรเซ่แทนที่จะเรียกชื่อไปเลย
“ว่าแต่ว่านะริน เธอไม่หนาวอกเหรอ?”
“หืม? ว๊าย!! หันไปตรงนั้นเลยนะ!!”
โรเซ่ถอดชุดสูทของเขาออกเอาไปให้รินใส่คลุมเพื่อบังเสื้อที่ขาดไว้ก่อน เมื่อรู้สึกตัวแล้วรินก็อายหน้าแดงรีบตะโกนให้โรเซ่หันไปทางอื่น ซึ่งเจ้าตัวก็ทำก่อนอยู่แล้ว
โรเซ่สะบัดมือซ้ายขึ้นเพื่อให้หน้าจอโฮโลแกรมปรากฏออกมา แล้วทำการรายงานไปยังศูนย์บัญชาการว่าคดีปิดลงแล้ว
“กลับกันเถอะ ส่วนเจ้าอาคาสะก็ปล่อยให้มันโดนบ่นไป”
“อะ อืม...แต่เขาจะโดนบ่นเรื่องอะไรล่ะ?”
เป็นครั้งที่สองที่รินโดนอุ้มแล้วพาบิน แต่ครั้งนี้โรเซ่บินช้าลงเพืแไม่ให้ชุดสูทที่คลุมอยู่ปลิวไปก่อน
[ยินดีต้อนรับกลับค่ะนายท่าน]
“พี่ครับ แล้วก็คุณริน ปลอดภัยดีใช่ไหมครับ?”
“คุณปลอดภัยดีไหมคะ?”
เมื่อกลับมาถึงบ้านก็มียูโตะ ยูมิที่ฟื้นแล้วและสเตลล่ารออยู่แล้ว
“อ่า โชคดีที่ทันเวลา...ตอนนี้ฉันขอพักหน่อยเถอะ”
เมื่อวางรินลงบนโซฟาแล้ว โรเซ่โน้มตัวพิงกำแพงก่อนจะหมดแรงยืนเข่าอ่อนร่วงลงพื้นดังตุ้บก่อนจะหลับไปตรงนั้น
“ถ้าแบบนั้นก็ค่อยยังชั่วนะ...ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ”
“ขอตัวก่อนนะคะ”
หลังจากนั้นยูโตะกับยูมิก็พากันเดินออกจากบ้านแล้วตรงกลับบ้านของตัวเองทันที โดยไม่จำเป็นต้องบอกว่าคัตสึรากิ ชินจิถูกประหารชีวิตไปแล้วก่อนหน้านี้
“เอาล่ะ พวกเราก็พักกันเถอะรินจัง”
“แล้วจะปล่อยให้...เจ้างั่งโรเซ่นอนอยู่ตรงนี้เหรอคะ?”
[อุ๊ฟ!...]
“อะ ขะ ขอโทษค่ะ”
[ไม่เป็นไรค่ะ ถ้างั้นขอรบกวนท่านรินกับท่านมิร่า แบกเขาขึ้นไปนอนได้หรือเปล่าคะ?]
พอได้ยินคำว่าเจ้างั่ง สเตลล่าก็หลุดขำออกมา ก่อนจะขอร้องให้รินกับมิร่าแบกโรเซ่ขึ้นไปห้องนอน
“ตัวเบามากเลย...ทั้งที่มีกล้ามท้องแบบนี้ น่าจะต้องมีน้ำหนักมากๆหน่อยสิ”
“เพราะโรเซ่เขาจำเป็นต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิงในบางสถานการณ์ การสร้างกล้ามเนื้อแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว น้ำหนักคงจะใกล้เคียงกับนางแบบอยู่แหละนะ”
“แต่งหญิงเหรอคะ!?”
รินคิดว่าโรเซ่ต้องตัวหนักแน่ๆ จึงเตรียมออกแรงให้มากๆแต่ผิดคาด ตัวเขาเบาเหมือนกับผู้หญิง มิร่าจึงให้เหตุผลว่าเพราะต้องแต่งหญิง ทำให้รินตาโตให้ความสนใจกับคำว่าแต่งหญิงในทันใด
“พอดูดีๆแล้ว ก็หน้าตาสวยเหมือนผู้หญิงจริงๆอย่างที่ว่าเลย”
“ใช่ไหมล่ะ? รวมทั้งยังสามารถดัดเสียงเป็นผู้หญิงได้ด้วยนะ”
“จะสุดยอดเกินไปแล้วนะ”
เมื่อพาโรเซ่นอนลงบนเตียงได้แล้ว รินก็เพ่งพินิจกับใบหน้าอันเรียวสวยของโรเซ่เป็นพิเศษ
“หืม? จ้องขนาดนี้ หรือว่าสเปคของรินจังคือผู้ชายหน้าสวยหรือเปล่าเอ่ย~?”
“ห้ะ!?...มะ ไม่ใช่สักหน่อย!?! ฉันไม่ได้อีตานี่นะคะ!”
“ฉันยังไม่ได้บอกนะ เลยว่าเป็นโรเซ่ ”
“อึก! ขะ ขอตัวกลับก่อนนะคะ!”
มิร่าเห็นรินจ้องหน้าของโรเซ่อยู่นาน จึงลองใส่เชื้อไฟเข้าไปดู ผลปรากฏดีกว่าที่คาดไว้ ได้เห็นสีหน้าแสนซึนของรินที่แดงกว่าที่คิดไว้ ด่อนที่รินจะรีบกลับบ้านไปด้วยสีหน้าเขินอาย
[หรือว่าดิฉันกำลังจะมีนายหญิงกับนายน้อยหรือเปล่าคะ?]
“ม่าย รู้ สิ นะ คะ...หุๆ แบบนี้มันเริ่มน่าสนุกขึ้นมาแล้วสิ”
สเตลล่าเห็นรินรีบวิ่งออกไป พลางเห็นใบหูที่แดงจึงขึ้นไปถามมิร่า แต่เจ้าตัวก็ตอบด้วยน้ำเสียงกวนเหมือนอาคาสะ
✣✤✣
ณ สถานที่อันห่างไกลจากโลก นั่นคือดวงจันทร์ บนดวงจันทร์นั้นมีศูนย์วิจัยตั้งอยู่ไม่ทราบว่าเป็นของประเทศไหน ภายในนั้นที่ห้องหนึ่ง มีชายกำลังพูดคุยกับชายอีกคนที่เป็นภาพโฮโลแกรม
“แล้วเป็นยังไงล่ะ? หนูทดลองที่ใช้เวทย์ของนายไป”
“ให้ตายสิ คุณปู่จะตอกย้ำอะไรนักหนานะ? ”
“ตามที่คุยกันไว้ คราวนี้ถึงตาพวกฉันออกโรงบ้างล่ะ...ไม่สิ ต้องฉันถึงจะถูก”
ชายผู้ที่อยู่ในภาพโฮโลแกรมนั้นมีสัญลักษณ์ไม้กางเขนสีแดง ล้อมรอบด้วยจุดสีดำ4จุด และล้อมกรอบเป็นรูปดวงอาทิตย์อีกที สัญลักษณ์นี้อยู่ที่อกข้างซ้ายของเขา กับอีกคนที่พูดคุยกับเขา ถึงจะถูกเรียกว่าคุณปู่ แต่ลักษณะภายนอกกลับยังหนุ่มยังแน่น ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นปิดภาพโฮโลแกรมแล้ว
“เห้อ...จะทำอะไรตามใจตัวเองเกินไปหรือเปล่านะ? เป็นแค่ศพเดินได้แท้ๆเชียวนะ.....”
ทางด้านของขายที่มีสัญลักษณ์ไม้กางเขน ก็โน้มตัวเอนพิงเบาะของเก้าอี้พลางพูดถึงอีกฝ่ายที่เพิ่งวางสายไป
“ท่านครับ จะเอายังไงต่อกับพวกนั้นดีหรือครับ?”
“ปล่อยให้ไอ้พวกนั้นทำตามใจไปเถอะ ก็ดี ถือว่าเป็นการยืดเวลาให้พวกเราได้สร้างอาวุธไม้ตายนี่ให้เสร็จ แล้วนายคิดว่ามันจะเสร็จตอนไหนล่ะ?”
“คาดว่าน่าจะอีก2ปีครับท่าน”
“2ปี คงต้องเลิกเผยตัวสักพักสินะ? ”
ชายสวมแว่นเดินเข้ามาถามถึงเรื่องคนบนดวงจันทร์ที่เพิ่งคุยไป ก่อนที่จะได้รับคำตอบกลับไป แล้วคลื่นลูกใหม่ที่กำลังจะเข้ามานั้น จะเป็นฝ่ายไหนทีาชนะกันแน่นะ?
• ───────────────── •
ความคิดเห็น