คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่1 ตอนที่9 คดีของเล่น 2
พวกโรเซ่แอบสะกดรอยตามคนร้ายที่ยังลอยนวลไปอยู่ คนร้ายคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวต้นเหตุของเหตุการณ์ในอากิฮาบาระด้วย จึงไม่มีทางที่โรเซ่จะยอมลดละเรื่องการตามตัวแน่นอน
“เจ้านั่นเดินเข้าคนหมู่มากอีกแล้ว....”
“จับมือกันไว้ มันรู้ตัวแล้วแน่ๆว่าพวกเราแอบตามอยู่”
โรเซ่เสนอให้ทุกคนจับมือกันโดยให้มิร่าเป็นคนเดินนำไปเพราะเธอสามารถหาตำแหน่งของคนร้ายได้อย่างแม่นยำที่สุดแล้ว ไม่ทันได้ถามความเห็นของรินเธอจึงหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อถูกเพศตรงข้ามจับมือ แม้ว่าโรเซ่จะหน้าสวยเหมือนผู้หญิงก็ตาม
“คราวนี้เข้าไปในตรอกเหรอ?”
“เอาล่ะ....คุณไวท์ระดับพิเศษผู้โด่งดัง ไม่นึกเลยว่าผมจะได้รับเกียรติจากคุณนะครับเนี่ย คุณอาคุตสึ โรเซ่”
เมื่อคนร้ายเข้ามาถึงทางตันข้างในตรอก เขาหยิบแว่นดำขึ้นมาสวมแล้วหันหลังกลับไปพูดกับโรเซ่ด้วยท่าทีสบายๆเต็มไปด้วยความมั่นใจไม่รู้สึกเครียดหวาดกลัวเลยสักนิด
“....ทางอย่างนั้นก็ค่อยง่ายขึ้นหน่อย มากับฉันซะดีๆ”
“นั่นมันคำพูดของทางผมหรือเปล่าครับ? หืม?”
“อึก! คนพวกนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!?”
พวกโรเซ่ถูกซ้อนแผน อีกฝ่ายนั้นมีพวกลูกน้องคอยปกป้องอยู่ เพียงแค่ดีดนิ้วพวกลูกน้องที่สวมแว่นดำกันทุกคนก็ปรากฏตัวมาปิดทางออกจากตรอกทุกทางไปเรียบร้อย
“เจ้าพวกนี้....”
“ถ้าให้ผมเดานะ คุณคงจะตรวจสอบบันทึกในกล้องวงจรปิดของร้านนั้นไปแล้ว และรู้ว่าเหลือแค่ผมคนเดียวที่ยังลอยนวลอยู่ คุณนั้นไม่ทันได้คิดว่ายังมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งก็มาซื้อของเล่นพวกนี้ไปด้วย....คุณมองข้ามไปเพราะคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางใช่พวกแอนตี้แน่นอน ถูกหรือเปล่าครับ?”
“..........”
“ขออภัยที่แนะนำตัวช้าไป ผมชื่อว่า ชิโรคุโมะ ชู คุณคงทราบอยู่แล้วว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มกางเขนสีเลือด เพราะเจ้านายของผมนั้นเป็นสมาชิกระดับ4ของกลุ่ม คุณก็คงจะทราบอยู่แล้ว เอาล่ะ....ผมสืบเรื่องของคุณมาเยอะเลย โดยเฉพาะเวทย์ที่แข็งแกร่งนั่นสามารถบงการจิตใจคนอื่นเพียงแค่จ้องตา หากว่าสวมแว่นดำนี้ คุณก็ไม่สามารถจ้องทะลุแว่นจนเห็นดวงตาของพวกผมได้หรอก”
ชูเดาถูกทุกอย่างจนโรเซ่ไม่มีคำจะพูดต่อ ก่อนจะแนะนำตัวเองแล้วพูดถึงเวทย์ของโรเซ่ที่สามารถบงการจิตใจของคนอื่นได้เพียงแค่จ้องมองตาอีกฝ่าย เขาก็สืบเรื่องนี้มาอย่างดี
“ไอ้เจ้านี่มันสืบเรื่องนายมาอย่างดีเลยนะโรเซ่ จะเอายังไงต่อล่ะ?....”
“เรื่องของคุณผมก็สืบมาแล้วเหมือนกันนะครับ คุณมิร่า โรมานอฟ เผ่าพันธุ์อาวุธศักดิ์สิทธิ์คนแรกที่ถือกำเนิดขึ้นกลางกรุงมอสโก และคุณเป็นเพียงอาวุธศักดิ์สิทธิ์คนเดียวที่มีเวทมนตร์อันแสนสุดยอดอย่างห้องสมุดโลก สามารถล่วงรู้เรื่องราวต่างๆได้ขอเพียงแค่มีคำค้นหาเพียงพอ นอกจากคุณอาคุตสึ โรเซ่ กับคู่หูของเขา มีเพียงคุณที่ทางเราอยากได้คุณแบบเป็นๆนะครับ จากที่สืบมาเจ้านายคนแรกของคุณก็อ่อนแอเกินไปจึงตายหลังจากใช้คุณแค่ครั้งเดียว และเจ้านายคนปัจจุบันก็กำลังจะตายแล้วด้วยสิ คิดว่ายังไงล่ะครับ คุณจะยอมยกเลิกสัญยากับเขาแล้วมากับพวกเราดีๆไหมครับ? เจ้านายของผมนั้นแข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้คุณพอใจแน่นอน ”
“Иди нахуй Сукин сын!”
ชูยังพูดต่ออีกว่าสืบเรื่องของมิร่ามาอย่างดี เขายิ้มด้วยความรู้สึกว่าตัวเองนั้นอยู่เหนือกว่าพร้อมยื่นข้อเสนอให้มิร่าย้ายฝั่งไปร่วมมือด้วย กระทั่งชูนั้นเผลอไปเหยียบกับระเบิดที่ไม่ควรเหยียบเสียแล้ว มิร่ายกมือขวาขึ้นแล้วชูนิ้วกลางพลางสะบดคำหยาบเป็นภาษารัสเซียใส่ชูด้วยน้ำเสียงที่โกรธจัด แววตาราวกับจ้องจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายไปเลย
“แหมๆ ดูเหมือนสุดท้ายต้องใช้กำลังอยู่ดีเหรอครับเนี่ย?....จัดการซะ”
“อ่า ฝากด้วยล่ะทั้งสองคน ”
“.....โรเซ่เมื่อกี้นายพูดกับใครน่ะ!?”
“อ๊ากกกกก!!!!”
ชูรู้อยู่แล้วว่าเรื่องจะต้องเป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้แน่ๆจึงสั่งให้พวกลูกน้องรุมจัดการพวกโรเซ่ซะเลย แต่ดูเหมือนโรเซ่นั้นจะพูดบางอย่างขณะที่รินกำลังตั้งท่าเตรียมจะสู้ เธอเกิดสงสัยขึ้นมา กระทั่งคำตอบนั้นก็ปรากฏให้เห็นจากข้างหลังพริบตาที่หันหลังไปมองก็เห็นพวกลูกน้องของชูถูกแช่แข็งไปแล้ว
“นี่มัน....เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!? กำลังเสริมงั้นเหรอ!? เป็นไปไม่ได้น่า! ก็เจ้านั่นเป็นคนบอกเองนี่ว่าจะมีแค่พวกคุณสามคนมาที่นี่”
“เจ้านั่นเหรอ?....เห~ น่าสนใจดีนะ ดูเหมือนในองค์กรจะมีหนอนบ่อนไส้อยู่ด้วยนะเนี่ย”
ชูถึงกับตกตะลึงตาค้าง จนเผลอพูดเรื่องที่น่าสนใจออกมา และชายหญิงคู่หนึ่งก็เดินเข้ามา
พวกเขาชายผมสีเงินและสาวผมสีชมพูอ่อนที่เคยช่วยพวกโรเซ่เก็บกวาดXและลูกน้องในคดีปล้นธนาคารคราวนั้น
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ คุณพี่ชายแล้วก็คุณรินที่เป็นคู่หูของคุณพี่ชายด้วยนะคะ”
“เอ๋? รู้จักฉันด้วยเหรอคะ?”
สาวผมชมพูเดินเข้ามาทักทายอย่างสุภาพกับพวกโรเซ่ รินสงสัยว่าทำไมถึงรู้จักเธอได้
“อ่า ไม่ได้กันนานเลยนะ น้องสะใภ้แล้วก็ยูโตะด้วย กลับมาจากสเปนตั้งแต่ตอนไหนล่ะ?”
“เมื่อวานนี้เองแหละครับ เอาล่ะ ตอนนี้เกมพลิกแล้วนะ ชิโรคุโมะ ชู อย่าเพิ่งชิงฆ่าตัวตายไปก่อนล่ะ”
“ไม่จริง....เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างมันควรเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้สิ! .......แม่งเอ๊ย!!!”
ชายผมสีเงินคนนี้คืออาคุตสึ ยูโตะ น้องชายของโรเซ่ และสาวผมชมพูก็เป็นคนรักของยูโตะ ยูโตะจึงชิงเดินเกมต่อในขณะที่เกมนั้นถูกพลิกกลับมาเป็นฝ่ายตัวเองอยู่เหนือกว่าชูแล้ว จนชูนั้นเริ่มเครียดจนคุมตัวเองไม่อยู่ใช้เวทย์สร้างสายฟ้าหุ้มสนับมือทั้งสองข้างก่อนจะง้างหมัดขวาพุ่งเข้าไปหาคนรักของยูโตะทันทีเพราะคิดว่าเธอคือคนที่ทำให้ลูกน้องของเขาถูกแช่แข็ง นั่นเดาถูกต้องแต่มีหรือที่เธอคนนี้จะไม่มีทางโต้กลับได้
“Portal......Freeze”
“!?....เมื่อกี้มันอะไรน่ะ!? อึก! น้ำแข็งนี่มันอะไรกัน เธอใช้เวทย์ตอนไหนกัน!?”
“นั่นสินะ เก็บไปคิดในห้องสอบสวนแล้วกัน ไม่ต้องกลัวฉันออมแรงเอาไว้แล้วล่ะ พวกนายไม่แข็งตายหรอกนะ”
จากรอยยิ้มแสนจะเป็นมิตรของเธอ กลายเป็นรอยยิ้มแสนจะน่าสะพรึงกลัว ออร่าหนาวเหน็บที่แผ่ออกมาจากตัวเธอ ทำให้รินเริ่มจะกลัวจนต้องรีบมาเกาะแขนของโรเซ่ทันที
“ยูมิ เธอทำคู่หูของพี่กลัวแล้วนะ”
“อุ๊บส์ ขอโทษที่ทำให้กลัวนะคะคุณริน เห็นอย่างนี้ฉันเป็นมิตรนะคะ”
“คะ ค่ะ......”
ยูโตะเดินเข้าไปแตะไหล่ของยูมิเพื่อให้เธอหยุดปล่อยออร่าก่อน ยูมิได้ยินดีงนั้นจึงหยุดแล้วเดินเข้าไปกุมมือรินพลางพูดขอโทษด้วยรอยยิ้มอันเป็นมิตร รินรู้ทันทีกับคำพูดที่ว่าเธอเป็นมิตร หากว่าเป็นศัตรูกับยูมิ คงจะน่ากลัวมากแน่ๆ
“ฉันติดต่อหน่วยเก็บกวาดไปเรียบร้อยแล้วล่ะ...หลังจากพวกเขามาถึงในอีก30นาที พวกเราจึงสามารถไปเดินเที่ยวต่อได้ เหนื่อยหน่อยนะยูโตะ ยูมิ ทั้งสองไปพักก่อนเลย”
“วันนี้มันวันอะไรกันนะ? ทำไมพี่ถึงดูใจดีกว่าวันก่อนๆเยอะเลย?”
“ถ้างั้นพวกเราขอตัวก่อนนะคะ คุณพี่ชาย ไว้เจอกันใหม่นะคะคุณริน คุณมิร่า”
หลังจากนั้นยูโตะและยูมิก็ขอตัวไปเที่ยวกันแค่สองคนตามประสาคนรักกัน ส่วนพวกโรเซ่ยังเฝ้าพวกชูที่ถูกแช่แข็งอยู่
“นี่ นายมีพี่น้องกี่คนน่ะ?”
“....รวมฉันไปด้วยก็เป็น3คน มีฉัน กับฝาแฝดคนพี่ และยูโตะเป็นน้องคนเล็ก.....แล้วก็น้องสะใภ้คนนั้น เธอชื่อ ยูกิ ยูมิเป็นลูกสาวของตระกูลยูกิ ทั้งสองคนอายุน้อยกว่าฉัน3ปี”
“คนจาก1ใน3ตระกูลใหญ่งั้นเหรอ? มิน่าล่ะ เธอถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น จากการพูดคุยของพวกนายแล้ว คงจะสนิทกับน้องชายและฝาแฝดอีกคนเลยสินะ?........”
“รินจัง พวกเราไปดูตรงนั้นกันเถอะ โรเซ่เดี๋ยวกันกันก่อนนะ”
ระหว่างรอรินถามถึงเรื่องครอบครัวของโรเซ่ จึงได้รู้ว่าโรเซ่นั้นมีฝาแฝดคนพี่อยู่อีกหนึ่งคนและมียูโตะเป็นน้องชายคนเล็ก แล้วยังรู้ว่า ยูมินั้นเป็นคนของตระกูลยูกิ 1ใน3ตระกูลใหญ่ด้วย กระทั่งรินเผลอไปพูดถึงความสัมพันธ์ในตอนนี้ของโรเซ่กับพี่น้องของเขา จนเธอได้เห็นโรเซ่แสดงสีหน้าเศร้าเป็นครั้งแรก
กระทั่งคนของหน่วยเก็บกวาดมาถึงมิร่าเห็นดังนั้นจึงรีบพารินแยกตัวออกไปทันที
“คุณมิร่า....เมื่อกี้ฉันพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกไปเหรอคะ?”
“ความจริงแล้วเธอไม่ควรจะถามเรื่องครอบครัวกับเจ้าตัวหรอกนะ ฉันจะบอกแค่ครั้งเดียวนะ ก่อนที่ฉันจะรู้จักพวกโรเซ่ สามพี่น้องเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก ยูโตะคุงเพิ่งจะ1ขวบเองด้วยซ้ำ มันมีความสะเทือนใจมาถึงทุกวันนี้เพราะโรเซ่กับฝาแฝดของตัวเองต่างโทษว่ามันเป็นความผิดของตัวเอง เธอก็เห็นใช่ไหมว่าโรเซ่ไม่มองหน้ายูโตะคุงเลยเวลาคุยด้วยน่ะ?”
“อย่างนี้นี่เอง....ฉันควรไปขอโทษเขาแล้วค่ะ”
มิร่าบอกเหตุผลที่โรเซ่แสดงสีหน้าเศร้าออกมาอย่างนี้ รินได้ทราบก็คิดจะวิ่งกลับไปขอโทษโรเซ่ที่เผลอไปพูดโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย มิร่าเห็นดังนั้นก็ตามไปด้วย
“นี่ คือว่า.....เมื่อกี้ฉันขอ--”
“มาพอดีเลย เปลี่ยนแผน พวกเราต้องตามคุ้มกันหน่วยเก็บกวาดจนกว่าจะถึงสถานสอบปากคำ รีบไปกันเถอะ”
ไม่ทันจะฟังคำพูดของริน โรเซ่รีบคว้าข้อมือของรินแล้วพาขึ้นรถของหน่วยเก็บกวาด มิร่าฟังจากที่โรเซ่บอกแล้วก็รีบกลับเข้ามาในมือทันที ปล่อยให้ยูโตะกับยูมิเดินเที่ยวกันต่อ
“นายเปลี่ยนแผนอย่างนี้อย่าบอกนะว่า....”
“ใช่ ฉันดันลืมคิดเรื่องเซนเซอร์ตรวจจับที่เจ้านั่นมันซ่อนเอาไว้ในสูทเลย มันจะทำงานเมื่อร่างกายไม่ขยับ บางทีมันจะส่งสัญญาณไปหาเจ้านายของมันก็ได้ แล้วตอนนี้คงจะมีพวกลูกน้องกำลังดักโจมตีรถของหน่วยเก็บกวาดอยู่”
โรเซ่บอกแผนการที่เปลี่ยนไป มีความเป็นไปได้สูงว่าหากออกจากไซตามะแล้วจะมีคนดักรอโจมตีรถของหน่วยเก็บกวาดอยู่
“นี่...คือว่าเรื่องที่ฉันถามไปก่อนหน้า ฉันขอโทษนะ”
“อ่า...ไม่เป็นไร เธอไม่ผิดหรอก....ริน ฉันยังไม่ได้ถามเธอเรื่องที่เธอเกี่ยวข้องยังไงกับกลุ่มกางเขนสีเลือดนั่นเลย”
ขณะที่รถกำลังแล่นไปตามเส้นทางอยู่รินก็พูดขอโทษโรเซ่ไป ตัวเขาก็ให้อภัยเพราะไม่ได้คิดจะโดรธอะไรรินอยู่แล้ว ก่อนจะถามเรื่องที่รินมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับกลุ่มกางเขนสีเลือด
“พวกนั้นคือพวกแอนตี้ที่ฉันต้องจัดการให้ได้ ครั้งที่ฉันยังอยู่ม.ต้นนั้น ฉันเสียพ่อแม่ไป ในคืนวันปีใหม่เมื่อ2ปีก่อน ฉันมีแค่เบาะแสเดียวคือ คนร้ายนั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มกางเขนสีเลือด ฉันก็เลยมาเป็นไวท์แล้วไต่เต้าขึ้นมาเพื่อตามหาตัวคนร้ายให้เจอ....ฉันไม่รู้จะสามารถฆ่าอีกฝ่ายได้จริงๆหรือเปล่าและมันจริงอย่างที่นายบอกในวันแรกที่พวกเราร่วมงานกัน”
รินเล่าเรื่องของเธอรวมถึงเหตุผลที่เธอมาเป็นไวท์ด้วย
“งั้นเหรอ?....เหมือนกับฉันเลยนะ”
“หืม? เมื่อกี้พูดอะไรนะ--?!”
“รินรีบเตรียมตัวเร็วเข้า!”
ตู้ม!!
ขณะที่โรเซ่แอบพูดเบาๆอยู่นั้น ก็เกิดระเบิดจากข้างบนลงมาถึงอุโมงที่รถกำลังวิ่งอยู่จนเกิดควันคลุ้งไปทั่ว โรเซ่จึงรีบบอกรินเตรียมตัวเข้าปะทะ ก่อนที่ตัวการจะปรากฏตัวออกมา กลุ่มคนใส่ฮู้ดสีดำสวมหน้ากากจิ้งจอกสีแดงกระโดดลงมาจากข้างบนมาขวางทางรถของหน่วยเก็บกวาด
“เจ้าพวกนั้นมัน...หรือว่าคิดจะมาชิงตัวพวกคนร้ายเหรอ!?”
“รินเตรียมตัวต่อสู้! ”
“ลูกไฟจิ้งจอกสีคราม!”
ขณะที่โรเซ่ดึงคาตานะสีแดงออกมาจากฝ่ามือกำลังจะพุ่งเข้าไปหาคนกลุ่มนั้น พวกเขาก็ใช้พลังเหมือนกันทุกคน สร้างลูกไฟสีฟ้าขนาดเท่ามือก่อนจะเล็งแล้วขว้างไปใส่โรเซ่ทันที
“S Black hole!”
ขณะที่ลูกไฟทั้งหมดนั้นกำลังพุ่งเข้าไปหาโรเซ่ ก็เกิดหลุมดำขนาดเล็กปรากฏออกมาดูดกลืนลูกไฟเหล่านั้นหายไปกับตา นั่นเป็นฝีมือของรินก่อนที่เธอจะสร้างดาวหกแฉกรูปร่างคล้ายดาบออกมาแล้วรีบเข้ามาช่วยโรเซ่อีกแรง
“ชัดเจนเลย เจ้าพวกนี้มีของเล่นจากเรื่อง The Last Fox ฉันกลับลืมคิดไปว่าชูมันอาจจะซื้อของเล่นชิ้นอื่นนอกจากสนับมือ”
“แล้วนายคิดว่าพวกเราสองคนจะไหวหรือเปล่า? 2คนกับ30คน รวมถึงหน่วยเก็บกวาดที่สู้ไม่ได้อีก ”
“อย่าด้อยค่าตัวเองสิริน พวกหน่วยเก็บกวาดน่ะ ไม่ใช่ตัวถ่วงสำหรับพวกเราสองคนอยู่แล้ว 30คน? มันยังน้อยไปสำหรับพวกเราด้วยซ้ำ”
“....เข้าใจแล้ว....จงเปิดออกเขตแดนแห่งดวงดารา ”
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ากลุ่มคนพวกนี้เป็นพวกเดียวกันกับชูที่ยังโดนแช่แข็งอยู่ รินรู้สึกเหมือนสู้ไม่ไหวเมื่อมองดูจำนวนคน พวกหน่วยเก็บกวาดนั้นไม่สามารถจะสู้ได้เพราะมานาของพวกเขานั้นน้อยเกินไปจะใช้เวทย์ที่รุนแรงได้ โรเซ่จึงพูดให้กำลังใจเธอไป รินได้ยินดังนั้นก็ใช้เวทย์เขตแดนของตัวเองทำให้พื้นที่ภายในอุโมง ถูกเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกับกำลังอยู่ในอวกาศ
• ───────────────── •
ความคิดเห็น