คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 ความสับสนและการพบกัน(แบบแปลกๆ)
บทที่ 2
เช้านี้แพรดาวไม่ได้ตื่นด้วยเสียงนาฬิกาปลุกอย่างทุกครั้ง หากแต่ตื่นด้วยเสียงปลุกของคุณหญิงพราวฟ้าผู้เป็นแม่
"หลับสนิทมั้ยจ๊ะ ลูก"คุณหญิงพราวฟ้าเอ่ย ขณะใช้มือปัดปอยผมที่ปกแก้มนวลอย่างช้าๆ หญิงสาวสวมกอดมารดาก่อนจะตอบ
"สบายดีค่ะ แต่ตอนนี้ท้องแพรชักจะไม่สบายแล้วล่ะค่ะ มันบอกแพรว่ามันหิวข้าว" คุณหญิงพราวฟ้าคลายอ้อมกอดลูกสาวก่อนจะดึงร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกัน
"งั้นแพรก็ไปอาบน้ำแปรงฟัน แล้วรีบลงไปทานข้าวนะจ๊ะ วันนี้ป้านางทำข้าวต้มกุ้งรออยู่" พูดจบร่างของคุณหญิงพราวฟ้าก็ค่อยๆเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ลูกสาวจัดการกับตัวเองอยู่ในห้อง พอพ้นจากประตูห้องสีหน้าที่ยิ้มแย้มของคุณหญิงพราวฟ้ากลับกลายเป็นวิตกกังวลทันที เมื่อคิดถึงสิ่งที่ลูกสาวต้องรับรู้
แพรดาวค่อยๆย่องลงจากบันไดอย่างช้าๆ จนมาถึงบริเวณห้องอาหาร แต่ต้องชะงักอย่างทันควัน เมื่อได้ยินประโยคที่เปรียบเสมือนฟ้าผ่าลงตรงหน้า
"ผมจะให้ยัยดาวแต่งงาน คุณไม่ต้องมาคัดค้านหรอก ผมรู้ดีว่าอะไรเหมาะสมกับลูกสาวเราที่สุด แล้วอีกอย่างถ้ายัยดาวไม่แต่งงานกับคุณดาเนียล เราจะเอาเงินสนับสนุนที่ไหนสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า"
"แต่ฉันว่าคงมีคนที่จะสนับสนุนการเงินคุณได้อีกนะคะ"
"ไอ้มีน่ะมันมี แต่คนที่มีอำนาจด้วยคงจะมีแต่คุณดาเนียลเท่านั้นหล่ะงานนี้"
"ทำไมอยู่ๆคุณดาเนียล เค้าถึงมาสนใจยัยแพรได้ล่ะคะเนี่ย"
"เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เค้าบอกแค่ว่าเค้าสนใจยัยแพร"
"แล้วถ้ายัยแพร ไม่ยอมล่ะคะ"
"สงสัยหน้าที่การงานของผมคราวนี้ คงจะมาถึงคราวอวสานแล้วล่ะ"
ฟังจบหญิงสาวตัวชาทันทีราวกับโดนกลุ่มผึ้งรุมเข้าต่อย แต่ร่างกายของหล่อนกลับวิ่งกลับขึ้นห้องสับสน
ร่างน้อยของหญิงสาวสะอื้นไห้ ภาวนาขอให้เรื่องที่หล่อนได้ยินเป็นแค่เรื่องตลกหรือความฝันก็ได้ หากหญิงสาวรู้ดีว่าเรื่องที่ได้ยินเมื่อรู้นั้นเป็นความจริง
แล้วหล่อนจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ หล่อนรู้ว่าบิดารักอาชีพนักการเมืองนี้อย่างมาก เพราะกว่าจะมีชื่อเสียงได้จนถึงทุกวันนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ตอนนี้หล่อนจะเลือกอะไรดีล่ะระหว่างตนเองหรือ...
อีกมุมหนึ่งของบ้าน
“คุณคะ ยัยแพรไปรึยังคะ”ชายสูงอายุมองเลยไหล่ภรรยาไปอย่างไม่แน่ใจ ก่อนจะพยักหน้า สองสามีภรรยาถอนหายใจกันออกมาอย่างโล่งอก
“เราทำถูกรึป่าวคะคุณ ที่ยอมช่วยพ่อหนุ่มคนนั้น”คุณหญิงพราวฟ้ามองหน้าสามีอย่างไม่แน่ใจ หล่อนนึกถึงเรื่องที่เพิ่งทำไปแล้วไม่รู้สึกสบายใจนัก
“เราก็แค่ช่วยเขาน่าคุณ ถ้ายัยแพรไม่สน เราจะทำไรได้ อีกอย่างเจ้าหนุ่มนั่นท่าทางเอาเรื่องไม่เบา เทียวมาบ้านเราตั้งหลายปีแล้ว เอาเถอะน่า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมออกไปข้างนอกก่อนแล้วกัน ผมจะไม่มาทานข้าวกลางวันนะคุณ”
เขาปลอบภรรยาก่อนจะเตรียมตัวไปออกกับคนที่เขาหมายมั่นปั่นมืออยากได้เป็นลูกเขยนัก ดาเนียล...คนที่เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีโอกาสรู้จัก
**********************
ถึงตอนนี้หล่อนก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ หากหล่อนรู้แต่เพียงว่าหล่อนไม่อยากสูญเสียอิสระของชีวิตไปในตอนนี้ เพราอิสระมี ค่ามากสำหรับหล่อน หากแต่เรื่องของบิดามันก็สำคัญเช่นเดียวกัน แต่จะให้หล่อนทำเช่นไรดีจะเลือกความสุขของตนเองหรือเพื่อบิดา โอย! หล่อนสับสนไปหมดแล้ว คิดได้แค่นั้นน้ำตาที่เหลือก็ไหลออกมาจนหมด
"ก๊อก ก๊อก ก๊อก คุณแพรขาคุณหญิงเรียกทานข้าวแล้วค่ะ" ร่างบางไล้น้ำตาออกจากแก้ม ก่อนจะปรับเสียงให้เป็นปกติที่สุด
"บอกคุณแม่กินก่อนเลยจ้ะ แพรคุยโทรศัพย์กับเพื่อนอยู่จ้ะ ไว้แพรหิวเดี๋ยวแพรลงไปทาน" หากพอบอกสาวใช้เสร็จหล่อนจึงตัดสินใจ หล่อนจึงตัดสินใจโทรหานันทนาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของหล่อน
นันทนาทำงานอยู่เป็น บ.ก.ของหนังสือแฟชั่นเล่มหนึ่งของเมืองไทย แต่เนื่องด้วยอยู่กันคนละที่ทำให้ไม่ค่อยมีโอกาสพบเจอ อาศัยการคุยโทรศัพท์ซะเป็นส่วนใหญ่ หล่อนเป็นเพื่อนที่ดีเสมอมา เวลามีเรื่องหนักใจอะไรถ้าคุยกับหล่อนแล้วจะสบายใจขึ้น
หล่อนจะคอยให้คำปรึกษาเสมอ ดังนั้นเวลานี้ แพรดาวจึงไม่เห็นใครที่หล่อนคิดว่าจะปรึกษารื่องนี้ได้อีกนอกจากนันทนา
"นันทนาพูดค่ะ"
"ฮัลโหลนัน นี่แพรเองนะ นันว่างรึเปล่าตอนนี้ พอดีแพรมีเรื่องจะปรึกษา"
"อือ ตอนนี้มีงานอีกนิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวนันโทรหาได้มั้ย"
"ออกมาเจอเลยได้มั้ย แพรกลับมาแล้ว"
"ว่าไงนะ! กลับมาตอนไหน ทำไมไม่บอกนันจะได้ไปรับ"
"กลับมาเมื่อวานนี่เอง"
"งั้นเอางี้ตอนเที่ยงออกมาทานข้าวกันนะ แต่แพรต้องมารับนันนะ พอดีรถนันมันเสียน่ะ" "ตกลง เที่ยงตรงนะ" "แล้วเจอกันนะ"
ตอนนี้สำหรับแพรดาวหล่อนคิดว่าเพื่อนสาว น่าจะเป็นเป็นคนที่ช่วยแก้ปัญหาได้ดีที่สุดในเวลานี้ หล่อนคิดว่าเพื่อนคงจะพอมีทางออกสำหรับปัญหานี้บ้าง แต่หากไม่มีมันคงต้องขึ้นอยู่กับหล่อนแล้วล่ะ...
*********************
ครั้นใกล้ถึงเวลาที่นัดกับเพื่อนสาว แพรดาวก็แต่งตัวเตรียมออกจากบ้าน หากก็ต้องสะดุดกับเสียงของคุณหญิงพราวฟ้า ที่ถามลูกสาวด้วยสีหน้าแปลกใจ
"อ้าวน้องแพรจะไปไหนล่ะลูก"
"เอ่อ...อ๋อ แพรจะออกไปหานันน่ะค่ะคุณแม่"
"อ้าแล้วหนูนันรู้แล้วหรอจ๊ะว่าแพรกลับมาแล้ว"
"อ๋อ..รู้แล้วค่ะ แพรโทรหานันเมื่อเช้าแล้วค่ะ"
"งั้นถ้าหนูนันว่างๆชวนมากินข้าวบ้านเราด้วยซิลูก"
"ค่ะคุณแม่ แพรจะลองชวนดูนะคะ"
พูดจบร่างบางรีบหันกลับอย่างระมัดระวัง แต่..
"อ้อ อย่ากลับดึกนะลูก"
ร่างบางหันกลับมายิ้มให้ผู้เป็นมารดา แล้วพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะรีบออกตัวไปยังบริเวณจอดรถทันที
หญิงสาวมาถึงก่อนเวลานัดประมาณ 10 นาที เนื่องจากร้อนใจอยากเจอเพื่อนสาวเร็วๆ พลันกับที่นันทนา ออกมาหลังจากนั้นไม่นาน พอนันทนาก้าวเข้ามาในรถ รถก็เคลื่อนตัวออกจากบริเวณที่จอดทันที
"แพรกลับมาตอนไหนน่ะ แล้วถึงนานรึยัง"
หากแพรดาวหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะระล่ำระลักตอบ
"นี่ถามทีละอย่างก็ได้ แพรมาถึงเย็นเมื่อวาน ประมาณเกือบวันแล้ว OKมั้ย"
"ว่าแต่แพรนัดนันออกมาอย่างงี้ แล้วตอนโทรศัพท์ยังมีบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษาแพรมีอะไรรึเปล่า"หากสายตาของนันทนาตอนนี้แปลเปลี่ยนจากสายตาแห่งความดีใจ กลายเป็นสายตาแห่งความเป็นห่วง เนื่องจากว่ารู้จักกับแพรดาวตั้งแต่สมัยเรียน ม.ปลายด้วยกัน ว่าหากหล่อนมีปัญหาใดที่ไม่หนักอกหนักใจจริงๆ เพื่อนสาวจะไม่เอ่ยปากปรึกษาหรือขอความเห็น พอนันทนาพูดจบหญิงสาวถึงกับหน้าซีด พลันคิดไปถึงสิ่งที่ได้ยินเมื่อเช้าดวงตาคู่งามก็เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความสับสน นันทนาถึงกับตกใจหลังจากเห็นน้ำตาเพื่อนรัก ก่อนจะเอ่ยถามเรื่องที่เกิดขึ้น หญิงสาวเล่าด้วยน้ำตานองหน้าพลางบอกปัญหาของตนให้เพื่อนรักฟัง
"นัน! แพรจะทำยังไงดี ทั้งนิสัย ทั้งหน้าตาเค้าแพรก็ไม่รู้จัก แล้วอย่างงี้นันว่าแพรควรจะทำยังไงดี "
"เอาอย่างงี้นะแพร เดี๋ยวเราไปกินข้าวกันแล้วค่อยคุยไปด้วย เมื่อเช้าแพรบอกนันว่าแพรยังไม่ทานข้าวเช้าเลยไม่ใช่หรอ"
หล่อนพยักหน้าช้าๆ จะตอบตกลง
"อื้อ"
ระหว่างทางไม่มีใครพูดคุยอะไรกันอีกเลย จนกระทั่งรถเก๋งคนงามเคลื่อนเข้ามาจอดบริเวณร้านอาหารญี่ปุ่น หล่อนจึงเอ่ยชวน"เรากินอาหารญี่ปุ่นกันเนอะ แพรอยากกินน่ะ"
ใบหน้าสวยยิ้มออกมาเต็มหน้า หากแววตากลับไม่ได้เป็นไปตามนั้นกลับเต็มไปด้วยความเศร้า สับสน
เหมือนเด็กกำลังหลงทาง...
***************************
หลังจากนั่งคุยกับนันทนาได้ซักพัก แพรดาวจึงตัดสินใจทำตามคำแนะนำของเพื่อนสาวก่อน นั่นก็คือ อย่างพึ่งทำอะไรอยู่เฉยๆไปก่อน ทำจิตใจให้สบาย พอทานอาหารเสร็จนันทนา จึงโทรไปบอกลากับเลขา ที่กอง บ.ก. ก่อนจะชวนแพรดาวไปดูหนังและช็อปปิ้ง เพื่อให้เพื่อนสาวสบายใจขึ้น เรื่องที่ทั้งสองตกลงปลงใจดูกันคือเรื่อง superman Return พอดูเสร็จแล้วจึงเดินดูของกันตามประสาผู้หญิง หากแต่อารมย์ของสองสาวก็ต้องสะดุด เมื่อนันทนาเกิดจำได้ขึ้นมาว่าผู้ชายที่อยู่ในร้านขายประเป๋าแบรนดังอย่างแอเมส กับผู้หญิงหุ่นสะบึ่มคือ คุณ
"เอ่อ แพรใจเย็นๆก่อนนะ นันคิดว่านันพอรู้แล้วล่ะว่าคุณดาเนียลที่แพรพูดถึงน่ะเป็นใคร" นันทนาบอกกับแพรดาวอย่างเงอะงะ
"นันหมายความว่ายังไงน่ะ" แพรดาวจ้องเพื่อนสาวอย่างงงวยกับคำบอกเล่า
"แพรเห็นร้านที่ขายของ ของแอเมสตรงนั้นมั้ย"ว่าแล้วพลางชี้ให้ดู แพรดาวมองตามก่อนจพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะไปสดุดตากับชายหนุ่มคนหนึ่งกับสาวหุ่นไซโครนเข้า ขณะที่ผู้ถูกจับตากำลังเลือกกระเป๋าถือใบจิ๋วอยู่ ซึ่งขณะนั้นทั้งร้านมีลูกคาเพียงสองคน
"แพรเห็นผู้ชายคนนั้นมั้ย" เอ๊ะ !
"เดี๋ยวนะนัน นันอย่าบอกนะว่าผู้ชายคนที่ผู้หญิงชุดแดงหุ่นสะบึมนั่นเกาะอยู่ คือเค้า"หากพอเห็นอาการแสดงความยืนยันของเพื่อนสาวแล้ว แพรดาวยิ่งเหวอเข้าไปใหญ่ ก่อนจะส่งสายตาตกใจหันไปมองสลับชายหนุ่มกับนันทนาไปมา
"คือนันพึ่งนึกขึ้นได้ว่าคุณดาเนียลคนนี้น่ะแหละ ที่มีข่าวกับพรรคของพ่อแพรช่วงนี้อยู่"
"นันเล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะเล่าให้หมด" นันทนาจึงตัดสินใจเล่าให้เพื่อนฟังทั้งหมดว่า เค้าคือ ดาเนียล แมคคอร์ ประธาน M.C. corpฯ ที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่อยู่ที่อเมริกา แต่ช่วงนี้ลงมาดูงานทางแถบเอเชีย รวมถึงเมืองไทยด้วย ดาเนียลเป็นหนุ่มสังคมชั้นสูง แถมยังเปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่น พูดง่ายๆ เพลย์บอย เนื่องด้วยหน้าตาดี พ่วงท้ายด้วยอำนาจและทรัพย์สมบัติอีกมากมายจึงเป็นที่หมายปองของบรรดาสาวๆ ในวงสังคมจากทั่วโลก
"นันหมายถึง เจ้าของM.C.ที่ควบคุมnetworkการสื่อสารของอเมริกาเนี่ยนะ"
"จ้ะ"
"แล้วผู้ชายระดับนั้นจะมาสนใจแพรทำล่ะ แล้วไหนจะแม่สาวข้างๆนั่นอีก มันหมายความว่าไง แพรงงไปหมดแล้ว"
เมื่อเห็นเพื่อนสาวอาการไม่ค่อยดี นันทนาจึงรีบลากเพื่อนสาวออกจากบริเวณนั้นทันที แล้วตรงไปยังบริเวณที่รถจอดอยู่ หากแต่พอไปถึงที่รถก็ต้องตาค้างอีกรอบ เมื่อเจ้าของรถซีดาร์นสีดำสนิทซึ่งจอดรถอยู่ข้างๆBMWสีขาวของเพื่อนหล่อนคือคนที่หล่อนกับแพรดาวเพิ่งจะเห็นมาหยกๆ หากพอนันทนาตั้งสติได้ก่อนจึงรีบบอกเพื่อนสาวขึ้นรถ
"แพรขึ้นรถเถอะ" เนื่องจากเกรงสายตาคมๆของชายหนุ่มที่มองเพื่อนสาวจะบาดคอแพรดาวตายเสียก่อน
"นันแพรจะทำไงเนี่ย"
แล้วฉันจะทำยังไงดีล่ะ คราวนี้ แพรดาวได้แต่ตั้งคำถามอยู่ในใจเงียบๆ ให้เข้ากับบรรยากาศในรถที่เงียบกริบที่บัดนี้มีแต่เสียงแอร์
หากชายหนุ่มที่เพิ่งพบกับหญิงสาวที่ตนหมายปองอย่างคาดไม่ถึงได้แต่อมยิ้ม กับอากัปกริยาของหญิงสาวที่ตกใจจนหน้าซีด นี่สงสัยหล่อนคงจะรู้เรื่องนั้นแล้วเป็นแน่แท้ เร็วกว่าที่คิดแฮะ!
**************************
หลังจากปล่อยให้ความเงียบครอบคลุมอยู่นาน นันทนาจึงตัดสินใจเอ่ยขึนทำลายความเงียบงันอันแสนอึดอัดนี้เสีย ก่อนที่ภายนรถจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ"แพรมีอะไรจะคุยกับนันรึเปล่า"
ตาคู่สวยสวยของสารถีจึงตะหวัดมองมาทางคนที่นั่งข้างๆ อย่างไร้อารมย์ของสิ่งมีชีวิต
"จะทำอะไรได้ล่ะนัน แค่ตอนนี้กลับบ้านไปเจอหน้าคุณพ่อคุณแม่ จะทำหน้ายังไงดีแพรยังคิดไม่ออกเลย" พูดจบจมูกโด่งๆก็ถอนหายใจพรืดออกมา
"แต่นันว่านะตอนนี้เราคงยังพูดหรือทำอะไรไม่ได้หรอกแพร นันว่าตอนนี้แพรหาอะไรทำดีกว่า ก่อนที่แพรจะจิตตกเรื่องนายดาเนียลตายเสียก่อนดีกว่า"นันทนาบอกคนที่นั่งข้างๆอย่างเป็นห่วง"แค่ตอนนีนันคิดว่าคืนนี้แพรคงนอนไม่หลับแหงเลย เฮ้อ" ก่อนจะผ่อนลมหายจเบาๆออกมาตาม
"อะไรที่ทำให้นันคิดว่าแพรจะจิดตกหรือนอนไม่หลับล่ะ แพรยังไม่ได้บอกซักหน่อยว่าแพรกลุ้ม"แพรดาวมองเพื่อนที่คบกันมานานอย่างมีแววฉงนเล็กน้อย
"ไม่ต้องพูดออกมานันก็รู้ หน้าแพรมันบอกหมดแล้ว"ตาเรียวสวยสองคู่มองสบกับชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมกัน การกระทำที่ไม่ได้นัดหมายของทั้งสอง จึงทำให้เกิดเสียงหัวเราะแหลมๆ (ขื่นๆ)ออกมาพร้อมกัน
หลังจาส่งนันทนาที่อ๊อฟฟิตแล้ว เวลาก็ปาไปเกือบสองทุ่มแล้ว เวลาเกือบสองชั่วโมงบนท้องถนนทำให้หล่อนพอจะทำใจกับปัญหาที่เพิ่งรับรู้ไดระยะหนึ่งว่า ตราบใดที่หล่อนยังไม่ได้ยินเรื่องนีจากปากพ่อแม่ของหล่อนเอง หล่อนก็ยังคงสามารถ ใช้ชีวิตเป็นนางสาวแพรดาวคนเดิมได้อย่างแน่นอน แต่ในทางกลับกันเวลาเกือบสองชั่วโมงก็ทำให้หล่อนเกิดอาการจิตตก ปลงไม่ได้กับปัญหาที่มันอาจจะเกิดขึน แต่หลังจากเห็นรั้วใหญ่ของคฤหาสน์ที่เปรียบเสมือนรังอันแสนอบอุ่นของหล่อนแลวหล่อนก็ได้แต่พร่ำบอกกับตนเองว่าหล่อนยังไม่ได้ไปไหน หล่อนยังอยู่ที่นี่อยู่กับคนที่หล่อนรัก
ก้าวลงจากรถได้ไม่นานก็ไดยินเสียงของคุณหญิงพราวฟ้าที่เรียกหล่อนตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า พร้อมกลับสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสรอรับลูกสาวอยู่ หากแต่ตัวของหล่อนเองก็อดคิดไม่ได้ว่าภายใตสีหน้ายิ้มแย้มนั้นจะมีความรับอะไรซ่อนอยู่บ้าง
แพรดาวยกมือประนมสวัสดีผู้เป็นแม่อย่างช้าๆ ก่อนจะเดินเข้าไปสู่อ้อมกอดของมารดา ที่โอบกระชับแขนเข้ามาอย่างรักใคร่
"ว่าไงจ๊ะลูกไปเที่ยวไหนมาเอ่ยกลับค่ำเชียว แล้วเหนื่อยรึเปล่า"
แพรดาวผละออกจากอ้อมกอดของคุณหญิงพราวฟ้าช้าๆ ก่อนจะยิ้มอย่างประจบประแจง"แพรเหนื่อยมากเลยค่ะคุณแม่ไปดูหนังแล้วกช็อปปิ้ง เมื่อยไปหมดเลย"
"อะไรกันไปเดินช้อปปิ้งมาเนี่ยนะเหนื่อย ถ้าเป็นอย่างงั้นก็สมควรแล้วล่ะ"
"โถ่ กลับมาเหนื่อยๆอย่างนีไม่มีอะไรมารับขวัญท้องน้อยๆของลูกสาวคนนี้หล่อยหรือคะ มันรองเรียกอาหารฝีมือปานางแล้วค่ะ" ไม่ว่าปล่าวกดท้องที่เริ่มจะแฟบโชว์ด้วย
"อะไรกันมาถึงปุ๊บ ก็หิวปั๊บเลยหรอยัยแพร "
คุญหญิงพราวฟาส่ายหน้านอย่อนจะเดินนำเขาบ้านไป
ตัวหล่อนเองก็อยากจะลองถามออกไปว่าถ้าวันหนึ่งหล่อนไม่อยู่ให้ถามแล้วแม่จะรู้สึกอย่างไร
***มาแว้วขอรับ มาแว้วๆ อ่านเสร็จช่วยเม้มหน่อยนะขอรับ มันอาจจะเป็นสารอาหารให้ข้าน้อยมาแรงมาอัพต่อไป เจอกันเร็วๆนี้ขอรับ***
ความคิดเห็น