จอมยุทธ์หยุดเวลา

ลำดับตอนที่ #34 : สำเร็จภารกิจ

หลินเฟยกลับมายังสำนักดาบเหินฟ้าพร้อมกับรอยยิ้ม ภารกิจแรกของเขาสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เขาตรงไปยังห้องโถงใหญ่ เพื่อนำแก่นอสูรชั้นสูงของจ่าฝูงหมาป่าเขี้ยวเพลิงและสมุนไพรหายากที่เก็บได้ไปแลกเป็นแต้มสะสม

“ศิษย์น้องหลินเฟย ภารกิจแรกเป็นอย่างไรบ้าง” ศิษย์พี่ผู้ดูแลเอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ยากเท่าไหร่ขอรับ” หลินเฟยตอบพร้อมกับยื่นถุงผ้าที่บรรจุแก่นอสูรและสมุนไพร

ศิษย์พี่ตรวจสอบสิ่งของอย่างละเอียดก่อนจะพยักหน้า “ยอดเยี่ยมมากศิษย์น้อง เจ้าได้รับแต้มสะสมทั้งหมด 500 แต้ม”

หลินเฟยยิ้มอย่างพอใจ 500 แต้มถือว่าไม่เลวสำหรับภารกิจแรก

จากนั้นหลินเฟยก็มุ่งหน้าไปยังห้องฝึกฝนที่เขามักใช้เป็นสถานที่ลับสำหรับฝึกฝนวิชาหลอมสวรรค์ เขานำแร่หายากและเศษเกล็ดสีทองที่ได้มาจากงูเขียวเขาทองออกมา หลินเฟยตั้งใจจะหลอมสิ่งของเหล่านี้เป็นของขวัญให้กับเซียวเอ้อและเซียวอัน

เขาใช้เวลาทั้งคืนในการหลอมอาวุธด้วยวิชาหลอมสวรรค์ รุ่งเช้า บนโต๊ะปรากฏของขวัญสองชิ้น หนึ่งคือกระบี่สีทองอร่ามเปล่งประกายคมกริบสำหรับเซียวเอ้อ และอีกหนึ่งคือปิ่นปักผมสีทองประดับด้วยอัญมณีสีม่วงอร่ามสำหรับเซียวอัน

หลินเฟยเลือกหลอมปิ่นปักผมให้เซียวอันตามคำแนะนำของอาจารย์หลี่เสี่ยวเฟิง ที่หวังให้เซียวอันเอ็นดูหลินเฟยมากขึ้น ชายหนุ่มยิ้มอย่างภูมิใจก่อนจะนำของขวัญทั้งสองไปยังหอปัณฑูรที่พักของเซียวเอ้อและเซียวอัน

“เซียวเอ้อ ท่านอาจารย์เซียวอัน ข้ามีของขวัญมาให้” หลินเฟยกล่าวพร้อมกับยื่นกระบี่และปิ่นปักผมให้กับทั้งสอง

เซียวเอ้อรับกระบี่สีทองไปด้วยรอยยิ้ม “ขอบใจเจ้ามากหลินเฟย กระบี่เล่มนี้สวยมาก”

ข้าจะตั้งชื่่อให้กระบี่เล่มนี้ว่า “กระบี่พันอรุณ” เซียวเอ้อภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

ส่วนเซียวอันมองปิ่นปักผมสีทองม่วงสักพัก ก่อนจะรับมันไปอย่างลังเล ใบหน้าเย็นชาของเธอปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ “ขอบใจ”

“นี่หลินเฟย เจ้าคิดอะไรกับอาหญิงข้าหรือเปล่า” เซียวเอ้อแซว

“เปล่า” หลินเฟยรีบปฏิเสธ “ข้าแค่อยากเห็นท่านยิ้มบ้างเท่านั้น”

เซียวเอ้อหัวเราะเบา ๆ ส่วนเซียวอันหน้าแดงก่ำรีบเดินหนีเข้าห้องไป

หลังจากทำภารกิจแรกสำเร็จและมอบของขวัญให้เซียวเอ้อและเซียวอันแล้ว หลินเฟยก็มุ่งตรงไปยังหอตำราส่วนในทันที เขาต้องการหาวิชาใหม่ ๆ มาฝึกฝนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง

ภายในหอตำราส่วนในมีตำราวิชามากมายเรียงรายอยู่บนชั้นวางหนังสือสูงจนสุดลูกหูลูกตา หลินเฟยใช้เวลาหลายชั่วโมงในการค้นหาตำราที่เหมาะสมกับตัวเอง ในที่สุดสายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับตำราสองเล่ม

เล่มแรกชื่อว่า “เคล็ดวิชากายาอสูร” เป็นทักษะยุทธ์ขั้นกลางที่เน้นการฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่ง คล่องแคล่ว ยืดหยุ่น และเสริมสัญชาตญาณให้เฉียบคมดุจสัตว์อสูร

เล่มที่สองชื่อว่า “ฝ่ามือเพลิง” เป็นทักษะยุทธ์ขั้นกลางที่สามารถปล่อยคลื่นพลังเพลิงระยะใกล้ เหมาะสำหรับการต่อสู้ระยะประชิดและใช้พลังปราณไม่มาก

“นี่แหละวิชาที่ข้าต้องการ!” หลินเฟยกล่าวอย่างตื่นเต้นก่อนจะหยิบตำราทั้งสองเล่มไปยื่นให้ศิษย์พี่ผู้ดูแลเพื่อแลกกับแต้มสะสม

โชคดีที่แต้มสะสมของเขาเหลือมากพอที่จะแลกตำราวิชาทั้งสองเล่มได้ หลินเฟยรีบกลับไปยังห้องพักและเริ่มต้นศึกษาวิชาใหม่ทันที เขารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้วิชาที่ทรงพลังยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ บนเส้นทางแห่งยุทธภพ!