คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : ป่าไร้เสียง
ป่าไร้เสียงคือผืนป่าทึบขนาดมหึมา ต้นไม้สูงเสียดฟ้าบดบังแสงอาทิตย์จนพื้นเบื้องล่างมืดมิด บรรยากาศภายในป่าเงียบสงัด วังเวง น่าขนลุก มีเพียงเสียงลมพัดผ่านใบไม้ เสียงสัตว์ป่าร้องเป็นระยะ และเสียงฝีเท้าของหลินเฟย ที่กำลังย่องอย่างระมัดระวัง
ป่าแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์อสูรมากมาย ทั้งอ่อนแอและแข็งแกร่ง ลือกันว่ามีสมบัติและสมุนไพรหายากซ่อนอยู่มากมาย แม้แต่ใจกลางป่า ยังมีตำนานเล่าขานถึงถ้ำสมบัติล้ำค่า แต่ยังไม่เคยมีผู้ใดฝ่าฟันเข้าไปถึง
หลินเฟยเดินทางมาถึงปากทางเข้าป่าไร้เสียง เขาสูดลมหายใจเข้าลึก
หลินเฟยพึมพำกับตัวเอง “นี่สินะ สมรภูมิแห่งแรกของข้า” เขาก้าวเท้าเข้าสู่ผืนป่าต้องห้าม
ทันใดนั้นเอง
“เฮือก!”
หลินเฟยสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อสัมผัสได้ถึงกลุ่มคน ที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกล เขาแอบใช้พลังปราณตรวจสอบ
“ระดับนักรบขั้นต้นและกลาง” หลินเฟยขมวดคิ้ว “พวกมันเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่”
ทันใดนั้น เขาก็นึกถึงคำพูดของหลิวอี้หลง
หลินเฟย “พวกมันต้องมาเพื่อสังหารข้าแน่ๆ!”
หลินเฟยตัดสินใจ แอบซ่อนตัวเข้าไปในพุ่มไม้ เงียบเชียบ รอคอยโอกาส เขาต้องคิดแผนรับมือ กับ สถานการณ์ นี้!
หลินเฟยนั่งนิ่งอยู่ในพุ่มไม้ หัวใจเต้นแรง ความกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามา แต่เขาก็พยายามควบคุมสติ ไม่ให้หวั่นไหว
หลินเฟย “ข้าจะไม่ยอมแพ้ ข้าจะต้องรอดกลับไปให้ได้”
เขามองไปรอบๆ สายตาเหลือบไปเห็นรอยเท้าสัตว์
หลินเฟย “หมาเขี้ยวเพลิง! ใช่แล้ว! นี่คือโอกาสของข้า”
แผนการหนึ่งผุดขึ้นในหัว เขาจะวางกับดักล่อศัตรู ไปหาฝูงหมาป่าเขี้ยวเพลิง แล้วอาศัยจังหวะนั้นตลบหลัง!
หลินเฟยเริ่มลงมือทันที เขาวางกับดักตามเส้นทางที่พวกโจรจะต้องผ่าน แล้วใช้สมุนไพรพิเศษล่อหมาป่าเขี้ยวเพลิงให้มารวมตัวกัน ใกล้ๆ กับดัก
ทุกอย่างพร้อมแล้ว…
หลินเฟยหลบเข้าไปในที่กำบัง หัวใจเต้นระทึก มือเย็นเฉียบ ความตื่นเต้นและความกังวล ทำให้เขาแทบหยุดหายใจ เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาทุกที… หลินเฟยเตรียมพร้อม
หลินเฟยพึมพำในลำคอ “มาแล้ว!”
เงาตะคุ่มๆ ของกลุ่มคนปรากฏขึ้น พวกมันเดินอย่างระมัดระวัง สายตากวาดมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง
หัวหน้ากลุ่ม “ระวังตัวด้วย! ที่นี่มันแปลกๆ ข้ารู้สึกเหมือนกำลังถูกจ้องมอง”
ลูกน้อง “อย่าคิดมากน่า หัวหน้า ที่นี่มันป่า ก็ต้องมีสัตว์ป่า เป็นธรรมดา”
“อ๊าก!”
ทันใดนั้น เสียงร้องอย่างเจ็บปวดก็ดังลั่น ร่างของลูกน้องคนหนึ่งกระเด็นไปไกล
หัวหน้ากลุ่ม “อะไรกัน! ใครทำ!”
“กรรรรร!”
เสียงคำราม ดังก้องกังวาน ฝูงหมาป่าเขี้ยวเพลิงปรากฏตัวขึ้น ดวงตาสีแดงก่ำจ้องมองพวกมันด้วยความหิวกระหาย
หัวหน้ากลุ่มตะโกนเสียงหลง “แย่แล้ว! หนีเร็ว!”
หลินเฟยมองดูเหตุการณ์อยู่ในที่กำบัง
หลินเฟยยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “แผนของข้าได้ผล!”
เหล่าโจรวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต แต่หมาป่าเขี้ยวเพลิงรวดเร็วกว่ามาก พวกมันไล่กัดอย่างไม่ลดละ
“ช่วยด้วย!” เสียงร้องขอความช่วยเหลืองดังขึ้น เมื่อลูกน้องคนหนึ่งถูกหมาป่าตะปบล้มลง
ลูกน้อง “หัวหน้า! ช่วยข้าด้วย!”
แต่หัวหน้ากลุ่มกลับไม่สนใจ เขาวิ่งหนีเอาตัวรอดโดยไม่หันกลับไปมอง
ลูกน้องตะโกนด้วยความโกรธแค้น “ไอ้สารเลว!” ก่อนที่จะถูกฝูงหมาป่ารุมทึ้งจนสิ้นใจ
หลินเฟยรอจนกระทั่งฝูงหมาป่าสลายตัวไป จึงค่อยเดินออกมา
หลินเฟยพึมพำ พลางสะกดรอยตามหัวหน้ากลุ่มและลูกน้องอีกคนที่เหลืออยู่ “เหลือแค่สอง”
พวกมันวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต จนมาถึงหน้าผาสูงชัน
หัวหน้ากลุ่มร้องอย่างสิ้นหวัง “ทางตัน!”
“กรรรรร!” เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง ฝูงหมาป่าเขี้ยวเพลิงตามมาทัน
ลูกน้องร้องเสียงสั่น “ตายแน่!”
แต่ทว่า… หัวหน้ากลุ่มกลับยิ้ม
หัวหน้ากลุ่มพูดพลางชี้ไปยังปากถ้ำที่ซ่อนอยู่หลังม่านน้ำตก “ไม่หรอก ดูนั่นสิ”
ลูกน้องเบิกตากว้าง “ถ้ำสมบัติ!”
หัวหน้ากลุ่มหัวเราะชอบใจ “ใช่แล้ว พวกเรารอดแล้ว!” ก่อนที่ทั้งคู่จะรีบวิ่งเข้าไปในถ้ำ
หลินเฟยมองดูอยู่ห่างๆ
หลินเฟยส่ายหน้า “โง่จริงๆ”
หลินเฟยรอจนพวกมันเข้าไปในถ้ำ จึงค่อยเดินตามไป
หลินเฟยพึมพำกับตัวเอง พลางรวบรวมพลังปราณ “จะว่าไป… ข้าก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าข้างในนั้นมีอะไร”
หลินเฟย “สายลมกรรโชก!”
กระบี่ไผ่วิปลาสในมือเปล่งประกายสีเงิน
ฟ้าว! กระบี่พุ่งเข้าใส่หัวหน้ากลุ่มที่กำลังตะลึงกับภาพเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว
ผัวะ! เสียงกระโหลกแตกดังสนั่น ร่างของหัวหน้ากลุ่มล้มลงสิ้นใจคาที่
หลินเฟยหันไปมองลูกน้องคนสุดท้ายที่กำลังตัวสั่นด้วยความกลัว “เหลือแค่เจ้าแล้ว”
ลูกน้องก้มกราบร้องขอชีวิต “
ความคิดเห็น