จอมยุทธ์หยุดเวลา

ลำดับตอนที่ #28 : ระดับพลังปราณ

บ่ายวันหนึ่ง หลังจากฝึกฝนวิชาตัวเบากับเหล่าศิษย์คนอื่นเสร็จสิ้น หลินเฟยรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาเบาขึ้น เคลื่อนไหวคล่องแคล่วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้จะยังไม่สามารถล่องลอยอยู่บนอากาศได้อย่างย่างก้าวเมฆา แต่นี่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี

เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ บ่งบอกว่าเวลาล่วงเลยมาจนถึงยามเย็น ครบกำหนดหนึ่งเดือนที่อาจารย์หลี่เสี่ยวเฟิงมอบหมายให้เขาหลอมรวมแก่นลมปราณจิตพอดี

หลินเฟยรีบเดินทางไปยังหอยุคันตวาตทันที

ภายในห้องโถง หลี่เสี่ยวเฟิงนั่งอยู่บนเบาะรอง หลับตาสงบนิ่ง ราวกับรู้ว่าหลินเฟยกำลังมาถึง

“อาจารย์หลี่ ข้าหลินเฟย มาขอเข้าพบ” หลินเฟย คุกเข่าลงคารวะอย่างนอบน้อม

หลี่เสี่ยวเฟิงลืมตาขึ้นช้าๆ “มาแล้วรึ หลินเฟย”

“ข้าหลอมรวมแก่นลมปราณจิตสำเร็จแล้วขอรับ” หลินเฟยกล่าว พร้อมกับนำกล่องไม้ที่บรรจุแก่นลมปราณจิต มอบให้กับอาจารย์

หลี่เสี่ยวเฟิงรับกล่องไม้มาเปิดดู “ดีมาก หลินเฟย” เขาพยักหน้าด้วยความพอใจ “ทีแรกข้าแค่ลองใจเจ้าเท่านั้นแหละ ไม่คิดว่าเจ้าจะทำได้จริง และยังทำได้รวดเร็วกว่าที่ข้าคาดไว้มาก”

“ขอบพระคุณขอรับอาจารย์” หลินเฟยกล่าวอย่างตื่นเต้น ดีใจที่สามารถทำภารกิจสำเร็จ

“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะอธิบายเรื่องระดับพลังปราณให้เจ้าฟังก็แล้วกัน” หลี่เสี่ยวเฟิง กล่าว

“ในยุทธภพ มีระดับพลังอยู่ด้วยกันหกระดับ ได้แก่ ระดับผู้ฝึกตน นักรบ ปรมาจารย์ เซียน หลอมรวม และเทพ”

“แต่ละระดับ จะมีขั้นต้น กลาง และสูง”

“ตอนนี้เจ้า อยู่ในระดับผู้ฝึกตนขั้นสูง เกือบจะก้าวเข้าสู่ระดับนักรบขั้นต้นแล้ว”

“เมื่อใดที่เจ้า สามารถควบคุมพลังปราณ และใช้ทักษะการต่อสู้ได้อย่างชำนาญ เจ้าก็จะก้าวสู่ระดับนักรบอย่างเต็มตัว”

“ส่วนระดับปรมาจารย์นั้น นับว่าเป็นระดับที่ ผู้ฝึกยุทธ์ ส่วนใหญ่มุ่งหวัง เพราะเมื่อถึงระดับปรมาจารย์ ร่างกาย และพลังปราณ จะแข็งแกร่งขึ้นมาก สามารถใช้ทักษะขั้นสูง และมีพลังทำลายล้างสูง”

“ที่สำคัญ เมื่อเจ้าก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ขั้นต้นแล้ว เจ้าจะต้องเลือกว่าจะฝึกฝนสายใด ระหว่าง สายกายา กับสายลมปราณจิต”

“สายกายา จะเน้นการฝึกฝนร่างกาย ให้แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า ทนทาน ต่อการโจมตี เคลื่อนไหวรวดเร็ว ว่องไว สามารถใช้อาวุธได้อย่างคล่องแคล่ว และทรงพลัง”

“ส่วนสายลมปราณจิต จะเน้นการฝึกฝนพลังปราณภายใน ให้บริสุทธิ์ และแข็งแกร่ง สามารถใช้ทักษะโจมตีระยะไกลได้ ควบคุมพลังธาตุได้ และมีพลังป้องกันสูง”

“การเลือกสายการฝึกฝนนั้น ขึ้นอยู่กับความถนัด และแก่นลมปราณจิต หรือ แก่นรากฐานกายา ของแต่ละคน หากเป็นไปได้ ควรเลือกสายที่สอดคล้องกับแก่นที่ระดับสูงกว่า”

หลี่เสี่ยวเฟิง เว้นวรรคเล็กน้อย ก่อนจะยกตัวอย่าง “เช่นข้า เป็นปรมาจารย์ขั้นกลาง สายกายาพลังธาตุพายุเพลิง เพราะแก่นรากฐานกายาของข้าแข็งแกร่งกว่า และมีพลังธาตุที่พิเศษกว่าแก่นลมปราณจิต”

“ส่วนระดับเซียน หลอมรวม และเทพ นั้น เป็นระดับที่อยู่สูงส่ง กว่านั้นมาก เจ้ายังไม่ต้องไปสนใจมันในตอนนี้”

“ที่สำคัญคือ หลังจากระดับเซียนขั้นสูงแล้ว หากแก่นใดแก่นหนึ่งได้บรรลุระดับ 6  (เช่น แก่นลมปราณจิตระดับศักดิ์สิทธิ์ แต่แก่นรากฐานกายายังอยู่ระดับวัชระ) ก็สามารถไประดับหลอมรวมขั้นต้น ได้”

หลินเฟย ตั้งใจฟัง ด้วยความตื่นเต้น เขาเพิ่งรู้ว่า เส้นทางของการฝึกยุทธ์ นั้น ยังอีกยาวไกล

หลินเฟย ตั้งใจฟังคำอธิบายของอาจารย์อย่างตั้งใจ ดวงตาเป็นประกาย ตื่นเต้นกับเส้นทางการฝึกยุทธ์ที่รออยู่เบื้องหน้า

“ขอบพระคุณสำหรับคำชี้แนะขอรับ อาจารย์” หลินเฟย โค้งคำนับอย่างนอบน้อม

หลี่เสี่ยวเฟิง พยักหน้าเล็กน้อย “เอาล่ะ หลินเฟย” เขากล่าวพลางล้วงเข้าไปในอกเสื้อ หยิบกล่องไม้ขนาดเล็กออกมาอีกกล่อง

“นี่คือ?” หลินเฟย มองกล่องไม้อย่างสงสัย

“นี่คือตำราทักษะยุทธ์ ที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้า” หลี่เสี่ยวเฟิง กล่าวพร้อมกับยื่นกล่องไม้ให้หลินเฟย

หลินเฟยรับกล่องไม้มาด้วยความตื่นเต้น เปิดออกดูอย่างรวดเร็ว ภายในพบกับม้วนกระดาษเก่าแก่ บรรจุอยู่

“ตำราทักษะยุทธ์ขั้นตำนาน!” หลินเฟย อุทานออกมาอย่างตื่นเต้น ไม่คิดว่าอาจารย์จะมอบสิ่งล้ำค่าเช่นนี้ให้

“อ่านชื่อออกมาซิ” หลี่เสี่ยวเฟิง

หลินเฟย ค่อยๆ คลี่ม้วนกระดาษออกอย่างระมัดระวัง ปรากฏลายมือหวัดๆ แต่แฝงไว้ด้วยพลัง เขียนเอาไว้ว่า...

“เคล็ดวิชาเคลื่อนสวรรค์” หลินเฟย อ่านออกเสียง

“ถูกต้อง เคล็ดวิชาเคลื่อนสวรรค์ เป็นทักษะยุทธ์ที่หายสาบสูญไปนาน ข้าบังเอิญได้มันมาเมื่อหลายปีก่อน” หลี่เสี่ยวเฟิง อธิบาย

“เคล็ดวิชานี้ จะช่วยเสริมพละกำลัง และพลังลมปราณของเจ้าให้ไร้ขีดจำกัด ดุจดั่งสัตว์อสูรไต้ฝุ่นในตำนาน!”

“สัตว์อสูรไต้ฝุ่น!” หลินเฟย เบิกตากว้าง

“ใช่แล้ว ในอดีต เมื่อหมื่นปีก่อน เจ้าอสูรไต้ฝุ่น เป็นที่เลื่องลือ ในเรื่อง พลัง และความโหดร้าย”

“มันเป็นงูร้อยหัว ระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ พละกำลังมหาศาล เคยบุกถล่มแดนเซียนมาแล้วครั้งหนึ่ง”

“แม้แต้เซียน ยังต้องหวั่นเกรง!”

“ผู้คนในยุคนั้น จึงได้คิดค้นทักษะยุทธ์ โดยเลียนแบบ พลังของมันขึ้นมา และเรียกขานกันว่า เคล็ดวิชาเคลื่อนสวรรค์"

“เคล็ดวิชาเคลื่อนสวรรค์ จะประสานพลังลมปราณ เข้ากับพลังธรรมชาติ ทำให้ผู้ใช้ มีพลัง และความเร็ว เพิ่มขึ้นหลายเท่า”

“ยิ่งฝึกฝน ก็จะยิ่งแข็งแกร่ง ไร้ขีดจำกัด!”

หลินเฟย รู้สึกตื่นเต้นอย่างที่สุด เขาไม่คาดคิดว่า ตนเอง จะมีโอกาส ได้ฝึกฝนทักษะยุทธ์ ที่ล้ำค่าเช่นนี้!

“ข้าคิดว่า เคล็ดวิชานี้ เข้ากันได้ดีกับเพลงกระบี่สายลมดอกหญ้า ที่เจ้าคิดค้นขึ้นมา” หลี่เสี่ยวเฟิง กล่าวเสริม

“ขอบพระคุณขอรับ อาจารย์” หลินเฟย โค้งคำนับ ด้วยความซาบซึ้งใจ

“แต่เจ้าอย่าเพิ่งดีใจไป สิ่งที่ข้ามอบให้เจ้า เป็นเพียงพื้นฐานเท่านั้น การฝึกฝนทักษะยุทธ์ขั้นสูง นั้น ต้องอาศัยพรสวรรค์ ความพยายาม และเวลา”

“จงนำมันไปฝึกฝน แล้วกลับมาหาข้า เมื่อเจ้าก้าวสู่ระดับนักรบขั้นต้นแล้ว” หลี่เสี่ยวเฟิง กล่าว

“ขอรับ อาจารย์” หลินเฟย รับคำอย่างหนักแน่น ก่อนจะโค้งคำนับลา แล้วเดินออกจากหอยุคันตวาตไป

ภารกิจครั้งใหม่ รอเขาอยู่เบื้องหน้า!

แก้ระดับพลังใหม่