NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Kimetsu No Yaiba] A Piece of The Sun - เสี้ยวแสงแววตะวัน (Kyoujuro x OC)

    ลำดับตอนที่ #5 : Special Piece: Winter with you (Prompt Your Writing 8th)

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 65


    Prompt Your Writing 8th : Winter with you

    KW: ประตู, น้ำแข็ง, ละเมอ

     

    ปกติฮิมาวาริเฉยชากับฤดูหนาว

    ไม่ใช่ว่าไม่ชอบไปทั้งหมดซะทีเดียว แต่แค่รู้สึกว่าตัวเองจะไม่สบายทุกทีที่ร่างกายออกมาสัมผัสอากาศเย็น ๆ ยิ่งลมเย็นพัดมาปะทะร่างเธอก็รู้สึกถึงสัญญาณอันตรายที่มาพร้อมกับอากาศ ไข้หวัดที่พร้อมจะจู่โจมร่างกายเธอทุกเมื่อเชื่อวันไม่ใช่เรื่องตลกเลยสักนิด นี่คงเป็นสิ่งแรกและสิ่งเดียวที่เธอเกลียดที่สุด

    ทว่าส่วนที่เธอชอบก็มีอยู่บ้าง อย่างแรกคือหิมะ ฮิมาวาริชอบมองเกล็ดหิมะสีขาว ๆ ที่โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า ยิ่งเวลาที่มันตกลงมาจนพื้นทั้งหมดเป็นสีขาวโพลน เธอก็อดไม่ได้ที่จะออกไปประทับรอยเท้าบนพื้นเย็นนุ่ม ปั้นตุ๊กตาหิมะ หรือปั้นให้มันเป็นลูกกลม ๆ แล้วแข่งเขวี้ยงมันกับพ่อว่าใครจะปาได้ไกลมากที่สุด

    น่าเสียดายที่พ่อของเธอไม่อยู่แล้ว ถ้าท่านยังอยู่ก็คงชวนเธอออกไปเล่นด้วยกันข้างนอก

    ถึงจะเศร้านิดหน่อย แต่เด็กสาวก็ยังมีความสุขเวลาที่มองคนอื่น ๆ เล่นปาหิมะด้วยกัน รอยยิ้มบาง ๆ มักจะผุดขึ้นมาบนใบหน้าเสมอยามที่นึกถึงความทรงจำเมื่อวัยเยาว์

    สิ่งที่ฮิมาวาริชอบในฤดูหนาวอีกอย่างคืองานเทศกาล คริสต์มาสเป็นเทศกาลที่เธอโปรดปราน เด็กสาวชอบบรรยากาศครึกครื้นของผู้คนและทุกอย่างรอบตัวเมื่อเข้าสู่เดือนธันวาคม แสงไฟประดับตกแต่งไปทั่วทุกที่ ต้นสนเริ่มวางเรียงรายตามหน้าร้านค้า ประดับประดาด้วยของตกแต่งสะดุดตา บางบ้านก็มีพวงฮอลลี่ติดกระดิ่งแขวนที่หน้าประตูบ้าน หรือเวลาเดินไปในย่านการค้าก็จะได้ยินเสียงเพลงวันคริสต์มาสเปิดคลอเบา ๆ สร้างบรรยากาศอยู่เสมอ

    ถ้าเอาทั้งสองอย่างมารวมกันก็ทำให้เธอรู้สึกดีอยู่บ้าง แต่ดูเหมือนฤดูหนาวของเธอในปีนี้คงจะแย่ที่สุดในรอบสิบเก้าปี

    ที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน ฮิมาวาริกำลังนั่งมองพื้นหิมะขาวโพลนในสวนหน้าบ้าน หน้าต่างหม่นมัวเพราะอากาศข้างนอกหนาวจนอุณหภูมิติดลบ น้ำแข็งเริ่มเกาะกระจกและฝ้าขึ้นจนเธออดไม่ได้ที่จะใช้นิ้ววาดรูปเล่นแก้เบื่อ

    หลายวันมานี้เธอไม่สบายเพราะอยู่ข้างนอกนานเกินไป พยากรณ์อากาศเตือนว่าปีนี้ญี่ปุ่นจะหนาวกว่าปีไหน ๆ แต่ฮิมาวาริกลับไม่ได้สนใจเพราะต้องออกไปทำงานพิเศษ และเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเมื่อเธอต้องออกไปยืนแจกใบปลิวหน้าร้านขายขนมปังเปิดใหม่ที่ต้องการโปรโมทคนเข้าร้าน

    แน่นอนว่าเพราะเงินดีจนยากจะปฏิเสธ จำนวนเงินที่มากกว่าที่เคยได้รับจากการทำงานแค่วันเดียวดึงดูดความสนใจเธอไปหมดสิ้น รีบพุ่งตัวเข้าไปสมัครอย่างไม่รีรอ และยืนอยู่ข้างนอกนานหลายชั่วโมงจนสุดท้ายก็ได้รับการตอบแทนที่แสนจะมีคุณค่าด้วยการไข้ขึ้นไปสามวัน ทำให้ต้องนอนพักผ่อนอยู่บ้านอย่างรำคาญร่างกายที่ไม่หายได้เร็วดังใจ

    ร่างเล็กนั่งถอนหายใจเป็นรอบที่ห้าของวัน เธอไม่ชอบฤดูหนาวก็เพราะป่วยง่าย ฮิมาวาริมองตัวเองที่สวมเสื้อกันหนาวตัวโปรดแล้วคลุมด้วยผ้าห่มหนาเตอะจนเหมือนลูกบอลกลม ๆ ที่กลิ้งไปมาในบ้าน ซึ่งทั้งหมดนี่เป็นฝีมือของเคียวจูโร่ทั้งสิ้น

    เพราะการดูแลอย่างเอาใจใส่ของเขาทำให้เธอหายไข้ไวกว่าปกติ แต่ชายหนุ่มก็ไม่นิ่งนอนใจ กลัวว่าจะยังหายไม่สนิทดีจึงให้เธอสวมเสื้อผ้าหนา ๆ ให้ร่างกายอบอุ่นเข้าไว้ พร้อมกับกำชับว่าเธอไม่ควรออกไปไหนจนกว่าจะหายดีเป็นปลิดทิ้งเท่านั้น ฮิมาวาริจึงได้นั่งแกร่วอยู่ในบ้านมาเกือบทั้งอาทิตย์

    ว่าแต่...เขาหายไปไหนกันนะ

    ตึง! ตึง! ตึง!

    เสียงวิ่งลงบันไดบ้านดังขึ้นราวกับจะรู้ว่าเธอกำลังหาตัวเขาอยู่ ใบหน้าคมเข้มโผล่เข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ๆ แบบที่เขาชอบทำเป็นประจำ จากนั้นจึงเดินมาหาฮิมาวาริที่นั่งขดตัวกลมอยู่ริมหน้าต่างพร้อมกับพูดในสิ่งที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากเขา

    “ฮิมะ ไปเดินเล่นข้างนอกกันเถอะ!”

    “คะ?” ฮิมาวาริทวนอย่างไม่เชื่อหู คิดว่าตัวเองละเมอตื่นขึ้นมานั่งฟังเขาพูดทั้งที่รู้ว่านี่คือความจริง “ไปข้างนอกเหรอคะ”

    “อื้ม! อากาศเริ่มอุ่นขึ้นมานิดนึงแล้ว แถมเจ้าก็หายสนิทแล้วด้วย ไปเดินเล่นกันเถอะ!”

    ไม่รอช้าเคียวจูโร่ดึงเธอให้ลุกขึ้น ฝ่ามือใหญ่ดันหลังให้เธอเดินหน้าไปที่บันได ฮิมาวาริมองเขาอย่างงงงวย เพราะหลายวันที่ผ่านมาเพื่อนร่วมชายคาคนนี้คอยแต่กำชับให้เธออยู่แต่ในบ้านทั้งที่เธอเบื่อใจจะขาด แต่พอมาวันนี้กลับชวนเธอออกไปข้างนอกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยซะงั้น ฮิมาวาริได้แต่อมยิ้มกับท่าทางตื่นเต้นของเสาหลักหนุ่มที่ยืนรอเธออยู่หน้าประตู จากนั้นก็รีบวิ่งขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

     

     

    อากาศข้างนอกอุ่นขึ้นมาไม่กี่องศาอย่างที่เคียวจูโร่บอกไว้จริง ๆ แต่สำหรับฮิมาวารินี่ก็เรียกว่าหนาวมากอยู่ดี

    เด็กสาวกระชับเสื้อโค้ตตัวเก่งของเธอแน่น กอดตัวเองไว้เพราะรู้สึกว่าร่างกายเริ่มสั่น มือแทบจะแข็งจนชา โชคดีที่เธอเอาถุงมือติดมาด้วย

    ทุกย่างก้าวของเธอกับชายหนุ่มนั้นปกคลุมไปด้วยหิมะ ขนาดเท้าของคนสองคนต่างกันลิบแต่กลับทำให้ฮิมาวาริยิ้มทุกครั้งเมื่อหันกลับไปมอง ลานกว้างใกล้บ้านมีหิมะตกลงมาหนาหลายนิ้ว เคียวจูโร่พาเธอเดินไปตรงนั้น สูดอากาศเย็นสบายเข้าปอด ไอสีขาวพวยพุ่งออกมายามที่พูดคุยกัน

    “แปลกจังนะคะ หลายวันก่อนฉันขอคุณออกมาข้างนอกทั้งที่ดีขึ้นแล้ว แต่คุณกลับไม่ยอม พอมาวันนี้ดันชวนมาซะงั้น เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”

    ฮิมาวาริถามขึ้นเมื่อเดินมาได้ระยะหนึ่ง ดวงตาสีเขียวมรกตมองชายหนุ่มอย่างอยากรู้ เคียวจูโร่ยิ้มกว้าง

    “ไม่มีอะไรพิเศษหรอก แค่คิดว่าอยู่บ้านตลอดหลายวันคงเบื่อแย่ ก็เลยพาออกมาดูหิมะน่ะ”

    เธอพยักหน้ารับรู้ มุมปากสองข้างยกยิ้มเล็กน้อย “ขอบคุณนะคะ ได้ออกมาแบบนี้บ้างรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย”

    “ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเจ้าชอบข้าก็ดีใจนะ!”

    เคียวจูโร่ก้มไปรวบหิมะขึ้นมาในมือไว้จำนวนหนึ่ง ค่อย ๆ ปั้นให้เป็นลูกกลม ๆ จากนั้นก็เขวี้ยงมันออกไปออกสุดแรง บอลหิมะสีขาวพุ่งออกไปไกลเท่าที่เจ้าของใส่แรงลงไป ก่อนจะตกลงบนพื้นสีขาวตามแรงโน้มถ่วง

    พอเห็นเขาทำแบบนั้นก็ทำให้นึกถึงตอนเด็ก ๆ ที่เธอชอบเล่นแข่งปาหิมะกับพ่อ ฮิมาวาริทำตามบ้าง เอาหิมะขึ้นมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วเขวี้ยงออกไปแข่งกับเคียวจูโร่ แน่นอนว่าบอลหิมะของเขาไปไกลกว่าเธอลิบ

    ปึก!

    ระหว่างที่ฮิมาวาริกำลังจะเขวี้ยงบอลหิมะที่กำลังตั้งใจปั้นอยู่นั้น จู่ ๆ ก้อนหิมะกลมสีขาวก็พุ่งเข้ามาปะทะร่าง เธอหันไปมองต้นทางก็พบว่าเป็นฝีมือของคนที่ชวนเธอออกมาเดินเล่น เคียวจูโร่ยิ้มให้แล้วเงื้อมือทำท่าจะปาบอลหิมะใส่เธออีก ฮิมาวาริจึงชิงเขวี้ยงมันไปหาเขาก่อน

    “เคียวจูโร่ซังเล่นทีเผลอเหรอคะ!”

    “เปล่านะ!” เขาตีหน้าซื่อ มุมปากยกยิ้ม “ข้าแค่คิดว่าเล่นแบบนี้สนุกกว่าเยอะเลย ฮ่า ฮ่า!”

    เสียงหัวเราะชอบใจดังขึ้นจากชายหนุ่ม ฮิมาวาริไม่ได้เห็นเขาหัวเราะอย่างมีความสุขแบบนี้บ่อยเท่าไรนัก บางครั้งการได้เป็นแค่ ‘เร็นโกคุ เคียวจูโร่’ ชายที่ภายนอกดูเหมือนคนอายุยี่สิบปีกับรอยยิ้มที่สมวัยจากที่เห็นช่างเข้ากันกับเขาเสียเหลือเกิน

    ผู้ชายคนนี้เหมาะกับรอยยิ้มกว้าง ๆ มากที่สุดเลย

    สองหนุ่มสาวเล่นปาหิมะใส่กันอยู่อย่างนั้น ส่วนใหญ่เป็นเคียวจูโร่ที่สนุกมากกว่า เขาหัวเราะอย่างสนุกสนานเวลาที่ได้ปาหิมะใส่เธอ ฮิมาวาริเองก็พยายามเอาคืนเขากลับด้วยเช่นกัน พอเล่นไปนาน ๆ จนเริ่มเหนื่อยเข้าชายหนุ่มก็ชวนเธอไปปั้นตุ๊กตาหิมะแทน

    เวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมงแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงแต่ท้องฟ้ายังคงเป็นสีเทาหม่นเพราะเป็นช่วงฤดูหนาวและอากาศเย็น ฮิมาวาริจึงชวนเขาไปหาที่อุ่น ๆ นั่งพักและหาอะไรทานเป็นมื้อกลางวัน

    เคียวจูโร่เดินตามเธอไปอย่างว่าง่าย หลังจากปั้นหิมะมาหลายชั่วโมงด้วยมือเปล่าทำให้มือเริ่มซีด เขาถูมือสองข้างไปมาสลับกับเป่าให้มันอุ่นขึ้น ฮิมาวาริที่เดินนำหน้าอยู่หันกลับไปหาเขา พอเห็นท่าทีแปลก ๆ จึงอดถามไม่ได้

    “เป็นอะไรไปคะ เคียวจูโร่ซัง”

    “ฮื้อ ไม่มีอะไรหรอก! แค่เย็นมือนิดหน่อย ว่าแต่จะกินอะไรดีล่ะ”

    ร่างบางไม่ได้ตอบคำถามเขา แต่เดินมาหาแล้วเอื้อมไปจับมือเขาไว้ สองมือหนาที่มีร่องรอยจากการฝึกหวดดาบและออกล่าอสูรนั้นซีดจนแทบเป็นกระดาษขาว ฮิมาวาริกุมมือสองข้างของเขาไว้แน่น หวังว่าจะช่วยให้มันอุ่นขึ้นด้วยถุงมือที่เธอสวมใส่

    “คุณคอยแต่บอกว่าให้ฉันทำตัวให้อุ่น แต่ทำไมถึงไม่บอกตัวเองบ้างล่ะคะ”

    เคียวจูโร่ที่ไม่คาดคิดว่าคนตัวเล็กจะมาจับมือเขาแบบนี้ได้แต่ยืนเกร็งจนทำอะไรไม่ถูก แต่ปากก็ละล่ำละลักพูดออกไป

    “ขะ...ข้าไม่เป็นไร เจ้าสิต้องระวัง เพิ่งหายไข้แต่ก็ต้องระวังตัวไว้นะ”

    ฮิมาวาริสั่นหัว

    “ฉันหายดีแล้วค่ะ แล้วก็แข็งแรงมาก ๆ ด้วย เพราะว่ามีคนคอยดูแลไงคะ แต่เจ้าตัวดันไม่ห่วงตัวเองซะนี่” เธอบ่นแม้จะยิ้มอยู่ก็ตามที “ดูแลตัวเองบ้างสิคะ ใส่ใจตัวเองให้เหมือนกันที่เป็นห่วงฉันบ้างเถอะค่ะ”

    ไม่ว่าเปล่าฮิมาวาริก็ถอดผ้าพันคอไหมพรมสีเขียวเข้มผืนโปรดของตัวเองไปพันรอบคอเขา เคียวจูโร่ตัวสูง ถ้าเทียบกันแล้วก็สูงห่างจากเธอพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงขนาดต้องให้เขาก้มลงมาเยอะจนเมื่อยคอ ร่างสูงโน้มตัวลงมาเล็กน้อยเพื่อให้ฮิมาวาริพันผ้าได้ถนัด

    “เรียบร้อย~ อุ่นขึ้นไหมคะ”

    “อื้ม! อุ่นขึ้นมานิดนึงแล้วล่ะ ขอบคุณนะ”

    เคียวจูโร่ตอบเสียงใส ทว่าฮิมาวาริหน้าหงอลง

    “นิดเดียวเองเหรอคะ”

    “ไม่เป็นไรหรอกฮิมะ” พอเห็นคนตัวเล็กเริ่มกังวลเขาก็รีบพูดแก้พัลวัน “เดี๋ยวไปหาที่อุ่น ๆ ข้าก็ดีขึ้นเอง!”

    แต่ดูเหมือนเจ้าของผ้าพันคอไหมพรมจะไม่คิดแบบนั้น เธอรีบบอกเขาทันที

    “ก้มลงมาค่ะ”

    “หืม?”

    ความสงสัยวนอยู่ในหัวเคียวจูโร่ตอนได้ยินเธอสั่ง แต่ก็ก้มลงไปหาเธออีกครั้งอย่างว่าง่าย ฮิมาวาริแก้ผ้าพันคอที่เพิ่งพันให้เขาออก จากนั้นก็เริ่มบรรจงทำใหม่ในแบบที่คิดว่าจะทำให้อุ่นที่สุด เคียวจูโร่ไม่ค่อยเข้าใจเธอเท่าไหร่นักว่าทำไมจะต้องกังวลว่าเขาจะหนาวหรือไม่สบาย

    เขาแข็งแรงขนาดนี้ นาน ๆ ทีจะเจ็บป่วย นางคิดมากเกินไปแล้ว!

    ระหว่างที่กำลังโต้เถียงกับความคิดตัวเองในใจ จู่ ๆ มือเล็กที่มัวแต่วุ่นวายกับผ้าไหมพรมเจ้าปัญหาก็รั้งคอชายหนุ่มให้ใกล้เข้ามาอีก เคียวจูโร่ที่ไม่ทันตั้งตัวเลยโน้มไปตามแรงของร่างบาง

    วินาทีนั้นเหมือนทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง และทุกสรรพสิ่งเงียบหายไปเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสนุ่มหยุ่นที่แตะบนริมฝีปากของเขา กลิ่นวนิลลาจากลิปบาล์มช่างหอมหวานจนเคียวจูโร่หลงใหลไปกับมัน ยิ่งริมฝีปากเรียวสวยของเธอแนบชิดกับตำแหน่งเดียวของเขาก็ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนได้ลอยอยู่บนท้องฟ้าแล้วทิ้งตัวลงไปบนปุยเมฆ

    ถ้าจะให้พูดตามตรงก็คือ...เคียวจูโร่ชอบจูบของเธอ

    ชอบเพราะมันทั้งนุ่มละมุน

    อบอุ่นและอ่อนโยน

    บางครั้งก็เหมือนจะบางเบา แต่อานุภาพช่างสะท้านไปทั้งหัวใจ

    เนิ่นนานที่ทุกอย่างหยุดค้างไว้แบบนั้นจนฮิมาวาริค่อย ๆ ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ดวงตาสีเขียวมรกตสดใสจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเพลิงของชายหนุ่ม ไม่มีใครพูดอะไรหลังจากการกระทำอันบุ่มบ่ามของคนตัวเล็ก เคียวจูโร่นิ่งเงียบแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    “แล้วถ้าทำแบบนี้...อุ่นขึ้นไหมคะ”

    “…”

    คนตัวสูงไม่ตอบ ทำได้แต่เพียงพยักหน้ารับช้า ๆ ฮิมาวาริเห็นดังนั้นก็คลี่ยิ้ม

    “งั้นเราไปหาอะไรกินกันดีกว่า พิซซ่าดีไหมคะ เอาร้านที่คุณชอบ”

    เสียงหวานกังวานเริ่มเปลี่ยนเรื่อง ฮิมาวาริเดินนำหน้าไปแล้ว ทิ้งให้อีกคนที่ยืนทำตัวไม่ถูกกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปไว้เบื้องหลัง

    เสาหลักหนุ่มยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ก่อนที่จะเริ่มรู้สึกได้ถึงความร้อนที่เห่อขึ้นมาบนใบหน้า เชื่อเถอะว่าตอนนี้เขาหน้าแดงมากจนมันลามไปถึงใบหู

    ร่างกายเขาอุ่นขึ้นมาจริง ๆ ต่อให้อากาศจะเย็นลงกว่านี้ เคียวจูโร่ก็ไม่หนาวอีกต่อไป

    “ฮะ...ฮิมะ รอข้าด้วย!”

    เสียงร้องดังขึ้นไล่หลัง ทำให้เด็กสาวที่เดินนำหน้าเขามาแล้วได้แต่แอบยิ้มกว้าง มาคิดอีกที ฤดูหนาวของเธอในปีนี้ก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่

    ปกติฮิมาวาริเฉยชากับฤดูหนาว

    เธอไม่ชอบที่อากาศเย็นเกินไปจนอาจทำให้เธอเป็นหวัด

    แต่ก็ชอบ...เพราะเป็นฤดูที่หิมะโปรยปราย

    ชอบ...เพราะมีบรรยากาศครึกครื้นของเทศกาลคริสต์มาส

    และก็ชอบ...ที่มีเคียวจูโร่อยู่กับเธอแบบนี้

    เป็นเหมือนกองไฟที่จุดขึ้นเพื่อให้ความอบอุ่นในวันที่หนาวเหน็บ

    ดูเหมือนว่าตอนนี้ ฤดูหนาวจะเป็นอีกหนึ่งฤดูที่เธอโปรดปรานเข้าแล้วล่ะ :)

     


    Rothy's talk:

    สวัสดีค่ะทุกคน! โรธีคนเดิมเพิ่มเติมไม่ใช่ตอนใหม่ แต่เป็นตอนพิเศษค่าาาา (เย้) ไม่ได้อัพมานานเพราะติดเรียนติดสอบ หวังว่าทุกคนจะยังไม่ลืมกันนะคะ 

    ตอนพิเศษนี้เขียนขึ้นเพราะกิจกรรม Prompt Your Writing ค่ะ เพิ่งได้เขียนครั้งแรกเลย ตื่นเต้นมาก ๆ ค่ะ รอบนี้ฮิมะและพี่เคียวของหมู่เฮามาพร้อมกับความสัมพันธ์ที่เดินหน้าไปไกลจากตอนหลักปัจจุบัน เราเขียนขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนยุบยิบหัวใจเล่นต้อนรับเดือน 11 ก่อนเข้าสู่ปลายปีอยู่หลายวัน (ฮิมะ: รีบไปไหนกันคะ) ส่วนหนึ่งเพราะโดนป้ายยามาค่ะ 555 เลยจัดเลยละกัน ไม่รู้ว่าจะโอเคไหม ฉากคิสเพิ่งเขียนครั้งแรกค่ะ ถ้าหากว่าอ่านแล้วขัดๆ ก็ต้องขออภัยทุกคนล่วงหน้านะคะ เราจะฝึกปรือมากกว่านี้ โฮ

    สุดท้ายนี้เข้าหน้าหนาวแล้ว ถึงจะไม่หนาวจนถึงขั้นต้องใส่เสื้อขนเป็ดเจ็ดชั้น แต่ก็ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ ถ้าใครผ่านเข้ามาอ่านก็ฝากกดหัวใจ หรือคอมเม้นด้วยนะคะ เราน่ะเหงามาก อยากมีเพื่อนพูดคุย ส่วนตอนหลักนั้น เรากำลังปั่นค่ะ เสร็จแล้วจะรีบใส่พานถวายทุกท่านถ้วนหน้า วันนี้มาซะดึกเลย แหะๆ ขอตัวลาไปก่อน เจอกันตอนหลักค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ ><

    #PromptYourWriting

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×