คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : 5 ขุนพลสุดคุ้มค่า
ของ "เฟอร์กี้"
ในห้วง 20 ปีของการคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ ท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีนักเตะมากหน้าหลายตาที่ผ่านมือของป๋าดันผู้นี้ ทั้งจากกลุ่มนักเตะที่เกิดมาจากเด็กเยาวชนในทีมเอง หรือพ่อค้าแข้งที่โครตกุนซือผู้นี้ซื้อตัวมาร่วมทีม และในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาของท่านเซอร์ ก็มีทั้งตาถั่วและตาเพชรในการทุ่มเงินคว้าตัวนักเตะมาร่วมทัพ
ในกลุ่มที่ถือว่าล้มเหลวในการซื้อตัวก็มีมากมายทั้ง ฮวน เซบาสเตียน เวรอน ,เอริค เฌมบ้า เฌมบ้า ,ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ฯลฯ แต่ที่ซื้อมาแล้วถือว่าคุ่มค่าตัวทุกเม็ดก็มีไม่น้อย และนี่คือ 5 นักเตะที่ถือว่าคุ้มค่าที่สุดที่ ท่านเซอร์ เซ็นสัญญามาอยู่ใต้รั้วชายคาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
- เอริก คันโตน่า
"เอริก เดอะ คิง" ถือเป็นการซื้อตัวที่คุ้มค่าที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่สโมสรเคยมีมาเลยทีเดียว ด้วยค่าตัวเพียง 1.2 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าถูกมากๆ กับชื่อเสียงของเจ้าตัวในขณะนั้น
จากการขาดแคลนหัวหอกในฤดูกาล ทำให้ "ปีศาจแดง" ต้องเสริมแนวรุกโดยด่วน และ เฟอร์กี้ ก็กริ๊งกร๊างติดต่อไปยัง "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด ทันทีเพื่อทาบทาม ลี แชปแมน หัวหอกฟอร์มฮอตในขณะนั้น แต่ก็โดนปฏิเสธกลับมาพร้อมกันกับที่ลีดส์เสนอขาย เอริก คันโตน่า มาให้แทน
เจออย่างน้เข้าไปมีหรือคนที่สายตาเฉียบแหลมอย่าง เฟอร์กี้ จะไม่รีบคว้าไว้ และการเจรจาในการย้ายทีมก็เสร็จสิ้นลงหลังจากนั้นไม่กี่วัน "ก็องโต้" ก็เก็บข้าวของย้ายมาเป็นตำนานบทใหม่ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเจ้าของลูกถีบมหากาฬ ก็จัดการพาพลพรรค "ปีศาจแดง" คว้าแชมป์ลีกหนแรกในรอบ 26 ปีทันที ก่อนที่ต่อมาจะพาทีมกวาดแชมป์พรีเมียร์ชิพรวม 4 ครั้ง กับ เอฟเอ คัพ อีก 2 ครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะแขวนสตั๊ดไปในฤดูกาล 1997-1998 ท่ามกลางความเสียดายของสาวกปีศาจแดง ที่อยากเห็น เอริก คันโตน่า ร่ายมนต์ลูกหนังในสนามต่อไป
- ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
ในตอนที่ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เซ็นสัญญาคว้าตัวนายทวารร่างยักษ์รายนี้ด้วยค่าตัว 550,000 ปอนด์ มาจาก บรอนด์บี้ หลายเสียงตั้งข้อสงสัยว่า ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล คือใคร เพราะไม่เคยมีแฟนบอลหลายไหนรู้จักผู้รักษาประตูเลือดเดนส์คนนี้มาก่อนเลย
แต่หลังเจ้าตัวและพรรคพวกสร้างตำนานเทพนิยายเดนส์ พาทีมชาติเดนมาร์ก สั่นสะเทือนวงการลูกหนังโลก ด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในปี 1992 ทุกคนก็ไม่มีข้อสงสัยต่อนายประตูเลือดร้อนผู้นี้อีกเลย
ตลอดระยะเวลาการเฝ้าเสาเกือบ 10 ปีของ ชไมเคิ่ล หากไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ตาย เฟอร์กี้จะส่งเขาลงเป็น 11 คนแรกแบบอัตโนมัติโดยทันที ด้วยความสุดยอดของ ยักษ์เดนส์ ส่งผลให้ ปีศาจแดง เดินหน้าคว้าแชมป์อย่างนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะในฤดูกาล 1999 ที่ทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ โดยนัดชิงชนะเลิศในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เจ้าตัวยังเป็นผู้ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมรับถ้วยแชมป์อีกด้วย
- รอย คีน
ในปี 1993 รอย คีน กลายเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดของเกาะอังกฤษ ด้วยสถิติ 3.75 ล้านปอนด์ หลังจากที่ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าตัวกองกลางพันธุ์ดุรายนี้จาก "เจ้าป่า" ฟอเรสต์ มาร่วมทัพ โดย เฟอร์กี้ ต้องการให้เขามาผนึกกำลังกับ พอล อินซ์ กองกลางตัวหลักของทีมในขณะนั้น และเขาก็ไม่ทำให้ เฟอร์กี้ ต้องผิดหวังแต่อย่างใด เมื่อเจ้าตัวโชว์ผลงานการคุมเกมในแดนกลางอย่างยอดเยี่ยม คุ้มคากับเงินทุกปอนด์ที่ทีมจ่ายไป จนสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพทันที ในฤดูกาลแรกที่เขาเข้ามาสู่ทีม
และหลังจาก พอล อินซ์ ต้องออกจากทัพ ปีศาจแดง ไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน "คีโน่" ก็สถาปนาตัวเองกลายมาเป็นมิดฟิลด์หมายเลข 1 ของทีมด้วยฝีเท้าและลีลาการเล่นล้วนๆ และด้วยลีลาการเล่นที่ดุดันแต่มีความสวยงามอยู่นท่วงที ทำให้ในช่วงเวลาเกือบ 10 ปีที่เขารับใช้ต้นสังกัด ก็พาทีมกวาดแชมป์นับไม่ถ้วน แต่เจ้าตัวก็ต้องพลาดนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เนื่องจากติดโทษแบนทำให้ไม่สามารถลงเล่นได้นั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ค้างคาใจเขามาโดยตลอด แต่กระนั้น รอย คีน ก็ต้องลาทีมไปในปี 2005 เนื่องจากไปวิจาร์เพื่อนร่วมทีมอย่างเสียๆหายๆนั่นเอง
- โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ชื่อนี้แทบจะไม่มีใครเคยได้ยินเลย ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีมยูไนเต็ดเมื่อปี 1996 ด้วยค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์ จากสโมสรโมลเด้ แต่หัวหอกเจ้าของฉายา "ดาวยิงหน้าทารก" ก็กลายมาเป็นสุดยอดขวัญใจคนนึงของบรรดา เร้ดส์ อาร์มี่ ด้วยการรับบทซูเปอร์ซับตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาซัดประตูเสมอ ด้วยความที่ไม่เคยพร่ำบ่นแม้ต้องนั่งสำรองเป็นประจำทำให้เขาเป็นนักเตะที่ เฟอร์กี้ รวมทั้งกองเชียร์รักสุดหัวใจ
โดยไฮไลต์สำคัญในชีวิตของดาวยิงนอร์วีเจี้ยน น่าจะอยู่ที่นัดชิงศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เขาสามารถลงมายิงประตูชัยให้ทีมพลิกเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 1999 นั่นเอง
ซึ่งปัจจุบัน โซลชา สามารถรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บเข่าซึ่งตามรังควานยาวนานมากว่า 2 ปีกลับมาล่าตาข่ายให้ทีมอีกครั้งโดยมีเป้าหมายไล่ล่าประตูที่ 100 ในพรีเมียร์ชิพให้ได้
- เดนนิส เออร์วิน
กองหลังทีมชาติไอร์แลนด์รายนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นนักเตะที่ปิดทองหลังพระตัวจริงให้กับทีม "ปีศาจแดง" ในยุคเรืองอำนาจ เพราะไม่เพียงแต่เจ้าตัวจะเล่นฟอร์มดีไม่มีตกแล้ว กองหลังร่างเล็กรายนี้ ยังสามารถเล่นได้ทั้งแบ๊กซ้าย แบ๊กขวา หรือแม้กระทั่งขยับขึ้นไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ก็ยังได้ อีกทั้งเขายังมีทีเด็ดที่ฟรีคิกอันเฉียบคมอีกด้วย
โดยเฟอร์กี้ ดึงตัวเขามาจาก โอลด์แฮม ในปี 1990 ด้วยค่าตัวสุดถูกแค่ 625,000 ปอนด์ และยึดเป็นตัวจริงตั้งแต่นั้นจนกระทั่งปี 2002 ที่เจ้าตัวต้องจำใจอำลาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เนื่องจากต้องการเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ชิพ 7 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย, แชมป์ลีก คัพ 1 สมัย, แชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย และที่สำคัญยังคงเป็นส่วนสำคัญในการกระชากแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 1999 ด้วยนั่นเอง และจากการลงสนามมากกว่า 500 นัดในสีเสื้อ "ปีศาจแดง" เป็นเครื่องการันตีชั้นเลิศว่า เดนนิส เออร์วิน เป็นหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนนึงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือแม้กะทั่งวงการลูกหนังอังกฤษเลยก็ว่าได้
ความคิดเห็น