~:+:ตำนานลูกหนัง:+:~

ลำดับตอนที่ #9 : นักเตะเทวดา โยฮัน ครัฟฟ์

    
      
                 ในช่วงทศวรรษที่ 70 ไม่มีนักเตะคนใดจะน่ากลัวไปกว่าเขาคนนี้อีกแล้ว โยฮัน ครัฟฟ์ ได้รับสมญาว่าเป็นนักเตะเทวดา เป็นมิดฟิลด์ที่มีลีลารวมถึงสัญชาตญาณในการทำประตูน่ากลัวกว่ากองหน้าเสียอีก ด้วยรูปร่างที่ผอมบางทำให้มีความเร็วค่อนข้างสูงบวกกับการอ่านเกมอันชาญฉลาด ถือเป็นหัวใจสำคัญของทีมชาติฮอลแลนด์ในยุคนั้นเลยทีเดียว
        ฮอลแลนด์ เป็นทีมที่มีศักยภาพเพียบพร้อมแต่ยังไม่เคยคว้าแชมป์โลกแม้แต่ครั้งเดียว ใกล้เคียงที่สุดเห็นจะเป็นในปี 1974 ที่ผงาดคว้ารองแชมป์โดยมี ครัฟฟ์ เป็นแกนหลังของ "ฟลายอิ้ง ดัตช์แมน" ชุดนั้นและซัดไป 3 ประตูจาก 7 เกมแต่ก็ต้องพ่ายให้กับ เยอรมัน ในนัดชิงชนะเลิศทั้งๆ ที่เล่นได้ดีกว่า
        แต่ว่า ครัฟฟ์ ก็ผงาดครองรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมในศึกฟุตบอลโลกปี 1974 ด้วยโดยในทีมชาติ ฮอลแลนด์ เขาลงเล่นไป 48 เกมและซัดได้ถึง 33 ประตูเลยทีเดียว

       ในระดับสโมสร ครัฟฟ์ กลับประสบความสำเร็จมากมายและไม่มีใครสงสัยในความสามารถโดยพา อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม คว้าแชมป์ลีกถึง 9 ครั้งในปี 1966, 1967,1968, 1970, 1972, 1973, 1982, 1983 และ 1984 แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ 3 ครั้งในปี 1971,1972 และ 1973 พร้อมด้วยรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมยุโรปปี 1971, 1973 และ 1974
        หลังจากนั้น ครัฟฟ์ ย้ายไปร่วมทัพ บาร์เซโลน่า ทีมยักษ์ใหญ่ของเวทียุโรป ในช่วงปี 1974 และพาทีมคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ ได้ในปี 1978 ในช่วงบั้นปลายชีวิตค้าแข้งเขาไปเล่นให้กับ ลอส แอนเจลิส แอซแทคส์ ในลีกอาชีพที่ สหรัฐฯ ตามด้วย วอชิงตัน ดิโพรเมตส์ และกลับไปเล่นในบ้านเกิดให้กับ ยูดี เลเวน, อาแจ๊กซ์ และ เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม
        หลังจากแขวนสตั๊ด ครัฟฟ์ ยังคงวนเวียนอยู่ในวงการลูกหนังเขากลับมาคุมทีม อาแจ๊กซ์ และพาทีมคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1986 และ 1987 รวมถึงกับ บาร์เซโลน่า ที่เขาพาคว้าแชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ 2 ครั้งในปี 1987 และ 1989 รวมถึงแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1992 อีกด้วย