คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ก่อนจะมาเป็นฟุตบอลโลก
แม้ว่าฟีฟ่าจะก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1904 แต่ก็ต้องใช้เวลาเกือบสามทศวรรษเพื่อเริ่มการแข่งขันระดับนานาชาติอย่างจริงจัง
ฟุตบอลโอลิมปิก เป็นทัวร์นาเมนท์เดียวของตอนนั้นที่ทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขันอย่างกว้างขวาง แต่นั่นก็เป็นเพียงการแข่งขันของนักกีฬาสมัครเล่นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามจากการที่ประเทศที่มีลีกอาชีพเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็ทำให้พวกเขาคืบคลานเข้ามาสู่เกมระดับสมัครเล่น เห็นได้ชัดคือในโอลิมปิก 1924 เมื่อทีมที่เป็นมืออาชีพอย่างมากอย่างอุรุกวัย เป็นทีมจากอเมริกาใต้ทีมแรกที่ได้แชมป์ไปครอง
ฟีฟ่า และคณะกรรมาธิการโอลิมปิกสากล ถกเถียงกันอย่างหน้าดำคร่ำเครียดว่าใครควรจะดูแลการแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิก ฟีฟ่าประกาศว่าพวกเขาคือองค์กรด้านฟุตบอลสูงสุด และน่าจะได้จัดการแข่งขันที่กล่าวกันว่าเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดของโลก
จากการที่หลายประเทศถอนตัวจากโอลิมปิก 1928 ซึ่งรวมถึงเดนมาร์ก และอังกฤษ ฟีฟ่าได้ตัดสินใจขึ้นมาอย่างหนึ่ง
พวกเขายอมรับทางออกของอองรี เดโลเนย์ เลขาธิการของสมาคมฟุตบอลฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1919 กระทั่งเสียชีวิตเมื่อปี 1956 นั่นคือให้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกขึ้นมาทันที ข้อเสนอของเขาสองปีต่อมาเป็นที่ยอมรับ เมื่อเดอโลเนย์ประกาศกับผู้มีอำนาจในวงการลูกหนังว่า
"ฟุตบอลระดับนานาชาติ ไม่สามารถจัดภายใต้นิยามของโอลิมปิกได้ต่อไป และหลายประเทศที่มีทีมฟุตบอลอาชีพก็ได้เล็งเห็นถึงจุดนี้ และพวกเขาไม่สามารถส่งนักเตะที่ดีที่สุดของตัวเองได้ต่อไป"
ทางออกของเดอ โลเนย์ผ่านความเห็นชอบด้วยมติ 25 ต่อ 5 เสียง
ฟีฟ่าประกาศแผนการของตัวเองตรงตามเวลาเรื่องจัดการแข่งขันกันเอง เปิดโอกาสให้ทุกประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิก ที่ตอนแรกนั้นพวกเขาไม่ได้ตั้งชื่อการแข่งขันรายการนี้ขึ้นทันที มีแต่สื่อมวลชนที่พากันตั้งชื่อต่าง ๆ นานา
"World Cup", "World Soccer Championship", " และ "La Coup de Monde" เป็นคำจำกัดความของการแข่งขันใหม่ที่มีโอกาสได้รับเลือกมาก อีกอันหนึ่งก็คือ "Jules Rimet Cup" ซึ่งชื่อ "Jules Rimet Cup" นี้เองที่ฟีฟ่านำมาใช้ในเวลาต่อมาเพื่อเป็นเกียรติให้กับเดอโลเนย์ ผู้ซึ่งอุทิศตนอย่างเต็มที่ให้ฟีฟ่า ในการสนับสนุนบรรดาประเทศสมาชิก
พฤษภาคม 1929 ฟีฟ่ายังไม่ได้สรุปแผนสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรก แม้ว่าพวกเขาจะประกาศแล้วก็ตามว่าจะจัดการแข่งขันในปี 1930 ประเทศเจ้าภาพจัดการแข่งขันก็ยังไม่ได้เลือก และขณะที่การพูดคุยคาราคาซัง ก็ปรากฎว่าการเงินจะเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในการจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนท์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันชิงแชมป์โลกจริง ๆ
โรดอลโฟ ซีลเดรเยอร์ส รองประธานฟีฟ่า เสนอว่าประเทศที่ได้รับเกียรติให้จัดการแข่งขันสมควรที่จะมีเงินทุนเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และที่อยู่อาศัยของผู้ตัดสิน สมาชิกของฟีฟ่า และแต่ละทีม ข้อเสนอนี้แน่นอนว่าเป็นข้อเสนอที่เกินกว่าสมาคมฟุตบอลประเทศใดประเทศหนึ่งจะรับได้ แต่ก็มีผู้ยื่นเจตจำนงค์อย่างฮอลแลนด์, ฮังการี, อิตาลี, สเปน, สวีเดน และอุรุกวัย
ทว่าสวีเดน และฮอลแลนด์ต่อมาไม่นานก็ได้ถอนตัว และสนับสนุนให้อิตาลีเดินหน้าต่อไปสำหรับการเป็นเจ้าภาพ ขณะที่ชาติอเมริกาใต้สนับสนุนอุรุกวัย และต่อมาไม่นานประเทศอื่น ๆ ของยุโรปที่สนใจจัดการแข่งขันได้ขอถอนตัวด้วยเหตุผลที่ต่างกัน
ด้วยเหตุนี้เองอุรุกวัยถึงได้รับหน้าที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก เนื่องจากเป็นประเทศที่ขอจัดการแข่งขันประเทศเดียวที่เหลืออยู่ และในที่สุดความฝันที่จะได้เห็นฟุตบอลโลกก็เป็นความจริง
ความคิดเห็น