คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อัจฉริยะลูกหนัง ซีเนอดีน ซีดาน
ชีวิตของเหล่าพ่อค้าแข้งบนถนนสายลูกหนัง ไม่ว่าจะมาจากที่ใด ค่าตัวเท่าใด เก่งกาจมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็ต้องสโรราบให้กับสังขารทั้งสิ้นและจบลงด้วยการเลิกหรือ แขวนสตั๊ดในที่สุด แต่สิ่งที่จะยังโลดแล่นอยู่คือ ความทรงจำของแฟนบอลทั่วโลก ในความเป็น สุดยอดอัจฉริยะแห่งลูกหนัง...
หากจะใช้คำว่า "สุดยอดอัจฉริยะแห่งลูกหนัง" ก็คงไม่เว่อเกินไปเท่าใดนัก สำหรับ ซี เนอดีน ซีดาน จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส ยอดดาวเตะผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลอีกคนหนึ่งของโลก และคงไม่มีใครที่กล้าปฏิเสธว่า ซีดาน คือหนึ่งในสุดยอดนักเตะที่โลกเคยมีมา
ด้วยทักษะความสามารถอันเปี่ยมล้น ที่ยากจะเลียนแบบได้ในเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะเป็น การครองบอล การสัมผัสบอล การจ่าย การทำประตู การอ่านเกม หรือการบัญชาการเกม ใน สายตาผมและเชื่อว่าในอีกหลายๆคน คงเห็นเหมือนกันว่า ซีดาน เป็นนักเตะที่ครบเครื่องที่สุดใน ยุคของเขา แม้ว่าตอนนี้อาจจะโดนบดบังไปบ้างโดยโคตรบอลแห่งยุคคนใหม่อย่าง "โรนัลดิน โญ่" ก็ตาม
จากฝีเท้า นิสัยใจคอ และด้วยวัย 34 ปีที่อยู่ในช่วงปลายการค้าแข้งของนักฟุตบอล หลายคนอาจจะมองว่า ซีดานสมควรแขวนสตั๊ดได้แล้ว แต่สำหรับผมไม่คิดเช่นนั้น เพราะซีดานมี การวางตัวที่ดี รู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ หรือถ้าพูดภาษากีฬาก็คือ มีการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว
สิ่งเหล่านี้จึงทำให้คิดว่า ซิซู น่าจะยังสามารถเล่นได้จนถึงอายุ 36-37 หรือไม่ก็ 40 ปีเลยทีเดียว แต่ก็อย่างว่าใครล่ะจะรู้ดีเท่ากับตัวเขาเอง???
"ผมไม่เคยกลัวการแขวนสตั๊ด ผมภูมิใจกับชีวิตค้าแข้งของตัวเองเพราะผมได้ลง เล่นกับ 2 ทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง รีล มาดริด และยูเวนตุส และคว้าถ้วยรางวัลมาแล้วมากมาย ผมยังเป็นผู้เล่นที่กระหายจะลงแข่งขัน และพร้อมจะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อให้ตัวเอง เป็นผู้ชนะอยู่เสมอ ผมกำลังจะเลิกเล่นเพราะผมไม่อาจจะมอบ ซีดาน ในสภาพเต็มร้อยให้กับ รีล มาดริด ได้อีกแล้ว" จอมทัพฝรั่งเศสกล่าว
ซีดาน ประกาศอำลาแฟนๆของ รีล มาดริด ในการที่จะได้ลงโชว์ฝีเท้าใน สังเวียน ซานติอาโก เบอร์นาบิว เป็นนัดสุดท้ายภายใต้เสื้อสีขาว ที่ รีล มาดริด เปิดบ้านเจ๊า บียาร์รีล ดุ เดือด 3-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่านัดนี้จะไม่ได้จัดว่าเป็นนัดที่สำคัญมากมายสำหรับ ซีดาน และเกมก็ไม่ได้จบ ลงด้วยชัยชนะของ รีล มาดริด อย่างสวยหรูก็ตาม แต่สิ่งที่เหนือกว่านั้นก็คือ สาวก "ราชันชุด ขาว" ที่จงรักภักดีของซีดาน ต่างร่วมใจกันจัดพิธีอำลาให้กับ จอมทัพเฟร้นช์แมน อย่างสุดซึ้ง และยิ่งใหญ่
โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความประทับใจ แฟนบอลกว่า 80,000 ชีวิตใน เบอร์นา บิว ได้ร่วมกันแปรอักษรเป็นรูปเสื้อแข่งขนาดยักษ์ของ รีล มาดริด ซึ่งถูกประดับด้วยชื่อของ ซีดาน และหมายเลข 5 เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ์ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส
นอกจากนี้ จอมทัพอัจฉริยะเลือดน้ำหอม ยังได้รับการยืนปรบมือจากแฟนบอล อย่างกึกก้องระหว่างที่มีการนำเอาภาพไฮไลต์ผลงานของเขาตลอดช่วงเวลา 5 ปี 225 เกมกับ รีล มาดริด มาฉายบนจอยักษ์ ก่อนหน้าที่เกมจะเริ่มต้นขึ้น เช่นเดียวกับตอนที่เขาถูกเปลี่ยนตัว ออกจากสนามในช่วง 5 นาทีก่อนจบการแข่งขันอีกด้วย
โดยเกมนี้ ซีดาน สามารถซัดได้ 1 ประตูจากจังหวะที่ขึ้นโขกบอลจากการเปิดของ เดวิด เบ็คแฮม ย้อยข้ามหัว มาเรียโน่ บาร์โบซ่า นายทวารทีมเยือน เข้าไปตุงตาข่ายเป็นประตูตี เสมอ 2-2 ให้กับ "เรอัล" ได้อย่างงดงาม เป็นการอำลาด้วยการทำประตูขอบคุณแฟนๆด้วย
"มันนับเป็นความรู้สึกอันเปี่ยมล้นจนไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้" ซีดาน กล่าวหลัง จากจบเกม ขณะที่แฟนๆของ มาดริด ร้องเพลงให้กับเขาเป็นการอำลาสนาม "มันเหมือนเป็น เกมเกียรติยศของผมเลย และมันมีอะไรมากมายกว่าที่ผมคาดคิดเอาไว้มากด้วย"
ซิซู กล่าวเอาไว้ในหนังสือสูจิบัตรของเกมกับ "เรือดำน้ำสีเหลือง" ว่า "ผมมีความ สุขมาก ๆ กับช่วงเวลา 5 ปีที่นี่ จริงอยู่ที่บางครั้งมันอาจจะมีช่วงเวลาที่เลวร้ายบ้าง แต่มันก็จะ เป็นเรื่องดี ๆ ที่ผมจะจดจำเอาไว้เสมอ"
ซีดาน ลงเล่นอำลา เบอร์นาบิวไปแล้ว แต่จะลงเล่นนัดสั่งลากับ รีล มาดริด อีกครั้ง ในการบุกไปเยือน เซบีญ่า ช่วงสุดสัปดาห์หน้า แต่ก่อนนั้น มีโปรแกรมจะควงแขน อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ อีกหนึ่งดาวเตะระดับตำนานของ รีล มาดริด ลงเล่นในเกมนัดพิเศษเพื่อเป็นการเชิดชู เกียรติ์ของทั้งคู่ที่ทีมชุดขาว
โดยจะพบกับ สต๊าด รีมส์ คู่ปรับเก่าในรอบชิงชนะเลิศศึก ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1955 ซึ่งเป็นปีแรกที่พวกเขาผงาดขึ้นครองเจ้ายุโรปได้สำเร็จ ที่สนามทีมสำรองของสโมสร ในบัลเด เบบาส วันอังคารที่จะถึงนี้
ยอมรับว่าผมอาจจะเกิดไม่ทันได้ยลฝีเท้าของ เปเล่ อย่างเต็มที่ และอาจจะสัมผัส กับสุดยอดชั้นเชิงของ มาราโดน่า น้อยไปหน่อย แต่ยังสามารถบอกกับตัวเองได้ว่า โชคดี ที่ เกิดมาพร้อมกับยุคที่มี ซีดาน และยังพอมีเวลาที่จะชื่นชม เก็บเกี่ยวความทรงจำอันยอดเยี่ยมจาก ซิซู ในฟุตบอลโลกที่จะถึงนี้
ถึงแม้ อัจฉะริยะลูกหนังอย่าง ซีดาน จะยอมแพ้ต่อสังขารที่โรยราไปแล้ว แต่ผล งานและความสุดยอดจะยังจาลึกอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลเสมอ ไม่ว่านานเท่าได หากพูด ถึงฟุตบอล..สตั๊ด..สนามหญ้า..หมายเลข5 และ ราชัน แน่นอนว่าจะต้องนึกถึง ซีดาน...
ประวัติ ซีเนอดีน ซีดาน
ที่มา (สตาร์ซอคเกอร์)
ซีเนอดีน ซีดาน เกิดในวันที่ 23 มิ.ย.1972 ที่ มาร์กเซย ประเทศฝรั่งเศส พวกเขา เป็นชาวฝรั่งเศสที่อพยพมาจาก แอลจีเรีย ตามพ่อแม่ของเขา และที่นั่น ซีดาน ก็เริ่มต้นเส้นทาง ลูกหนังของเขาตั้งแต่เด็ก โดยที่อยู่กับทีม ยูเอส แซงต์ อองรี ก่อน
เขาย้ายเข้าสู่ เซปเทเมส สปอร์ตส โอลิมปิก หลังจากที่ โค้ชของเขาแนะนำเขาให้กับ ผู้อำนวยการสโมสรให้เซ็นสัญญากับเขา หลังจากที่อำลาจาก เซปเทเมส ในวัย 14 ปี ซีดาน ก็ถูก เลือกให้ทีมทีมเยาวชน เพื่อลงเตะในเกมลีค และมันเป็นปีที่เขาแจ้งเกิดในถนนลูกหนัง
เขาถูกเรียกตัวจากหลายทีม และ ฌอง วาร์โรลด์ ของ กานส์ ก็ได้ค้นพบดาวเตะสาย เลือด แอลจีเรีย เข้ามาในทีม และได้โอกาสลงเล่นในระดับอาชีพในวัย 16 ปี แต่นั่นแหละนั่นมันก็ คือการเริ่มต้นความฝันของเขาแล้ว
ด้วยทักษะที่เหลือล้นทำให้ ซีดาน ได้โอกาสลงเล่นในระดับ ดิวิชั่น 1 เกมแรกในวัย 17 ปี และจากนั่นเขาก็เข้ามาเป็นกองกลางคนสำคัญของ กานส์ และยิงประตูแรกให้ทีมได้ในเกมวันที่ 8 ก.พ.1991 และปีแรกของเขาก็พาทีมไปเล่นในศึก ยูฟ่า คัพด้วย
แต่ทว่าหลังจากนั้นเขาไม่สามารถช่วยเหลือให้ กานส์ คงสภาพในลีคสูงสุดได้ และ ต้องตกชั้นไปกับทีมในปี 1991/92 และเขาก็เดินทางไปสู่ต้นสังกัดใหม่กับ กีรองแดงส์ บอร์กโดซ์ ด้วยระดับการเล่นของเขา ซีดาน พา บอร์กโดซ์ ชิงชัยตำแหน่งแชมป์ ลีค เอิง และ เกือบจะคว้าถ้วยแรกในชีวิตของเขาหลังจากที่พาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ ในสิ้นฤดูกาล 1995/96 แต่ทีมของเขาไปพลาดท่าให้ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบชิงชนะเลิศเสียก่อน ตอนนั้นหลายคนนำเอา ซีดาน ไปเปรียบเทียบกับ มิเชล พลาตินี่ ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยทำหน้าที่เด็กเก็บบอลในเกม ยูโร เปี้ยน คัพ เมื่อปี 1984
ซีดาน ก้าวสู่ทีมชาติ ฝรั่งเศส และเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของเขากับทีมชาติ หลังจาก ถูกส่งมาเป็นตัวสำรองในเกมพบกับ เชคฯ ซึ่งฝรั่งเศสตามหลังอยู่ 0-2 ก่อนที่เขาจะยิง 2 ประตูอันน่าจดใจให้ทีมกลับมาตีเสมอสำเร็จ
มันเป็นก้าวกระโดดสู่ทีม "เลส เบลอส์" ของซีดาน ในทีมชุดชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ในปี 1995/96 ไอเมต์ ฌักเก้ต์ เทรนเนอร์ของทีมดูจะศรัทธาในฝีเท้าของเขา และได้รับคำ ยกย่องว่า เขาเป็นนักเตะที่มีทักษะในการควบคุมลูกบอลได้ยอดเยี่ยม และมีการทำงานอย่าง ทุ่มเทให้กับทีม
หลังจากนั้น ซีดาน กลายเป็นนักเตะที่น่าจับตา และหลายทีมในยุโรปตามล่าเขาไป ร่วมทีม ก่อนที่เขาจะเลือกที่จะย้ายไปเล่นให้กับ ยูเวนตุส ของ อิตาลี ซึ่งที่นั่นเขาพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ (1996), แชมป์สโมสรโลก (1996) และในปีต่อมา เขาก็พิสูจน์ตัวเองกับต้น สังกัด ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ 3 รายการนั่นก็คือ แชมป์ กัลโช่ เซเรียอา (1997), แชมป์ซูเปอร์ คัพ (1997) และแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา (1998) และถูกยกย่องว่าเป็นนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสที่ดี ที่สุดในตอนนั้น
ปีเดียวกันฟุตบอลโลกมาจัดที่ ฝรั่งเศส แฟนๆน้ำหอมตั้งความหวังกับทีมเอาไว้มาก และ ซีดาน ก็โชว์ฟอร์มอันสุดยอดของเขากับทีม และช่วยให้แฟนๆชาวฝรั่งเศสสมหวังในการ เป็นทีมแชมป์โลกเสียท
2 ประตูของ ซีดาน ในเกมนัดชิงชนะเลิศ มันส่งให้ทีมตราไก่ได้ฉลอง และจารึกชื่อ ของ ซีดาน เอาไว้ในทำเนียบยอดนักเตะของโลกในทันที ในปี 1998 เขาก็คว้านักเตะยอดเยี่ยม แห่งปีของ ฟีฟ่า จากผลงานของเขาในฟุตบอลโลก และคว้ารางวัลลูกบอลทองคำในปีเดียวกัน ด้วย
นอกจากนั้นในปี 2000 เขาก็กลับมาคว้ารางวัลนี้อีกครั้ง ก่อนที่ในปี 2001 เขาจะ ถูกจารึกชื่อให้เป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดของโลก หลังจากที่ รีล มาดริด ลงทุนด้วยเงิน มหาศาลมากกว่า 72.1 ล้านยูโร คว้าตัวเขามาจาก ยูเวนตุส
หลังจากที่ย้ายมาอยู่กับ รีล มาดริด เขาพาทีมคว้าแชมป์ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ, คว้า แชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีค (2002) แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ (2002) แชมป์สโมสรโลก (2002) และแชมป์ ลาลีกา สเปน ในปี 2003 และในปี 2003 เขาก็คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีอีก ครั้ง ก่อนที่จะประกาศหันหลังให้กับทีมชาติ ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งในทีมฝรั่งเศส และช่วยให้ ทีมผ่านไปเล่นในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ เยอรมัน ก่อนที่ในปลายเดือนเมษายน 2549 ซี ดาน จะประกาศยุติเส้นทางการเป็นนักเตะอาชีพของเขาหลังจากจบสิ้นฤดูกาล 2005/2006 และหลังจากจบศึกฟุตบอลโลกที่ เยอรมัน
ประวติโดยสังเขปของ ซีเนอดีน ซีดาน
ชื่อ: ซีเนอดีน วาซิด ซีดาน
วันเกิด: 23 มิ.ย.1972
สถานที่เกิด: มาร์กเซย (ฝรั่งเศส)
สัญชาติ: ฝรั่งเศส
ความสูง: 185 ซม.
น้ำหนัก: 80 กก.
ตำแหน่ง: กองกลาง
เส้นทางการเล่น
กานส์ (ฝรั่งเศส, 1987 - 1992)
บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส, 1992- 1996)
ยูเวนตุส (อิตาลี, 1996- 2001)
รีล มาดริด (สเปน, 2001-2006)
เกียรติประวัติ
กับทีมชาติฝรั่งเศส
แชมป์ฟุตบอลโลก 1998
แชมป์ยูโรเปี้ยน แชมป์เปี้ยนชิพ 2000
กับยูเวนตุส
แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1996
แชมป์สโมสรโลก 1996
แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 1997
แชมป์ อิตาเลี่ยน ซูเปอร์ คัพ 1997
แชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา 1998
กับ รีล มาดริด
แชมป์ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 2001
แชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก 2002
แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2002
แชมป์สโมสรโลก 2002
แชมป์ ลาลีกา สเปน 2003
โดยส่วนตัว
รางวัลลูกบอลทองคำ 1998
รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของโลก 1998
รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของโลก 2000
นักเตะทรงคุณค่าของ ยูฟ่า ฤดูกาล 2001/02 2002
รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของโลก 2003
ความคิดเห็น