ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~:+:โลกลูกหนัง:+:~

    ลำดับตอนที่ #11 : DMC คำตอบสุดท้ายของแผงกลาง

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 50



    DMC คำตอบสุดท้ายของแผงกลาง

             คำว่า DMC ย่อมาจาก Defendsive Midfielder Center ใครเคยเล่นเกมคุมทีมฟุตบอลคงจะรู้จักเป็นอย่างดีนะครับสำหรับคนที่ยังไม่รู้ ว่า DMCหมายความว่าอย่างไร DMC ก็คือ เป็นกองกลางตัวรับนั่นเองครับ ถ้าถามว่าสำคัญขนาดไหน ก็ดูแค่ผลงานของแมนยูตอนนี้สิครับว่าเป็นยังไง การขาดรอย คีนก็เปรียบเหมือนทิ้งช่องโหว่ รูใหญ่ไว้ให้ ท่านเซอร์ต้องแก้ไข และถ้าถามลึกลงไปว่า ตำแหน่งนี้เหตุใดถึงสำคัญมากนัก วันนี้หละครับผมจะชี้แจงให้ฟังว่าทำไมถึงได้สำคัญมากนัก

    คุณสมบัติที่มิดฟิลด์ตัวรับต้องมีคือ การอ่านเกม สำคัญมากเลยนะครับ ถ้าเปรียบเพลย์เมกเกอร์เป็นทหารแนวหน้า มิดฟิลด์ตัวรับก็เหมือนเป็นผู้บัญชาการหละครับว่าจะให้เกมออกมาในทิศทางไหน สังเกตุง่ายๆว่าผู้เล่นตำแหน่งนี้มักเป็นกัปตันทีม เพราะฉะนั้นคนที่เล่นตำแหน่งนี้ต้องมี "เซนส์ทางฟุตบอล" ที่สูง และจิตใจที่เข้มแข็ง รับความกดดันได้อย่างดี ทักษะ ความเร็ว ถือว่าเป็นสิ่งรองลงมาครับ ถ้าคนเซนส์ไม่ถึงผลอย่างแรกที่เกิดขึ้นก็คือ จะหาบอลไม่เจอครับ วิ่งไปวิ่งมา แต่จะไม่ได้บอล

    แต่สำหรับคนที่เซนส์ทางฟุตบอลสูงเค้าจะรู้ว่าตำแหน่งตรงไหนที่จะได้บอล เค้าก็จะไปยืนอยุ่ตรงนั้นครับ นอกจากนี้การผ่านบอลแบบ "คิลเลอร์ พาส"(คือการที่ผ่านบอลทะลุแผงหลังทั้งแผง เพื่อให้กองหน้าวิ่งไปทำประตู หรือเปลี่ยนรับ กลายเป็นรุก นั่นเอง มักจะเกิดขึ้นตอนที่แนวรุกของทีมนั้นๆ หมดมุขในการบุกแล้ว)ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ มิดฟิลด์ตัวรับควรมีครับ สังเกตุง่ายๆว่า ตัวรับชั้นยอดของโลกมักมีการผ่านบอลที่ สุดยอด และคมทุกลูก สามารถเปลี่ยนเกมที่น่าเบื่อๆ ให้เป็นเกมที่มีสีสันได้

    หน้าที่ของมิดฟิลล์ตัวกลางนี้มี 2หน้าที่ใหญ่ๆ ครับ คือ
    1.คุมจังหวะของเกม : ในการเล่นฟุตบอลจะมีจังหวะของเกม ต่างกันออกไป เช่น สไตล์ของอังกฤษจะเป็นบอลเร็ว แต่ของอิตาลีจะช้า เน้นเทคนิคมากมายคนเล่นมิดฟิลด์จะเป็นคนกำหนดจังหวะของเกมครับ ดูอย่างรอย คีน นะครับช่วงที่เกมของทีมฝั่งตรงข้ามบุกอย่างหนัก คีนจะพยายามดึงเกมของแมนยูให้ช้าที่สุดค่อยๆต่อบอล เท้าถึง เท้า เพื่อหยุดจังหวะเกมรุกของฝั่งตรงข้ามและในบางครั้งที่ จำเป็นต้องเร่งจังหวะของเกม คีนเองก็จะใช้ คิลเลอร์ พาส ผ่านบอลสวยๆตลอด เพื่อเปิดจังหวะของเกม ให้แนวรุกของทีม ช่วยกันสร้างสรรค์ ซึ่ง หลังจากที่คีนออกไป มักจะเป็นเฟรทเชอร์ที่คอยคุมจังหวะ แต่ด้วยเซนส์ฟุตบอลและประสบการณ์ยังน้อย ทำให้เกมของแมนยุไม่ดีเหมือนตอนที่คีนอยู่และเฟรทเชอร์เองก็ ขาดคุณสมบัติข้อที่2 ที่ผมกำลังจะพูดต่อจากนี้

    2.ตัดเกม : มิดฟิลด์ตัวรับส่วนใหญ่จะมีคุนสมบัติข้อที่2 แต่ขาดคุณสมบัติแรก เพราะการตัดเกมนั้นง่ายกว่า คุมจังหวะเกมเห็นๆ แต่ถ้ามองลึกลงไปจริงๆจะรู้ว่าการตัดเกมนั้นแบ่งเป็น 2 พวกคือ พวกที่ ตัดเกมแล้วโดนใบต่างๆทั้ง ใบเหลือง-แดง กับพวกที่ตัดเกม แล้วไม่โดนใบอะไรเลย ก็เหมือนเป็นการแบ่ง ระดับ ของมิดฟิลล์ตัวกลางอีกทีนั่นหละหน้าที่ง่ายๆ ก็แค่ สกัดเกมรุกของคู่ต่อสู้ ให้อยู่หมัด หรือในบางกรณีที่ กองหน้าเค้าหลุดไปแล้ว เราก็จำเป็นต้องทำฟาวล์ เพื่อหยุดเกมของเค้า ในทีมแมนยูมักเป็น สมิธที่ได้ทำหน้าที่นี้แต่ด้วยความที่ มิตตี้เองก็ไม่ใช่กองกลางโดยกำเนิดทำให้การผ่านบอล และคุมจังหวะของเกม ยังไม่ถึงชั้น ที่จะเล่นตำแหน่งนี้ให้แมนยูได้(แต่ถ้าเล่นกองหน้าหละวางใจเค้าได้เลย อิอิ)

             ด้วยความที่คนที่มีคุนสมบัติ 2 ข้อนี้พร้อมกันในคนคนเดียวไม่ได้หากันง่ายๆเรียกว่านานๆทีจะเกิดขึ้นในเกมลูกหนัง และคนเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าจะเก่งทั้ง 2ข้อโดยกำเนิด แต่ส่วนใหญ่จะเก่งตัดเกม กันก่อน ค่อยมาเก่งคุมจังหวะเกม ตอนเริ่มอายุมากเพราะการคุมจังหวะเกม มักจะมีมากขึ้นพร้อมกับประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอล ดังนั้นจึงมีการแก้ปัญหาโดยการใช้ กองกลาง 2คน ทำหน้าที่คนละข้อ

             ทีมระดับโลก มากมายมักใช้กองกลาง 2 คนในการเล่นโดยทำหน้าที่คนละข้อเช่น มิลานใช้ ปิร์โล่่คุมจังหวะเกม กัตตูโซ่ตัดเกม เชลซีใช้ มาเคเลเล่ตัดเกม เอสเซียงคุมจังหวะเกมลิเวอร์พูลใช้ ซาบี้คุมจังหวะเกม ซิสโซโก้ตัดเกม ซึ่งถือว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ดีมาก และทำให้ กองกลางแต่ละคนไม่เหนื่อยมาก และสำหรับตัวมิดฟิลด์เองก็ไม่ต้องพะวงมาก แค่ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×