ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กวนเข้าไปเมื่อใจต้องกาน

    ลำดับตอนที่ #3 : - - -เอาไงคราวนี้

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 49


    “หล่อมาก วรรณลพของฉัน”เพื่อนสาวที่นั้งอยู่ตรงข้ามกานดาพูดขึ้นเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มชัดขึ้น เพื่อนสาวของกานดาลุกจากโต๊ะมุ่งหน้าไปที่สามหนุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไป ภาพัดเป็นสาวเปรี้ยวซึ้งรู้จักคนไม่น้อย เมื่อภาพัดเดินไปถึงที่โต๊ะก็กลายเป็นจุดสนใจไม่ใช่เพียงหนุ่มหล่อเพราะตอนนี้มีสาวสวยมุ่งหน้าไปหาแล้ว

    “สวัสดีค่ะวรรณลพ”ภาพัดเดินเข้าไปทักวรรณลพ ชาติ และเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยกัน

    “หวัดดีพัด ไม่คิดว่าจะเจอพัดที่นี่ แล้วมากับใครหล่ะพัด”วรรณลพถามตามมารยาททั้งที่จริงเขาก็ไม่ได้คิดอะไรกับแม่สาวตรงหน้านี้แล้ว

    “โน่น พัดนั่งโต๊ะโน่นมากับเพื่อน นี้เข้ามาทักลพให้สาวแถวนี้อิจฉาก็เท่านั้นแหละ ไม่ต้องกลัวหรอก”วรรณลพมองตามที่ภาพัดชี้เห็นเพียงข้างหลังของสาวคนหนึ่งที่ผมยาวหยักเป็นรอนถูกรวบแบบไม่พิถีพิถันไว้

    “งั้นพัดกลับไปก่อนนะเดี๋ยวเพื่อนเหงา พอดีเพื่อนพัดเพิ่งมาจากกรุงเทพ”ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงทราบ ภาพัดเดินกลับเข้าไปหาเพื่อนที่นั่งรออยู่

    “ใครอ่ะกำ”กานดาถามเพื่อนสนิทที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยประถม

    “กิ๊กเก่า ตอนนี้เลิกกันไปแล้ว”ภาพัดพูดอย่างไม่แยแส

    “ดีแล้วฉันว่าแกเลิกกับอีตานั่นได้ ดูดิสายตาเจ้าชู้มาก”กานดาหันไปมองสามหนุ่มที่ตอนนี้รุมล้อมด้วยสาวๆมากหน้าหลายตา

    “ช่างเขาเถอะ”ภาพพัดตัดบทแล้วมาสนใจอาหารที่วางตรงหน้ามากกว่า

    “แง่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เสียงโทรศัพท์ของกานดาดังขึ้น ภาพัดชี้นิ้วไปที่อื่นเป็นเชิงบอกว่า ให้ไปคุยไกลๆ กานดาลุกขึ้นอย่างไม่พอใจเพราะเบอร์ที่หน้าจอสิมันไม่น่ารับเอาซะเลย กานดาทำท่าว่าจะลุกแต่คิดแล้วไม่ลุกดีกว่า กดตัดสายทิ้งไปแล้วกลับมานั่งที่เก่า

    “อ้าว ทำไมแกไม่รับโทรศัพท์”ภาพัดถามเพราะตั้งแต่เห็นเพื่อนสาวหยิบโทรศัพท์ออกมาท่าทางแปลกๆ

    “พวกโรคจิตมันโทรมานี่ก็วางสายไปแล้ว ช่างมันเถอะกินดีกว่า”กานดาหยิบช้อนขึ้นมายังไม่ทันที่จะได้ตักอาหารเข้าปากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดขวางจังหวะการกินอีกครั้ง

    “ฉันรับตรงนี้นะ ขี้เกียดเดินออก”กานดาอ้อนภาพัดแต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดก็ต้องออกไปรับนอกร้านจนได้

    “นี่นาย ไหนนายบอกจะไม่โทรมาแล้วไง นี่โทรมาทำไม”กานดากรอกเสียงปนโมโหลงในโทรศัพท์

    “อย่าดุนักสิครับที่รัก ผมจะโทรมาบอกว่าผมมีที่พักแล้วกลัวคุณจะเป็นห่วงผม จนนอนไม่หลับ”

    “เสียใจฉันว่านายไม่โทรมาหาฉัน ฉันจะหลับสบายกว่านะ มีแค่นี้ใช่ไหม งั้นสวัสดี”กานดากดตัดสายโทรศัพท์ก่อนที่จะหันหน้าเข้าไปในร้าน ก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงกับผู้ชายที่กำลังจูบกันอย่างดูดดื่มข้างๆที่จอดรถ ถึงจะเห็นไม่ถนัดตาเท่าไหร่แต่มองไปก็รู้แล้วว่าทั้ง 2 คนเป็นใคร คนนึงก็สาวที่คุ้นเคยกัน อีกคนก็คนที่เพื่อนสาวของเธอเดินเข้าไปทัก

    “ทุเรศ”หญิงสายสบถเบาๆก่อนเดินเข้ามาในร้าน

    “โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”หญิงสาวกระโดดโหยงๆเพราะโดนเท้าใครหน้าไหนไม่รู้เหยียบเท้าเธอเข้าเต็มๆ กานดาเงยหน้าขึ้นมาเห็นชานหนุ่ม สองคนยืนตรงหน้า

    “ขอโทษครับผมไม่เห็น”แล้วชายหนุ่มตรงหน้าก็เดินเข้ามาประคองเธอ แต่สิ่งที่ได้คือสะบัดมือที่กำลังจับแขนเธอออก

    “นาย นายจะเหยียบเท้าฉันให้จมดินไปเลยรึไง เจ็บจะตายอยู่แล้ว”

    “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง ชายหนุ่มที่เหยียบเท่าเธออารมณ์เริ่มเสียขึ้นมาแต่หนุ่มอีกคนกลับยิ้ม

    “ไม่ต้องเอาไงหรอก ฉันไม่อยากมีเรื่อง”กานดาเดินกระเผกเข้าไปนั้งที่โต๊ะแต่เพื่อนของคนที่เหยียบเท้าเธอกลับเดินตามมา

    “สวัสดีครับ ผมชาติครับคุณชื่ออะไร”ชายหนุ่มกล่าวอย่างสุภาพ

    “ฉันบาปค่ะ”กานดาตอบออกไปเพราะยังดีที่นายนี่ยังพูดดีกับเธอ

    “ยินดีที่รู้จักครับ”ชาติพูดพร้อมกับยื่นมือจะมาสัมผัสมือของเธอ

    “ฉันจะยินดีกว่านี้นะค่ะที่ไม่รู้จักพวกคุณ”กานดาพูดตามที่ใจคิดแต่ยังยื่นมือออกไปให้ชายหนุ่มสัมผัส ชายหนุ่มทำท่าจะก้มลงมาจุมพิษที่มือของเธอ แต่กานดาดึงมือออกก่อนที่ปากของเขาจะกดลงบนมือของเธอ

    “งั้นผมกลับนะครับ ผมคิดว่าผมกับคุณคงจะได้เจอกันอีก เพราะผมคิดว่าเรามีดวงสมพงกัน”

    “แต่ฉันไม่มี”กานดาเดินออกไปแต่ยังหันกลับมาพูดกับชาติอีกครั้ง “ถ้านายจะบอกเพื่อนนายให้ขอโทษผู้หญิงที่มันได้เรื่องกว่านี้ด้วย”กานดาเดินออกไปโดยไม่รอเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้างใน

    “นี่ยัยพัดเพื่อนแกดุหว่ะ แสบสุดๆ”ชาติพูดพร้อมนั่งลงตรงข้ามกับสาวที่นั่งทำหน้างงอยู่

    “แล้วไปทำอะไรมันหล่ะ มันแสบยิ่งกว่านี้อีกนะถ้ามันเกลียดขี้หน้าใคร มันเคยเอาถุงเหม็นไปวางใต้เก้าอี้อาจารย์ที่กดคะแนนมัน มันเคยเอาแมลงสาบไปใส่กระเป๋ายัยซินโทษฐานที่เอาสมุดบันทึกของมันไปอ่านโดยไม่ได้รับอนุญาติ”
    ภาพัดเล่ากิตติศัพท์ยืดยาวของแม่สาวตรงหน้าให้เพื่อนชายที่ค่อนข้างสนิทกันฟัง ชาติเพียงพยักหน้าเป็นเชียงรับรู้
    ถ้ายัยนี่เป็งแฟนนายลพมันจะตีกันตายมั้ยวะเนี้ย

    “พัด คือฉันอยากให้เพื่อนแกเป็นแฟนกับไอ้ลพ แกว่าไง”ภาพัดทำท่าอึ้งๆ

    “เอ่อใช่ ถ้ามันเป็นแฟนกันนะขำตาย ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา”เสียงหัวเราะทำให้คนที่ทำท่าเดินออกไปหน้างอยิ่งกว่าเก่า
    กานดาขับรถกลับบ้านคนเดียวทิ้งให้ยัยกำ(พัด)หาทางกลับเอาเอง

    “แง่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พอดูเบอร์ที่หน้าจอโทรศัพท์แล้วก็ยอมรับสายโดยดี

    “แกบาปแกจะทิ้งฉันไว้ที่นี่ได้ยังไง”กานดารับโทรศัพท์แล้วก็ได้ยินเสียงเพื่อนสาวที่ถูกปล่อยไว้บ่นปานหมีกินผึ้ง

    “ก็เห็นแกคุยกับเค้าถูกคอเลยอยากปล่อยให้อยู่ด้วยกันบ้าง เผื่อจะระลึกเรื่องเก่าๆ ไม่อยากให้มีใครขัดคอ”กานดากล่าวออกไปเพราะไม่พอใจที่เพื่อนของเธอเหมือนให้ความสนใจชายหนุ่มมากกว่าเธอ

    “ฉันขับรถอยู่ แค่นี้ก่อนนะ ให้เพื่อนแกมาส่งแล้วกัน ฝันดี”กานดากล่าวลาก่อนที่จะตัดสายโทรศัพท์อย่างไม่สนใจตามนิสัยของเธอ

    “แง่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อรถของเธอจอดที่โรงรถในบ้านเรียบร้อย กานดาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา นายบ้านั่น โทรมาจนได้

    “ฮัลโหล”

    “คุณครับ ผมรักกันคุณนะ ไม่คิดถึงผมบ้านหรอ ลพค่ะ เร็วๆสิหวานรอนานแล้วนะ”เสียงหญิงสาวสอดแทรกขึ้นขณะที่
    วรรณลพโทรหากานดา

    “ขอให้มีความสุขฝันดีค่ะ”กานดากล่าวตัดบทก่อนที่จะวางสาย แทนที่กานดาจะรู้สึกสบายใจที่นายบ้านั่นมีคนควงแต่ทำไม ไม่อยากให้ใครมาควงนานนี่เลย ฉันบ้ารึป่าวหวงกระทั่งคนไม่รู้จัก

    วรรณลพกลับบ้านทันที่ที่เพื่อนชาย 2 คนตามมาที่รถ

    “เมื่อกี้ฉันเห็นเหมือนแกจูบกับใครวะ”ชาติถามวรรณลพอย่างไม่เกรงใจเพราะคบกันมานานหลายปี

    “น้องหวาน ก็คนที่เป็นเจ้าของสวนผลไม้ไง ไม่ได้จูบแบบนั้นเว้ย ก็แค่น้องสาว”วรรณลพท่าทางไม่แคร์

    “ลพใช่คนที่เป็นเจ้าของสวนส้มป่าว ยัยน้ำหวานนั่นหรอ”ยศถามเพราะเริ่มสงสัย

    “อืม ทำไมแฟนนายหรอ”

    “ป่าวได้ยินว่าตั้งแต่เลิกกับแกแล้ว ไม่ยอมคบใครเลยปิดกั้นตัวเองจะตาย ผู้ชายที่เข้ามาหวังฟันโดนเธอตอกกลับหน้าหงายเลย”ยศเล่าให้วรรณลพฟังแต่ชายหนุ่มเพียงพยักหน้าเชิงรับรู้

    “น้องเค้าจูบเก่งดีนะเร้าใจ เกือบพาเข้าโรงแรมแล้วเมื่อกี้”วรรณลพพูดหน้าตายแต่ต้องหยุดพูดเพราะสายตาที่ยศมองมาทำให้ชะงักไป

    “แกชอบน้องเค้าหรอวะ”วรรณลพพูดไปเพราะท่าทางที่เพื่อนแสดงออกมันฟ้องมาแบบนั้น

    “เอ่อ ข้าค่อนข้างสนใจน้องเค้าหว่ะ สวยก็สวย เสน่ไม่เป็นรองใคร เอ่ออีกอย่าง แกเคยมีอะไรกับน้องเค้าป่าววะ”ยศถามวรรณลพเพราะไม่แน่ใจเพื่อนชายของเขา เพราะส่วนมากคนที่คบก็โดนมันเกือบหมด

    “บ้าสิ น้องเขาออกจะใสๆ แล้วเราก็ไม่เคยคบกันเกินพี่น้องเลยด้วยซ้ำ น้องเค้ารักข้าจริงแต่ข้าไม่รักหว่ะ สงสาร ไม่อยากให้เด็กใสๆแบบนั้นเปื้อนหว่ะ”

    “แกคิดแบบนี้ได้ด้วยหรอวะ”ชาติขัดขึ้นเพราะตั้งแต่คบกันมาแทบจะจำได้เลยว่ากว่าวรรณลพจะไพูดแบบนี้มันคงจะจริง

    “แน่สิวะ”วรรณลพตอบ พลางยักไหล่กวนๆก่อนล้มตัวลงพิงเบาะ ไม่นานรถก็จอดให้สองหนุ่มลงที่หน้าโรงแรม

    “ขึ้นไปก่อนเลย ขอโทรศัพท์ก่อนเดี๋ยวตามไป”วรรณลพบอกให้ชาติขึ้นไปก่อน ยกนาฬิกาขึ้นมาดู 5 ทุ่ม คงยังไม่นอนหรอกมั้ง วรรณลพกดเบอร์โทรศัพท์ที่คุ้นสำหรับเขาแล้วโทรไปหา

    “ฮาโหล ฉานจะนอนพูดมาเลยจะพยายามฟัง”กานดากรอกเสียงที่ง่วงนอนสุดขีดลงในโทรศัพท์ โดยไม่ได้ดูเลยว่าใครเป็นคนโทรมา

    “เอ่อคุณผมวรรณลพนะที่โทรมาหาคุณ บ่อยๆ คุณจำได้ใช่มั้ย”วรรณลพหวังเพียงจะแกล้งให้เวลาที่เขาคุยกับเธอนานขึ้นเพื่อให้เธอตาสว่างขึ้น

    “จำได้ นายนี่เอง มีอะไรหล่ะคราวนี้”

    “คุณรักผมมั้ย ที่รักผมรักคุณนะ”วรรณลพกรอกเสียงออดอ้อนลงไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×