คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #88 : 88 ll Our
88
Our
วันเวลาล่วงเลยผ่านไปจนวันเกิดลูน่าใกล้เวียนมาบรรจบเป็นรอบที่สองนับจากวันแต่งงานของจอร์จกับลูน่า --ช่วงนี้ชีวิตคู่ของทั้งสอง
อาจไม่ได้ราบรื่นเท่าไรนัก บ่อยครั้งลูน่ารู้สึกหงุดหงิดทั้งยังน้อยใจจอร์จที่กลับบ้านดึกแม้รู้ว่าเขายังอยู่ที่ทำงานแต่มันก็หงุดหงิดไปแล้ว
ต่อให้เธอพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองอย่างถึงที่สุดแล้วก็ตาม กระทั่งตอนนี้...ลูน่าก็กำลังงอนเขาอยู่
ในเดือนกุมภาพันธ์ลูน่ามาทำงานที่โรมาเนียตามคำชวนของชาลีที่อยากให้เธอมาดูมังกรสายพันธุ์ใหม่ที่ใกล้จะลืมตาออกมาดูโลก
ในอีกไม่กี่วัน
คราวนี้ลูน่าไม่ได้ไปพักอยู่อพาร์ตเมนท์เดียวกันกับชาลีด้วยเหตุผลที่ว่าเธอแต่งงานแล้ว -- และชาลีก็ไม่อยากให้เธอเสียหาย
แม้เขาจะรักลูน่าเหมือนน้องสาวแท้ๆ แต่คนอื่นไม่ได้รู้ความคิดเขา ต่อให้จอร์จไม่ได้คิดอะไรแถมยังวางใจด้วยซ้ำที่พี่ชายคนนี้
จะช่วยดูแลภรรยาตัวเองระหว่างที่อยู่โรมาเนีย แต่ชาลีก็เลือกที่จะหาที่พักให้น้องสะใภ้ใกล้กับอพาร์ตเมนท์ของเขาแทน
แต่ความคิดนี้ของชาลีก็ยังไม่วายถูกเพื่อนร่วมงานของชาลีที่เคยแนะนำกับเขาว่า ‘ ผู้หญิงกับดอกไม้เป็นของคู่กันอยู่แล้ว ’
จนทำให้เขาตกแต่งห้องต้อนรับลูน่าด้วยดอกไม้บานสะพรั่งเต็มห้อง เธอชื่อ จัสมิน และเธอก็ตำหนิเขา หญิงสาวผมดำหน้าคมรุ่นราว
คราวเดียวกับชาลีบ่นยกใหญ่กับสิ่งที่เขาทำ เธอจัดแจงบอกให้ชาลีไปยกเลิกจองที่พักนั่นซะแล้วให้ลูน่าที่ตอนนี้เป็นทั้งเพื่อนร่วมสายงาน
และรุ่นน้องที่น่ารักมาพักอยู่กับเธอแทนแบบไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
จอร์จเขียนจดหมายมาถามแทบจะทันทีว่าบ้านที่ลูน่าไปอยู่เป็นยังไงและจัสมินเป็นใคร ทำไมถึงไม่อยู่กับชาลี
เมื่อลูน่าเริ่มหายงอนเขาแล้วก็ตอบกลับไปว่าจัสมินเป็นเพื่อนร่วมงานของชาลีแล้วก็สนิทกับเธอด้วยตอนที่มาโรมาเนียครั้งก่อน
คราวนี้จัสมินเลยให้มาอยู่ด้วยกันเพราะเธออยู่บ้านคนเดียว ไม่นานหลังจากนั้นจอร์จก็ตอบจดหมายกลับมา
เราควรช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจัสมินกับพี่ชายผู้ที่อยากมีลูกเป็นมังกรอย่างพี่ชายฉันนะ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ
เราน่าจะจับคู่ให้สองคนนั้น เธอเห็นด้วยไหม
ถ้าจัสมินเป็นเพื่อนร่วมงานของชาลีก็ต้องเข้าใจหัวอกคนอย่างชาลีแน่ เธอพอรู้ไหมทำไมจัสมินถึงอยู่คนเดียวล่ะ ยังไม่แต่งงานหรือ?
ถ้าอย่างงั้นก็โป๊ะเชะแล้ว พนันได้เลยถ้าแม่รู้เรื่องนี้ต้องสนับสนุนให้ชาลีจีบแน่!
ชาลีอ่านข้อความนั้นหลังเห็นลูน่ามีสีหน้าแปลกๆ เลยถามเธอและได้รับจดหมายนั้นมาอ่าน เขาสำลักน้ำชาที่เพิ่งจิบแต่โชคดี
รักษาจดหมายไม่ให้มันเปียกเอาไว้ได้ ก่อนรับผ้าเช็ดปากจากจัสมินแล้วแลกจดหมายให้เธอรับไปอ่านต่อถ้าลูน่าไม่ว่าอะไร
หญิงสาวผมดำยกมือเท้าเอว มืออีกข้างถือจดหมายแล้วแค่นหัวเราะ
“อย่าให้เราเข้าหน้ากันไม่ติดเลยจะดีกว่า” เธอบอกชาลีแล้วคืนจดหมายให้ลูน่า “ฉันว่าคราวหน้าที่เธอส่งจดหมายกลับไปคงต้องขอ
แทรกจดหมายจากฉันที่สาธยายว่าทำไมสามีเธอถึงคิดผิดไปอีกฉบับแล้วละ”
วันหยุดหนึ่งวันในสัปดาห์ถัดมาลูน่านั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้านจัสมินและมีชาลีที่แวะเวียนมาหาแบบไม่ได้คิดอะไรกับจัสมิน
-- เจ้าตัวบอกเอาไว้แบบนั้น
“ฉันรู้เรื่องเธอกับจอร์จแล้ว เพิ่งรู้เมื่อวานนี้เอง แม่ฉันเขียนบอกมา” ชาลีผงกหัวขอบคุณจัสมินที่ส่งถ้วยน้ำชาให้ในบ่ายวันหนึ่ง
ในน้ำเสียงมีความตื่นเต้นเหมือนเป็นเรื่องของตัวเอง เขายกขึ้นจิบพลางมองลูน่าแบบไม่ละสายตา “เธอจะบอกจอร์จเมื่อไร”
ลูน่าเงียบไปชั่วอึดใจ “ก็คงเร็วๆ นี้” พอนึกถึงเรื่องนี้เธอก็น้ำตาคลอขึ้นมา “ถ้าเขาพอมีเวลาฟังฉันบ้าง” เพราะช่วงนี้จอร์จบอกว่า
เขางานยุ่งมากแม้กระทั่งในจดหมายยังเขียนถึงแต่เรื่องงานยกเว้นฉบับแรกที่ถามเรื่องจัสมินกับฉบับที่สองเรื่องจับคู่ให้พี่ชาย
“จอร์จคงไม่บ้างานขนาดนั้นหรอก...มั้งนะ” ชาลียกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบอีก รู้สึกว่าที่พูดไปยิ่งกระตุ้นให้ลูน่าอยากร้องไห้มากกว่าเดิม
จนรู้สึกผิด เขานึกอยากขอโทษแต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไร
จัสมินส่ายหัวมองชาลี “อย่าคิดมากไปเลย ทั้งสองคนนั่นแหละ เธอไม่ได้พูดอะไรผิดหรอกชาลี ส่วนลูน่าของฉัน...จอร์จต้องมีเวลา
ให้เธออยู่แล้ว เอ้านี่” จัสมินบอกพลางส่งกระดาษทิชชู่ให้แล้วโอบไหล่ลูน่าเป็นเชิงปลอบก่อนลุกขึ้น “ฉันจะให้เธอดูลูกมังกรตัวใหม่เอี่ยม
ที่เพิ่งรับมาเลี้ยงเมื่อวานนี้เอง เป็นกรณีพิเศษเชียวนะ -- มาเถอะ เผื่ออารมณ์เธอจะได้ดีขึ้น ส่วนเธอชาลี อย่าไปบอกใครละว่าฉัน
รับมาเลี้ยงอีกตัวนึงแล้ว ไม่งั้นลูกมังกรพันธุ์สวีเดนจมูกสั้นในอพาร์ตเมนท์เธอก็มีสิทธิ์ถึงหูคนอื่นด้วยเหมือนกัน”
“วางใจได้เลย” ชาลียกมือทำท่ารูดซิปปากแล้วขยิบตาให้เธอ
ลูน่าอยู่ที่บ้านหลังนี้ร่วมครึ่งเดือนและได้รับการดูแลอย่างดีจากจัสมินและชาลีที่เข้าออกบ้านหลังนี้บ่อยจนเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ
เริ่มแซวเขากับจัสมินว่าแอบปลูกต้นรักกันแบบลับๆ โดยมีลูน่าเป็นแม่สื่อ ทว่าจัสมินปฏิเสธเสียงแข็งและเฉียบขาดแบบไม่ให้มีโอกาสลุ้นต่อ
ว่าเธอกับชาลีจะสละโสดกันเลยทีเดียว
เมื่อถึงวันที่ต้องเดินทางกลับ จัสมินก็ยื่นถุงผ้ากำมะหยี่สีม่วงให้ “ของฝากจากฉันเอง ถือเป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้าให้เธอด้วยเลย”
เธอบอกลูน่าพร้อมยิ้มกว้าง
“ขอบคุณนะ จัสมิน” เธอเปิดออกดูตามที่จัสมินบอก ข้างในนั้นเป็นรูปจำลองตัวมังกรตัวใหญ่สองตัวและตัวเล็กๆ ที่คาดว่าน่าจะเป็น
ลูกของมันอีกสองตัว
“ให้มังกรตัวเดียวแบบชาลีน่ะมันไม่เข้ากับสถานการ์ตอนนี้เลยว่าไหมล่ะ” จัสมินมองมังกรบนอุ้งมือลูน่าอย่างหลงใหลแล้วพูดต่อ
อย่างภูมิใจโดยไม่สนใจชาลีที่ทำหน้ามุ่ยเพราะถูกนินทาระยะเผาขน “ดูแลตัวเองดีๆ นะ ถ้ามีหลานแล้วอย่าลืมพามาเยี่ยมป้าจัสมินด้วยละ”
“ลุงชาลีด้วย!” ชาลีโพล่งออกมา
จัสมินกระแอมไอหนักๆ ให้รู้ว่าตั้งใจ “อย่ายิ้มแบบนั้น ยัยหนู ไม่ใช่ลุงกับป้าในแบบครอบครัวสุขสันต์แน่นอน”
เธอบอกลูน่าที่ยืนอมยิ้ม “รีบขึ้นรถไฟได้แล้ว -- โชคดีนะ”
⭐
ที่ชั้นบนของร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์เวลาเช้ามืดก่อนร้านเปิด เฟร็ดกับจอร์จนั่งอยู่บนพื้นและมีแคตี้นั่งบนเก้าอี้นวม ทั้งหมดกำลังหารือ
เรื่องแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดลูน่าที่กำลังจะถึงในคืนนี้ โดยมีไลแซนเดอร์ตัวน้อยกำลังปีนป่ายจะขึ้นมานั่งบนไหล่จอร์จเพื่อเล่นกับผมสีม่วง
ที่จอร์จเพิ่งทดลองดื่มน้ำผลไม้เปลี่ยนสีผมทันใจไปเมื่อห้านาทีก่อน -- มันได้ผลดีทีเดียว แต่ดูเหมือนจะดีเกิดคาดไปหน่อยเพราะทั้งคิ้ว
กับขนตาของเขาก็เป็นสีม่วงไปด้วย!
เฟร็ดหน้ายู่ที่ลูกไม่ยอมสนใจเขาเลย “ไลแซนเดอร์เอ๋ย พ่ออยู่ตรงนี้นะลูก”
“ลูกนายอาจจะคิดว่าฉันเป็นพ่อก็ได้ ก็หน้าเราเหมือนกันยังกับแฝด”
“เออ นั่นน่ะสิ”
แคตี้กลอกตา “ตลกกันมากไหม ก็พวกนายเป็นฝาแฝดกันอยู่แล้วไม่ใช่รึ”
“อ้อใช่!” เฟร็ดกับจอร์จตอบพร้อมกันแล้วหัวเราะไปพร้อมๆ กับไลแซนเดอร์ที่ขึ้นมาขี่คอจอร์จได้สำเร็จและเล่นผมสีม่วงได้สมใจอยาก
เฟร็ดนั่งมองลุงกับหลานเล่นกันก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ “นายไม่อยากมีเป็นของตัวเองบ้างหรือ” เขาบุ้ยคางไปทางลูกชายตัวเอง
เมื่อจอร์จเลิกคิ้วถาม
“อยากสิ ทุกวันนี้นอกจากจะรอนังหนูของฉันกลับจากโรมาเนียก็รอวีสลีย์ตัวน้อยนี่แหละ -- เมื่อไรจะมาสักทีล่ะลูกพ่อ”
จอร์จอุ้มไลแซนเดอร์มานั่งบนตัก มองดูเจ้าตัวเล็กขณะจินตนาการว่าถ้าเป็นลูกตัวเองจะดีขนาดไหน ถ้าลูกชายก็ดีเพราะจะได้เล่นด้วยกัน
หรือคุยกันแบบลูกผู้ชายได้แต่พอคิดถึงลูกสาวตัวน้อย ถ้าเหมือนแม่ก็ต้องน่ารักน่าทะนุถนอมมากแน่ๆ ยังไงก็ตามไม่ว่าจะหญิงหรือชาย
เขาก็พร้อมจะเลี้ยงแล้ว -- แต่ตอนนี้เขาคิดถึงลูน่าจนแทบจะอดใจรอจนถึงตอนเย็นไม่ไหวแล้ว พอคิดถึงนังหนู... “ฉันว่าจะจุดดอกไม้ไฟ
แล้วก็ทำให้ดาวเต็มบ้านเลย ลูน่าต้องชอบแน่ พวกนายว่าไหม แล้วทีนี้ฉันก็จะถือเค้กที่จินนี่กับเฮอร์ไมโอนี่ทำให้...หรือพวกนายคิดว่าฉัน
ควรจะเซอร์ไพรส์อะไรอีกดี?”
⭐
เวลาสามทุ่มตรง ลูน่ากลับมาถึงบ้านพอดีและคิดว่าจอร์จคงรออยู่พร้อมกับแสงไฟดูอบอุ่นที่ลอดออกมาจากหน้าต่างบ้าน
แต่กลับกลายเป็นทุกอย่างมืดสนิท ไม่มีแสงไฟ ไม่มีเสียงบอกต้อนรับกลับบ้าน ไม่มีอะไรเลยนอกจากเสียงของต้นสนที่ดังหวีดหวิว
ยามลมพัดมา
“เข้าบ้านกันเถอะ ฟลัฟฟี่” ลูน่าบอกนกฮูกในกรงพลางก้าวเข้าบ้านแล้วโบกไม้กายสิทธิ์น้อยๆ ให้แสงไฟในบ้านสว่างขึ้น
หญิงสาววางกรงนกฮูก เปิดประตูกรงกับหน้าต่างบ้านเอาไว้เผื่อมันอยากโบยบินออกไปสูดอากาศข้างนอกหลังต้องติดอยู่ในกรง
มาหลายชั่วโมง เธอวางกระเป๋าเดินทางกลางห้องนั่งเล่น มองนาฬิกาวีสลีย์ที่ตั้งอยู่บนหิ้งเหนือเตาผิงก่อนพบกับกระดาษโน๊ตที่แปะอยู่บนนั้น
‘ ยินดีต้อนรับกลับบ้านและขอโทษที่คืนนี้ฉันอาจกลับถึงบ้านดึกนะ ตอนนี้ที่ร้านกำลังเตรียมตกแต่งสำหรับวาเลนไทน์
หวังว่าเธอจะกินมื้อค่ำอย่างเอร็ดอร่อยและนอนหลับฝันดีเหมือนอย่างที่ฉันอยากให้เป็นมาตลอด
อย่าลืมห่มผ้าด้วยนะ รัก -- จอร์จี้’
ทันทีที่อ่านจบ มีน้ำตาหยดแหมะลงบนกระดาษ ลูน่ายกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ แล้วตั้งใจอ่านข้อความนั้นซ้ำอีกหน
อีกหนและอีกหนจนแน่ใจแล้วว่าจอร์จไม่ได้เขียนถึงวันเกิดของเธอในวันนี้เลยแม้แต่พยางค์เดียว
-- เขาลืมวันเกิดเธอ
ค่ำวันนั้นลูน่ากินพุดดิ้งของโปรดไม่ลงแม้แต่คำเดียว เธอไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นคนเจ้าน้ำตาไปตั้งแต่เมื่อไรกัน ยิ่งช่วงสัปดาห์
ที่ผ่านมานี้แค่มีอะไรมาสะกิดหน่อยเดียวน้ำตาก็พรั่งพรูไหลออกมาเป็นสายแล้ว เธอเก็บของหวานกลับไว้ที่เดิมแล้วเตรียมตัวเข้านอน
แต่หัววันทั้งที่คิดว่าอย่างน้อยคืนนี้น่าจะมีงานฉลองเล็กๆ แล้วเธอจะได้บอกเรื่องสำคัญกับเขา แต่ทุกอย่างกลับผิดแผนไปหมด
จนมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นตอนที่ลูน่าเพิ่งก้าวขึ้นบันไดได้ขั้นเดียว
“เซอร์ไพรส์!” เฟร็ด รอน แฮร์รี่และมาเรียตะโกนทันทีที่ลูน่าเปิดประตูออกมา ขณะที่แคตี้ เฮอร์ไมโอนี่และจินนี่พูดด้วยท่าทางเคอะเขิน
กับบรรดาลูกตัวน้อยที่เฟร็ดกับแฮร์รี่อุ้มมากำลังปรบมือชอบใจ
“สุขสันต์วันเกิดนะ ลูน่า” จินนี่พูดเป็นคนแรก “พวกเรามาช้าไปหน่อยแต่ก็คิดว่ายังทันเวลาก่อนขึ้นวันใหม่นะ จริงไหม”
“แน่นอน ขอบคุณทุกคนที่มานะ” ลูน่ายิ้มให้ทุกคนด้วยความซาบซึ้งใจก่อนเบี่ยงตัวหลบให้พวกเขาเข้ามาในบ้าน...พวกเขาทั้งหมด
ที่ไม่มีจอร์จ -- เอาละ เธอไม่อยากจะยอมรับแต่เขาทำให้เธอผิดหวังอีกครั้ง หญิงสาวเอามือจับลูกบิดประตูแต่ยังเปิดประตูค้างไว้
เพื่อให้โอกาสจอร์จอีกสิบวินาที
“จอร์จยังปลีกตัวออกจากงานมาไม่ได้น่ะ” รอนตะโกนมาจากในบ้าน มีเฟร็ดพยักหน้าหงึกหงักอยู่ข้างๆ
“อ้อ” ได้ยินอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรให้ต้องรอ เธอเหวี่ยงบานประตูเตรียมปิดแต่แล้วกลับมีมือมากั้นเอาไว้
“คิดว่าฉันจะเป็นสามีที่ใจร้ายขนาดนั้นเลยหรือไง” จอร์จยิ้มน้อยๆ แต่นั่นทำให้ลูน่าคิดว่าช่างเป็นรอยยิ้มที่กวนประสาทสิ้นดี
เธอถอยห่างจากมือเขาที่หมายจะคว้าตัวเธอเข้าไปกอดด้วยความคิดถึง แววตาแข็งกร้าวที่ไม่เคยได้รับจากลูน่ากำลังจ้องมาที่เขา
ก่อนที่เธอจะปล่อยมือออกจากลูกบิดแล้วหนีเขาขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับล็อคกลอน
จอร์จใจแป้วทั้งยังหน้าเสียที่เห็นลูน่ามีน้ำตาคลอ นั่นไม่ใช่เพราะเธอดีใจหรือคิดถึงเขาไม่อย่างนั้นเธอต้องโผเข้ามากอดแล้ว
เขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเพียงไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้เกิดอะไรขึ้นแถมแผนที่วางไว้ก็พังหมด
“ฉันรู้ว่าฉันมาช้าไปหน่อย แต่ท่าทีนังหนูต้องไม่เป็นแบบนี้สิ เธอไม่เคยโมโหฉันขนาดนี้มาก่อนเลยนะ” จอร์จกลับมายืนรวมกลุ่ม
กับคนอื่นๆ ที่วิ่งตามเขาขึ้นมาตรงแถวหน้าห้องนอน
“นายไปกวนประสาทเธอรึเปล่าล่ะ” เฟร็ดถาม
“ฉันเปล่า แล้วดูสิ ลูน่าไม่ยอมคุยกับฉันเลย ทีนี้ฉันจะทำยังไงดี”
“ก็บอกแล้วว่าเปลี่ยนแผนดีกว่า” เฮอร์ไมโอนี่บอก “พวกเราเข้าบ้านมาตั้งแต่เย็นรอต้อนรับลูน่ากลับบ้านตั้งแต่แรกก็จบแล้ว
ไม่ต้องรอเวลาจนดึกขนาดนี้อยู่ที่ร้านแล้วค่อยยกโขยงกันมาที่นี่แบบนี้หรอก”
แคตี้พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ ช่วงนี้ลูน่ายิ่งอยู่ในช่วงอ่อนไหวง่ายอยู่ด้วย อารมณ์ก็ขึ้นๆ ลงๆ เดาใจยาก แล้วฉันว่าจากที่เห็นๆ กันอยู่
ตอนนี้ลูน่าอยู่ในโหมดที่ร้องไห้ง่ายมาก -- แม้แต่ฉันเอง ตอนนั้นฉันยังเคยงี่เง่าใส่เฟร็ดบ่อยๆ เลย”
รอนเอาเค้กที่ถือมาหลบให้พ้นเงื้อมมือเล็กๆ ของไลแซนเดอร์ที่ยื่นแขนข้ามจากไหล่เฟร็ดมาไขว่คว้าเทียนเล่มเล็กที่ปักอยู่บนเค้ก
เขาเลยไม่ได้คิดตามที่แคตี้พูดก่อนส่งเค้กให้จอร์จถือแทน ขณะที่แฮร์รี่กับเฟร็ดตาโต ส่วนจอร์จยังยืนทึ่มทื่อไม่เข้าใจแถมในมือยังมีเค้ก
ที่ไม่ได้ใส่ใจว่ามันมาอยู่ในมือตั้งแต่ตอนไหน -- แคตี้ถลึงตาใส่จอร์จแล้วชี้เข้าที่ท้องตัวเองเป็นการสื่อความหมายแบบตรงจุดที่สุดแล้ว
แฮร์รี่กับเฟร็ดยิ้มแฉ่งพลางตบบ่าแสดงความยินดีกับจอร์จ “ยินดีด้วยนะ”
ทว่าจอร์จที่ควรจะเข้าใจที่สุดกลับเข้าใจไปอีกทางเหมือนหักไม้กวาดไปทางซ้ายทั้งที่ลูกสนิชอยู่ทางขวา เขาคิ้วยุ่งเพราะคิดว่า
ลูน่าปวดท้อง หนำซ้ำหันไปว่าสองคนนั้นอีก “ยิ้มอะไรกันฮึ มีอะไรน่ายินดีนักหรือไง” เขาเดินไปเคาะประตู “นังหนู เธอปวดท้องหรือ
ทำไมไม่บอกฉันล่ะ เดี๋ยวฉันไปหายามาให้กินนะ นังหนู ตอบฉันหน่อยสิ”
“ให้ตายสิ ทำไมฝาแฝดฉันถึงได้ซื่อบื้อขนาดนี้นะ”
จอร์จหันมองคนทั้งกลุ่มที่ส่งสายตาแปลกๆ มาให้ยกเว้นรอน “พวกนายมองฉันอะไรอย่างนั้น”
แคตี้ถอนหายใจ “สมองเธอทึบเหมือนโทรลล์หรือไงกัน”
จอร์จรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ที่โดนด่ามาแบบแพ็คคู่ทั้งสามีภรรยา เหลือก็แต่จินนี่ที่ดูจะมองเขาด้วยแววตาปรานีมากกว่าใคร
จินนี่บอกพี่ชายของเธออย่างใจเย็น “ฟังนะจอร์จ ตอนนี้ครอบครัวพี่กำลังจะมีเจ้าตัวน้อย เข้าใจไหม พี่กับลูน่าน่ะ”
จอร์จกะพริบตาปริบๆ มือไม้อ่อนจนเค้กร่วงลงจากมือแต่มีรอนที่ร่ายคาถาหยุดไว้ได้ทันก่อนรีบเข้าไปเอามาวางไว้บนโต๊ะ
“เมียฉันอุตส่าห์ตั้งใจทำเชียวนะ โยนทิ้งง่ายๆ แบบนี้ได้ไง” รอนบ่นอย่างเอาเรื่อง -- ก็ฝีมือทำขนมของเฮอร์ไมโอนี่น่ะอร่อยที่สุดแล้ว
เขาบ่นอุบอิบไม่หยุดกระทั่งประกายแห่งความคิดเพิ่งจุดติด เขาชะงัก “เธอว่าไงนะ จินนี่”
จอร์จทำตาโตอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง หัวใจพองโต ริมฝีปากระบายยิ้มออกมา ดวงตาสีน้ำตาลมีน้ำตาคลอเบ้า
เขาเข้ามาเขย่ามือจินนี่
“เธอจะบอกว่าลูน่าท้องเหรอ จริงเหรอ พี่กำลังจะมีเจ้าตัวน้อยจริงๆ เหรอ” เขาปล่อยมือน้องสาว ฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
“พวกนายได้ยินกันไหม -- นายได้ยินไหมเฟร็ดดี้ ฉันกำลังจะเป็นพ่อคนล่ะ!” จอร์จจับไหล่เฟร็ดเขย่าจนตัวโยก
“เออ -- ได้ยินแล้วจอร์จจี้ ดีใจด้วย” เฟร็ดตบแขนจอร์จให้ใจเย็นก่อนยกมือมานวดต้นคอเมื่อตัวเขาเป็นอิสระ
จอร์จวิ่งกลับไปที่หน้าประตูห้องนอนแล้วเคาะประตูรัวๆ
จนดูเหมือนทุบอย่างขาดสติมากกว่า
“พี่นี่นะ
เวลาแบบนี้ทำไมถึงไม่มีสติเอาซะเลย” จินนี่บ่น
“นังหนู! ลูน่า! ลูน! ยัยหนู! ที่รักจ๋า! แม่ยอดยาหยี เปิดประตูให้ฉันหน่อยนะ” จอร์จทั้งขอร้อง อ้อนวอน ใช้เสียงออดอ้อน
แต่ก็ไม่ยอมเปิดประตู
เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัวอย่างหน่ายใจ ชักไม้กายสิทธิ์ออกมาชี้ไปที่ลูกบิดประตูแล้วโบกเบาๆ เกิดเสียงดังกริ๊กก่อนที่จอร์จจะเปิดประตู
เข้าไป
เขาคิดว่าลูน่าจะโกรธจนไม่ยอมฟังเขาแต่แท้จริงแล้วเธอกลับยืนอยู่หลังบานประตูตรงหน้าเขานี่เอง
ในดวงตาสีฟ้าซีดมีน้ำตารื้น เธอเผยรอยยิ้มน้อยๆ ให้จอร์จ คนผมแดงโผเข้ากอดเธอทันที เมื่อผละออกมาแล้วก็จุ๊บเบาๆ ที่ปาก
แล้วจูบหนักๆ ตรงหน้าผากแล้วกลับไปกอดอีกรอบ จนคนอื่นรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินขึ้นมาฉับพลันและคิดว่าควรปล่อยให้เป็นเวลาส่วนตัว
ของจอร์จกับลูน่าเลยย้ายกลุ่มกันไปรอที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง
“ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ฉันกำลังจะได้เป็นพ่อของวีสลีย์ตัวน้อยแล้วใช่ไหม”
ลูน่ากอดตอบพลางซบหน้าลงกับอกจอร์จ เธอพยักหน้าน้อยๆ แล้วตอบด้วยเสียงฝันๆ “แน่นอนคุณไม่ได้ฝันไป จอร์จี้”
เขาผละออกจากกอดแต่ยังจับแขนเธอเอาไว้ “แล้วฉันต้องทำยังไงบ้าง นังหนู โอ้ย ฉันตื่นเต้นไปหมดแล้ว แต่ก่อนอื่นฉันต้อง
ขอโทษเธอก่อนที่แกล้งทำเป็นคนบ้างานขนาดนั้นทั้งในจดหมายที่ส่งไปหาเธอที่โรมาเนียนั่นก็ด้วย อันที่จริงฉันกะว่ามันจะเซอร์ไพรส์เธอได้
-- ให้ตายสิ ฉันดีใจจริงๆ นะ โอจริงด้วย เธอต้องการอะไรเป็นพิเศษไหม เจ้าตัวน้อยในท้องล่ะอยากได้อะไร ถ้าฉันพูดด้วยตอนนี้วีสลีย์น้อย
จะได้ยินรึยัง -- เค้กเป็นไง เธออยากกินเค้กไหม เราเตรียมเค้กมาให้เธอด้วยนะ! เฮอร์ไมโอนี่กับจินนี่ทำมาให้แน่ะ หรือเธออยากกินพุดดิ้ง
ฉันจะรีบไปซื้อมาให้เดี๋ยวนี้เลย เอ๊ะ แต่เดี๋ยวก่อน วันนี้วันเกิดเธอ เธอควรจะเป่าเทียนก่อนสิ หรือว่าเธอไม่อยากเป่าเทียน?
เธออยากได้อะไรก็บอกฉันมาได้เลยนะ!”
เพราะเห็นจอร์จตื่นเต้นจนควบคุมอาการไม่อยู่ ทำเอาอารมณ์คุกรุ่นที่แปรปรวนของลูน่าอันมาจากการตั้งท้องพลันหายวับไปทันที
มือขาวซีดของเธอคว้าหมับเข้าที่แก้มสองข้างของผู้เป็นสามีเพื่อให้เขาสงบลง จ้องตาเขาพลางใช้มือข้างขวาเกลี่ยน้ำตาแห่งความดีใจ
ของคนตัวสูงออกให้
“ตอนนี้แค่มีคุณอยู่ตรงนี้กับฉันก็พอแล้วละ”
จอร์จเริ่มนิ่งเพื่อตั้งสติ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมสูดน้ำมูก ดวงตาสีน้ำตาลหลุบลงมองตาลูน่าแล้วก็หลุดยิ้ม แต่แล้วปากเริ่มเบะ
คล้ายจะร้องไห้อีกรอบด้วยความสุขที่ไม่สามารถหาคำสวยๆ ที่เหมาะกับความรู้สึกตอนนี้มาพูดได้เลย เขาโน้มหน้าลงเอาหน้าผากชนกับ
หน้าผากเล็กพร้อมยกมือขึ้นกอดเธออย่างหวงแหน
“ความจริงฉันควรต้องให้ของขวัญเธอแต่ดูตอนนี้สิ เธอกลับเป็นฝ่ายให้ของขวัญฉันชิ้นเบ้อเริ่มเลย!”
⭐
- Talk -
วีสลีย์มีข่าวดีแล้ววว
ป้าๆ น้าๆ เตรียมตัวรออุ้มหลานกันได้เลย(ซนแน่นอน) >_<
ความคิดเห็น