ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter] Little Loony Lovegood [George x Luna] [END]

    ลำดับตอนที่ #78 : 78 ll Cookies

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 743
      85
      24 ต.ค. 63


    78


    Cookies



              งานเลี้ยงเทศกาลคริสต์มาสของซลักฮอร์นผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีจดหมายกัมปนาทหรือของเล่นแปลกประหลาดจากจอร์จ

    มาถึงมือแฮร์รี่เพราะเขาดูแลลูน่าอย่างดีแถมไปส่งถึงหน้าหอคอยเรเวนคลอตามที่สัญญา ทั้งยังส่งรูปลูน่าในชุดออกงานสีเงิน

    กระโปรงบานเป็นชั้นๆ ส่งไปให้จอร์จตามคำขอของเขา ถึงชุดของลูน่าจะดูแปลกไปหน่อยแต่แฮร์รี่ก็ไม่ปฏิเสธว่าเธอดูดีทีเดียว 

    -- ริมฝีปากจอร์จยกยิ้มขึ้นทันทีที่เห็นภาพอย่างไม่ต้องสงสัย เขาชอบถึงขนาดเอาไปแปะหน้าโต๊ะทำงานเพื่อเป็นกำลังใจเคียงคู่กับ

    รูปคู่ของเขากับลูน่าเมื่อสมัยยังเรียนอยู่ฮอกวอตส์ที่คอลินส่งมาให้เป็นปึก


           ก่อนหน้าวันวาเลนไทน์หนึ่งวันคือวันเกิดของลูน่า เธอออกจากหอคอยเรเวนคลอด้วยต่างหูคู่ใหม่ที่เซโนฟิเลียสส่งมาให้เมื่อวันก่อน

    เป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้าเพราะมีหลายครั้งทีเดียวที่เขามักจะคำนวณเวลาในการเดินทางของนกฮูกคลาดเคลื่อนไปสักวันสองวัน


           ทันทีที่ก้นนั่งแปะกับเก้าอี้ตรงโต๊ะเรเวนคลอก็มีนกฮูกสองตัวบินโฉบลงมาตรงหน้าทำเอาลูน่ารีบยกพุดดิ้งหลบออกมาแทบไม่ทัน


              ถุงขนมห่อใหญ่ที่ข้างในเต็มไปด้วยคุกกี้ช็อกโกแลตถูกส่งมาจากบ้านโพรงกระต่ายพร้อมด้วยของเล่นตลกอีกหนึ่งกล่องใหญ่ๆ 

    ที่เขียนกำกับไว้ว่า ‘ จากเฟร็ดกับจอร์จ ’ แนบมาพร้อมกับจดหมายอีกหนึ่งฉบับถึง ลูน่า เลิฟกู๊ด

                

              ทุกทีจอร์จจะเริ่มต้นจดหมายด้วยคำว่า นังหนู หรือ ลูน่าที่รัก แต่ฉบับนี้เขาเริ่มต้นด้วยคำว่า...

     


    นังหนูที่ฉันรัก


    สุขสันต์วันเกิด!

              มีความสุขมากๆ อย่างที่เธอต้องการนะ ถึงฉันจะไม่สามารถไปมองรอยยิ้มเธอได้ทุกวันแต่ก็ยังอยากให้เธอยิ้มได้ตลอด

    เหมือนที่ผ่านมา ฉันหวังว่าตอนที่เธออ่านจดหมายคงไม่ตาบวมเพราะเมื่อคืนทำการบ้านจนอดนอนละ!


           ในถุงที่ส่งไปมีคุกกี้ที่ฉันทำเองมาให้ด้วย ฉันขอให้แม่สอนให้เองแหละ(แบบไม่ใช้เวทมนตร์ด้วย!) อันที่จริงฉันรู้ว่าเธอชอบพุดดิ้ง

    แต่ฉันกลัวว่ามันจะเละก่อนไปถึงมือเธอน่ะสิ


           ตอนแรกฉันกะจะทำขนมเค้กแต่แม่บอกว่านั่นมันยากเกินไปสำหรับมือใหม่ไม่ได้แกะกล่องอย่างฉัน แล้วก็บอกด้วยว่าเธอจะเข้าใจ 

    เพราะงั้นช่วยคิดว่ามันเป็นเค้กทีนะ เธอเข้าใจฉันใช่ไหม พยักหน้าทีนึงเร็ว -- เอาล่ะ ฉันเห็นเธอพยักหน้าในจินตนาการของฉันแล้วละ


           อีกไม่กี่เดือนก็ใกล้สอบว.พ.ร.ส.แล้ว อย่าเครียดเกินไปเข้าใจไหมเพราะฉันไม่อยากเห็นหรือรู้ว่าเธอเครียดจนต้องไปขอยาสงบใจ

    จากมาดามพอมฟรีย์


    หวังว่าเธอจะชอบของที่ส่งไปให้


    รักและคิดถึงมากๆ

    จอร์จี้


           ลูน่าอมยิ้มอย่างไม่รู้ตัวกับข้อความที่จอร์จเขียนมาในจดหมาย ต่อให้ไม่บอกก็รู้ว่าเขารีบเขียนจดหมายฉบับนี้มากแค่ไหน

    เพราะมีรอยเปื้อนของช็อกโกแลตติดมาด้วย -- ผิดกับจินนี่ เธอกำลังขมวดคิ้วจ้องคุกกี้ในถุงราวกับมันเป็นสัตว์ประหลาดเมื่อลูน่า

    หยิบคุกกี้ออกมาชิ้นนึง

                

              พักหลังมานี้ลูน่า มาเรีย จินนี่และคอลินสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนบางทีลูน่ากับมาเรียก็ย้ายไปนั่งกินอาหารที่โต๊ะกริฟฟินดอร์

    และบางทีจินนี่กับคอลินก็มานั่งกับสองสาวที่โต๊ะเรเวนคลอเหมือนอย่างวันนี้

               

              ลูน่ายื่นถุงแบ่งคุกกี้ให้มาเรีย จินนี่แล้วก็คอลิน ถึงจะลังเลแต่ทุกคนก็ยอมหยิบไปกินคนละชิ้นเพราะไม่อยากเสียน้ำใจ

    และโดยเฉพาะจินนี่ เธออยากรู้ด้วยว่าพี่ชายผู้ไม่เคยแตะเครื่องครัวอย่างจอร์จเวลาทำขนมจะออกมาเป็นยังไงแม้รูปร่างหน้าตาบางชิ้น

    มันดูพิลึกไม่เหมือนของกินก็ตาม

                

              ลูน่ากัดคุกกี้ไปเสียคำโต คนอื่นๆ เลยเกิดความไว้วางใจลองกัดตามบ้าง...แล้วคุกกี้ในปากก็กลับลงมาสู่มืออีกครั้ง

              

           เค็ม!!!

       

              คอลินใช้นิ้วชี้ปาดลิ้นตัวเองก่อนยกแก้วดื่มน้ำฟักทองจนหมดในรวดเดียว เด็กหนุ่มหันไปหาเดนนิสที่เพิ่งแบ่งให้กินด้วยหวังจะเตือน

    แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว มาเรียค่อยๆ วางที่เหลือบนขอบจานและไม่แตะมันอีกเลย ขณะที่จินนี่ถือค้างเอาไว้อย่างนั้นเหมือนช็อคไปแล้ว 

    ไม่เคยมีประสบการณ์การการกินคุกกี้ครั้งไหนที่เลวร้ายได้เทียบเท่าน้ำประสานของรากเกิร์ดดี้ขนาดนี้มาก่อน แต่คนที่เธอเป็นห่วงมากที่สุด

    คือเจ้าของขนมทว่าเธอกลับเห็นลูน่ายังเคี้ยวตุ้ยๆ จนหมดชิ้นแถมยังกลืนลงคอไปอีกต่างหากราวกับต่อมรับรสของเธอเสียไปแล้ว!


           “เธอกินมันเข้าไปได้ยังไงกันน่ะ ลูน่า”


           “ฉันว่ามันก็ยังกินได้นะ” เจ้าของดวงตากลมโตตอบจินนี่ เลื่อนสายตาที่ดูล่องลอยของเธอมองเพื่อนทีละคนที่ต่างก็หลบตาเธอ 

    “ฉันรู้ว่ามันค่อนข้างเค็มไปนิดหน่อย...เขาตั้งใจทำออก...ฉันไม่อยากให้เขาเสียใจ”

               

              “โธ่เอ๊ย ถึงจะรักกันแค่ไหนแต่เค็มแบบนี้ก็กินไม่ไหวหรอก ลูน่า ในฐานะที่ฉันเป็นน้องสาวของจอร์จ ฉันไม่ว่าอะไรหรอกถ้าเธอ

    จะคายมันทิ้งซะแถมฉันจะเขียนจดหมายไปต่อว่าเขาให้ด้วยว่ามันเค็มปี๋ออกอย่างนี้”

                

              ในตอนนั้นเอง แอรัล นกฮูกตัวใหญ่ที่ตอนนี้เป็นของฝาแฝดวีสลีย์บินถลาเข้ามาส่งจดหมายให้ลูน่าโดยมีข้อความตัวใหญ่เบ้อเริ่ม

    แค่บรรทัดเดียว

     

    อย่ากินคุกกี้นะ! ! !

     

               

              ช่วงบ่ายในวันเดียวกันจินนี่พาลูน่ามายังห้องเรียนว่างๆ ห้องหนึ่งเพื่อเซอร์ไพรส์ด้วยงานเลี้ยงวันเกิดเล็กๆ ที่มีแต่คนสนิทมาเท่านั้น 

    มาเรีย คอลินพ่วงด้วยเดนนิสมารออยู่ก่อนแล้วเพื่อเนรมิตให้ห้องโล่งๆ ดูเหมือนงานเลี้ยงขึ้นมาหน่อยด้วยของประดับที่มาจาก

    ร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์และของกินเล่นจุกจิกที่ด๊อบบี้เตรียมเอาไว้ให้ตามคำขอ พร้อมด้วยแฮร์รี่ที่ชั่วโมงนี้เขาไม่มีเรียน 

    อันที่จริงมีรอนมาด้วยแต่เขายังไม่โผล่มา


           ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ติดเรียนจึงแยกตัวออกมาร่วมงานเลี้ยงด้วยไม่ได้ ช่วงนี้เธอแทบไม่มีเวลาว่างเลยแต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอ

    กับรอนนั้นกลับมาคุยกันเหมือนเดิมในฐานะเพื่อนและไม่มีมากเกินไปกว่านั้นหลังจากที่เธอมาเล่าให้เขากับแฮร์รี่ฟังถึงประสบการณ์

    ที่ต้องเผชิญกับมือปลาหมึกของแม็คล้ากเก้นและหนทางการหนีเอาตัวรอดของเธอทำให้รอนยอมคุยดีๆ กับเธอแบบไม่พูดชวนทะเลาะ

    แถมยังช่วยด่าแม็คล้ากเก้นให้ด้วยอีกแรง

                

              “เฮอร์ไมโอนี่ฝากมาบอกว่าสุขสันต์วันเกิดแล้วก็ขอโทษด้วยที่มาไม่ได้เพราะติดเรียนวิชามักเกิ้ลศึกษา” แฮร์รี่บอกลูน่าและคอยก้มหัว

    หลบดอกไม้ไฟที่ลอยผ่านไปมารอบหัวเขา

                

              ลูน่าพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจเพราะเฮอร์ไมโอนี่อวยพรให้เธอตั้งแต่เช้าแถมทุกคนที่มาอยู่กับเธอตรงนี้ก็ทำให้ดีใจมากๆ แล้ว -- 

    หากคิดว่าตัวตั้งตัวตีในการจัดงานคือจินนี่หรือแฮร์รี่ละก็ผิดมหันต์เพราะคนต้นคิดก็คือคนผมแดงที่ทุกคนกำลังรออยู่นี่เอง

                

              ห้านาทีผ่านไปประตูห้องถูกเปิดออกเผยให้เห็นรอนเดินเข้ามาพร้อมกับเค้กในมือ แฮร์รี่อมยิ้มพลางส่ายหัวให้กับเพื่อนผมแดง

    ที่ตอนแรกปากก็บอกไม่รู้ว่าทำไมจอร์จถึงได้ทะนุถนอมลูน่าขนาดนั้น แต่พอเอาเข้าจริงกลับมีหลายครั้งทีเดียวที่รอนพูดถึงลูน่า

    ด้วยความเป็นห่วงและเอ็นดูไม่ต่างจากที่มีให้กับจินนี่


           รอนวางเค้กในมือลงบนโต๊ะกลางห้อง แต่พอก้มลงมองดูดีๆ แล้วมันไม่ใช่เค้กอย่างที่ทุกคนคิด


           “พุดดิ้ง?” จินนี่ถามพี่ชายของเธอด้วยความสงสัย


           “ใช่สิ ก็เจ้าของวันเกิดชอบพุดดิ้งมากกว่าเค้กนี่นะ”


           ลูน่าฉีกยิ้มกว้างให้รอนจากใจจริงที่เขาใจดีกับเธอถึงขนาดนี้ “ขอบคุณนะ”


           รอนผงะไปเล็กน้อยก่อนหันมองไปทางอื่นเหมือนไม่ใส่ใจเท่าไร “เพราะเห็นว่าเธอเป็นแฟนพี่ชายฉันหรอก”


           “อ้าวเหรอ” จินนี่พูดแทรก “แต่วันนั้นหนูได้ยินเหมือนพี่บอกว่าลูน่าก็เหมือนเป็นน้องสาวอีกคนไม่ใช่หรือ”


           “หูฝาดไปเองน่า” รอนตอบด้วยเสียงที่ดังกว่าปกติแต่ท้ายที่สุดก็หลุดยิ้มออกมา -- เขาเองเพิ่งมาคิดจริงจังเมื่อไม่นานมานี้ว่าลูน่า

    ก็เหมือนน้องสาวที่เขาต้องดูแลอีกคนแต่จะให้มาพูดต่อหน้าเจ้าตัวก็เขินเกินไป “เอ้า อย่ามัวยืนยิ้มสิลูน่า ถ้าเธอไม่อยากกินพุดดิ้ง

    ราดหน้าด้วยน้ำตาเทียนล่ะก็รีบเป่าเทียนเร็วเข้า”



           งานเลี้ยงวันเกิดเล็กๆ ของลูน่าอบอุ่นซะจนลูน่ารู้สึกรักคนกลุ่มนี้มากขึ้นไปอีกเหมือนเป็นครอบครัวของเธอ แต่วันเกิดของเธอ

    ยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อคืนในวันเดียวกันศาสตราจารย์ซลักฮอร์นจัดงานเลี้ยงวันวาเลนไทน์ล่วงหน้าวันจริงหนึ่งวันเพราะไม่อยากให้ตรงกับ

    งานที่ฮอกวอตส์จัดในวันรุ่งขึ้น


              แฮร์รี่พยายามหาทางเลี่ยงไม่ไปงานแต่อะไรก็ไม่เป็นใจ เขาปรึกษาเรื่องหนีงานเลี้ยงกับรอนเมื่อคืนก่อนแต่ก็พบว่าเพื่อนผมแดงคนนี้

    ตอบตกลงจะไปกับเฮอร์ไมโอนี่แล้วโดยที่แฮร์รี่ไม่รู้มาก่อนว่าสองคนนี้ไปคุยกันตอนไหน ถึงอย่างนั้นเขาก็เอ่ยคำยินดีด้วยกับความสัมพันธ์

    ที่คืบหน้าอีกนิดแต่แฮร์รี่ก็ถูกรอนขว้างหมอนมาอัดหน้าดังปั่บ! ‘ ฉันกับเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้คบกันซะหน่อย!


           ดังนั้นแฮร์รี่จึงขอยืมตัวลูน่าไปด้วยอีกครั้งและแน่นอนว่าจอร์จรู้แล้ว


           วงดนตรีบรรเลงเพลงด้วยท่วงทำนองหวานซึ้งดังขึ้นทันทีที่ทั้งคู่เดินเข้างานเลี้ยงในห้องทำงานของซลักฮอร์น กระดาษรูปหัวใจ

    โปรยปรายจากเพดานลงมาไม่ต่างจากตอนที่ล็อกฮาร์ตยังทำงานอยู่ที่นี่ ผ้าสีชมพูหลากหลายเฉดถูกประดับตกแต่งทั่วทั้งห้องจนมองนานๆ 

    แล้วรู้สึกเลี่ยนอยู่ไม่น้อยต่อให้ไม่ได้กลืนน้ำหวานลงคอสักหยด ทำเอาแฮร์รี่ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่มางานนี้แม้จะมีแฟรี่ตัวน้อยกระพือปีก

    บินอยู่รอบๆ ทำให้ห้องนี้ดูสวยงามราวต้องมนตร์ เขาจับมือลูน่าหวังพาเธอออกจากงานหรือไม่อย่างน้อยขอแค่ได้ออกไปตั้งหลักใหม่ก็ยังดี


              โชคช่างไม่เข้าข้างแฮร์รี่เอาซะเลย เมื่อมือข้างที่ว่างถูกรั้งไว้จากคนข้างหลัง เขาคิดว่าต้องเป็นซลักฮอร์นแน่ๆ จึงจำใจปั้นหน้ายิ้ม

    ที่บ่งบอกว่าฝืนใจสุดๆ แล้วหมุนตัวกลับไปประจันหน้ากันทว่าเป็นฝาแฝดผมแดงตระกูลวีสลีย์ที่ในมือมีแก้วเหล้าน้ำผึ้งอยู่คนละแก้ว


           แฮร์รี่กระพริบตาปริบๆ ด้วยความงุนงงว่าสองคนนี้มาได้ยังไง แต่ตอนนี้มือข้างที่จับลูน่าอยู่กลับว่างเปล่าเพราะมือเล็กๆ ถูกเกาะกุม

    โดยเจ้าของหัวใจตัวจริงไปแล้วแถมจอร์จกำลังก้มลงจุ๊บหน้าผากลูน่าให้เขาอิจฉาเล่นๆ อีกต่างหาก


           “คิดถึงจัง” จอร์จบอกลูน่าตรงๆ เขายังตื่นเต้นที่จะได้เจอเธอไม่หายหลังต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับมาตั้งเป็นเดือนๆ 

    อดใจไม่เขียนบอกทางจดหมายเพื่อเซอร์ไพรส์เธอ


           “พวกนายมาได้ยังไงกันน่ะ” รอนกับเฮอร์ไมโอนี่เพิ่งมาถึง เฟร็ดกับจอร์จยิ้มอย่างมีเลศนัยให้ทั้งคู่แต่รอนไม่สนใจเพราะสนมากกว่า

    ว่าพี่ชายฝาแฝดของเขามายืนหัวโด่อยู่ในงานเลี้ยงของซลักฮอร์นได้ยังไง


           “เพราะแรงคิดถึงของฉันที่มีต่อนังหนูฉันเลยมาถึงที่นี่ยังไงล่ะ” จอร์จตอบแล้วยิ้มแฉ่ง

               

              “ส่วนฉัน” เฟร็ดพูดบ้าง “เพราะแรงคิดถึงของแคตี้...แคตี้ไม่ได้อยู่ในงานนี้นี่หว่า...เพราะแรงคิดถึงของฉันที่มีต่อซลักฮอร์น 

    เขาเลยชวนฉันมางานเลี้ยงยังไงล่ะ”

                

              น้องๆ ต่างมองฝาแฝดด้วยแววตาว่างเปล่า เฟร็ดที่คิดว่าหมดสนุกแล้วเลยยอมบอกความจริง         


              “พวกนายก็รู้ว่าซลักฮอร์นชอบคบหาสมาคมกับคนดัง แล้วในยุคนี้ที่ตรอกไดแอกอนก็ไม่มีใครมีชื่อเสียงได้เท่าเราอีกแล้ว


           คำตอบกับท่าทางที่ดูโอ้อวดนั้นชวนให้หมั่นไส้แต่ที่เฟร็ดพูดนั่นก็ไม่ผิดจากความจริงไปเท่าไรนักเพราะตอนนี้ร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์

    กำลังโด่งดังในหมู่ผู้วิเศษด้วยกันและช่วยลบล้างคำว่า ‘ ร้านเลขที่เก้าสิบสามมีอาถรรพ์ ’ ไปจนหมดแล้วด้วย จึงไม่แปลกเลยที่ซลักฮอร์น

    คิดจะสนิทสนมกับฝาแฝดวีสลีย์เอาไว้บ้างแม้เจ้าตัวจะไม่เคยสอนพวกเขาสองคนเลยก็ตาม


           พวกเขาพากันเดินแหวกฝูงชนที่เป็นแขกจากที่อื่นที่ไม่ใช่เพียงแค่นักเรียนของฮอกวอตส์ไปคุยกันตรงมุมหนึ่งของห้อง กว่าจะรู้ตัว

    ว่ามีคนจับจองที่ตรงนั้นก่อนซึ่งจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ก็สายไปเสียแล้ว อาจารย์ผู้มีผ้าคลุมไหล่ทับซ้อนกัน

    หลายชั้นบวกกับแว่นตาใหญ่มหึมามองเห็นเด็กๆ ที่น่ารักของเธอในทันทีทันใด เธอเอ่ยทักลูน่าและเด็กสาวก็เข้าไปคุยด้วยท่าทางสุภาพ

    เพราะเลี่ยงไม่ได้


           เห็นแบบนี้แล้วจอร์จก็ไม่สามารถดึงลูน่าออกมาจากบทสนทนาที่ดำเนินอยู่ได้ทันที ทั้งวันมานี้เขาคิดทบทวนอยู่หลายหน

    ว่าจะถามนังหนูเรื่องคุกกี้ดีไหม เห็นชัดอยู่แล้วว่าพออยู่ต่อหน้าเข้าจริงเขาก็ไม่กล้าถาม...


              แต่จินนี่ช่วยตอบให้ได้ “ตอนเช้าลูน่ากินคุกกี้ไปตั้งห้าชิ้นแน่ะ” เธอบอกพี่ชายของเธอ ข้างๆ กันคือคอลินที่กำลังหันกล้อง

    ไปถ่ายทางนู้นทีทางนี้ที ส่วนลูน่ายังคุยกับศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ไม่เสร็จ

                

              “ไม่จริงน่า” เฟร็ดคราง “ตั้งห้าชิ้นเชียวเรอะ”


           “ฉันนับมากับตาตัวเองเลยละ” จินนี่ยืนยัน เหล่ตามองจอร์จ “ลูน่ารักพี่มากนะ ขนาดฉันเป็นน้องยังอยากโยนคุกกี้นั่นทิ้งเลย”


           “แล้วทำไมเธอไม่โยนมันทิ้งไปซะให้มันจบๆ ล่ะจินนี่ ให้ตายสิ ท้องไส้นังหนูของฉันไม่ปั่นป่วนไปหมดแล้วหรือนั่นน่ะ”


           “คุยอะไรกันหรือ” เสียงฝันๆ กลับเข้ามาร่วงวงด้วยแล้ว จอร์จจึงไม่รอช้าคว้าไหล่ลูน่าแล้วถามเธอว่าปวดท้องไหม เมื่อลูน่าบอกว่าไม่

    และเห็นว่าเธอยังปกติดีจริงๆ ถึงเบาใจ ถอนหายใจอย่างโล่งอก

                

              “โทษทีนะเรื่องคุกกี้ คราวหลังฉันจะ...”


           “ไม่ทำขนมอีกแล้ว” จินนี่ช่วยตอบแทนให้ “พี่ก็รู้ว่าลูน่าต้องแบ่งให้พวกเรากินด้วย ซึ่งฉันไม่มีทางให้เหตุการณ์แบบเมื่อเช้านี้

    เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด”


           แม้จะเป็นงานเลี้ยงสนุกสนานแต่จอร์จก็ยังไม่วางใจให้ลูน่าดื่มเหล้าน้ำผึ้งเพราะคิดว่าเธอยังเด็กเกินกว่าจะดื่มเหล้าได้และเขา

    ก็ไม่สามารถอยู่ดูแลเธอได้เหมือนตอนยังเรียนอยู่ที่นี่เลยเอี้ยวตัวไปคว้าช็อกโกแลตร้อนจากถาดที่เอลฟ์ประจำบ้านถือมาให้ลูน่าแทน


           “จะได้นอนหลับสบายๆ” หลังจากฝันร้ายกับคุกกี้ของเขามาแล้ว จอร์จยิ้มให้ลูน่า ยกมือจับปอยผมสีบลอนด์ที่ตกลงมาปรกหน้า

    ทัดหูให้เธอแต่หางตากลับเห็นแฮร์รี่ยืนอยู่ข้างๆ กัน “ไม่ไปคุยกับคนอื่นเหรอ”


           “ไม่เป็นไรเลย นายบอกฉันว่าให้ฉันอยู่กับลูน่าตลอดเวลา ฉันก็ทำอยู่นี่ไง” แฮร์รี่ตอบแล้วยิ้มแป้นแต่พอเห็นจอร์จหน้ามุ่ย

    เลยหลุดหัวเราะพรืด เขายกมือยอมแพ้ก่อนไปคุยกับพวกรอนที่อยู่ไม่ไกลกันเท่าไรนัก


           ระหว่างนั้นทั้งคู่ก็คุยแลกเปลี่ยนกันว่าได้ทำอะไรบ้างนอกเหนือจากที่เขียนไปในจดหมาย จอร์จเล่าว่าเขากำลังจะคิดค้นลูกอมตัวเบา

    เหมือนปุยนุ่นได้แล้ว ส่วนลูน่าก็เล่าเรื่องสัตว์วิเศษที่แฮกริดสอนและเธอก็ตัดสินใจเข้าชมรมดูแลสัตว์วิเศษของเขาแล้ว จอร์จฟังเสียงฝันๆ 

    เล่าอย่างเพลิดเพลินสลับกับช่วยเช็ดช็อกโกแลตออกจากมุมปากอีกฝ่ายบ้างบางครั้งแล้วก็กลับมาตั้งใจฟังต่อ

                

              เวลาเริ่มดึกขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งซลักฮอร์นกล่าวปิดงานเลี้ยงและเรียกรวมให้ทุกคนมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกหลังจากคอลินเสนอตัว

    ขอเป็นช่างภาพให้ ลูน่า เฮอร์ไมโอนี่และแฮร์รี่เดินไปยืนรวมกลุ่มกับครอบครัววีสลีย์อีกสี่คน จอร์จโอบไหล่ลูน่า ก้มตัวลงให้อยู่ในระดับ

    เดียวกันแล้วยิ้มกว้างตอนที่คอลินกดชัตเตอร์พอดี

                

              อีกรูปเฟร็ดอาสาเป็นคนไปถ่ายแล้วให้คอลินเข้ามาร่วมเฟรมถ่ายรูปแทนเพราะถึงเฟร็ดจะออกมาเป็นตากล้อง ยังไงเขาก็ยังมีจอร์จ

    ที่แทบไม่ต่างอะไรกับตัวเองอยู่ในรูปด้วยอยู่แล้ว

                

              เฟร็ดยกกล้องขึ้น นับถอยหลังก่อนจอร์จจะหันหน้าไปจูบขมับลูน่าเป็นจังหวะพอดีกับแสงแฟลชสีขาวที่สว่างวาบขึ้นจนแสบตา



              “เกือบลืมไปเลย” จอร์จบอกลูน่าตอนที่เธอกับพวกน้องๆ ของเขาเดินมาส่งที่หน้าประตูปราสาท เขาเอาจดหมายของชาลีออกจาก

    กระเป๋าเสื้อส่งให้เด็กสาว “เมื่อเช้านี้ฉันลืมส่งมาให้เธอด้วย -- ฉันเขียนจดหมายไปบอกชาลีว่าเธอสนใจอาชีพนักสัตว์วิเศษวิทยา 

    เขาเลยเขียนคำแนะนำมาให้เธอยาวเป็นพรืดเลย อันที่จริงเดี๋ยวก็มีอาจารย์แนะแนวเธอนั่นแหละ แต่ฉันว่าถ้าได้ข้อมูลจากผู้มี

    ประสบการณ์ตรงอาจจะช่วยได้มากกว่า ลองเอาไปอ่านดูนะ”


           ลูน่าจับซองจดหมายที่ดูเหมือนหนาเกินกว่าจะมีกระดาษอยู่ข้างในแค่แผ่นเดียว “ขอบคุณนะ” เด็กสาวยิ้มให้จอร์จที่เขามักจะ

    ช่วยสนับสนุนเธอเสมอตั้งแต่บอกว่าอยากเป็นคนพากย์ควิดดิชแล้ว เธอเขย่งปลายเท้าแล้วหอมแก้มขอบคุณเขาหนึ่งที 


           จอร์จยิ้มค้าง ตัวแข็งทื่อ เลื่อนสายตามองสบตากับเจ้าของตากลมแป๋วตรงหน้า “ขออีกข้างด้วยสิ”


         “ให้ตายสิ แม่หนูลูน่า” เฟร็ดพูดขัดพลางดึงแขนจอร์จที่กำลังจะยื่นแก้มอีกข้างให้ลูน่าหอม “ทำแบบนี้เจ้านี่ก็ไม่ยอมกลับบ้านกันพอดี”


           เฟร็ดพูดถูกเพราะจอร์จไม่ยอมกลับง่ายๆ เขายื้อกับเฟร็ดจนหลุดมือคนพี่มาได้แล้วพุ่งเข้าหาลูน่าพร้อมยื่นแก้มอีกข้างให้โดนจมูกเธอ

    ก่อนระบายยิ้มพอใจถึงจะยอมโบกมือลานังหนูกับน้องๆ เพราะถึงเวลาต้องกลับบ้านจริงๆ แล้ว  


           “แล้วเจอกัน นังหนู! รักเธอนะ!!”

               

              “ดูสิจินนี่” รอนกอดอกหันมาพูดกับน้องสาว “น้องสาว น้องชายยืนอยู่ตรงนี้ด้วยแต่พูดถึงแฟนตัวเองแค่คนเดียวเนี่ยนะ!”



           กลับมาถึงบ้านโพรงกระต่ายแทนที่จะรีบเข้านอนเพราะวันวาเลนไทน์พรุ่งนี้ฝาแฝดวีสลีย์มีแผนจะเนรมิตร้านให้เข้ากับเทศกาล

    แต่พวกเขากลับยังนอนเล่นอยู่บนเตียงในห้องนอน จอร์จนอนหงายหนุนมือที่ประสานกันมองเพดานคล้ายกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว

    มาราวสิบนาทีได้แล้ว 

                

              “เป็นอะไรไป” เฟร็ดนอนตะแคง เอามือเท้าหัวมองแฝดคนน้อง “คิดถึงนังหนูของนายอีกแล้วล่ะสิ”

                

              จอร์จหันมองเฟร็ด ลุกผึงจากเตียงมานั่งตรงขอบเตียงแล้วคุยกับแฝดคนพี่ด้วยท่าทางดูเป็นการเป็นงาน “ขอถามอะไรหน่อย”

                

              “จริงจังมาเชียว อะไรล่ะ”

                

              “นายคิดว่าผู้หญิงเปลี่ยนกลิ่นแชมพูที่ใช้มานานติดกันหลายปีไปใช้กลิ่นอื่นเป็นเพราะอะไร”

                

              เฟร็ดทำเสียงครางในลำคออย่างใช้ความคิด “แม่หนูลูน่าเปลี่ยนกลิ่นแชมพูรึ”

                

              “อือ ฉันรู้ตั้งแต่ตอนที่จูบหน้าผากนังหนูตอนเจอกันแล้ว บอกตามตรง กลิ่นนี้ฉันก็ชอบนะแต่ก็สงสัยอยู่ดีว่าทำไมอยู่ดีๆ 

    ถึงเปลี่ยนขึ้นมา -- หรือนี่เป็นการบอกทางอ้อมว่านังหนูของฉันหมดรักฉันแล้ว”


           เฟร็ดถอนหายใจ ลุกขึ้นนั่งบ้าง “รู้อะไรไหมจอร์จจี้ ฉันชักสงสัยแล้วว่านายเป็นผู้ชายจริงรึเปล่า คิดเล็กคิดน้อยจริงเชียว 

    จะถามเจ้าตัวตรงๆ ก็ไม่ถาม นังหนูของนายอาจจะหาซื้อกลิ่นเดิมที่เคยใช้ไม่ได้ก็ได้ ขนาดเมื่อเดือนก่อนนายยังเคยเปลี่ยนไปใช้กลิ่นอื่นเลย 

    แล้วแบบนี้มันหมายความว่านายหมดรักจากนังหนูของนายหรือเปล่าล่ะ”


           “เออ จริงของนาย”


           “อีกอย่างนะ ถ้านังหนูของนายเปลี่ยนใจไปจริงคงไม่กล้ำกลืนฝืนทนกินคุกกี้สูตรเกลือของนายไปตั้งห้าชิ้นหรอก”


           จอร์จสะอึกเพราะถูกแทงใจดำ “ฉันจะขอบใจมากถ้านายไม่พูดถึงมันอีก”


    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×