คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #63 : 63 ll Draco
63
Draco
ผลการตรวจสอบคณะอาจารย์ด้วยกันของเจ้าพนักงานสอบสวนใหญ่ประจำฮอกวอตส์หรืออัมบริดจ์ออกมาแล้ว ซึ่งไม่ส่งผลใดๆ
กับศาสตราจารย์มักกอนนากัลหรือศาสตราจารย์ฟลิตวิกผู้ใจดีเลยแม้แต่นิด แต่อาจไม่ใช่กับศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ผู้เที่ยงตรง
ที่ทำนายอย่างตรงไปตรงมาว่าศาสตราจารย์อัมบริดจ์จะเจอจุดจบกับการเป็นอาจารย์ของฮอกวอตส์แบบไม่สวยงามนัก
และคำทำนายนั้นมีผลย้อนกลับมาหาทรีลอว์นีย์โดยตรงในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา...
ศาสตราจารย์อัมบริดจ์ยืนประกาศต่อหน้าศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ที่ร้องไห้โหยหวนอยู่กับกองหีบสัมภาระของเธอตรงลานปราสาท
โดยที่ฟิลช์ยังคงทำงานขยันขันแข็งเทียวยกหีบออกมากองเพิ่มไม่หยุด “จากการตรวจสอบของดิฉันทำให้ดิฉันได้ทราบว่าการสอนของคุณ
นั้นไร้ประสิทธิภาพถึงขนาดแค่การทำนายสภาพอากาศในวันพรุ่งนี้คุณก็ยังทำไม่ได้ อีกทั้งคุณยังไม่มีการปรับปรุงตัวใดๆ
ดิฉันจึงมีความเห็นว่าคุณไร้ประโยชน์กับนักเรียนผู้เป็นอนาคตของพวกเรา”
เกิดเสียงฮือฮาขึ้นในหมู่นักเรียนทั้งโรงเรียนที่ต่างมามุงดูกันระหว่างพักกลางวันหลังรู้ข่าวจากลี จอร์ดันว่ามีอาจารย์ของฮอกวอตส์
ถูกไล่ออก ทุกสายตามองดูอาจารย์ที่น่าสงสารทรุดนั่งลงบนหีบใบหนึ่ง แม้ใจอยากไปช่วยเธอแต่ก็ไม่มีใครสามารถทำได้
กระทั่งศาสตราจารย์มักกอนนากัลเดินมา เสียงฝีเท้าที่มั่นคงพาให้นักเรียนเหลียวกลับไปมอง ทุกคนที่ยืนขวางทางจึงพร้อมใจกัน
แหวกทางให้เธอเดินไปหาทรีลอว์นีย์
“ได้โปรด... คุณไล่ฉันออกไม่ได้ ...ฮอกวอตส์เป็นบ้านของฉัน” ทรีลอว์นีย์พูดปนเสียงสะอื้นขณะรับผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่
จากมักกอนนากัลที่เข้ามาปลอบเธอ
“ทำไมดิฉันจะไล่คุณออกไม่ได้ล่ะคะ” อัมบริดจ์เชิดหน้าขึ้นด้วยใบหน้าพอใจพลางตบม้วนกระดาษในมือกับมืออีกข้าง
“ในเมื่อรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ลงนามกำกับในคำสั่งปลดคุณออกจากการเป็นอาจารย์ของฮอกวอตส์ กรุณาย้ายตัวเองพร้อมกับ
สัมภาระทั้งหมดออกไปจากปราสาทภายในวันนี้ด้วย”
อัมบริดจ์ยิ้มอย่างได้ใจระคนภูมิใจที่ตนมีอำนาจนี้มาอยู่ในมือ ระหว่างที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลกำลังเจรจากับอัมบริดจ์
และปลอบทรีลอว์นีย์ไปพร้อมๆ กันอยู่นั้น จอร์จก็ได้เหลือบลงมองคนข้างตัวที่ขมวดคิ้วยุ่งด้วยความกังวลใจ ทรีลอว์นีย์เป็นอาจารย์ที่
แปลกพิลึกยากจะเข้าใจก็จริง แต่เขาก็รู้ว่าเธอยกให้ลูน่าเป็นหนึ่งในศิษย์คนโปรดเพราะมีพรสวรรค์ในการทำนาย พอเห็นแบบนี้
ลูน่าคงไม่มีทางรู้สึกยินดีได้แน่นอนที่อาจารย์สอนพยากรณ์ศาสตร์ถูกไล่ออก
จอร์จใช้หลังมือแตะกับหลังมือลูน่าอย่างแผ่วเบาราวกับบอกให้รู้ว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของเธอดี แววตาเด็กสาวเกิดไหววูบขึ้นมา
บวกกับเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่น่าสงสารของศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์กับนักเรียนบางคนที่ชื่นชอบในวิชาพยากรณ์ศาสตร์
ทำให้ลูน่าเปลี่ยนมาเป็นจับมือจอร์จแทน
จอร์จบีบมือตอบ “เดี๋ยวดัมเบิลดอร์ก็มาจัดการได้ -- ศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ต้องไม่ถูกไล่ออกจากฮอกวอตส์ไปได้หรอก
...ฉันเชื่ออย่างนั้น” จอร์จบอก
ทั้งที่ในใจกลับไม่มั่นใจอย่างที่พูดเพราะเขารู้ดีว่าถ้าอัมบริดจ์คิดจะทำอะไรก็ย่อมเป็นไปได้ทั้งนั้น
⭐
ณ ห้องต้องประสงค์อันเป็นที่รวมตัวของกองทัพดัมเบิลดอร์มีสมาชิกทั้งหมดกำลังฝึกคาถาสกัดภัย เสกคำสาปทลายด่าน
และคาถาปลดอาวุธ แฮร์รี่กับเซดริกกำลังเดินไล่ดูแต่ละคนและคอยให้ความช่วยเหลือทว่าการฝึกครั้งนี้นั้นต่างจากสองหนแรกที่ผ่านมา
เวลานี้ดูเหมือนทุกคนจะไม่มีกระจิตกระใจจะตั้งสมาธิเสกคาถา สาเหตุทั้งหมดไม่ใช่แค่ที่ทรีลอว์นีย์ถูกปลดจากการเป็นอาจารย์
แต่เป็นเพราะไม่รู้ว่าตนกำลังต่อสู้กับอะไรอยู่และทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อฮอกวอตส์กำลังถูกกระทรวงควบคุมในแบบที่พวกเขา
อยากให้เป็นไปแล้วจริงๆ แม้แต่ดัมเบิลดอร์ยังทำได้แค่รั้งตัวทรีลอว์นีย์ให้อยู่ต่อที่ปราสาทแห่งนี้ แต่เขาไม่มีอำนาจถึงขนาดถอนคำสั่ง
ของรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์อย่างฟัดจ์ให้อาจารย์ที่อยู่กับฮอกวอตส์มานานเกือบยี่สิบปีเป็นอาจารย์ต่อได้
เฮอร์ไมโอนี่หันไปหาลาเวนเดอร์กับปาราวตีที่เสกให้เดนนิสลอยหวือขึ้นกลางอากาศพร้อมกับปล่อยให้ร่างนั้นร่วงลงกระแทกพื้น
แต่พวกเธอกลับทำเพียงมองด้วยแววตาว่างเปล่า “พวกเธอต้องตั้งใจกันกว่านี้นะ” เธอเดินเข้าไปช่วยพยุงให้เดนนิสลุกขึ้น
แล้วปล่อยให้รอนช่วยดูแลต่อ
ลาเวนเดอร์กำไม้กายสิทธิ์ในมือแน่น “เธอก็พูดได้สิเฮอร์ไมโอนี่ เพราะเธอไม่ได้เรียนกับศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ไง เธอไม่รู้
ว่าอาจารย์รู้สึกยังไงที่ถูกปลดออกจากอาชีพที่เขารักมากกว่าทุกอย่างบนโลกนี้”
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ “ฉันเข้าใจเหมือนกับเธอนั่นแหละ แต่ตอนนี้เธอช่วยอาจารย์ของเธอได้สักอย่างหรือเปล่าล่ะ”
ลาเวนเดอร์ปิดปากเงียบทันควัน “เพราะอย่างนั้นเราต้องฝึกต่อไป อย่างน้อยก็ถือซะว่าได้ช่วยอาจารย์ทรีลอว์นีย์ของพวกเธอ
รวมทั้งอาจารย์คนอื่นๆ ที่อาจจะตรวจสอบไม่ผ่านอย่างอาจารย์...แฮกริด ถ้าเราทำได้ดีก็จะยิ่งตอกย้ำว่าอัมบริดจ์เป็นอาจารย์ที่...ที่...”
“ห่วยแตก” รอนช่วยพูดแทนความคิดที่ไม่กล้าบอกออกมาเป็นคำพูดของเฮอร์ไมโอนี่
“ไม่ได้เรื่อง” เฟร็ดพูดต่อ
แล้วตามด้วยจอร์จ “และไม่เอาไหน”
“อย่างน้อยศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ก็ยังอยู่ที่ปราสาทนี้นะ ถึงไม่ได้สอนต่อแต่พวกเธอจะไปคุยกับเขาก็ได้นี่” แฮร์รี่พูด
ทำให้ลาเวนเดอร์กับปาราวตีหันมองหน้ากันเงียบๆ
“เอาล่ะ งั้นเราก็มาฝึกกันต่อเถอะ!” เซดริกกล่าวกับทุกคนในห้องพร้อมรอยยิ้มที่ช่วยเพิ่มกำลังใจให้โดยเฉพาะสาวๆ ที่กำลังใจฝ่อ
การฝึกดำเนินต่อมาเรื่อยๆ จนใกล้เวลางดออกจากหอคอยของตัวเอง ในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มและได้รับความนับถือ
เซดริกจึงบอกให้ทุกคนกลับหอคอยของตัวเอง ระหว่างที่ลีจอร์ดันกับแก๊งแอนโทนีคอยดูต้นทางเพื่อปล่อยให้รุ่นน้องได้กลับหอคอยกัน
โดยไม่ถูกจับได้ เซดริกก็หันมาคุยกับแฮร์รี่ถึงผลการฝึกวันนี้ที่ก้าวหน้าขึ้นจากวันแรกอย่างไม่ต้องสงสัย
แฮร์รี่ยิ้มน้อยๆ ให้กับรุ่นน้องปีสามที่โบกมือให้และตะโกนขอบคุณกลับมา บางทีตอนนี้อาชีพครูอาจเป็นหนึ่งในอาชีพที่เขากำลัง
สนใจรองจากมือปราบมารขึ้นมาบ้างแล้ว คนที่ทำให้คิดอย่างนั้นเห็นทีจะเป็นเนวิลล์ที่ใช้คาถาปลดอาวุธกับจินนี่ได้อย่างไม่มีที่ติ
แม้เขาจะรับไม้กายสิทธิ์ไม่แม่นจนทำให้ไม้ของจินนี่ลอยมาชนหน้าผากแฮร์รี่ก็เถอะ
ลูน่าชูมือออกไปจับเกล็ดหิมะเย็นเฉียบที่ปลิวลงมาจากเพดานเพราะมีใครสักคนเสกเอาไว้ก่อนเจ้าของเสียงทุ้มจะเดินเข้ามาหา
และแตะมือลงบนบ่าเธอ
“นังหนู กลับหอคอยกัน ฉันไปส่ง” จอร์จก้มลงปัดหิมะบนผมลูน่าออกแล้วยืดตัวตรงพลางตบเบาๆ บนกระเป๋าที่สะพาย
เอาไว้บนไหล่ขวาเพื่อบอกว่าเขาเอากระเป๋าของเธอมาให้แล้ว
เด็กสาวผมบลอนด์พยักหน้ารับหงึกหงัก ยื่นมือหมายจะรับกระเป๋าตัวเองแต่คนตัวสูงกว่ากลับหันกระเป๋าหนีแล้วเดินนำเธอ
ไปยังประตู แต่แล้วทั้งคู่กลับยืนนิ่งค้างเพราะเห็นคนที่ยืนประจันหน้ากับแฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ข้างนอกห้องต้องประสงค์
เซดริกยกแขนกั้นเฟร็ด จอร์จ ลูน่ารวมทั้งคนอื่นๆ เอาไว้ไม่ให้ออกไปตอนนี้
เด็กชายผมบลอนด์จากสลิธีรินเผยตัวออกมาจากเงามืดให้เห็นใบหน้าเสี้ยมแหลมได้ชัดเจนขึ้น เดรโกขมวดคิ้วมอง
ก่อนผุดยิ้มหยันใส่เพื่อนร่วมชั้น
“พวกเธอทำผิดกฤษฎีกาฉบับที่ยี่สิบหกอยู่นี่นา”
“เธอคิดจะทำอะไร” เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงเย็น
“เธอไม่ได้โง่เง่าซะหน่อย เกรนเจอร์ คิดสิว่าฉันจะทำอะไร” เดรโกเอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม ยักคิ้วให้พลางเอามือล้วงกระเป๋า
เตรียมเดินจากไปอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่าถ้าไม่ติดว่ามีคำสั่งจากเฮอร์ไมโอนี่ให้จับตัวเขาเอาไว้
พริบตาเดียวแขนทั้งสองข้างของเดรโกก็ถูกล็อกด้วยมือรอนกับแฮร์รี่ ส่วนขาถูกแอนโทนีกับฟรานซิกโกเพื่อนของเขา
ช่วยยกกันคนละข้าง ดังนั้นเดรโกจึงถูกพาตัวให้เข้าไปในห้องต้องประสงค์อย่างไม่เต็มใจ
เมื่อเข้ามาข้างในก็ถูกปล่อยให้นั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งตรงกลางห้อง ดวงตาสีซีดของเดรโกเหลียวมองรอบห้องด้วยความสนอกสนใจ
อย่างลืมตัวโดยไม่ปริปากพูดอะไร ขณะที่สายตาคนรอบข้างต่างมองเขาด้วยความหวาดกลัว
“ไม่เป็นไร ทุกคนจะไม่เป็นอะไรฉันรับรองได้” เฮอร์ไมโอนี่หันไปพูดปลอบคนอื่นๆ โดยเฉพาะเดนนิสที่เกาะแขนคอลินแน่น
“พวกเธอกลับหอคอยกันไปเถอะ” เด็กสาวพยักหน้าให้ลีที่ยืนคอยอยู่ตรงหน้าประตู ชายหนุ่มพยักหน้ารับพร้อมกวักมือเรียกให้สองพี่น้อง
ออกมา
คนอื่นๆ ที่เหลือทยอยกันเดินออกอย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าเดรโกจะจำตนได้แล้วเอาไปฟ้องอัมบริดจ์
ตอนนี้จึงเหลือเซดริก เฟร็ด จอร์จ ลูน่า จินนี่ มาเรียและเพื่อนร่วมชั้นของเดรโกอย่างเฮอร์ไมโอนี่ รอน แฮร์รี่ ดีน เชมัสที่คอยยืน
อยู่ข้างๆ มาเรีย และเนวิลล์ที่เห็นว่าเพื่อนร่วมห้องที่หอนอนของเขายังไม่กลับ เขาก็จะยังไม่กลับและอยู่เพื่อช่วยกดดันเดรโกด้วยอีกคน
เซดริกลากเก้าอี้มาวางตรงหน้าเดรโกและนั่งลงประจันหน้ากันด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “นายรู้ได้ยังไงว่าพวกเราอยู่ที่นี่ นายตามใครมา”
“เปล่า ฉันไม่ได้ตามใครมา” เดรโกตอบทันที
“นายมาคนเดียวหรือมีคนอื่นมากับนายด้วย”
“ฉันมาคนเดียว บางทีนายอาจลืมว่าฉันเป็นพรีเฟ็ค ฉันมาเดินตรวจตราตามหน้าที่ของฉัน”
เซดริกเลิกคิ้ว พอใจกับคำตอบไม่น้อย “จริงของนาย”
“แล้วเราจะทำยังไงต่อ” แฮร์รี่ขอความเห็นจากเฮอร์ไมโอนี่
“มีอยู่ทางเดียว -- ให้มัลฟอยเซ็นชื่อร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มก.ด.ของเรา”
รอนหันขวับมองเฮอร์ไมโอนี่อย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง “ไม่เอาน่า เฮอร์ไมโอนี่ เธอคิดอะไรของเธอ”
“คิดดูนะโรนัลด์ ถ้ามัลฟอยเซ็นชื่ออยู่กับก.ด.ของเรา เขาก็ต้องไม่มีทางไปบอกอัมบริดจ์อยู่แล้วเพราะมีชื่อตัวเองอยู่ในใบรายชื่อ”
ทุกคนเงียบกับข้อเท็จจริงข้อนี้ แต่รอนกับแฮร์รี่ที่เคยเป็นอริกับเดรโกกลับยังไม่ไว้วางใจที่จะให้มีคนจากสลิธีรินมาอยู่ในกลุ่มด้วย
“แต่เดรโกมาจากสลิธีริน”
“แล้วยังไงล่ะรอน” เด็กสาวผมฟูยกแขนกอดอกถาม
“เราไว้ใจเขาได้ที่ไหนกัน”
“เขาจะไม่บอกอัมบริดจ์หรอก” เสียงฝันๆ พูดแทรกทั้งคู่ เฮอร์ไมโอนี่กับรอนหันขวับมองเธอ รวมทั้งเดรโกที่เลื่อนสายตามองเธอ
เช่นกัน ดวงตาสีซีดของทั้งคู่มองสบกันก่อนเดรโกต้องเป็นฝ่ายหลบดวงตากลมโตคู่นั้นเสียเอง
“ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้นล่ะ ลูน่า” รอนถาม ไม่ใช่แค่สงสัยแต่เขาไม่เข้าใจมากๆ
ลูน่าเชื่อว่าถ้าเฮอร์ไมโอนี่พูดอะไรออกมานั่นย่อมผ่านการไตร่ตรองมาดีแล้วเพราะฉะนั้นการให้เดรโกมาอยู่ในกลุ่ม
ก็ต้องเป็นทางเลือกที่ถูกต้องและอีกอย่าง... “เพราะฉันเชื่อว่าเขาเป็นคนรักษาสัญญา” ลูน่าเว้นช่วง มองเดรโกที่เสมองไปทางอื่น “ใช่ไหม”
เดรโกนั่งนิ่งครู่หนึ่งก่อนพยักหน้ารับเล็กน้อย “อือ”
“นายสัญญาแล้วนะว่าจะไม่บอกอัมบริดจ์เรื่องกลุ่มลับของเรา” เซดริกถามเสียมเข้ม
“อือ ไม่บอก”
“งั้นก็ดี” เซดริกพยักหน้า ส่งสายตาหาเฮอร์ไมโอนี่ เด็กสาวผมฟูเดินไปหยิบม้วนกระดาษออกมาจากกระเป๋าอย่างรู้งาน
คลี่กระดาษวางลงบนโต๊ะตรงหน้าเดรโกพร้อมปากกาขนนกกับหมึก
“เพื่อการเข้าร่วมกลุ่มโดยสมบูรณ์ เธอต้องเซ็นชื่อตัวเองลงในนี้”
เดรโกชั่งใจ แต่รับรู้ได้ว่ามีสายตาลูน่ากำลังมองมา เขารับรู้ได้แม้ไม่ต้องหันไปมองเพราะไม่อยากเห็นเธอยืนจับมือกับ
ฝาแฝดตระกูลวีสลีย์ มือขาวซีดยื่นไปจับปากกาขนนก จุ่มปลายลงไปในกระปุกหมึก กลืนน้ำลายลงคอก่อนจรดปลายปากกา
เขียนชื่อตัวเองลงในกระดาษเป็นรายชื่อท้ายสุด
เซดริกหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นจากโต๊ะแล้วส่งให้เฮอร์ไมโอนี่ “ทีนี้ก็คงต้องบอกว่า ‘ ยินดีต้อนรับ ’ ”
“แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง”
“ก็ปิดปากเงียบเรื่องนี้น่ะสิ” รอนตอบทันควัน
เฮอร์ไมโอนี่ใช้ม้วนกระดาษตีเข้าที่แขนรอน “นายนั่นแหละที่ควรปิดปากเงียบตอนนี้” รอนส่งสายตาหาแฮร์รี่ว่าต้องการมีพวก
ทว่าเพื่อนผมดำกลับทำเพียงยักไหล่ให้ราวกับบอกว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรตอนนี้คงไม่ทันแล้ว
เซดริกใช้สายตามองรอนเพียงชั่วครู่แล้วหันกลับมาหาสมาชิกใหม่ “ถ้านายอยากมาเรียนกับเราก็มาได้ สัปดาห์ละครั้ง แต่ในเมื่อนายเป็นซีกเกอร์ของสลิธีรินเพราะงั้นพวกฉันจะจัดวันไม่ให้ตรงกับวันซ้อมของนาย”
“แล้วถ้าฉันไม่มาล่ะ”
“ก็ดีน่ะสิ”
“เงียบนะ โรนัลด์! อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำอีก” เฮอร์ไมโอนี่ตวาดใส่รอน
เซดริกส่ายหัวน้อยๆ ให้กับรุ่นน้องทั้งสองแล้วพูดกับเดรโกต่อ “จะมาหรือไม่นั่นเป็นสิทธิ์ของนาย เราจะบอกว่าจะมารวมตัวกัน
วันไหน ถ้านายอยากมา...ที่นี่ก็ต้อนรับ”
⭐
“เรียนพยากรณ์ศาสตร์วันนี้มีความสุขมากที่สุดเลย อาจารย์ฟีเรนซีกับอาจารย์เบนจามินนี่หล่อจริงๆ”
เสียงพูดคุยของปาราวตีกับลาเวนเดอร์เรื่องอาจารย์สอนพยากรณ์ศาสตร์คนใหม่ลอยเข้าหูจอร์จตรงโต๊ะกริฟฟินดอร์
ในห้องโถงใหญ่ระหว่างกินอาหารเที่ยงทำเอามือที่ถือส้อมถึงกับชะงักค้าง
“พวกเธอว่าไงนะ” จอร์จถาม “เธอว่ามีเรียนกับใครนะ”
“อาจารย์ฟีเรนซีกับอาจารย์ผู้ช่วยเบนจามิน พวกเขาเป็นเซ็นทอร์” ปาราวตีตอบขณะส่องดูความเรียบร้อยของผมตัวเอง
ผ่านด้านหลังช้อนเผื่อว่าจะได้เจออาจารย์คนใหม่มารับประทานอาหารที่นี่
ตามด้วยลาเวนเดอร์ที่ทำท่าเคลิ้มฝัน “แถมหุ่นยังดีมากๆ ด้วย”
เด็กสาวทั้งสองเอาแต่ชมเรื่องหุ่นของเซ็นทอร์ไม่ขาดปากจนพวกหนุ่มๆ ที่เรียนพร้อมกันกับเธอได้แต่กลอกตา นี่มันยิ่งกว่าตอนที่
มีล็อกฮาร์ตมาสอนซะอีก!!
“คิดถูกจริงๆ ที่ยังไม่ยกเลิกวิชานี้ไปซะก่อน แถมห้องเรียนก็เทียบไม่ติดกับห้องของศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์เลยว่าไหม
อย่างกับยกป่าต้องห้ามมาไว้ในห้องเรียนอย่างนั้นแหละ ยิ่งช่วงตอนกลางคืนที่มีดาวเต็มเพดานยิ่งโรแมนติกสุดๆ” ปาราวตีพูดต่อ
กับลาเวนเดอร์
“พวกเธอความจำสั้นกันหรือยังไง ก่อนหน้านี้ยังร้องห่มร้องไห้ที่ทรีลอว์นีย์ถูกปลดอยู่เลย” รอนช่วยเตือนความจำแต่กลับถูก
ลาเวนเดอร์มองตาขวางใส่
“พวกเราเสียใจนะ! ปาราวตีก็แค่พูดถึงห้องเรียน
ส่วนเรื่องเรียนพวกเราก็ยังชอบศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์อยู่ดีนั่นแหละ!”
รอนกับลาเวนเดอร์และปาราวตียังคงเถียงกันต่อไปโดยมีดีนกับเนวิลล์ที่รอนลากเข้ามาร่วมฝั่งด้วยระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยู่
จอร์จตากระตุก หันขวับไปหาเชมัสที่ตักสลัดเข้าปากเหมือนไม่คิดจะใส่ใจที่พวกสาวๆ พูดกัน
“ไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ” จอร์จถาม แต่เชมัสมองมาด้วยสีหน้างุนงง “มาเรียไง บ่ายวันนี้เรเวนคลอปีสี่มีเรียนพยากรณ์ศาสตร์
กับเซ็นทอร์พวกนั้นนะ”
“อ้อ ไม่หรอก ปกติมาเรียก็ชมคนหล่อๆ อยู่แล้ว ฉันได้ยินเธอพูดให้ฟังว่า ‘ ทำไมเซดริกหล่ออย่างนี้นะ ’ มานับไม่ถ้วนแล้ว
แค่ต่อจากนี้จะได้ยินมาเรียชมว่าเซ็นทอร์หล่ออีกสักร้อยหนจะเป็นไรไป”
“แต่มาเรียเป็นแฟนนายนะ”
“ก็ใช่น่ะสิ เพราะงั้นฉันถึงไม่รู้สึกอะไรเพราะสุดท้ายแล้วยังไงมาเรียก็เป็นแฟนฉัน ไม่ได้เป็นแฟนผู้ชายคนอื่น”
เฟร็ดตบมือสองสามแปะแล้วตบบ่าน้องชายฝาแฝด “คิดให้ได้อย่างเชมัสบ้างสิ หวงแฟนเกินไปแล้วนะนาย ฉันว่านังหนูของนาย
ไม่หลงเสน่ห์เบนจามินง่ายๆ หรอก”
“ฉันรู้น่า” จอร์จรู้แต่มันก็อดรู้สึกขัดแย้งอยู่ในใจไม่ได้อยู่ดี
...ใครจะไปทนเห็นคนอื่นมาหว่านเสน่ห์ใส่แฟนตัวเองกัน!
“แต่จะว่าไป ห้องเรียนที่เหมือนยกป่าต้องห้ามมาไว้ในห้องนี่ก็น่าสนใจเหมือนกันนะ” เฟร็ดพูด เหล่มองจอร์จแล้วทั้งคู่ก็ยิ้มให้กัน
⭐
และด้วยเหตุนั้นเอง ทุกอย่างก็ช่างประจวบเหมาะกับคาบว่างที่ฝาแฝดวีสลีย์มีพอดี จอร์จกับเฟร็ดมายืนอยู่หน้าห้องหมายเลข
สิบเอ็ด ห้องเรียนวิชาพยากรณ์ศาสตร์ที่ตอนนี้นักเรียนทั่วทั้งฮอกวอตส์ต่างลงความเห็นว่าเป็นห้องเรียนที่น่าเรียนที่สุด จอร์จเอื้อมมือ
เปิดประตูด้วยเสียงที่เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนทั้งคู่จะแอบคลานเข้าไปในห้อง แล้วพบว่าที่นี่ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ใน
ป่าต้องห้ามยามวิกาลไม่มีผิด ทั้งที่ข้างนอกห้องยังเป็นเวลาบ่ายสองโมงแต่ข้างในนี้มืดสลัวราวกับเวลาเที่ยงคืน
เฟร็ดพอใจกับการนั่งมองดูดาวตรงมุมหนึ่งของห้อง จอร์จจึงแยกตัวมา เขาย่อตัวลงคลานบนพื้นตะไคร่หยุ่นๆ ผ่านต้นไม้หลายต้น
และนักเรียนหลายคนที่นอนแผ่อยู่บนพื้น ฟังเซ็นทอร์ที่ชื่อฟีเรนซีอธิบายเรื่องการทำนายจากดวงดาวที่พวกเซ็นทอร์ค้นพบและเชื่อว่า
ตำแหน่งการโคจรของดวงดาวนั้นสามารถบอกอนาคตได้
จอร์จคลานไปแอบอยู่หลังต้นไม้ต้นหนึ่งพลางชะเง้อคอมองหาลูน่ากระทั่งคอลินสะกิดแขนแล้วชี้บอกตำแหน่งให้เสร็จสรรพ
จนจอร์จเจอเป้าหมาย หนำซ้ำคอลินยังบอกอีกด้วยว่าจินนี่อยู่ตรงไหนเพื่อให้จอร์จเลี่ยงน้องสาวตัวเองได้ถูก -- คนผมแดงเอนตัวลงนอน
แล้วกลิ้งขลุกๆ ไปนอนอยู่ข้างเด็กสาวผมบลอนด์ได้สำเร็จ เขานอนตะแคงเอามือเท้าหัวมองแฟนสาวที่กำลังเพลิดเพลินกับดวงดาว
บนท้องฟ้า เจ้าของแววตาที่สะท้อนแสงระยิบระยับข้างบนดูเลื่อนลอยคล้ายท่องอยู่ในโลกความฝันจึงไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนมาอยู่ใกล้ๆ
ไม่นานเสียงกีบเท้าม้าก็เข้ามาในโสตประสาทดึงให้จอร์จกลับมาสู่โลกแห่งความจริงที่ว่านี่คือห้องเรียนและเป็นตอนกลางวัน
ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบมองตามที่มาของเสียงนั้น มองไล่จากกีบเท้าขึ้นไปขา หน้าอกอันแข็งแกร่งจนถึงใบหน้าหล่อเหลาของเบนจามิน
เซ็นทอร์หนุ่มไม่พูดอะไรเพียงแต่มองจอร์จนิ่งๆ ขณะที่จอร์จก็จ้องตากลับเช่นกัน เขาชี้นิ้วไปที่ลูน่าแล้วชี้เข้าหาตัวเองราวกับต้องการ
แสดงความเป็นเจ้าของและส่งยิ้มมุมปากให้เบนจามิน...
⭐
ความคิดเห็น