คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : 11 ll 14 Feb.
11
14 Feb.
เช้าในวันรุ่งขึ้น มีนักเรียนจากบ้านกริฟฟินดอร์เจ็ดคนเดินออกจากหอคอยด้วยท่าทางอิดโรยเพราะซ้อมควิดดิชสำหรับแข่งนัดสุดท้าย
กับบ้านเรเวนคลอจนถึงดึกดื่น
...คืนก่อน เมื่อเฟร็ดกับจอร์จกลับไปถึงห้องนั่งเล่นรวมของกริฟฟินดอร์ แทนที่จะได้กลับไปนอนพักหลังจากวิ่งไปทั่วป่าต้องห้าม
กลับโดนกัปตันทีมควิดดิชอย่าง โอลิเวอร์ ดึงตัวพวกเขาให้ออกไปซ้อมโดยห้ามอิดออด เมื่อไปถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อวางแผน
แฮร์รี่เอียงตัวมากระซิบว่า “ผมรู้ว่าคุณหายไปไหนกันมา ผมเห็นหนังสือที่คุณยืมมาจากห้องสมุดตอนที่ผมเข้าไปตามให้มาซ้อมควิดดิช”
แล้วหลังจากนั้นโอลิเวอร์ก็บังคับฝึกซ้อมอย่างบ้าระห่ำ เขาบินวนไปทั่วสนามเพื่อคอยดูว่าคนในทีมทำตามแผนที่วางเอาไว้หรือเปล่า
และติวเข้มกับซีกเกอร์เป็นพิเศษ กว่าจะยอมเลิกซ้อมก็เกือบเช้าแล้ว
ภาพแฮร์รี่เดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ยามเช้าด้วยผมสีดำยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงเป็นภาพที่ชินตาไปแล้ว แต่ไม่ใช่กับฝาแฝดวีสลีย์
พวกเขามักจะเดินเข้ามาด้วยท่าทางร่าเริงและกระตือรือร้นกว่าใครเสมอ ทว่าวันนี้ทั้งสองเดินเข้ามาในสภาพที่ผมยุ่งไม่ต่างจากแฮร์รี่
ตาบวมฉึ่งเพราะชั่วโมงนอนอันน้อยนิดในคืนที่ผ่านมา
แฮร์รี่ เฟร็ดและจอร์จเดินเข้าห้องโถงเป็นคนเกือบจะสุดท้ายเพราะตื่นสาย เมื่อก้าวพ้นประตูไม้บานใหญ่ยักษ์ ทั้งสามหมุนตัว
เดินออกมาทันทีเพราะคิดว่าเข้าห้องผิด ทว่าเสียงแหลมๆ ของเฮอร์ไมโอนี่เรียกเอาไว้พวกเขาถึงได้ถ่างตาขึ้นมองดูให้ชัดๆ
ว่านี่คือห้องโถงใหญ่
ไม่ได้เข้าห้องผิดแต่อย่างใด
กำแพงทุกด้านเต็มไปด้วยดอกไม้ขนาดใหญ่สีชมพูที่เรียกได้ว่ามีทุกเฉดสีของสีชมพูเลยก็ว่าได้และที่ยิ่งไปกว่านั้น มีกระดาษรูปหัวใจ
เล็กๆ โปรยปรายลงมาจากเพดานสีฟ้าจางในยามเช้า
เฟร็ดกับจอร์จดันหลังแฮรี่ให้เดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ด้วยท่าทางหวาดระแวง ฮอกวอตส์ไม่เคยมีอะไรแบบนี้มาก่อน ทั้งสาม
มองดูเฮอร์ไมโอนี่ที่ดูร่าเริงกว่าปกติหลายเท่า เธอฉีกยิ้มกว้างตลอดเวลาทั้งที่ปกติเธอจะบ่นพวกเขาหากตื่นสาย โดยมีรอนนั่งผะอืดผะอม
อยู่ตรงข้ามกับเธอ
“วันนี้มีงานเลี้ยงอะไรเหรอ”
แฮร์รี่ถามรอนอย่างงุนงงพลางกลอกตามองไปรอบห้อง
“นายลืมไปแล้วหรือ? วันนี้วันที่สิบสี่ วัน...”
“วาเลนไทน์” จอร์จพูดต่อ เขาเพิ่งได้สติกลับคืนมาก็ตอนที่เห็นนังหนูของเขาที่โต๊ะเรเวนคลอกำลังมองกระดาษรูปหัวใจที่โปรยปราย
ลงมาตรงหน้าและยื่นมือน้อยๆ นั่นไปคว้ามันเอาไว้และยิ้มกว้างอย่างกับเด็กๆ เมื่อได้มันมา วันนี้เธอยังคงร่าเริงแต่เช้าเหมือนเดิม...
ตอนนี้จอร์จยิ่งคล้ายเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปทุกที ดวงตาเปี่ยมความสุขกับเสียงฝันๆ ที่ตอบมานั้น ทำเอาแฝดคนพี่เขยิบออกห่างไปนั่งชิด
กับแฮรืรี่แทน
“ฮอกวอตส์เคยฉลองที่ไหน” เฟร็ดพูด “ทั้งห้องเป็นสีชมพู ...ขนลุกแปลกๆ มีอะไรชมพูไปกว่าดอกไม้กับกระดาษนี่อีกไหมเนี่ย”
เขาหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่ร่วงลงในจานขึ้นมาดู
แฮร์รี่กับเฟร็ดคิดในใจว่าจะมีอะไรที่ชมพูมากไปกว่านี้ได้อีกหรือ
กระทั่งรอนชี้ไปทางโต๊ะของอาจารย์
...อ้อ ศาสตราจารย์ ล็อกฮาร์ต
กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต อาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด เขามีหน้าตาหล่อเหลากับผมบลอนด์หยักศกดูมีเสน่ห์
วันนี้ล็อกฮาร์ตสวมเสื้อคลุมสีชมพูหวานแหววเข้ากับหมู่มวลดอกไม้รอบห้อง เขาลุกขึ้นยืนโบกมือให้ทุกคนเงียบพร้อมส่งยิ้มโปรยเสน่ห์ให้กับ
นักเรียนทั่วห้องอย่างเท่าเทียมกัน คณะอาจารย์ที่นั่งอยู่รอบข้างต่างก็นั่งตัวแข็งทื่อราวกับรูปสลักหินที่อยู่ในห้องนั่งเล่นรวมของเรเวนคลอ
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์!!” ล็อกฮาร์ตตะโกนพลางกางแขนทั้งสองข้าง “นี่ถือเป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากฉันเอง ผู้ที่ชนะรางวัล
รอยยิ้มมีเสน่ห์จากนิตยสารแม่มดรายสัปดาห์ถึงห้าครั้งติดต่อกัน ห้าครั้ง!” เขาย้ำอีกครั้งราวกับมันจะออกเป็นข้อสอบในปลายภาคเรียน
อย่างไรอย่างงั้น
พวกนักเรียนชายรวมทั้งจอร์จที่กลับสู่โลกของผู้ชายโสดกับพวกเฟร็ด รอน แฮร์รี่ พวกเขาทั้งหลายนั่งหน้าเมื่อยได้แต่รอว่าเมื่อไร
เขาจะพูดจบ จะได้เริ่มกินอาหารเช้าเสียที ผิดกับนักเรียนหญิงที่นั่งตาหวานเยิ้มมองศาสตราจารย์ที่หลงตัวเองอย่างที่สุดราวกับล็อกฮาร์ต
เป็นชายในฝัน
--หรือบางทีพวกเธออาจคิดอย่างนั้นจริงๆ
มีเวลามากพอกว่าที่ล็อกฮาร์ตจะพูดโม้จบ จอร์จเบนความสนใจไปที่ลูน่า เธออาจเป็นนักเรียนหญิงคนเดียวในห้องโถงใหญ่นี้
ที่ไม่สนใจล็อกฮาร์ต ดวงตากลมโตดูล่องลอยคู่นั้นมองดอกไม้และกระดาษรูปหัวใจที่โปรยลงมาอย่างไม่มีวันหมด คนผมแดงรู้สึกดีใจที่
ครอบครัวเธอไม่ได้เป็นเจ้าของนิตยสารแม่มดรายสัปดาห์
ไม่อย่างนั้นเธออาจเป็นอย่างเฮอร์ไมโอนี่ในตอนนี้ที่กลมกลืนกับคนอื่นไปแล้วก็ได้
“เราจะได้กินอาหารเที่ยงแทนอาหารเช้าไหมเนี่ย”
เชมัส ฟินนิกันพูดอย่างเบื่อๆ มองดูชามว่างเปล่าตรงหน้าตาละห้อย
“เอาล่ะ ทุกคน และแล้วก็ถึงเวลาของขวัญชิ้นสุดท้ายของเช้านี้ อย่าเพิ่งดีใจเกินเหตุล่ะเพราะมันไม่ใช่สิ่งท้ายสุดในวันนี้” ล็อกฮาร์ต
ปรบมือ มีคนแคระหน้าตาบูดบึ้งสิบสองคนเดินย่ำเท้าเข้าประตูมา พวกเขาไม่ใช่คนแคระทั่วไปเพราะล็อกฮาร์ตให้พวกเขาใส่ปีกสีทอง
และถือพิณมาด้วย
“ฉันว่าเรานอนรอยังได้” เฟร็ดบอก เขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรไปกับพวกผู้หญิงรอบข้างเลยสักนิด
ล็อกฮาร์ตยิ้มแย้มและพูดต่อไป “กามเทพที่แสนเป็นมิตร พวกเขาพร้อมทำหน้าที่ส่งบัตรอวยพรให้กับพวกเธอทุกคนตลอดทั้งวันนี้!
และยิ่งพิเศษไปกว่านั้น พวกเขาพร้อมบริการร้องเพลงบอกความในใจเป็นการส่วนตัวสำหรับนักเรียนหญิงที่มีความโรแมนติกอยู่ในหัวใจ
อันบริสุทธิ์ของพวกเธอทุกคน”
และแล้วกว่าจะเริ่มมื้อเช้าอันแสนธรรมดาเหมือนอย่างทุกวัน(ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องที่ดี ที่อาหารทั้งหมดไม่เป็นสีชมพูไปด้วย) ก็นานพอ
ที่เฟร็ดจะงีบหลับไปได้หนึ่งตื่นจริงๆ
⭐
เมื่อท้องอิ่ม กลุ่มนักเรียนชายก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมาบ้าง ถึงจะผ่านบรรยากาศเอียนๆ ในห้องโถงใหญ่มา แต่วันนี้ก็เป็นวันวาเลนไทน์
เด็กหนุ่มทั้งหลายยังคงตั้งหน้าตั้งตารอบัตรอวยพรจากมือของเด็กหญิงทั้งหลายอยู่ ไม่ใช่จากมือกามเทพในคราบคนแคระนั่น
หรือยิ่งดีไปกว่านั้นคือจดหมายรักที่ถูกเขียนด้วยลายมือของพวกเธอ
ผู้โชคดีรายแรกของวันหนีไม่พ้นซีกเกอร์คนดังแห่งบ้านกริฟฟินดอร์ แฮร์รี่ถูกคนแคระกักตัวเอาไว้ไม่ให้เขาหนีไปได้ ก่อนเริ่มร้องเพลง
บอกความในใจที่ได้รับมาจากสาวน้อยผู้ไม่เปิดเผยตัวตนและดีดพิณดังจนนักเรียนที่อยู่ตรงบันไดเดียวกันกับเขาหันมามองกันเป็นตาเดียว
แฮร์รี่ไม่ได้รู้สึกภูมิใจหรือดีใจที่ถูกร้องเพลงบอกรักใส่เลยสักนิด เขาอายจนแทบจะกระโดดหนีลงจากบันไดอยู่แล้ว และยิ่งอายมากขึ้น
ไปอีก เมื่อรู้ว่าเฟร็ดกับจอร์จก็เห็นเหตุการณ์นี้ด้วย ไม่ต้องแปลกใจเลยถ้าในอีกหนึ่งเดือนให้หลังเขาจะได้ยินเพลงนี้จากปากของ
ฝาแฝดวีสลีย์ที่ล้อเลียนเขา
ทุกอย่างคลี่คลายได้ด้วยดีราวกับมีเสียงระฆังมาช่วยชีวิตของแฮร์รี่
เมื่อเพอร์ซี่ไล่พวกนักเรียนที่ยืนออกันไม่ยอมเข้าห้องเรียนเสียที
เฟร็ดกับจอร์จเป็นน้องชายของเพอร์ซี่ก็จริง
แต่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น พวกเขาถูกเพอร์ซี่ตวาดใส่แบบเอ่ยชื่อให้ไปเข้าเรียนด้วยซ้ำ
ฝาแฝดวีสลีย์เดินไปเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดพร้อมกับจอร์ดัน คาบเรียนวันนี้ล็อกฮาร์ตไม่ได้สอนอะไรเลยเพราะเขาเอาแต่
พูดเรื่องไร้สาระทั้งชั่วโมง
“รู้ไหม เมื่อกี้มีเด็กปีสามมาเรียนกับฉัน มีกามเทพมาร้องเพลงบอกความในใจกับนักเรียนชายคนหนึ่งด้วย เธอคนนั้น
ต้องโรแมนติกมากเลยว่าไหม? --แต่พวกเธอไม่ต้องกังวลไป” ล็อกฮาร์ตฉีกยิ้มอวดฟันขาวของเขา “ฉันใจกว้างพอและชอบที่จะเห็นความรัก
เบ่งบานในหัวใจของทุกคน ฉันไม่ว่าอะไรหรอกนะหากมีกามเทพตัวเล็กๆ ที่เป็นมิตรเดินเข้ามาอีกในชั่วโมงนี้น่ะ เอาล่ะเราเรียนถึงไหนกัน
แล้วนะ พิกซี่ใช่ไหม”
จอร์ดันยกมือโบกไปมาอยู่ในอากาศ
“เรื่องนั้นเราเรียนตั้งแต่อยู่ปีสองแล้วฮะ”
“โอ้จริงสิ” ล็อกฮาร์ตปิดหนังสือลง “ฉันว่าพวกเธอทุกคนคงจะอยากฟังประสบการณ์ของฉันตอนที่มีคนมาสารภาพรักกันมากกว่า
--ใช่ไหม? ได้สิฉันจะเล่าให้ฟังนะ ขอบอกไว้ก่อนแลยว่าไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนเลยล่ะเพราะมันมีเยอะไปหมด...”
“มีใครบอกสักคนหรือยังน่ะว่าอยากฟัง” เฟร็ดกระซิบกับจอร์จที่นั่งข้างกันแล้วโน้มตัวไปหาจอร์ดันที่นั่งอยู่ข้างหน้า
“พนันได้เลยว่าไม่มีใครอยากฟังสักคน พูดเองเออเองทั้งนั้น” จอร์ดันเสริม
ทว่ามีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากทางด้านหลังพวกเขาอีกที “นี่ พวกเธอข้างหน้าน่ะ
ช่วยเงียบกันหน่อย ฉันไม่ได้ยิน”
จอร์จหันกลับมา “ยกเว้นแอนเจลิน่าคนนึงล่ะ”
ช่างเป็นชั่วโมงเรียนแสนน่าเบื่อยิ่งกว่าวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์เสียอีก พวกเขาหมดเวลาไปกับการนั่งฟังล็อกฮาร์ตพร่ำพรรณนา
ว่าเขาเคยเจอวิธีสารภาพรักแบบไหนมาบ้าง นักเรียนชายในห้องหันไปมองรอบห้องเพื่อฆ่าเวลา บางคนถึงขนาดนั่งนับจำนวนหนังสือ
นับหลายร้อยที่วางอยู่บนชั้นแทนการฟังเขา ส่วนจอร์จเลือกที่จะเทียวหันไปมองหลังห้องตรงประตูว่าจะมีกามเทพเข้ามาไหม
จนหมดคาบเรียนก็ไม่มีคนแคระเข้ามาแม้แต่คนเดียว
⭐
ถึงเวลาพักกลางวัน
ดอกไม้สีชมพูในห้องโถงใหญ่ยังคงเด่นหราอยู่ตรงนั้น
โชคดีหน่อยที่ไม่มีกระดาษรูปหัวใจแล้ว
กามเทพของล็อกฮาร์ตช่วยให้กำเนิดคู่รักคู่ใหม่ในโรงเรียนสองสามคู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่เด็กชายไร้รักบ้านกริฟฟินดอร์อย่างพวกรอน เนวิลล์
ดีน เชมัส เฟร็ดและจอร์จแน่ พวกเขานั่งเงียบไม่หือไม่อือ ไม่ทักใครทั้งนั้น นี่พวกเขากำลังคลุมผ้าคลุมล่องหนกันอยู่หรือ? ทำไมนักเรียนหญิง
ทั้งหลายถึงไม่มีใครส่งบัตรอวยพรให้พวกเขาเลยสักคน! จะมีก็แต่แฮร์รี่ที่นั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวเพราะทุกคนในที่นี้เป็นพยานให้เขากันหมด
ว่ามีกามเทพมาร้องเพลงให้เขา
จึงถูกแบ่งพวกอย่างชัดเจนคล้ายมีเส้นบางๆ มากั้น
“เพอร์ซี่ นายอยากเข้าร่วมสมาคม
‘หญิงเมิน’ กับพวกเราไหม?” เฟร็ดหันไปถามพรีเฟ็คบ้านกริฟฟินดอร์ที่เดินมานั่งข้างๆ
พวกเขา
“เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหม
แต่ถึงอย่างงั้น ฉันก็ไม่เข้าข่ายพอที่จะเข้าร่วมสมาคมกับพวกนายได้หรอก”
“หมายความว่าไง”
เพอร์ซี่ล้วงซองจดหมายสีชมพูออกจากกระเป๋าเสื้อคลุมชูให้พวกเขาดู
“เพิ่งมีคนให้มาเมื่อกี้”
และแล้วเพอร์ซี่ก็ถูกเมินไปด้วยอีกคน ส่วนเฟร็ดยังคงหาสมาชิกใหม่ไปเรื่อยๆ จนรวบรวมมาได้ราวยี่สิบคน พวกเขาชนแก้ว
ที่เต็มไปด้วยน้ำฟักทอง ก่อนเริ่มกินอาหารกลางวันราวกับเลี้ยงฉลองประชดพวกที่กำลังมีความรัก
ช่วงระหว่างพัก จอร์จเดินโฉบลูน่าไปมา แกล้งทำเป็นทักคนผิดบ้าง แกล้งทำของร่วงเสียงดังๆ ให้เธอหันมามองเขาบ้าง
แต่เด็กสาวก็ไม่พูดถึงบัตรอวยพรหรือจดหมายหรืออะไรเลยสักนิด
ในที่สุดจอร์จก็หมดความอดทน เขาออกจากภารกิจการหาทางลับที่เดินแยกกับเฟร็ด ไปยังห้องน้ำที่เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญอยู่
เพราะคงไม่มีใครคิดว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่
“เธอมาทำอะไรที่นี่!
นี่ห้องน้ำเด็กหญิงนะยะ!” เมอร์เทิลตวาดเสียงแหลมบาดหู “ไม่ได้ยินฉันพูดหรือไง!
ฉันบอกว่า...”
“เงียบน่า! ฉันขอยืมบ้านเธอแป๊บเดียว
ถ้าเธอไม่เงียบฉันจะไม่ยอมให้นังหนู...หมายถึงลูน่ามาคุยกับเธออีกแล้ว”
มันได้ผล เมอร์เทิลยอมเงียบลงและมองดูจอร์จอยู่ห่างๆ เขาหยิบไดอารี่ออกจากกระเป๋า ฉีกกระดาษเปล่าออกมาหนึ่งแผ่น
ก่อนเริ่มลงมือเขียนจดหมาย คนผมแดงใช้เวลาเกือบทั้งเวลาพักไปกับการเขียนระบายความรู้สึกในใจที่พรั่งพรูออกมาจนเต็มหน้ากระดาษ
แต่สุดท้ายพอถึงตรงที่ต้องลงชื่อ มือเขากลับหยุดชะงัก ที่เขียนไปก่อนหน้านี้ได้อย่างลื่นไหลเป็นเพราะอารมณ์กำลังมา แต่ตอนนี้เขากลับ
รู้สึกเขินขึ้นมาซะดื้อๆ เลยเลือกที่จะไม่ลงชื่อในตอนท้ายก่อนพับจดหมายแล้วเอาใส่ซองจดหมายสีชมพูที่ขอมาจากกามเทพหน้าตาบูดบึ้ง
คนหนึ่ง
มีสิ่งที่ทำให้หนักใจอยู่อีกอย่างคือ จอร์จไม่รู้ว่าจะหาวิธีเอาไปให้ลูน่ายังไง ขืนเอาไปให้ตรงๆ เธอก็จับพิรุธเขาได้กันพอดี
แบบนั้นมันน่าอายเกินไป
เวลาพักเหลือไม่มากแล้ว จอร์จตัดสินใจเดินไปหาคอลินที่กำลังถ่ายรูปอยู่ตรงระเบียงชั้นสอง เขาฝากให้คอลินเป็นคนเอาไปให้
พร้อมยื่นของเล่นเล็กๆ น้อยๆ เป็นค่าจ้าง และกำชับให้บอกว่ามีคนฝากจอร์จมาอีกที
ไม่ใช่เขาที่เขียนจดหมายนี่
ในคาบเรียนตอนบ่าย คอลินเอาจดหมายไปให้เด็กสาวบ้านเรเวนคลอที่เรียนด้วยกันกับกริฟฟินดอร์ โดยไม่หลุดปากบอกชื่อจอร์จ
กับเธออีกแล้ว
⭐
ตกเย็น มีข่าวลือข่าวหนึ่งที่ลอยเข้าหูจอร์จระหว่างที่นั่งรอกินอาหารเย็นในห้องโถงใหญ่
‘เจ้าหนูช่างภาพคอลินส่งจดหมายสารภาพรักให้ลูน่าสติเฟื่อง’
จอร์จชำเลืองตามองดูคอลินที่นั่งก้มหน้าด้วยความอายจนหน้าแดงไปทั้งหน้าแล้วก็ได้แต่นั่งเงียบ ก็ในเมื่อจดหมายนั่นมันมาจาก
เขาเองไม่ใช่หรอกหรือ
ขอโทษทีนะเจ้าหนูคอลิน...
เมื่อคอลินเห็นเด็กสาวที่ตกเป็นหัวข้อซุบซิบกับเขาก็รีบลุกจากโต๊ะกริฟฟินดอร์พุ่งไปหาทันทีพร้อมกับปัดกระดาษรูปหัวใจสีชมพูที่โปรยลงมาเยอะกว่าตอนเช้าออกจากหน้า
“เลิฟกู๊ด! เธอต้องเชื่อฉันนะ ฉันไม่ได้เป็นคนเขียนจดหมายให้เธอ มีคนฝากฉันมาจริงๆ” คอลินพูดรัวจนคนผมบลอนด์ต้องใช้เวลา
ประมวลผลนิดนึง
“ฉันไม่รู้ว่าใครเขียนมาให้
แต่ฉันรู้ว่าไม่ใช่เธอ ครีฟวีย์ เธอไม่ได้เขียนจดหมายฉบับนี้หรอก”
คอลินถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเขาไม่ได้ถูกเข้าใจผิด
เด็กชายตัวเล็กเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเองที่โต๊ะกริฟฟินดอร์
ราวกับภาพในตอนเช้าฉายกลับมาอีกครั้ง ล็อกฮาร์ตยืนขึ้นตรงโต๊ะของอาจารย์ในตอนที่นักเรียนมารวมกันอยู่ในห้องโถงหมดแล้ว
“ฉันรู้สึกยินดีมากที่ได้รู้ว่ากามเทพแสนเป็นมิตรทั้งสิบสองของฉันสร้างความสุขให้กับทุกคน ก่อนที่เราจะเริ่มงานฉลองใหญ่กันจริงๆ
--ขอบอกก่อนว่าฉันไม่ได้อยากจะอวดหรอกนะ” เขาหัวเราะร่า “แต่ฉันขอบคุณนักเรียนและสาวๆ ทั้งสี่สิบหกคนสำหรับบัตรอวยพร
วาเลนไทน์ และบัตรอวยพรกับจดหมายอีกหลายร้อยฉบับจากแฟนคลับที่น่ารักข้างนอก”
รอนเบะปากพลางหันไปหาคนในกลุ่ม “แหม ไม่ค่อยอยากอวดเลยนะนั่น”
“พนันได้เลยว่าในหลายร้อยฉบับที่ว่านั่นมีจากแม่ของพวกเราด้วย” เฟร็ดบอก ทำท่าขนลุกเมื่อนึกภาพแม่ยิ้มหวานใส่รูปล็อกฮาร์ต
คนทั้งบ้านรู้กันหมดว่าแม่ของพวกเขาน่ะแป็นแฟนคลับล็อกฮาร์ตขนานแท้
แม้กระทั่งพ่อก็ทำอะไรไม่ได้
“แล้วในสี่สิบหกคนก็ต้องมีของเฮอร์ไมโอนี่” รอนบอก หันไปมองดูเฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งยิ้มหวาน
“เอาล่ะ ถึงเวลาฉลองวันแห่งความรักกันแล้ว! ขอให้ทุกคนมีความสุขกับอาหารในวันนี้นะ!” ล็อกฮาร์ตนั่งลงพร้อมกับมีอาหาร
หลากหลายชนิดละลานตาเต็มโต๊ะไปหมด
ล็อกฮาร์ตมองดูภาพเด็กนักเรียนของเขาดื่มด่ำกับวันอันแสนวิเศษวันนี้
ก่อนเหลือบไปเห็นศาสตราจารย์สเปราต์ที่นั่งยิ้มอย่างมีความสุข
“คุณเองก็มีความสุขกับคนรักของคุณใช่ไหมศาสตราจารย์สเปราต์”
“คนรักเรอะ?” เธอหัวเราะ “ช่างหัวคนรักเถอะ จะมีให้ปวดหัวไปทำไมกัน ...เช้าวันนี้ฉันได้มูลของตัวมูนคาล์ฟมาจากนางฟ้าตัวน้อย
ในกลุ่มนักเรียนของฉันต่างหาก
ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ฉันกำลังเฝ้ารอวันที่พืชผลของฉันเติบโตมาอย่างมีคุณภาพอยู่ แค่คิดก็มีความสุขแล้ว”
“เอ่อ ...นั่นเป็นความคิดที่ดีจริงๆ” ล็อกฮาร์ตไม่ลืมส่งยิ้มให้ก่อนหันไปคุยกับศาตราจารย์มักกอนนากัลบ้างแต่ก็ถูกเมิน
“พวกนายเลิกแซวคอลินได้แล้วน่า เขาไม่ได้เขียนจดหมายฉบับนั้นหรอก” จอร์จออกโรงช่วยพูดกับรอนแทนคอลิน น้องชายตัวดี
ของเขาเอาแต่พูดเรื่องลูน่ากับคอลินมาตั้งนานแล้ว
“รู้น่า
เวลาว่างเจ้าหนูนี่หมดไปกับการถ่ายรูป จะเอาเวลาไหนไปเขียน”
จอร์จพยักหน้าเห็นด้วยที่รอนเข้าใจได้เสียทีพลางยกน้ำฟักทองที่ล็อกฮาร์ตสั่งให้เอลฟ์ทำให้มันเป็นสีชมพูขึ้นดื่ม ในตอนแรก
พวกเขาคิดว่าเป็นเครื่องดื่มชนิดใหม่
ทว่าพอลองจิบดูแล้วมันก็แค่น้ำฟักทองที่มีสีชมพูดีๆ นี่เอง
“ถ้าเป็นจอร์จที่มีเวลาว่างทั้งวันก็ว่าไปอย่าง” เพอร์ซี่บอกเพราะเขาเห็นจอร์จออกมาจากห้องน้ำหญิงเมื่อตอนกลางวันพร้อมกับ
จดหมายในมือด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ เข้าพอดี แต่เขาก็ไม่รู้หรอกว่าจอร์จเป็นเจ้าของมันจริงหรือเปล่า ที่พูดไปก็แค่อยากแหย่น้องชายของเขา
ก็เท่านั้น และไม่คิดว่ามันจะมีผลกับจอร์จมากขนาดนี้
น้ำฟักทองสีชมพูพุ่งออกมาใส่หน้าเชมัสผู้เคราะห์ร้ายอีกครั้ง เชมัสใช้นิ้วชี้ปาดตาแล้วสะบัดใส่เนวิลล์ที่หัวเราะจนเก้าอี้สั่น เมื่อปีที่แล้ว
เนวิลล์ได้ฉายาว่า คนดวงซวยแห่งปี เห็นทีปีนี้เนวิลล์ไม่ต้องเหงาอยู่คนเดียวเพราะมีเชมัสที่ถูกน้ำฟักทองพ่นใส่หน้าเป็นหนที่สองในปีนี้แล้ว
⭐
จอร์จพยายามนั่งรออย่างใจเย็นจนงานเลี้ยงฉลองเลิกก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเขากับลูน่าอยู่ดี
รอนบอกกับพวกเขาในตอนที่กำลังจะลุกขึ้นจากโต๊ะ “ฉันว่าเราจะจบวันแบบนี้ไม่ได้ เราต้องเดินแยกกันกลับหอแล้วล่ะ ส่วนนายแฮร์รี่
นายกลับหอกริฟฟินดอร์ไปก่อนเลย ให้เร็วที่สุดเลยนะ
วันนี้นายได้จดหมายมาสามฉบับแล้ว ไม่นับรวมเพลงบอก...”
“เลิกพูดเรื่องนั้นสักทีเถอะน่ารอน” แฮร์รี่ไม่อยากนึกย้อนความทรงจำไปในตอนนั้นอีกแล้ว ก่อนเดินกลับหอนอนไปก่อน เพราะเข้าใจ
ที่รอนอยากจะสื่อดี หากพวกเขาเดินแยกกัน อาจมีเด็กสาวสักคนที่หาจังหวะนี้อยู่และเอาจดหมายรักมาให้พวกเขาก็ได้
จอร์จทำทีเป็นไม่ใส่ใจ เดินกลับหอคอยกริฟฟินดอร์ตามแฮร์รี่ แต่แล้วเมื่อพ้นจากสายตาเฟร็ดกับรอน เขาก็เดินย้อนกลับมายัง
ห้องโถงใหญ่เพราะตอนก่อนออกมายังเห็นลูน่านั่งเอื่อยเฉื่อยอยู่ที่โต๊ะเรเวนคลอ
ทว่าพอเข้ามาในห้องโถงกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ
ถ้าลูน่ากลับหอคอยเรเวนคลอไปแล้วก็เท่ากับว่าหมดโอกาส ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ต่อ ต่อให้ได้บัตรอวยพรหรือจดหมายรักมาจริงๆ
มันจะไปมีความหมายอะไรในเมื่อคนที่เขาชอบคือคนที่ดูจะไม่สนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ มากที่สุด จอร์จตัดใจ เดินคอตกไปตามระเบียงทางเดิน
เพื่อกลับหอนอน คืนนี้สำหรับเขาคงหลับลึกดีทีเดียวเพราะเมื่อคืนไปซ้อมควิดดิชจนแทบไม่ได้นอน
...ดีแล้วล่ะ จะได้ไม่ต้องคิดเรื่องนังหนูจนนอนไม่หลับ ยังไงวันนี้มันก็แค่วันธรรมดาวันนึง....
“คุณวีสลีย์” มีเสียงเล็กนุ่มฟังสบายหูเรียกจอร์จมาจากข้างหลัง
คนตัวสูงใจเต้นตึกตัก ทำไมเขาจะจำเสียงนี้ไม่ได้ “อ้าว นังหนู มีอะไรเหรอ” จอร์จต้องพยายามอย่างมากไม่ให้เสียงตัวเองสั่น
เพราะความตื่นเต้น และไม่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนที่เขาอยากจะเจอมากที่สุดในตอนนี้
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะคุณวีสลีย์” คนตัวเล็กเดินเข้ามาหาพร้อมยื่นกระดาษแผ่นเล็กมาให้เขาก่อนเดินแยกออกไป
ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าแต่เหมือนเขาเห็นใบหน้าจากด้านข้างของคนผมบลอนด์เมื่อกี้มีสีชมพูระเรื่อ
จอร์จก้มมองดูเห็นกระดาษเล็กๆ รูปหัวใจสีชมพูในมือ เมื่อลองมองดูดีๆ นี่มันกระดาษที่ปลิวว่อนอยู่บนเพดานเมื่อกี้นี่
เขายังไม่ได้พลิกอ่านข้อความด้านหลัง แต่ตอนนี้ลูน่าเดินไปไกลแล้ว
เลยตะโกนออกไป “สุขสันต์วันวาเลนไทน์ นังหนู!”
ลูน่าหันกลับมายิ้มให้แล้วเดินเลี้ยวไปตรงหัวมุม ทิ้งให้เขายืนยิ้มอยู่คนเดียว จอร์จพลิกกระดาษในมือที่สั่นน้อยๆ ...ตัวหนังสือกลับหัวอยู่
แทนที่รอยหยักสองอันจะอยู่ข้างบน เขาต้องกลับด้านเอาด้านแหลมขึ้นบนเพื่ออ่านข้อความแทน
Happy
Valentine’s Day!
Thank you for
everything
- Luna
เขาคงหวังมากเกินไปว่าลูน่าจะเขียนบอกชอบเขา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังซะทีเดียว นี่อาจไม่ใช่จดหมายรักแต่แค่ลายมือของเธอ
ที่เขียนให้เขา แถมเสียงเล็กๆ ที่บอกสุขสันต์วันวาเลนไทน์แค่นี้ก็ทำเอาหัวใจพองโตแล้ว
จอร์จเดินกลับหอคอยกริฟฟินดอร์ด้วยท่าทางล่องลอยคล้ายจะลอยขึ้นไปจริงๆ เขาบอกราตรีสวัสดิ์ทุกคนที่เดินผ่านอย่างอารมณ์ดี
แม้กระทั่งแครบกับกอยล์ จอร์จก็ยังบอกเหมือนกับคนอื่นๆ ทำเอาเด็กบ้านสลิธีรินสองคนเออออบอกราตรีสวัสดิ์กลับมาอย่างงงๆ
เมื่อลอดผ่านประตูเข้ามาในห้องนั่งเล่นรวมก็เจอเฟร็ดกับรอนนั่งหน้านิ่งรอเขาอยู่บนเก้าอี้นวม โดยมีแฮร์รี่นั่งทำหน้ากลืนไม่เข้า
คายไม่ออกอยู่ใกล้ๆ
เฟร็ดยืดตัวตรงทันทีที่เห็นน้องชายฝาแฝดของเขาเดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดีผิดปกติ
“นายได้จดหมายรักเหรอ?”
“เปล่า ไม่ได้หรอก ถ้าได้ป่านนี้ฉันก็วิ่งเอามาอวดพวกนายแล้วสิ” จอร์จตอบทั้งที่ตอนนี้บนหน้าเขายังมีรอยยิ้มประดับอยู่ “เลิกหวังเถอะ
วันนี้คงไม่มีใครให้จดหมายรักพวกเราแล้วล่ะ
รีบเข้านอนกันดีกว่า”
“เห็นอารมณ์ดีก็นึกว่านายจะได้ซะอีก อย่าให้ฉันรู้นะ ไม่งั้นนายถูกตัดออกจากสมาคมแน่!”
หลังเปลี่ยนเป็นชุดนอนจอร์จก็รีบพุ่งไปที่เตียง ดึงผ้าม่านกำมะหยี่สีแดงปิดรอบเตียงเหมือนกับคนอื่นๆ ที่ปิดไม่ให้โดนลมหนาว
ที่พัดเข้ามาจากทางหน้าต่าง คนผมแดงล้วงมือเข้าใต้หมอนหยิบหนังสือเล่มหนาออกมา เปิดไปที่หน้าสิบสาม มีกระดาษรูปหัวใจสีชมพู
สอดอยู่ในนั้น เขาค่อยๆ หยิบออกมาราวกับกลัวว่ามันจะยับ มองดูตัวหนังสือที่ถูกเขียนด้วยลายมือนี้อีกครั้ง ก่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้
แล้วประทับจูบเบาๆ ลงบนกระดาษตรงชื่อ 'ลูน่า'
⭐
- Talk -
จะพิมพ์ว่าอะไรดี ...ตอนนี้เรียกได้ว่าจอร์จหลงน้องจนกู่ไม่กลับของแท้แล้วล่ะค่ะ >_<
ลูน่าไม่เขียนจดหมายงั้นจอร์จเขียนให้เองก็ได้ ไม่มีใครกำหนดนี่เนอะว่าผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายบอกผู้ชายอยู่ฝ่ายเดียว แต่คนพี่นี่ก็นะ
อุตส่าห์เขียนจดหมายรัก เขียนเองเขินเองแถมไม่เขียนชื่อว่าใครส่งอีก(แล้วลูน่าจะรู้ไหมล่ะนั่น?) ถึงจะเขินยังไงก็ยังอยากได้บัตรอวยพร
อยู่ดี เลยเดินโฉบเป็นนกฮูกทั้งวันแต่ก็ยังไม่ได้ กามเทพที่ทั้งโรงเรียนเดินหนี เขาก็วิ่งเข้าหาแต่ก็ไม่มีกามเทพคนไหนสนใจเล้ยย >"<
เรื่องนี้อย่างที่เคยบอกว่าเราอยากให้ความสัมพันธ์ค่อยเป็นค่อยไปทีละนิดนะคะ มันอาจจะกระเตื้องช้าไปนิดแต่เราคิดว่า
เวลาว่าได้แกล้งเด็กแสบแบบนี้แล้วรู้สึกสนุกกว่าให้เขาได้สมหวังเร็วๆ อะ 555
และท้ายสุด ..เอ็นดูแก๊งสมาคม ‘หญิงเมิน’ เขานะคะ(สมาคมที่ไม่มีใครอยากเข้าและพอเข้าแล้วก็มีแต่อยากออก) ยังจะอุตส่าห์
หาสมาชิกเพิ่มมาได้อีก555 แต่ตอนท้ายหญิงก็ไม่ได้เมินจอร์จซะทีเดียวนะเออ ปีนี้ได้จูบแค่กระดาษงั้นปีหน้าก็ต้องได้จูบตัวจริงแล้วล่ะค่ะ
แบบนี้ >.<
ความคิดเห็น