ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter] Captain [Colin x OC] [END]

    ลำดับตอนที่ #19 : 19 ll Two spoons of sugar [END]

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 64



    19


    Two spoons of sugar



     

           “หน้าไปโดนอะไรมาน่ะ”

                

              พอผละออกจากอ้อมกอดคาเรนก็เพิ่งเห็นว่าหน้าคอลินซีกนึงเป็นสีแดง เธอยื่นมือไปลูบเบาๆ จนสีที่แห้งหลุดลอกออกมาเป็นผง

    ทว่าคอลินก็ยังยิ้มแฉ่งอยู่เหมือนเดิม เขาคลี่ม้วนกระดาษแผ่นใหญ่ที่มีชื่อคาเรนให้ดูด้วยความภาคภูมิใจ

               

              “ป้ายเชียร์ตามที่เคยให้สัญญาไว้ไง เชื่อรึยังว่าฉันไม่มีทางลืม”

                

              “เชื่อก็ได้ แล้วรู้ได้ไงว่ามีคัดตัววันนี้”

                     

           “โชคชะตาฟ้าลิขิตให้เมื่อวานฉันบังเอิญเจอคาเมรอนที่ร้านหม้อใหญ่รั่วแล้วเขาก็บอกมาแต่ฉันยังไม่แน่ใจเลยกะจะไปถามเธอที่บ้าน

    แต่เมื่อคืนนี้เธอดันไม่อยู่ ฉันก็เลยไปหาฝาแฝดวีสลีย์แต่พวกเขาก็ไม่รู้เลยย้อนกลับมาที่บ้านเธออีกรอบแล้วเจอคุณเพอร์คินส์พอดี

    ถึงได้รู้ว่าเป็นวันนี้ เธอใจร้ายมากเลยนะที่ไม่บอกฉันตรงๆ ตอนที่ถามว่าวันนี้ฉันว่างไหม” คอลินยังมันเขี้ยวแฟนตัวเองไม่หาย

    เลยแกล้งบีบจมูกเธอ

                

              “ฉันไม่อยากให้นายเสียงานไปต่างหาก”

                

              “ใครว่าฉันจะเสียงาน เรื่องนั้นฉันไปขอให้ฝาแฝดวีสลีย์ช่วยทำแทนเรียบร้อยแล้ว”

                

              “แล้วมันจะดีหรือ”

                

              “ถ้าล็อกฮาร์ตไม่พอใจจนไม่จ้างฉันอีกก็ไม่เป็นไร ดีซะอีกเพราะฉันจะได้ไม่ต้องไปฟังเขาโม้ด้วย”

                

              คาเรนกำลังจะพูดต่อถ้าไม่ติดว่ามีเสียงกัปตันหญิงของทีมโฮลี่เฮด ฮาร์ปีส์ตะโกนมาจากกลางสนามว่าให้ผู้ที่จะมาคัดตัว

    ในตำแหน่งบีตเตอร์ไปรวมกันตรงกลางสนาม เสียงเชียร์จากคนรอบข้างบนอัฒจันทร์ดังขึ้นต่างคนต่างให้กำลังใจคนที่ตัวเองมาเชียร์

                

              ความตื่นเต้นตีตื้นขึ้นมาจุกคอคาเรนอีกครั้งกระทั่งคอลินกุมมือเธอไว้แล้วตะโกนแข่งกับเสียงคนอื่น

               

              “ฉันรู้ว่าเธอทำได้! เธอทำได้แน่!

              

              หญิงสาวบีบมือกลับรับกำลังใจก่อนปล่อยมือแล้วขึ้นขี่ไม้กวาดลงไปตรงกลางสนามควิดดิช เธอแอบชำเลืองมองจินนี่ วีสลีย์

    ผู้เล่นตำแหน่งเชสเซอร์ที่ยิ้มพร้อมชูกำปั้นให้ในฐานะที่เป็นรุ่นพี่และคนที่เคยร่วมทีมกันมา

                

           มีรายชื่อคาเรนอยู่ในกลุ่มแรกที่จะเริ่มทดสอบ เธอพุ่งทะยานขึ้นไปกลางอากาศพร้อมไม้ตีบลัดเจอร์ที่กัปตันเป็นคนแจกด้วยตัวเอง

    ซึ่งตรงด้ามจับมีชื่อทีมสลักเอาไว้ ท่ามกลางเสียงเชียร์หนึ่งในนั้นมีคอลินที่ถือป้ายเชียร์แล้วตะโกนชื่อเธอไม่หยุด คาเรนหัวเราะน้อยๆ 

    พลางพยักหน้า อาการตื่นเต้นเริ่มน้อยลงแล้วแทนที่ด้วยความฮึกเหิมเพราะเธอกำลังจะได้เล่นควิดดิชอีกครั้งในสนามซ้อม

    ของทีมโฮลี่เฮด ฮาร์ปีส์ที่เธอใฝ่ฝันมาตลอด สุดท้ายแล้วผลจะออกมาเป็นยังไงก็ให้ฝีมือที่เธอมีเป็นตัวพิสูจน์เอาก็แล้วกัน

                

              ผู้เล่นตำแหน่งบีตเตอร์ตัวจริงของทีมสองคนถือไม้ตีบลัดเจอร์ด้วยท่าทางน่าเกรงขามอยู่บนไม้กวาด คู่แข่งที่จะมาชิงตำแหน่งที่ว่าง

    กับคาเรนต่างมีสีหน้าจริงจังขณะที่คาเรนดูสดใสราวกับมางานเลี้ยง

                

              “เราจะดูกันที่ความแม่นยำในการตี การหลบหลีกบลัดเจอร์แล้วก็ดูว่าจะช่วยเพื่อนร่วมทีมในตำแหน่งอื่นได้มากแค่ไหน 

    ใช้ความสามารถที่มีให้เต็มที่” หนึ่งในบีตเตอร์สาวตะโกนบอกให้ได้ยินกันทุกคน “ไม่ต้องตื่นเต้น อย่าเครียด มีสมาธิกับเกมเพราะถ้าโดน

    บลัดเจอร์เข้าแล้วพวกเธอมีสิทธิสลบไปจริงๆ แถมไม่ผ่านเข้ารอบคัดเลือกแน่นอน อย่าโกง...และขอให้สนุกกับการเล่นควิดดิช” 

    เธอยิ้มมุมปากพร้อมกับเป่านกหวีดให้ผู้เล่นข้างล่างปล่อยลูกบลัดเจอร์ออกจากหีบ

                

              คาเรนหลุบตาลงมองชื่อทีมตรงด้ามจับของไม้ตีบลัดเจอร์ที่ถืออยู่

                

           เราต้องได้อยู่ด้วยกันนะไม้ที่รัก

              

              บลัดเจอร์ที่ถูกปล่อยออกมามีถึงสามลูกแทนที่จะเป็นสองลูกตามกติกาทั่วไป หลายคนคิดว่ามันเป็นอุปสรรค ในทางกลับกัน

    คาเรนกลับคิดว่ามันน่าสนุกดี เธอหวดไม้เต็มแรงใส่ลูกบลัดเจอร์สีดำลูกหนึ่งที่พุ่งเข้าหาเธอเป็นคนแรกจนลอยออกไปไกล 

    พอเข้าเป้ากำลังใจก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เธอขี่ไม้กวาดไปหาเชสเชอร์คนหนึ่งที่กำลังจะทำแต้มแต่ถูกบลัดเจอร์ไล่ล่าอยู่แล้วฟาดไม้

    ใส่ลูกบอลอย่างแรงขณะที่ผู้เข้าคัดเลือกคนอื่นอีกหลายคนยังกล้าๆ กลัวๆ ขี่ไม้กวาดหนีบลัดเจอร์ที่บ้าคลั่งอยู่


                

              เวลาเดียวกันทางฝั่งของร้านตัวบรรจงและหยดหมึก ในบรรดาแถวยาวเหยียดที่ล้วนแล้วแต่เป็นแม่มดกลับมีพ่อมดผมแดง

    ตัวสูงชะลูดยืนอยู่ในแถวนั้นด้วยใบหน้าเซ็งเต็มทน


           หลังจากถ่ายงานให้คอลินเสร็จแล้วแทนที่จะได้กลับร้านแต่จอร์จกลับต้องมาต่อคิวรอขอลายเซ็นเพราะแม่ของเขายืนนานๆ 

    ไม่ค่อยไหวแล้วเลยวานแกมบังคับให้จอร์จต่อแถวแทนแล้วเธอก็หนีไปคุยกับว่าที่ลูกสะใภ้อย่างลูน่าอยู่ตรงเก้าอี้ในมุมหนึ่งของร้าน


           จอร์จหน้ามุ่ยทอดสายตาผ่านหัวแม่มดหลายสิบคนไปมองล็อกฮาร์ตที่ยิ้มแย้มให้แฟนคลับอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยิ่งมอง

    ก็ยิ่งสงสัยว่าเขารอดจากภารกิจเสี่ยงอันตรายที่เคยเขียนอยู่ในหนังสือมาได้ยังไง คนผมแดงถอนหายใจ ยกมือกอดอกพลางกระดิกเท้า

    ระหว่างที่แถวขยับขึ้นไปทีละนิด


           เย็นวันนั้นจอร์จได้ของขวัญจากล็อกฮาร์ตเป็นโปสเตอร์รูปเขาที่ใหญ่เท่าตัวจริงพร้อมลายเซ็นที่เจ้าตัวเอามาให้

    ถึงที่ร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์ เฟร็ดเบะปากมองของขวัญที่ไม่คาดคิดว่าจะได้มาก่อนส่วนในหัวจอร์จเริ่มคิดว่าหรือจะเอาโปสเตอร์นี่

    ไปขายสักสิบเกลเลียนดี แต่ความคิดลูน่าไปไกลยิ่งกว่านั้น


           “เอาไปติดตรงผนังร้านสิ” เสียงฝันๆ พูดกับฝาแฝด


           จอร์จเหล่มองคิดว่าแฟนตัวเองล้อเล่น “ติดผนังร้านให้เขาเข้าไปอยู่ในฝันเป็นฝันร้ายของฉันทุกคืนน่ะหรือ ไม่เอาด้วยหรอก”


           “ไม่ใช่ซะหน่อย” ลูน่าส่ายหัว “เอาไว้เรียกลูกค้าต่างหาก ถ้าติดรูปล็อกฮาร์ตก็จะมีลูกค้าแม่มดวัยผู้ใหญ่ที่มีกำลังซื้อเข้ามาดูรูป

    ของเขา อย่างน้อยพวกเขาก็ต้องซื้อของติดมือกลับบ้านไปสักชิ้นสองชิ้น”


           เฟร็ดกับจอร์จเหล่ตามองกันและกันอย่างรู้ใจ ฟังไปฟังมาก็เริ่มคล้อยตามลูน่าแถมยังเริ่มเห็นประโยชน์ของในมือขึ้นมาทันที



              “คาเรน เคลียร์วอเทอร์!


           คาเรนลืมตาขึ้นหลังได้ยินเสียงกัปตันประกาศผู้ผ่านเข้ารอบและมีชื่อเธอเป็นหนึ่งในนั้น เธอยิ้มกว้างด้วยหัวใจที่เต้นรัว 

    จินนี่แอบยกนิ้วให้แล้วเข้ามาแสดงความยินดีหลังจากกัปตันประกาศแยกย้ายและนัดรวมทีมบอกให้เริ่มเข้ามาซ้อมได้ในอีกหนึ่งสัปดาห์

    ข้างหน้า


           “มีคนรอแสดงความยินดีกับเธออยู่นู่นแน่ะ” จินนี่พยักเพยิดไปทางคอลินที่กำลังเดินลงสนามมาพร้อมกับคนอื่นๆ


           คาเรนผละจากจินนี่เดินไปหาเขาก่อนเพิ่มความเร็ววิ่งไปกระโดดกอดคอลินที่อ้าแขน ย่อตัวรอรับเธออยู่ก่อนแล้ว


           ชายหนุ่มอุ้มเธอด้วยแขนที่ว่างข้างเดียวเพราะมืออีกข้างถือป้ายกับกล้องก่อนหมุนสามรอบด้วยความดีใจ


           “บอกแล้วว่าเธอทำได้”


           คาเรนปล่อยขาที่กอดเอวคอลินลงแล้วยกแขนกอดแฟนหนุ่มแน่นจนคอลินรู้สึกเปียกๆ ตรงอกถึงได้รู้ว่าอดีตกัปตันทีมกริฟฟินดอร์

    กำลังร้องไห้งอแงอย่างกับเด็กน้อยอยู่กับอกของเขาทั้งที่เธอไม่เคยร้องไห้ให้เห็นแม้แต่ตอนที่ทีมบ้านได้ถ้วยรางวัล


           “ฉันทำได้แล้ว”


           “รู้แล้วๆ” คอลินกอดคาเรนกลับแล้วโยกตัวไปมาด้วยความเอ็นดู “เก่งมากเลย”



           ฤดูกาลผันเปลี่ยน เดือนแล้วเดือนเล่าผ่านไปกระทั่งเดือนกันยายนเวียนมาถึงอีกครั้งเป็นรอบที่สี่ คอลินยังคงทำงานเป็นช่างภาพ

    ที่มีความสุขที่สุดตลอดห้าปีหลังจบจากฮอกวอตส์ บ่ายสามโมงในวันที่อากาศดีคอลินผู้สวมเสื้อคอเต่าสีดำทับด้วยชุดสูท มือนึงถือกล้อง

    ส่วนอีกมือถือขาตั้งกล้องกำลังเดินเข้าไปยังสนามควิดดิชตรงห้องที่จัดเตรียมไว้สำหรับงานสัมภาษณ์นักกีฬาของทีมโฮลี่เฮด ฮาร์ปีส์

    เกี่ยวกับผลงานที่ผ่านมา


           คอลินกำลังเตรียมตัวอยู่ในพื้นที่ของสื่อร่วมกับตากล้องคนอื่นๆ ที่แต่งตัวด้วยเสื้อคลุมตัวยาวเหมือนที่พ่อมดแม่มดทั่วไปชอบใส่กัน 

    ไม่นานหลังจากนั้นริต้า สกีตเตอร์ก็เดินเข้ามาด้วยชุดสีเขียวกับริมฝีปากสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์แม้ตอนนี้เธอจะดูเป็นคนมีอายุมากขึ้น

    กว่าตอนที่เธอไปป่วนฮอกวอตส์หลายเท่าแล้วก็ตาม


           “ช่างภาพตัวน้อยจากฮอกวอตส์นี่นา” เธอมาหยุดอยู่ตรงหน้าคอลินพร้อมกับใช้ขนนกของปากกาจดทันใจไล้ไปตามคางเขา

    จนต้องเบือนหน้าหนี “โตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย”


           นักกีฬาทยอยเดินเข้ามานั่งที่โซฟาตัวยาว กลุ่มแรกที่ให้สัมภาษณ์คือนักกีฬาหน้าใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามองเพราะเพิ่งได้ลงเล่น

    เป็นตัวจริงหลังจากใช้เวลาพิสูจน์ฝีมือในฐานะตัวสำรองมาร่วมสี่ปีซึ่งคาเรนรวมอยู่ในกลุ่มแรกนี้ด้วย


           ริต้า สกีตเตอร์รับหน้าที่เป็นผู้สัมภาษณ์แต่เพียงผู้เดียว ด้วยความสนใจด้านกีฬาของเธอนั้นช่างน้อยนิดทำให้คำถามที่ออกจากปาก

    มีไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำที่เกี่ยวกับควิดดิช


           “มาถึงนักกีฬาหน้าใหม่คนสุดท้ายที่ได้มีโอกาสลงเป็นตัวจริงในสามนัดที่ผ่านมาแถมยังเป็นที่จับตามองไม่ว่าจะด้วยฝีมือ

    หรือหน้าตา คุณคาเรน เคลียร์วอเทอร์ คุณรู้สึกยังไงบ้างที่มีแฟนคลับหนุ่มๆ และสาวๆ มากมายคอยให้กำลังใจคุณอยู่”


           คาเรนชะงักเล็กน้อยเพราะคำถามไม่เห็นเหมือนกับคนก่อนหน้าที่เพิ่งตอบไป “เอ่อ...ก็ต้องขอบคุณอยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะ 

    ขอบคุณมากค่ะที่ให้กำลังใจ...ค่ะ” สายตาเธอเหลือบมองเห็นปากกาจดทันใจ ขนนกอันใหญ่สีเขียวที่จดได้ด้วยตัวของมันเองกำลังทำงาน

    อย่างแข็งขัน “คุณสกีตเตอร์คะ ฉันว่าฉันพูดแค่นิดเดียวเองนะคะ”


           “ทำไมหรือ”


           “ฉันเห็นปากกาของคุณยังจดไม่หยุดเลยค่ะ”


           “อ้อ อย่าไปใส่ใจปากกาเลยจ้ะ” ริต้าฉีกยิ้ม “เอาล่ะมาต่อกันที่คำถามต่อไป -- หัวใจคุณคาเรน เคลียร์วอเทอร์ยังว่างอยู่ไหม 

    ดิฉันว่าคำถามนี้คงจะมีหนุ่มๆ ตั้งตารอฟังคำตอบเยอะเชียวล่ะ” แม้แต่ปากกาจดทันใจยังหยุดจดชี้มาที่คาเรนเหมือนรอฟังคำตอบ

    ปนกดดันไปด้วย


           “คำถามนี้ไม่เกี่ยวกับควิดดิชนี่คะ”


              “ถือเป็นสีสันเล็กๆ น้อยๆ ไงล่ะจ๊ะ คนอ่านของเรามีไม่น้อยที่สนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ มากกว่า หวังว่าคุณคงจะไม่เกี่ยงที่จะตอบคำถาม

    ให้แฟนคลับหายคาใจนะ ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจัสติน คราวน์ เชสเซอร์จากทีมชัดลีย์ แคนนอนส์ปลื้มคุณเป็นพิเศษ เป็นไปได้ไหม

    ถ้าคุณสองคนได้ทำความรู้จักกันแล้วพัฒนาความสัมพันธ์ให้กลุ่มแฟนๆ ที่รอลุ้นได้สมหวัง”


           มือคาเรนที่กุมอยู่บนตักคลำแหวนตรงนิ้วนางอัตโนมัติ มันไม่ใช่แหวนธรรมดาทั่วไปแต่เป็นแหวนแต่งงานสีเงินเกลี้ยงเกลา

    มีเพชรเม็ดเล็กฝังอยู่ตรงกลาง


           เธอผุดรอยยิ้มเมื่อมองคอลินที่กำลังขมวดคิ้วให้ริต้าเพราะคำถาม “คุณคราวน์เป็นผู้เล่นที่ฉันชื่นชมเหมือนกันค่ะ แต่คงต้องบอกว่า

    แฟนๆ ที่คุณหมายถึงคงจะไม่สมหวังเพราะหัวใจฉันไม่ว่างค่ะ”


           ริต้ายืดตัวขึ้นด้วยความกระหายใคร่รู้ “พอจะบอกได้ไหมว่าผู้ชายคนที่สามารถครองหัวใจของคาเรน เคลียร์วอเทอร์ บีตเตอร์ดาวรุ่ง

    แห่งทีมโฮลี่เฮด ฮาร์ปีส์เป็นคนแบบไหน”


           เมื่อถามมาคาเรนก็ไม่เกี่ยงที่จะตอบ เธอผายมือไปทางคอลินผู้ที่ยืนอยู่หลังกล้อง “แบบนั้นค่ะ”


           ริต้าเหลียวมองตามมือแล้วหันกลับมาหาคาเรน “หมายความว่าเขาใกล้เคียงกับคนในใจอย่างงั้นหรือจ๊ะ”


           “ไม่ใช่แค่ใกล้เคียงค่ะ แต่เป็นเขาเลยต่างหากแล้วก็ตอนนี้ฉันเปลี่ยนจากเคลียร์วอเทอร์เป็นครีฟวีย์แล้วด้วยค่ะ”


              มีเสียงฮือฮาดังขึ้นจากฝั่งสื่อพร้อมกับแสงแฟลชที่สาดใส่คาเรน คอลินเองก็ถ่ายภาพตามหน้าที่พร้อมด้วยรอยยิ้มที่อยู่ข้างหลังกล้อง 

    หญิงสาวผู้ซึ่งประกาศต่อหน้าสื่อว่าตนไม่ใช่สาวโสดชำเลืองมองสมุดที่ปากกาจดทันใจกำลังจดไม่หยุด ในนั้นมีประโยคที่เขียนว่า 

    ‘ ไม่ใช่แค่มีแฟนแต่มีสามีแล้ว ’ ถึงเธอจะแอบรู้สึกตงิดๆ แต่ก็ไม่ได้ค้านเพราะมันเป็นความจริง


           “ตอบแบบไม่ให้แฟนคลับเตรียมตัวเตรียมใจกันเลยนะจ๊ะ ถามหน่อยได้ไหมว่าทำไมถึงกล้าเปิดเผยเรื่องนี้”


           “ก็คุณถามนี่คะ อีกอย่างอาชีพของฉันไม่ได้ใช้สถานะเป็นตัวกำหนดว่าจะเล่นได้ดีหรือเปล่าเพราะงั้นคงไม่เสียหายอะไร

    ถ้าจะเป็นคนที่แต่งงานแล้วลงเล่นควิดดิชในสนาม” คาเรนตอบเรียบๆ


           ...งานแต่งงานของทั้งคู่จัดขึ้นแบบเรียบง่ายเมื่อเดือนก่อนที่โรงละครของคุณเพอร์คินส์ผู้ใจดีที่ให้ใช้สถานที่ แขกในงานมีครอบครัว

    ของสองฝ่ายโดยแม่ของคาเรนเริ่มเปิดใจให้คอลินบ้างแล้ว แม้ไม่เคยคุยกันแต่เธอก็ไม่ได้ขัดหากลูกสาวจะแต่งงานกับลูกชายบ้านครีฟวีย์ 

    -- มีคุณและคุณนายเพอร์คินส์ เพื่อนร่วมทีมโฮลี่เฮด ฮาร์ปีส์ เพื่อนจากกริฟฟินดอร์ เพื่อนของคอลินจากเรเวนคลอแล้วก็ผู้มาจากสลิธีริน

    เพียงหนึ่งเดียวอย่างคาเมรอนในฐานะเพื่อนที่ตอนนี้ได้เป็นนักกีฬาควิดดิชทีมชาติไอร์แลนด์แล้วด้วย


           คืนนั้นคู่หนุ่มสาวที่เพิ่งผ่านการแต่งงานมาหมาดๆ เดินกลับบ้านด้วยกันหลังจากเสร็จงานสัมภาษณ์ คอลินคล้องกล้องไว้ที่คอ 

    มือข้างนึงถือขาตั้งกล้องส่วนมืออีกข้างกุมมือคาเรนไปด้วยตลอดทาง


           “คอลิน”


           “หือ?”


           “กลับถึงบ้านชงกาแฟให้หน่อยนะ ตอนนี้ร่างกายต้องการกาแฟมากเลย”


           “ดื่มกาแฟตอนกลางคืนแบบนี้จะนอนไม่หลับเอานะ พรุ่งนี้เธอต้องตื่นเช้าไปซ้อมด้วย”


           “พูดอะไรอย่างงั้น หลับอยู่แล้วน่า”


           “จริงหรือ”


           “แน่นอน” เธอเงยหน้ามองเขาอ้อนๆ


           แน่นอนว่าใจคอลินอ่อนยวบแบบที่เธอไม่ต้องพยายามอะไรอีกเลย “ก็ได้”


           คาเรนยิ้มแฉ่ง “ขอน้ำตาลสองช้อนนะ”


           “ย่อมได้ แต่ต้องแลกด้วยหอมแก้มสองข้าง”


           “แถมจุ๊บฝันดีให้ด้วยก็ได้เอ้า”


           “อันนั้นเราก็ทำกันทุกวันอยู่แล้วนี่”


           “เหรอ จำไม่เห็นได้เลย”


           “เป็นคนขี้ลืมไปตั้งแต่เมื่อไรฮึ” คอลินหลุบตาลงมองคนข้างตัวแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มหนึ่งที เขาปล่อยมือเธอเปลี่ยนเป็น

    โอบไหล่แทน “เปลี่ยนเป็นช็อกโกแลตร้อนไม่ดีกว่าหรือ จะได้นอนหลับสบายด้วย”


           “...กาแฟ”


           “ช็อกโกแลตร้อนทำให้หลับสบายกว่านะ”


           “แต่ฉันอยากดื่มกาแฟ”


           “แต่...”


           “ไม่หอมแก้มแล้วนะ”


           “ก็ได้...กาแฟก็กาแฟ”


           “เอ้อ วันเสาร์นี้แม่ชวนไปกินมื้อเย็นที่บ้านแน่ะ”


           “งั้นเดี๋ยวฉันชงกาแฟให้ตอนเธอกลับมาบ้านนะ”


           “พูดอะไรน่ะ แม่ชวนเราสองคนต่างหาก”


           คอลินกะพริบตาปริบๆ มองคนข้างตัวว่าเขาได้ฟังอะไรผิดไปหรือเปล่าเพราะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่คบกับคาเรนจนแต่งงานมา

    ร่วมเดือนนั้นยังไม่เคยมีสักครั้งที่แม่ของเธอเป็นคนออกปากชวน ทว่าไม่มีแววล้อเล่นจากคำพูดหรือดวงตาของเธอเลย


           “ฉันด้วย? พูดจริงหรือ”


           “ฮื่อ แม่บอกว่าอยากรู้จักลูกเขยก่อนที่แม่จะแก่ไปมากกว่านี้ -- หรือนายไม่อยากไป”


           คอลินฉีกยิ้มกว้างแล้วตอบแบบไม่ลังเล “อยากสิ”

    .

    .

    END




    - Talk -

             จบแล้วว ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนจบนะคะ ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ที่ไม่ทำให้เราเหงาและมีกำลังใจ 

    แล้วก็ขอบคุณรีดที่กดหัวใจให้ตั้งแต่นาทีแรกๆ ที่เราลงแทบทุกตอนนะคะ เราไม่รู้ว่าคุณเป็นใครแต่ก็ขอบคุณมากๆ เช่นกันค่ะที่ทำให้เรารู้

    ว่ายังมีรีดรออยู่ ^___^

              // เรื่องใหม่ถ้าได้ลงก็น่าจะเป็นเรื่องยาวหลายตอน สายสุขนิยมอ่านแบบไม่ต้องเครียดนะคะ เนื้อเรื่องไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องแรก

    แล้วก็เรื่องนี้เลยค่ะแต่ไม่มีสงครามแน่นอน -- ส่วนรีดที่รอเรื่องสกอร์เปียสกับร็อกแซนน์เรายังไม่ขอให้สัญญาดีกว่าว่าจะแต่งหรือไม่แต่ง

    เพราะยังไม่ชัวร์ค่ะ ต่อให้มีพล็อตอยู่แล้วแน่ๆ ก็ตาม ^_^!

                แอบบอกว่าเรื่องหน้าถ้าได้ลงจะเป็นเรื่องของบ้านแบดเจอร์นะคะ ลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง พระเอกก็คนที่ขึ้นต้นด้วย “เ” แล้วลงท้ายด้วย “ก” นั่นล่ะค่ะ!

               

    ปล. ไปคุยกันในทวิตได้ที่ @enchancer_wp หรือ #ColinxCaptain เน่อ // แล้วก็ขอฝากร้านด้วยนะคะ @roseknight11037 ถ้าใน IG ก็ roseknight_craftart ถ้ากด follow ด้วยจะขอบคุณมากเลยค่ะ ถึงช่วงนี้ไม่ได้อัพเดทอะไรเลยแต่ร้านยังอยู่นะคะ ^^!!


                ดูแลรักษาสุขภาพกายและสุขภาพใจกันด้วยเน่อ

                แล้วพบกันใหม่เมื่อเราพบกันค่ะ

    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×