คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1 ll Who’s that girl ?
1
Who’s that
girl ?
ฮอกวอตส์ปีนี้มีเรื่องดีเกิดขึ้นสำหรับฝาแฝดวีสลีย์เจ้าของผมสีแดงเพลิง นั่นก็คือมีเด็กนักเรียนทั้งโรงเรียนให้พวกเขาแกล้ง
มากกว่าตอนอยู่บ้านหลายเท่าตัวที่มีก็แต่เพอร์ซี่ กับรอน เรื่องน่ายินดีอีกอย่างคือ จินนี่ น้องสาวคนสุดท้องของบ้านจะได้เข้าเรียน
ที่ฮอกวอตส์เป็นปีแรก
ฝาแฝดจอมป่วนที่ชอบเล่นพิเรนทร์ตั้งหน้าตั้งตารอคอยเด็กปีหนึ่งไม่ไหวจนก้นนั่งไม่ติดเก้าอี้ ทั้งห้องโถงใหญ่เงียบลงเมื่อ
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเปิดประตูไม้บานใหญ่เข้ามาพร้อมกับเด็กใหม่ที่ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เจริญหูเจริญตาไปหมด
เฟร็ด ฝาแฝดคนพี่ใช้นิ้วจี้เข้าที่เอวของรอนที่นั่งอยู่ข้างกัน “มองตาไม่กะพริบเลยนะ”
“อย่ามัวแต่มองเด็กสวยๆ จนลืมมองจินนี่ล่ะ” จอร์จพูดแหย่รอนบ้าง
“ตลกตายล่ะ ฉันไม่สนใจเรื่องพวกนั้นซะหน่อย” รอน วีสลีย์ น้องชายอีกคนของพวกเขาตวาดกลับอย่างหงุดหงิดหน่อยๆ
แต่ใบหน้าตกกระนั่นกลับมีแดงระเรื่อผิดกับที่ท่าทางที่แสดงออกมา “อีกอย่าง
จินนี่น่ะมีอะไรให้ห่วงด้วยหรือ?”
เฟร็ดกับจอร์จไม่ตอบทว่ายิ้มกว้างที่แหย่รอนได้สำเร็จ แต่ดูเหมือนจะมีเสียงหัวเราะดังกว่าดังมาจากอีกฝั่ง ฝาแฝดหยุดแกล้งน้องชาย
พลางหันไปตามเสียง เห็นพวกนักเรียนบ้านสลิธีรินขำเด็กสาวตัวน้อยผมบลอนด์ยาวที่ออกจะรุงรังนิดหน่อยเดินเหม่อลอยไปชนเข้ากับเก้าอี้
เจ้าของดวงตากลมโตสีฟ้าซีดคู่นั้นไม่สนใจสิ่งรอบข้าง สายตาจดจ้องอยู่กับเพดานสีดำสนิทดูนุ่มเหมือนกำมะหยี่ที่ประดับด้วยดวงดาว
ราวกับเธอกำลังล่องลอยไปในความฝัน
อาการของเด็กใหม่เป็นแบบนี้กันแทบทุกคนที่ได้เห็นเพดานนี่ แต่เด็กสาวคนนี้ดูจะเพ้อฝันมากกว่าคนอื่นไปสักหน่อย
เพราะเธอเล่นไม่มองทางเดินเลยนี่สิ! แต่แล้วเธอก็เดินสะดุดเข้ากับเท้าของนักเรียนบางคนอีกครั้ง จอร์จขมวดคิ้วที่เห็นเด็กสาวผิวซีดคนนั้น
สะดุดแล้วสะดุดเล่าจากฝีมือเด็กบ้านสลิธีริน แต่ไม่มีใครเห็นเหมือนกันกับเขา คนทั้งโต๊ะกริฟฟินดอร์ต่างก็หันไปมองศาสตราจารย์
มักกอนนากัลกันหมดแล้ว
ครอบครัวผมสีแดงเพลิงต่างก็มองดูที่จินนี่น้องสาวคนเล็กของบ้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งแฮร์รี่ พอตเตอร์ คนดังของโรงเรียนที่ทำคะแนน
ให้กับกริฟฟินดอร์จากการแข่งขันควิดดิชในตำแหน่งซีกเกอร์เมื่อปีก่อน
เห็นจะมีก็แต่จอร์จ
ที่ยังคงไล่สายตามองตามเด็กสาวตัวเล็กที่ยังเดินไปไม่ถึงหน้าห้องเสียที
สาบานได้ จอร์จคิดในใจ ถึงเขาจะชอบแกล้งคนอื่น แต่ก็ไม่เคยแกล้งเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่เพิ่งก้าวเท้าเข้ามาในฮอกวอตส์ตั้งแต่วันแรก
อย่างนี้หรอก! แล้วก็นะ นังหนู ช่วยเดินมองทางหน่อยได้ไหม จะทำตัวล่องลอยไปถึงไหนกัน?
เด็กผู้ชายตัวใหญ่ที่เดินข้างหน้าเธอหยุดชะงักเพราะมีเด็กชายร่างผอมสะดุดล้มไปกองอยู่กับพื้นเพราะตื่นเต้นไปหน่อย
แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเด็กสาวที่จอร์จมองอยู่จะรู้ตัวว่าเธอกำลังจะชนเข้ากับแผ่นหลังมหึมาเมื่อเทียบกับตัวเธอที่เล็กแค่จิ๋วเดียวในอีกไม่ถึง
สามวินาที
แขนยาวๆ เจ้าของเสื้อคลุมบ้านกริฟฟินดอร์ยกแขนขึ้นกั้นตรงหน้าขวางเด็กสาวไม่ให้เดินชนคนข้างหน้าเอาไว้ได้ทันพอดี
ดวงตากลมโตค่อยๆ เลื่อนมามองเขาช้าๆ
“มองทางหน่อย เพดานนั่นน่ะมีเวลาให้นั่งมองได้ทั้งปีจนเธอเบื่อเลยล่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” เด็กสาวเอ่ยพลางส่งยิ้มให้น้อยๆ ก่อนเดินไปรวมกลุ่มกับเด็กคนอื่นๆ ที่ยืนออกันอยู่ข้างหน้ารอการคัดสรรเข้าบ้าน
มีเพียงจอร์จที่ตอบกลับแม้เจ้าตัวจะเดินไปถึงไหนต่อไหนแล้ว “ด้วยความยินดี”
เฟร็ดเอามือวางพาดบ่าแฝดคนน้องที่กำลังพูดอยู่คนเดียว พลางหรี่ตามองอย่างจับผิด “รู้จักกันตั้งแต่เมื่อไร”
“ฉันอยู่กับนายทั้งวันจะไปรู้จักนังหนูคนนั้นได้ไง”
“ก็จริง” เฟร็ดยักไหล่แล้วสนใจพิธีข้างหน้าต่อ
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลก้าวออกมายืนตรงหน้าเด็กนักเรียนปีหนึ่งพร้อมม้วนกระดาษในมือ เด็กแฝดสองคนเห็นภาพนี้มาเป็นรอบ
ที่สี่แล้วแต่กลับไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยสักนิด
“เมื่อฉันเรียกชื่อเธอคนไหน ขอให้ก้าวออกมาข้างหน้าแล้วหยิบหมวกมาสวม” เธอประกาศ ก่อนเอ่ยชื่อนักเรียนคนแรก
พิธีคัดสรรดำเนินมาอย่างเรื่อยๆ ตอนนี้บ้านกริฟฟินดอร์มีมาเพิ่มแค่สองคนเอง และแล้วสมาชิกคนที่สามก็มาถึง
“กริฟฟินดอร์!!” หมวกตะโกน
นักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ปรบมือเสียงดัง โดยเฉพาะฝาแฝดวีสลีย์กับน้องชายคนเดียวของพวกเขาที่ลุกขึ้นยืนพร้อมเป่าปากต้อนรับ
เด็กหญิงผมแดงที่ชื่อ จินนี่ วีสลีย์
เหลือนักเรียนอีกเพียงไม่กี่คน นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่จอร์จจะตั้งหน้าตั้งตารอฟังชื่อที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลขานเรียก
เฟร็ดสะกิดจอร์จที่นั่งอยู่ข้างหน้าพร้อมชี้ไปยังเด็กสาวผมบลอนด์ “ถ้าแม่หนูน้อยคนนั้นอยู่กริฟฟินดอร์ก็ดีสิ จะได้แกล้งง่ายๆ หน่อย”
“อย่าเชียวนะ” จินนี่ท้วงขึ้นเมื่อรู้ว่าพี่ชายของตนเริ่มจะออกลายอีกแล้ว
“นั่นเพื่อนเธอหรือ?”
“ไม่ใช่ เอ่อ ก็ใช่ ถึงหนูจะไม่รู้จักเธอแต่พี่อย่าได้แม้แต่จะคิดแกล้งเธอเชียว”
“ดุจังแฮะ” เฟร็ดแสร้งทำเป็นกลัวแล้วหันไปมองจอร์จที่น่าจะทำเหมือนกันแต่แฝดคนน้องกลับหันมาดุใส่เขาอีกคน
“ชู่ว เงียบหน่อย” พูดจบจอร์จก็หันกลับไป
“ผีเข้าสิงหรือไง ทำไมวันนี้เป็นเด็กดีอย่างคนอื่นเขาได้”
เฟร็ดมองอย่างไม่เชื่อสายตาแต่แล้วก็ถูกจอร์หันมาว่าอีกรอบ
“ก็บอกให้เงียบก่อนไงเล่า” จอร์จหันไปยังหน้าห้องพร้อมกับเสียงหมวกที่ร้องตะโกนว่า ‘เรเวนคลอ’ พอดี เด็กสาวผมบลอนด์ตัวเล็ก
กระโดดลงจากเก้าอี้วิ่งไปทางโต๊ะเรเวนคลอที่อยู่แถวสองจากด้านซ้ายมือ เด็กบ้านเรเวนคลอลุกขึ้นยืนปรบมือต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้าน
พลางยื่นมือมาจับมือขาวซีดของเด็กหญิงตัวเล็กเขย่าจนตัวเธอสั่นไปทั้งร่าง
“อ้าว”
“อ้าวอะไร” ถึงเสียงปรบมือจะดังกลบเสียงอย่างอื่นแต่เฟร็ดที่อยู่ใกล้จอร์จที่สุดกลับได้ยินที่แฝดของตัวเองพูดชัดเจน
“ไม่มีอะไร” จอร์จบอกปัดก่อนหันมาคุยกับรอน ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจพิธีคัดเลือกอีกต่อไป
⭐
“ขอต้อนรับ!” อัลบัส ดัมเบิลดอร์กล่าวและกางแขนออกกว้างอย่างพออกพอใจที่ได้เห็นนักเรียนทุกคนนั่งอยู่ในห้องโถง
จานชามทำจากทองคำแวววาวที่วางอยู่เบื้องหน้า ขณะนี้มีอาหารมากมายหลายชนิดพูนขึ้นมาเป็นสัญญาณว่าเริ่มงานเลี้ยง ไก่ย่าง
เนื้อย่าง ซี่โครงแกะ เบค่อน สเต็กและอย่างอื่นละลานตาเต็มไปหมด ระหว่างที่เฟร็ดกำลังหันไปคุยกับจินนี่ สายตาคู่หูอย่างจอร์จกลับจ้อง
อยู่แต่เด็กสาวผิวซีดบ้านเรเวนคลอคนนั้นที่นั่งกินพุดดิ้งก่อนเป็นอย่างแรกแทนที่จะเป็นของคาว
⭐
เช้าวันหนึ่งในฮอกวอตส์จอร์จเห็นร่างเล็กผิวซีดที่ไม่เคยคุยกันอีกเลยตั้งแต่ที่เขาช่วยเธอไม่ให้เดินชนเด็กร่างยักษ์วันนั้น
เธอเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่กับพวกจินนี่ ก่อนน้องสาวผมแดงจะแยกตัวมานั่งที่โต๊ะกริฟฟินดอร์
ช่วงเวลาพักของคาบเช้าขณะฝาแฝดเดินไปตามระเบียงทางเดินอย่างไร้จุดหมาย จู่ๆ จอร์จก็โพล่งขึ้นมา ทำเอาเฟร็ดแอบสะดุ้งน้อยๆ
“เราไปหาจินนี่กัน เฟร็ด”
“ไปหาทำไม”
“ฉันได้ยินข่าวมาสองสามวันแล้วว่าจินนี่แอบกิ๊กกั๊กอยู่กับเด็กปีสอง”
“ล้อเล่นน่า ฉันก็อยู่กับนายตลอด ไม่เห็นเคยได้ยิน”
“ฉันพูดจริงนะ”
“แล้วเมื่อกี้ทำไมไม่ถามรอน หมอนั่นอยู่ปีสองก็น่าจะรู้ข่าวบ้างนี่” เฟร็ดถามขึ้นเพราะเมื่อกี้ก็เพิ่งแยกกับรอนมาหมาดๆ
ทว่าจอร์จพุ่งตัวออกเดินกลมกลืนเข้ากับนักเรียนที่เดินกันขวักไขว่เต็มไปหมด
⭐
“บอกมาจินนี่” จอร์จถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หลังเขาลากตัวน้องสาวมาถามตั้งแต่เธอเดินออกมาจากห้องเรียนวิชาป้องกันตัว
จากศาสตร์มืดได้ไม่ถึงสามก้าวด้วยซ้ำ แต่จินนี่ก็ชินกับพฤติกรรมพี่ชายของเธอไปเสียแล้ว
“บอกอะไร”
“เธอคบอยู่กับเด็กปีสองหรือเปล่า แบบชู้สาวน่ะ”
“จะบ้าเหรอ พี่เห็นฉันเป็นคนยังไงกัน ฉันยังมาเรียนไม่ถึงสองอาทิตย์ดีด้วยซ้ำนะ” จินนี่โวยใส่พี่ชายตัวสูงชะลูดตรงหน้าทันที
นี่เขาลงทุนยืนรอเธอหน้าห้องแล้วลากมาถามด้วยเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ!?
“ใจเย็นน่า แค่ตอบว่ามี หรือไม่มี”
“ก็ต้องไม่มีอยู่แล้วสิ”
“อ้อเหรอ งั้นคำถามต่อไป เมื่อเช้านี้ตอนเดินมาห้องโถงเธอเดินมากับใคร”
“พี่มีปัญหาอะไร”
“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกน้องรัก แค่อยากรู้ว่าน้องสาวคนเดียวของพี่สนิทกับใครก็ไม่ได้เลยเหรอ”
จินนี่ถอนใจอย่างเหนื่อยหน่ายใจแต่ก็ยอมตอบแต่โดยดี “มาเรีย”
“อ้อ” จอร์จพยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินกลับไปหาเฟร็ดที่น่าจะยืนอยู่ที่เดิม ทิ้งให้น้องสาวยืนงงอยู่คนเดียว
ระหว่างทางเขาสบโอกาสได้เจอเด็กปีหนึ่งบ้านเรเวนคลอเข้าพอดี ดีล่ะ!
จอร์จเบี่ยงตัวหลบนักเรียนคนอื่น ยืนชิดผนังรอให้เด็กสาวผมบลอนด์ตัวเล็กเดินเข้ามาใกล้เขา ก่อนเรียกชื่ออย่างไม่ลังเล “มาเรีย”
เธอไม่หันแต่เพื่อนตัวสูงอีกคนที่เดินอยู่ข้างกันหันมาหาเขาด้วยสีหน้างุนงงแทน
จอร์จอึกอักก่อนตอบออกไป “โทษที ทักคนผิดน่ะ” แล้วเดินไปหาเฟร็ดที่คงกำลังเดินตามหาเขาอยู่
จินนี่นะ จินนี่ ทำไมถึงได้ไม่เข้าใจพี่ชายสุดหล่อของเธอเลยว่าถามถึงชื่อคนไหน
บ่ายแก่ๆ ของอีกวันหนึ่งระหว่างรอเรียนคาบต่อไปจอร์จลองถามรอนเล่นๆ (แต่ต้องการคำตอบจริงๆ) ถึงชื่อของเด็กสาว
เพราะเห็นว่าพวกเขาคุยกันเมื่อตอนพักกลางวัน
“คนนั้นน่ะเหรอ ชื่อเกลนมอร์” รอนตอบหลังครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แฮร์รี่ที่นั่งอยู่ข้างกันก็พยักหน้าเออออเห็นด้วย จอร์จจำชื่อนี้เอาไว้แม่น
เมื่อมีโอกาสที่เธอเดินผ่านตอนเปลี่ยนคาบเรียน เขาก็เรียกชื่อตามที่น้องชายบอก แต่คนที่หันกลับมาหาเขาเป็นผู้หญิงตัวสูงคนนั้นคนเดิม
จอร์จนึกอยากจับแมงมุมไปใส่ในชุดนอนของรอนเต็มแก่โทษฐานที่บอกชื่อคนที่เขาไม่ได้อยากจะรู้ แต่มาคิดดูอีกทีก็ไม่ทำอย่างนั้น
เพราะรอนก็ไม่ได้ผิดเสียทีเดียว เขาเองต่างหากที่พูดไม่ชัดเจน
ครั้งนี้ล่ะ! ครั้งสุดท้าย ถ้าเขาถามจินนี่แล้วไม่ได้เรื่องก็จะไปถามเจ้าตัวเองแล้ว
“อยากรู้นัก พี่ก็ถามเธอเอาเองสิ” น้องสาวสุดที่รักของเขาตอบมาว่าอย่างนั้น ทำเอาชายหนุ่มเบะปาก
“เธอนี่ไม่เข้าใจอะไรเอาซะเลยนะจินนี่”
“เธอเดินมานู่นแล้ว ถามเลย” จินนี่พยักพเยิดไปทางเด็กหญิงสองคนที่กำลังเดินมาทางพวกเขา หัวใจเขาเต้นโครมคราม
อย่างไม่มีสาเหตุจนอยากจะขอเวลาหลบไปทำใจก่อนแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
“ไม่ตลกน่า ถ้าถามได้ก็ถามไปตั้งนานแล้วสิ”
“พี่หลงรักเธอเหรอ”
“ไม่ใช่แบบนั้น”
ในตอนนั้นเองที่เฟร็ดเดินมากอดคอจอร์จ “คุยอะไรกับน้องสาวหนึ่งเดียวของเราอยู่เหรอจอร์จ”
“จอร์จถามว่า..” จินนี่เห็นพี่ชายตนนิ่งเงียบเลยคิดจะตอบแทน ก่อนถูกมือใหญ่ของจอร์จปิดปากเธอเอาไว้
“ไม่มีอะไรหรอกเฟร็ด”
“สวัสดีค่ะคุณวีสลีย์ จะไปกันหรือยังจินนี่” เด็กหญิงที่ชื่อมาเรีย เกลนมอร์เอ่ยทักมาทางฝาแฝด
“หวัดดีมาเรีย หวัดดีแม่หนูลูน่า กำลังจะไปเรียนอะไรกันเหรอ”
“วิชาปรุงยา พี่คงไม่ตามไปกวนพวกเราใช่ไหม ไม่งั้นฉันจะบอกแม่แน่เรื่องที่พี่ก่อกวนพวกเรา” จินนี่เป็นคนตอบก่อนถามดักทาง
อย่างรู้ทัน ก็เมื่อเช้าตอนที่เธอเรียนวิชาร่ายคาถา เฟร็ดกับจอร์จยังตามไปแกล้งเสกหนูตัวเล็กให้วิ่งพล่านทั่วห้องจนนักเรียนแตกตื่นกัน
ไปหมด
“อ้อ ไม่ล่ะ ถ้าเป็นสเนปพี่ขอไม่ยุ่งดีกว่า โชคดีนะ-” เฟร็ดโบกมือบ๊ายบายสามสาว เขาหวังว่าพวกเธอจะโชคดีอย่างที่บอกจริงๆ
หวังว่าจะไม่ถูกหักคะแนนเรี่ยราดเหมือนอย่างที่พวกเขาเคยโดนคุณครูเจ้าของผมดำเป็นมันเยิ้มหักคะแนนบ้านกริฟฟินดอร์อย่างไม่มีเหตุผล
เฟร็ดโบกมือส่งน้องสาวเสร็จก็หันกลับมามองคนที่กอดคออยู่ “เงียบไปเลย
เป็นอะไรไปจอร์จ”
จอร์จไม่ตอบ แต่เขาถามกลับโดยสายตามองตามแผ่นหลังเล็กๆ ที่กำลังเดินลงไปชั้นใต้ดิน “ลูน่า? เมื่อกี้นายพูดว่าลูน่า”
“ใช่ ลูน่าทำไม?”
“นายรู้จักชื่อนังหนูที่ดูเพ้อฝันคนนั้นด้วย?”
“มีใครที่ฉันไม่รู้จักภายในหนึ่งสัปดาห์บ้างจอร์จ นั่นน่ะ ลูน่า
เลิฟกู๊ด อยู่เรเวนคลอ”
“ดูเสื้อคลุมก็รู้แล้วน่า ไม่ต้องบอกทุกอย่างหรอก”
“แล้วมีอะไรกับลูน่า?”
“เปล่า ว่าแต่นายไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไร”
“เมื่อวาน ฉันเห็นเธอคุยอยู่กับแฮร์รี่ ก็เลยเข้าไปร่วมวงด้วยนิดหน่อย ตอนที่นายหายไปไหนก็ไม่รู้นั่นแหละ”
จอร์จเลิกคิ้ว พยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงว่ารับรู้ ทั้งที่ในใจนึกเจ็บใจตัวเองเพราะมัวแต่ตามหาจินนี่กับเที่ยวถามคนอื่นไปทั่ว
ที่แท้แค่อ้าปากถามเอาจากคนใกล้ตัวก็รู้ชื่อเธอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว!
⭐
-Talk-
อย่างที่เจ้าตัวคิดนั่นล่ะค่ะ ถ้าถามเฟร็ดก็รู้ไปตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่ยอมถามเอง 555 คู่นี้อย่างที่บอกว่ามาได้ยังไงก็ไม่รู้
เพราะงั้นเรื่องจะไปทิศทางไหนก็ยังไม่รู้เหมือนกันค่ะ(อ้าว) แต่คิดว่าน่าจะไปเรื่อยๆแบบไม่มีดราม่าอะเนอะ ลูน่าเพิ่งเข้าเรียนปีแรกเพราะงั้น
ปล่อยให้น้องล่องลอยตามประสาน้องไปก่อน ไม่อยากให้เจอดราม่าอะไรมากมายนัก
ตอนนี้จอร์จรู้ชื่อน้องแล้วเพราะงั้นตอนหน้ามาเอาใจช่วยให้ทั้งคู่ได้คุยกันด้วยนะคะ ถ้ามีคนชอบคู่นี้ เราจะรีบกลับไปปั่นตอนที่สองต่อ
เดี๋ยวนี้เลย!
ความคิดเห็น