ตอนที่ 4 : MY BONUS 04
" เอาอีกแล้วเหรอจ๋อง "
เขาพูดกับเพื่อนหัวทองที่กำลังนั่งเหลาอีอีแท่งยาวอยู่อย่างขะมักเขม้น ดูจำนวนแล้วเยอะกว่าวันนั้นมากโข เขาจำได้ว่าตอนที่เอาอีอีไปให้ฟางห้องหกจ๋องบ่นเรื่องจำนวนที่มันต้องมานั่งเหลาให้ฟางฟังจนเขารู้สึกหูชาแทน แล้วยังมีการบอกว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จ๋องจะมาทำอะไรแบบนี้ ไหงมาวันนี้เจ้าเพื่อนลูกเจี๊ยบกลับกลืนน้ำลายตัวเองซะอย่างนั้น
" มันมาขอร้องกู " จ๋องเงยหน้าขึ้นมาตอบเขาที่ยืนคล้ำหัวมันอยู่
" เอาความจริง "
" เงินเยอะ "
โอเค
ไม่ผิดคาดกับสิ่งที่เขาคิดไว้ เพราะยังไงจ๋องก็คือจ๋อง เงินสำคัญที่สุด ให้เดาว่าเพื่อนคนนี้กำลังเก็บเงินเพื่อซื้ออะไรบางอย่างอยู่แน่ๆ
ที่จ๋องต้องมาทำอย่างนี้ไม่ใช่ว่าครอบครัวจ๋องมีความบกพร่องเรื่องการเงินแต่อย่างใด บ้านจ๋องรวยพอที่จะมีหน้าตาในสังคม แต่เพราะจ๋องเคยบอกกับเขาว่าหาเงินเองอย่างนี้มันน่าภูมิใจกว่าขอพ่อแม่ แล้วเงินที่ได้มาจ๋องก็ใช้มันได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนแม่มันด่าแต่อย่างใด เพราะเงินก็เป็นเงินของตัวเองไม่ใช่ของใครซักหน่อย
เท่ชะมัด
" แล้วอย่ามาบ่นให้ได้ยินนะ "
" ไม่รับปาก " จ๋องยังคงก้มหน้าก้มตาทำภารกิจของเจ้าตัวอยู่
" เลิกเรียนแล้วจ๋องไปไหนมั้ย " เขานั่งลงข้างเพื่อนสนิท
" เรียนพิเศษ "
" เรียนด้วยเหรอ ตอนไหน "
" วันนี้วันแรกอ่ะ ม๊าให้เรียน "
" เหงาเลย วันนี้เราไม่มีเรียน "
เจ้าตัวยู่หน้าอย่างเสียดาย อุตส่าห์จะชวนจ๋องไปหาอะไรกินหลังเลิกเรียนซักหน่อยเพราะวันนี้เขาไม่มีเรียนกับลุงเจน
พูดถึงเรื่องเรียนพิเศษเขาเรียนกับลุงเจนมาได้อาทิตย์กว่าๆ แล้ว จากการเรียนครั้งแรกนั้นเขาได้ปรับเปลี่ยนตัวเองโดยการตั้งใจและมีสมาธิมากขึ้น ซึ่งเขาก็ได้รับคำชมจากลุงเจนไม่น้อยเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนไปคือสกิลวิชาคณิตศาสตร์ของเขาเอง ลุงเจนรู้ดีเรื่องนี้และก็ยังบอกกับเขาว่าให้มันค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปจะดีกว่า ลองเปิดใจเรียนมันเดี๋ยวก็เก่งขึ้นเอง นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตั้งใจเรียนมากขึ้น คอยดูเถอะว่านายพัชลินทร์คนนี้จะเก่งคณิตศาสตร์ให้ดูเลย!
" พรุ่งนี้กูว่าง เดี๋ยวเลี้ยงชาบู "
จ๋องพูดจบสายตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที พร้อมถามมันอีกครั้งว่าล้อเขาเล่นหรืออย่างไรแล้วก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าเป็นความจริง มีหรือที่เขาจะพลาดเพราะนานๆ ทีจ๋องจะเลี้ยงข้าวเขา เจ้าตัวคงมีเงินเก็บมากพอที่จะชวนเขาไปกินชาบูของโปรด แต่นึกไปนึกมาแล้ว....
เขามีเรียนกับลุงเจนน่ะสิ!
" วันหลังได้มั้ย พรุ่งนี้ไม่ว่างอ่ะ "
" พรุ่งนี้วันเกิดกูเลยนะ ไม่อยากให้พลาด "
!!!!
นี่เขาลืมไปได้ยังไงกันวันเกิดเพื่อนรักทั้งคน มิน่าล่ะทำไมอยู่ดีๆ จ๋องเกิดอยากจะเลี้ยงเขานัก ที่แท้ก็เป็นวันเกิดเจ้าตัวนั่นเอง ของขวัญอะไรก็ยังไม่ได้เตรียมไว้ให้ สงสัยต้องรีบไปจัดการซะแล้ว
" โอเค ไปก็ไป "
เขาตอบรับคำไปแล้ว....
MY BONUS
ตอนนี้เขาได้กลับมานอนบนเตียงนุ่มในห้องของตนเองหลังจากที่เพิ่งกลับมาจากการไปซื้อของขวัญวันเกิดให้เจ้าเพื่อนลูกเจี๊ยบมา ซึ่งเขาคิดว่ามันจะต้องถูกใจเพื่อนคนนี้ไม่น้อย สิ่งนั้นก็คือรองเท้าฟุตบอลยี่ห้อดังรุ่นใหม่ที่เจ้าตัวบ่นนักบ่นหนาว่าอยากได้แต่ก็ไม่เห็นจะซื้อซักที บอกก่อนเลยว่าเงินที่เขาซื้อนั้นเป็นเงินของเขาเองที่เก็บมาตั้งแต่มอต้น มันมากพอที่จะซื้อรองเท้าคู่นี้ได้อีกสามคู่เลยทีเดียว ไม่นึกเสียดายเลยที่ต้องเสียเงินไปเพื่อสิ่งๆ นี้ เพื่อนรักทั้งคนเขาเต็มใจอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ต้องคิดหนักคือจะบอกแม่ลินยังไงดีถ้าเขาจะขอหยุดเรียนพิเศษในวันพรุ่งนี้ เขามานอนคิดดูแล้วว่าคนอย่างแม่ลินไม่ยอมให้เขาหยุดเรียนเพื่อไปกินชาบูอย่างสบายใจแบบนี้แน่นอน ครั้นจะบอกพ่อบัมพ์ก็กลัวว่าจะทำอะไรไม่ได้เพราะรายนั้นการตัดสินใจไปกองรวมอยู่ที่แม่ลินหมดหน้าตัก เขาเองก็จนปัญญาจนต้องมานอนคิดว่าจะทำอย่างไรดี ถ้าจะขอเลื่อนจ๋องไปก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะน้อยใจเหมือนครั้งที่แล้วอีก เขาเองก็ขี้เกียจจะง้อ วันพุธก็ดันมาเลิกเรียนช้าถ้านับรวมกับการเรียนพิเศษเขาจะได้กลับบ้านในเวลาหนึ่งทุ่มเป็นอย่างต่ำ ซึ่งแน่นอนว่าที่บ้านจ๋องคงไม่ยอมแน่ที่จะให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนออกไปตะลอนข้างนอกในเวลานี้ ที่บ้านจ๋องก็คงจะมีการจัดเลี้ยงอีก อะไรจะยุ่งยากขนาดนี้นะ
คงมีทางเดียวแล้วแหละ
ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ข้างตัวขึ้นมาแล้วเข้าไปที่แอปพลิเคชันแชทสีเขียว นิ้วเรียวจิ้มไปที่รายชื่อเพื่อนใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเมื่อสัปดาห์ก่อน กดแชทแล้วทำการพิมพ์ข้อความลงไปทันที
BBonus.
ลุงเจนๆๆ
รอเพียงไม่กี่นาทีข้อความที่ส่งไปก็ถูกตอบกลับมา
T.Janrob
มีอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้ได้มั้ยครับ
BBonus.
โบนัสมีเรื่องจะคุยตอนนี้ๆๆ
T.Janrob
สำคัญมั้ยครับ
BBonus.
สำคัญมากกกกกกกกก
T.Janrob
งั้นมีอะไรครับ
BBonus.
พรุ่งนี้โบนัสไม่ไปเรียนได้มั้ย
คือมีธุระๆ
เมื่อพิมพ์ความประสงค์ของตัวเองเรียบร้อยแล้วก็กดส่งไปให้อีกคน คราวนี้ไม่มีข้อความตอบกลับมาเหมือนเมื่อกี้ หนำซ้ำยังไม่ขึ้นอ่านอีกต่างหาก
อดใจรอได้ซักพักเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
T.Janrob
ได้ครับ
เยสสสสสสส!!
แต่...
T.Janrob
ทำไมพ่อแม่เราไม่เห็นโทรมาบอกพี่เลย
เราก็ไม่ต้องตอบสิ
T.Janrob
งั้นพี่โทรไปถามเอง
" เห้ยยยย " เขาอุทานขึ้นอย่างเสียงดัง เมื่อตั้งสติได้ก็ทำการพิมพ์ข้อความส่งไปใหม่
BBonus.
เดี๋ยวๆๆๆๆ
ไม่ต้องโทรนะ
พ่อบัมพ์แม่ลินหลับแล้วเลยให้โบนัสมาบอกลุงเอง
แถได้แถครับนาทีนี้
T.Janrob
งั้นโอเคครับ
BBonus.
ฝันดีนะค้าบบบ
sent a sticker.
สำเร็จแล้วจ้า
หลังจากที่กดส่งสติกเกอร์รูปหัวใจไปเรียบร้อยเป็นการขอบคุณ เขาโยนโทรศัพท์ไปที่หมอนนอนแล้วทำการหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาพาดไหล่เดินเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายใจ
เกิดมาสิบหกปีเขาไม่เคยโดดเรียนมาก่อนเลย วันพรุ่งนี้คงจะเป็นการเปิดโลกกว้างสำหรับเขา ถึงแม้จะเป็นแค่การโดดเรียนพิเศษก็เถอะ แค่นึกก็น่าสนุกแล้ว
แต่ตอนนี้ต้องขอโทษทุกๆ คนก่อนเลยนะครับ....
" จ๋องเข้าไปก่อนเลย เราขอไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนึง "
เราทั้งสองมาถึงหน้าร้านชาบูที่จะมากินกันแล้ว เขาบอกให้เพื่อนลูกเจี๊ยบเข้าไปข้างในร้านก่อนส่วนตัวเองขอตัวปลีกวิเวกมาเข้าห้องน้ำแทน ซึ่งจ๋องก็ไม่ได้ว่าอะไรทำเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ แล้วเดินเข้าร้านไป
เมื่อมาถึงห้องน้ำแล้วเขาเลือกที่จะเข้าห้องด้านในสุด จากนั้นทำการล็อคกลอนแล้วหยิบโทรศัพท์ต่อสายไปยังคุณพ่อคนหล่อ
" พ่อบัมพ์ โบนัสถึงแล้วนะ " รอไม่นานปลายสายก็กดรับทันที
( โอเคครับ.... ทำไมเสียงก้องๆ )
" อ๋อ โบนัสมาเข้าห้องน้ำน่ะครับ " เจ้าตัวตอบกลับไปอย่างเป็นธรรมชาติ
( ตั้งใจเรียนนะ เชื่อฟังเจนมันด้วย )
" ครับผม... เอ้อ! พ่อบัมพ์ไม่ต้องโทรมาแล้วนะ รบกวน "
( งั้นเราเรียนเสร็จก็โทรมาแล้วกันนะ )
" เคครับ รักพ่อนะ " ปลายสายบอกรักกลับมาทำให้เขาชื่นใจก่อนที่จะกดวางไป
ตอนนี้บอกเลยว่าตัวเองทำผิดขนาดไหน เป็นคำปดมดเท็จคำที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ เอาจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโกหกพ่อบัมพ์ส่วนแม่ลินก็มีบ้างเพียงแค่เล็กน้อยเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด เขามักจะเปิดใจแบบลูกผู้ชายกับพ่อบัมพ์ซะมากกว่าทำให้เวลามีเรื่องอะไรเขาก็เลือกที่จะพูดออกไปตรงๆ กับคุณพ่อคนนี้
ภายในใจมีแต่คำว่าขอโทษบอกตัวเองว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย
เหมือนเรื่องใหญ่เลยเนอะ
ถ้าพ่อแม่รู้จะใหญ่กว่า
" มากับเพื่อนครับ " เขาพูดกับพนักงานต้อนรับหน้าร้าน อีกฝ่ายขานรับเป็นอันเข้าใจแล้วพาเขาไปหาที่นั่งที่มีเพื่อนหัวทองจองไว้อยู่
" ขอบคุณค่ะ โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะครูเจน "
เสียงพนักงานสาวกล่าวขอบคุณลูกค้า มือบางส่งถุงกระดาษใบเล็กให้กับชายหนุ่มร่างสูงที่เจอกันครั้งล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
" แน่นอนครับ " เจนรบว่าแล้วส่งยิ้มกลับไปให้พนักงานสาวแล้วเดินจากไป
ตอนนี้เย็นมากแล้ว เขาเองก็ว่างจากการสอนพิเศษมาเดินเล่นผ่อนคลายในย่านที่มีคนเดินพลุกพล่านแบบนี้ ทีแรกกะว่าจะเดินชิลๆ ไปเรื่อยๆ แต่พอเขาเองได้ก้าวเท้าผ่านร้านแว่นร้านประจำที่ตัวเองมักจะมาใช้บริการบ่อยๆ จึงอดไม่ได้ที่จะแวะเข้าไป ตอนแรกว่าจะแค่เข้าไปทักทายคุณเนย์เจ้าของร้านเฉยๆ แต่ไหงในมือของเขาตอนนี้ได้แว่นใหม่มาซะอย่างนั้น คิดแล้วสายตาของเขาเองก็สั้นลงอยู่เหมือนกันจึงทำการตัดแว่นใหม่ซะเลย
บรรยากาศที่นี่เหมาะสมกับเป็นย่านใจกลางเมืองซะจริงๆ ผู้คนพลุ่งพล่าน ร้านอาหารมากมายรายเรียงกันเป็นแถวยาว จะว่าไปตอนนี้เขาเริ่มชักจะหิวแล้วพลังงานคงจะหมดไปกับอาชีพที่เขาทำอยู่เนี้ยแหละ
เจนรบมองหาร้านอาหารที่ถูกใจโดยใช้หลักการดูว่าร้านไหนที่มีคนเยอะร้านนั้นแหละคือเป้าหมายของเขาในวันนี้ ซึ่งดูๆ แล้วอาหารมื้อนี้ของเขาคงจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่หน้าร้านติดป้ายไว้ว่าเจ้าเก่า หวังว่าร้านนี้จะไม่ทำให้เขาผิดหวังเพราะจำนวนลูกค้าที่มากมายนั่นทำให้เขาเดินมุ่งหน้าไปยัเป้าหมาย
ก่อนจะเดินไปถึงเขาได้ผ่านกับร้านอสหารร้านหนึ่ง กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้เขาต้องหันไปมองภายในร้าน ขณะที่จมูกยังคงรับกลิ่นอยู่สายตาที่สั้นของเขานั้นก็เหลือบไปเห็นคนคุ้นเคยที่นั่งอยู่ภายในร้านชิดติดกับกระจก กำลังถือตะเกียบคีบอาหารไว้อยู่ยื่นไปประจันหน้าของเด็กหนุ่มผมทอง ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่ยอมเปิดปากง่ายๆ อีกฝ่ายจึงทำการใช้มืออีกข้างบีบเข้าที่ปากแล้วยัดอาหารเข้าไปทันที
ทั้งสองหัวเราะออกมา
ใช่แน่ๆ
เจ้าเด็กหัวชมพู
ถ้าถามตอนนี้ว่าเขาควรจะไปอยู่ที่ไหน บอกได้เลยว่าเมื่อสิบนาทีก่อนเขาคงเข้าไปนั่งอยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าเก่าแล้วนั่งรอคิวสั่งอาหาร ไม่ใช่มายืนอยู่หน้าร้านชาบูอย่างนี้....
จะเป็นอะไรได้
ก็เจ้าเด็กหัวชมพูที่บอกว่ามีธุระสำคัญนักหนาถึงขนาดส่งข้อความมาขอร้องเขาหนำซ้ำยังบอกไม่ให้เขาโทรไปหาบัมพ์กับลินอีก พอเห็นภาพตรงหน้าเขามั่นใจแน่นอนเลยว่าเขาถูกเจ้าเด็กดื้อต้มจนเปลื่อยเละ แต่เพื่อความมั่นใจจึงล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบมือถือกดเบอร์ผู้ปกครองคนสนิทแล้วกดโทรออกทันที
รอไม่นานปลายสายก็กดรับ
[ ไงวะ ไม่สอนเหรอ ]
" ก็... สอนดิ " เขาไม่แน่ใจว่าบัมพ์เองจะรู้เรื่องนี้หรือเปล่าจึงตอบกลับไปตามปกติก่อน
[ ถ้าสอนอยู่ก็วาง ลูกกูบอกไม่ให้กูโทรมากวน แต่มึงกำลังทำอยู่ ]
นั่นไง เขาโดนต้มจริงๆ ด้วย
" อืม แค่จะบอกว่าเดี๋ยวกูแวะเข้าไปหานะ แค่นี้แหละ " พูดจบก็ตัดสายไปทันทีโดยไม่รอให้มันว่าต่อ ยัดมือถือลงกระเป๋ากางเกงขณะที่สายตายังคงจับจ้องเจ้าเด็กหัวชมพูอยู่ คงจะมีความสุขน่าดูกับการที่เล่นโกหกคนอื่นไปเรื่อยเพื่อมานั่งกินชาบูกับแฟนอย่างสบายใจเฉิบ
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นแค่ครูหรือเพื่อนพ่อของเจ้าเด็กคนนี้ แต่บอกตามตรงเลยว่ามันไม่โอเคซักเท่าไหร่กับพฤติกรรมของเจ้าเด็กคนนี้ เขาเองก็ผ่านมาเยอะไม่ใช่ว่าเกิดมาแล้วอายุสามสิบสี่เลย เขาอาบน้ำร้อนมาก่อน มันเป็นเรื่องเบสิคที่คนเป็นแฟนกันจะนัดเดทนั่นก็เป็นความพอใจของพวกเขา แต่โบนัสเพิ่งจะสิบหกปีแล้วอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน ทั้งคู่ยังเด็กและแน่นอนว่าเด็กมักจะทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังแต่ทำด้วยความคึกคะนองและอยากรู้อยากลองทั้งนั้น คงจะเดาออกแล้วใช่มั้ยว่าเขากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ของเด็กทั้งสองคนนี้
นั่นแหละ
อย่าหาว่าเขาคิดมากเลยแต่จริงๆ นิสัยเดิมทีก็เป็นอย่างนี้นี่แหละ แต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้เพราะนี่ขนาดแค่นัดเดทกันเจ้าเด็กดื้อยังยอมเป็นเด็กไม่ดีโกหกเป็นฟืนเป็นไฟ แล้วต่อๆ ไปจะขนาดไหนกัน
ไม่ได้การณ์แล้ว
ยืนคิดอยู่ได้ไม่นานภาพตรงหน้ากลับเหลือเพียงแค่โต๊ะเปล่าไร้ซึ่งคนนั่ง เมื่อมองเข้าไปในร้านก็พบว่าเด็กทั้งสองที่หายไปกำลังเดินออกมา ในมือเด็กผมทองมีกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าถูกห่อด้วยกระดาษสีสันฉูดฉาดดูเหมือนว่าจะเป็นกล่องของขวัญเพราะมีริบบิ้นติดไว้อยู่ด้วย
เมื่อทั้งสองใกล้จะเดินมายังหน้าร้านเขาจึงถอยหลังหลบเข้ามุมทันที หนุ่มผมทองยกมือขึ้นอำลาเพื่อนตัวน้อยไม่รู้ว่าพูดอะไรกันต่อจากนี้เพราะระยะห่างไกลเกินกว่าที่เขาจะได้ยิน อีกฝ่ายเดินแยกจากไปแล้ว เหลือเพียงแค่เจ้าเด็กดื้อที่ก่อคดีติดตัวไว้มากมายยืนก้มหน้ากดโทรศัพท์มือยิกๆ เมื่อสบโอกาสเขาจึงเดินเข้าไปหาทันที
" เห้ย!! "
เด็กน้อยร้องลั่นเมื่อเขาเอามือไปวางบนหัวสีชมพูแล้วออกแรงขยี้เล็กน้อยจนคนถูกกระทำที่ก้มหน้าอยู่นั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองตัวต้นเหตุ แล้วผลลัพธ์ก็เป็นไปอย่างที่คิดไว้ สีหน้าตกใจของเจ้าเด็กคนนี้เหมือนมีป้ายติดเอาไว้บนหัวว่าซวยแล้ว
" ไงครับ ไหนธุระเราล่ะ "
" ...... "
โบนัสไม่ตอบแต่สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนไปจากเดิม
" ว่ายังไงครับ บอกธุระของเรามาให้พี่ฟังหน่อยเร็ว "
คราวนี้อย่าหวังว่าจะได้เห็นรอยยิ้มจากเขาเลยถ้าหากคนตรงหน้าไม่มีเหตุผลดีๆ มาให้เขาฟัง
" ...... "
" ...... "
" ...... "
" โบนัส "
น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ฟังแล้วดูน่ากลัวไม่ใช่เล่นทำให้คนตรงหน้าสะดุ้งตัวเล็กน้อย โบนัสคงจะไม่เคยเจอเขาในโหมดนี้อย่างแน่นอนและที่เห็นตอนติวครั้งแรกนั้นไม่เหมือนกับครั้งนี้
ตอนนี้เขาโกรธ
" พี่ไม่รู้นะว่าเราทำแบบนี้บ่อยแค่ไหน "
" ...... "
" แต่โบนัส.... มันไม่ถูกต้องนะ "
คราวนี้เป็นเด็กตรงหน้าเขาเองเผยให้เห็นคิ้วทั้งสองที่ขมวดเข้าหากัน สันกรามที่ปรากฏเด่นชัดทำให้เขารู้ว่าโบนัสกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่แน่ๆ
" ทำไมจะไม่ถูก " ในที่สุดเจ้าตัวก็ยอมเปิดปากพูดกับเขาซักที แถมยังกล้าสบตาเขาอีก
" โบนัสรู้ตัวเองนะครับพี่ว่า "
" ใช่ โบนัสรู้ตัวเองดีว่าทำอะไรอยู่..... แต่มันไม่ถูกตรงไหนเหรอ "
คำตอบของเจ้าเด็กดื้อทำเอาเขาต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เด็กก็คือเด็กที่ยังไม่เข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อความหมายให้ฟัง เขารู้ดีว่าวัยอย่างโบนัสเป็นวัยที่เพื่อนหรือแฟนมีความสำคัญขนาดไหน แต่มันก็ต้องแยกแยะให้ถูกด้วย คนเป็นพ่อเป็นแม่จะรู้สึกยังไงถ้าถูกที่เลี้ยงมาแต่อ้อนแต่อ่อนโกหกสารพัดสิ่ง
" โบนัสบอกพี่ว่ามีธุระ ทั้งที่พี่ก็เห็นเรานั่งทานอาหารอย่างสบายใจแทนที่จะมาเรียนกับพี่ แล้วเรายังไปโกหกบัมพ์มันอีก นั่นพ่อเรานะครับโบนัส " เขาตัดสินใจพูดออกไปยาวยืด หวังว่าจะทำให้เจ้าเด็กตรงหน้าคิดได้และขอโทษในสิ่งที่เจ้าตัวทำซะ
แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อประโยคต่อมาของเด็กอายุสิบหกปีทำเอาเขาหน้าชาไม่เหลือชิ้นดี
" แล้วลุงมายุ่งอะไรกับโบนัสล่ะ "
นั่นสิ
คำถามจากปากของคนตรงหน้าทำให้เขานึกย้อนคิดกลับไปว่าเขามีสิทธิ์อะไรในตัวเด็กคนนี้ ทั้งที่นี่อาจจะเป็นธุระของโบนัสจริงๆ ก็ได้ เขาคงสำคัญตัวผิดไปที่คิดว่าการเป็นเพื่อนพ่อของเจ้าเด็กคนนี้สามารถเดินเข้าไปสั่งสอนกันได้
รู้อย่างนี้น่าจะเดินผ่านไปเฉยๆ จะดีกว่า
" นั่นสิ พี่.... ลุงมายุ่งด้วยทำไมเนอะ ไม่ใช่เรื่องของลุงซักหน่อย "
" ...... "
" งั้นเชิญตามสบายเลยครับ " พูดจบร่างสูงหันหลังแล้วเดินจากไปทันที ทิ้งให้เด็กน้อยคนนี้ยืนอึ้งกับท่าทีของคนอายุมากกว่าเปลี่ยนไป ทั้งน้ำเสียง สายตา ท่าทาง แม้แต่สรรพนามที่อีกฝ่ายมักจะห้ามปรามให้เขาพูดอยู่เสมอ
โบนัสเจอของจริงซะแล้ว
100%
คุณลุงจะเก่วกาดแล้วนะทุกคน!
เม้น&กำลังใจหน่อยจ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไรท์ก็สู้ๆนะคะ รัก!!!!
คิดถึงเรื่องนี้มากเลย แง ดีใจที่ไรต์ไม่ทิ้ง ชอบแนวกินเด็กมากเลย อยากบอกว่าวันนี้เราทำงานหนักมากทั้งๆที่เป็นวันอาทิตย์แต่พอเห็นไรต์อัพฟิคมันรู้สึกมีแรงมากเลย
รออ่าน 100% นะคะ
คิดถึงน้องโบนัสแว้ว
ไรต์สู้ๆ