คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตำราเวทย์
“ ไคล์ ดิอาร์ค..พลังเวทย์ระดับนั้นไม่ทำให้ตรงนั้นของนายได้รับบาดเจ็บหรอกนะ..เลิกแสดงละครได้แล้ว..หรืออยากจะรับรู้ถึงรสชาติความเจ็บปวดจริงๆ..เลิกแสดงแล้วตามฉันมา..ทำความสะอาดเลือดตรงนั้นด้วย ถ้าใครมาเห็นเข้าพวกนายเองที่จะเป็นฝ่ายลำบาก.. ”
“ !!!!!!!! ”
————————————————————-
[ มุมมองของไคล์ ที่มีต่อ เลเชีย(เอเดน) ]
องค์หญิงรู้ชื่อของเราได้ยังไงกัน…อีกอย่าง ทำไมตัวตนที่แท้จริงของนางช่างแตกต่างจากข่าวลือ..ไหนบอกว่าเป็นองค์หญิงขยะ ที่ไม่มีแม้กระทั่งมานาไง..แล้วทำไมถึงสามารถแสดงท่าทางและกิริยาแบบนั้นออกมาได้กัน…อีกอย่างองค์หญิงสื่อสารผ่านโทรจิตได้ยังไง..ทั้งๆที่มันเป็นเวทย์มนต์ระดับสูง…ไม่มีมานาอย่างงั้นเหรออย่ามาพูดให้ตลก…องค์หญิงเลเชียกำลังปกปิดบางอย่าง..
“ องค์หญิงเลเชียนี่ท่าน… ”
“ ตามฉันมา..”
ตัวขององค์หญิงเลเชียบอกให้ผมเดินตามไป…ซึ่งตัวผมก็ต้องเดินตามไปแต่โดยดี พร้อมกับกำชับไม่ให้นักเรียนเข้ามาในห้องสมุดระหว่างนี้…เพราะดูท่าแล้วคงจะเป็นการคุยกันที่ยาวนานเป็นแน่…
“ เราคุยกันตรงนี้แล้วกัน..ไคล์ อย่างแรกเลยฉัน อยากให้นายตอบคำถามของฉันแล้วฉันก็จะตอบคำถามของนายหากนายต้องการล่ะน่ะ..แฟร์ๆดีไหมละ? ”
เป็นข้อเสนอที่ไม่เลว..แต่ทำไมเธอถึงนั่งถ่างขาเหมือนผู้ชายแบบนั้น!!
“ อะ..องค์หญิงทะ..ท่านนั่งท่าอะไรของท่าน..แบบนั้นมัน— ”
“ อ่อ โทษทีฉันลืมตัวไป…ว่าแต่นายเขินอายอย่างงั้นเหรอไคล์..ทำไมอารมณ์การแสดงออกช่างแตกต่างกับเมื่อครู่ริบรับเลยล่ะ…แบบไหนคือตัวตนที่แท้จริงของนายกันแน่..”
จะให้ฉันสงบจิจสงบใจได้ยังไงก็เล่นนั่งถ่างขาออกซะแบบนั้น..ท่านั่งอย่างกับผู้ชาย…แล้วไอท่าทีเฉยชานั่นอีกทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายเขินอายด้วย!!
“ ฉันจะเป็นแบบไหน แสดงออกยังไงมันก็เรื่องของฉัน..เอาเป็นว่าฉันยอมรับข้อเสนอของเธอก็ได้..องค์หญิงเลเชีย ”
—————————————————————
กลับมามุมมอง ของเลเชีย
“ ฉันจะเริ่มถามนายก่อนก็แล้วกัน..ทำไมนายถึงแสดงท่าทีเกลียดฉันมากขนาดนั้นอย่างกับฉันไปทำอะไรให้นาย..ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ความเกลียดชังที่มีต่อราชวงศ์เพนตาก้อน..สินะ..”
ผมจงใจพูดลองเชิงเพื่อดูปฏิกิริยาของไคล์ ที่กำลังทำหน้าตารู้สึกแปลกใจกับคำถามของผม..
“ อืม..ขอโทษด้วยแล้วกัน..เรื่องก่อนหน้านี้..”
โห..นี่มันท่าท่างของคนที่สำนึกผิดรึยังไงกัน!! ขอโทษหน้าตายด้านแบบนั้น..หมอนี่มันเกินเยียวยาสุดๆ…แต่ตอนนี้ก็แน่ชัดแล้วว่า ไคล์ มีความโกรธแค้นต่อราชวงศ์เพนตาก้อน…
“ แล้วทีนี้ ฉันจะถามเธอได้รึยัง..องค์หญิงเลเชีย…เธอไม่มีพลังเวทจริงๆอย่างงั้นเหรอ..เพราะตามข่าวลือที่พูดกันไปทั่วจักรวรรดิ องค์หญิงเลเชีย ไม่มีมานา และร่างกายอ่อนแอจนแทบจะเดินเองยังไม่ได้..แต่ตอนนี้กลับสามารถใช้โทรจิตที่เป็นเวทย์ขั้นสูงได้…น่าตกใจจริงๆว่าไหม องค์หญิง… ”
ดูสายตานั่นสิ..พร้อมจะล้วงข้อมูลทางนี้อยู่ตลอดเวลา..เป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์จริงๆ..ก็ได้ฉันจะเล่นด้วยกับนายสักหน่อยก็แล้วกันไคล์..
“ ข่าวลือที่คนเขาพูดกันปากต่อปาก..ไม่คิดว่านายจะเชื่อเรื่องพวกนั้นด้วย..เรื่องมานา ฉันคงไม่ต้องตอบเพราะเมื่อครู่ก็คือคำตอบที่นายต้องการอยู่แล้ว..เอาล่ะทางนี้บ้าง..ความแค้นที่นายมีต่อ ราชวงศ์เพนตาก้อน..”
ผมกำลังลองถามข้อมูลหลัก..แต่ดูเหมือนว่าบรรยากาศรอบตัวของไคล์เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด..ดูเหมือนว่าจะไปจี้จุดบางอย่างเข้าสินะ…
“ เรื่องนี้ฉันขอไม่ตอบ…องค์หญิงเลเชีย..ท่านกำลังปิดบังอะไร— ”
“ พอแล้ว..ไว้คุยกันใหม่ก็แล้วกัน ฉันมาที่นี่เพื่อมาอ่านหนังสือ..เรื่องวันนี้ที่เกิดขึ้นและที่เราคุยกันถือซะว่าไม่เคยเกิดขึ้น..มันจะเป็นผลดีต่อตัวพวกนายเอง..”
ตัวผมรีบตัดบทพูดในทันทีเพราะแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว..แต่ดูเหมือนว่าไคล์จะรู้สึกไม่พอใจ..แล้วทำไมผมต้องสนใจด้วยล่ะ!!
“ นี่เธอ.. ”
“ ไปได้แล้วฉันต้องการความเป็นส่วนตัว..ไคล์ แล้วก็อย่างสุดท้ายที่ฉันอยากจะบอกกับนาย..ฉันไม่ใช่ศัตรูของนายอย่าหันคมดาบใส่ฉันอีกเป็นครั้งที่สอง..เพราะถ้ามีครั้งถัดไป..มันจะไม่จบลงเหมือนวันนี้.. ”
ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและแสดงท่าทีออกไปให้เหมือนกับองค์หญิงที่เย็นชา..พร้อมกับขู่ไปเล็กน้อย…เพราะใครอยากจะเจ็บตัวครั้งที่สองกันเล่า..หวังว่ามันจะได้ผลนะ…
“ นี่กำลังขู่กันอย่างงั้นเหรอ..”
“ แล้วแต่นายจะคิด..ว่าจะสร้างมิตรหรือศัตรูเพิ่มกันแน่.. ”
ไคล์ที่ได้ยินแบบนั้นก็นิ่งเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง..
ก็ได้ ในเมื่อไม่ลุกจากที่นั่งไป..ฉันไปเองก็ได้..อีกอย่างห้องสมุดชั้น 2 ดูเหมือนจะมีตำราที่น่าสนใจ…ไปชั้นที่ 2 ก็แล้วกัน..ผมคิดแบบนั้นก่อนจะลุกขึ้น และเดินขึ้นบันไดห้องสมุดชั้น 2 ทิ้งให้ไคล์นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น..ก่อนที่สหายของไคล์ จะเดินไปที่ไคล์หลังจากผมเดินออกมา…
—————————————————————
ณ ห้องสมุดชั้นที่ 2
ผมเดินสำรวจชั้นหนังสือรอบๆ…หนังสือทั้งหมดจะถูกลงอักขระเวทย์มนต์เอาไว้เพื่อป้องกันการคัดลอกหรือขโมยออกไป…จะแตกต่างจากหฃพวกตำราหนังสือที่อยู่ชั้นแรก..ซึ่งหนังสือที่ผมตัดสินใจเลือกมาเป็นเล่มที่สองก็คือ..ข้อมูลของมานาและการใช้เวทย์พื้นฐาน..
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม้แต่เสียงที่ผมพูดขึ้นภายในจิตใจจะกลายเป็นเสียงแบบผู้หญิงไปแล้วโดยสมบูรณ์แบบ…เรื่องช่างมันก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้ผมต้องรีบศึกษาหาข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด…
ผมตัดสินใจนั่งลงอ่านหนังสือตรงนั้น..ซึ่งหนังสือเล่มแรกที่ผมเปิดอ่านก็คือตำราควบคุมมานาและประวัติความเป็นมาของจักรวรรดิ รวมไปจนถึงประวัติศาสตร์เก่าแก่ของราชวงศ์
โดยเนื้อหาภายในหนังสือได้กล่าวไว้บางส่วนว่า..
[ ราชวงศ์เพนตาก้อนสืบเชื้อสายมาจากเทพเจ้าโบราณในอดีตกาล..ว่ากันว่าภายในราชวงศ์นั้นจะมีเพียงคนเดียวนั้นที่จะสามารถปลุกพลังของเทพเจ้าขึ้นมาได้ แต่ตลอดระยะเวลา 500 ปีที่ผ่านหลังจากสงครามระหว่างปีศาจและเทพได้จบลง…]
เนื้อหาหนังสือในส่วนแรกกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของราชวงศ์เพนตาก้อน..ซึ่งจากที่ผมค่อยๆอ่านไปเรื่อยๆก็พอจะเข้าใจได้แล้วว่าทำไมถึงมีคนที่ชิงชังราชวงศ์เพนตาก้อน…
เพราะถึงแม้ว่าจะไม่สามารถปลุกพลังของสายเลือดเทพเจ้าออกมาได้..แต่ยังไงก็เป็นราชวงศ์ที่สืบเชื้อสายมาจากเทพเจ้าในยุคก่อน..ทำให้ความสามารถทางด้านเวทย์มนต์และความสามารถทางกายภาพสูงกว่าคนทั่วไปหลายเท่าตัว..นี่คือความพิเศษของสายเลือดเพนตาก้อน..
และนั่นจึงทำให้ราชวง์เพนตาก้อนเป็นราชวงศ์ที่ทรงอำนาจมาจนถึงปัจจุบัน..
“ จักรพรรดิรุ่นก่อนๆจึงทำสงครามแย่งชิงดินแดนทรัพยากร..อ่อ..เป็นแบบนี้เองสินะ..ว่าแต่ว่าศึกระหว่างเทพกับปีศาจอย่างงั้นเหรอ..นี่ก็น่าสนใจเหมือนกัน..สมแล้วที่เป็นโลกแฟนตาซี…”
ผมเปิดหนังสืออ่านเรื่อยๆพร้อมกับทำความเข้าใจของปะวัติราชวงศ์เพนตาก้อนทั้งหมด..จนในที่สุดก็มาถึงเนื้อหาหลักที่ผมต้องการ…
“ ประเภทของเวทย์มนต์และการแบ่งประเภทมานา ”
จบตอน
ความคิดเห็น